คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ตอบให้นะครับ ในฐานะที่อยู่มานานทั้งเรียน ทั้งทำงาน จนออกมาแล้ว เรื่องที่จอดรถน่ะมันเป็นแบบนี้ครับ
1.เมื่อก่อนเลยสมัยยังไม่มีที่จอดรถใต้ดิน ก็จอดกันรอบๆสนามฟุตบอล และทุกๆที่ที่พอจะเสียบได้ครับ เมื่อก่อนข้างตึก3 ข้างหอประชุม ข้างคณะศิลปกรรม หน้าตึกสังคม-ศึกษาศาสตร์ ฯลฯ จอดได้หมดครับ
2.เมื่อประมาณปี 2540 เป็นต้นมา รถเริ่มเยอะขึ้น เลยเป็นที่มาของสติ๊กเกอร์แปะหน้ารถครับ การจราจรเข้าออกก็สลับข้างไปมา บางทีก็เข้าตรงหอประชุม ออกทางคณะสังคม บางทีก็เปลี่ยนใหม่เป็นเข้าทางคณะสังคม ออกทางหอประชุม (โดยตรงกลางนั่นคือสนามฟุตบอล) สำหรับใครไม่มีบัตรก็จอดเอาแถวๆ ร.ร.สาธิตฯ หรือแถวๆอาคาร9 ครับ
3.ประมาณปี 2549++ อธิการในสมัยนั้นท่านไปเคาะประมูลที่ดินได้ ปัจจุบันคือตึก 300 กับ 400 ล้าน ริมถนนอโศก ทีนี้พอได้ที่ดินมาก็สร้างตึก แล้วอธิการประสงค์จะลดมลภาวะทางการจราจรลง ก็มีแผนเอารถทั้งหมดลงใต้ดิน เลยเป็นที่มาของโครงการสร้างอาคารจอดรถใต้ดิน
4.ปี 2550 เริ่มรื้อสนามฟุตบอลเดิมออกเพื่อก่อนสร้าง ต่อมาประมาณปี 52 อาคารจอดรถใต้ดินยังไม่เสร็จดี แต่ก็ให้จอดได้(มีคำเตือนว่าจอดได้ แต่ถ้ามีอะไรตกใส่รถไม่รับผิดชอบนะ....) สำหรับเส้นทางข้างบน หน้าตึก9 ไปถึงหน้าโรงเรียนสาธิต ยังเปิดการจราจรอยู่ แต่เริ่มรณรงค์ขึ้นป้ายว่า ".....ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นทางผ่าน สงวนสิทธิ์สำหรับผู้มาติดต่อราชการเท่านั้น" (ประมาณนี้) มีการตั้งกรวยกวดขันอย่างเข้มงวด รถนอกเข้ามาจะห้ามทะลุ ให้วนออกอย่างเดียว แต่ก็ไม่ค่อยเป็นผล
5.ประมาณปี 2553 อาคารจอดรถใต้ดินเสร็จสมบูรณ์ ปิดการจราจรข้างบนเป็นถนนคนเดินทั้งหมด (คณะพละ คณะมนุษย์ คณะวิทย์ และพื้นที่อื่นๆนอกเขตอาคารจอดรถใต้ดิน) ถือว่าเป็นโซนใน ถ้าไม่ใช่บุคคลากรจะไม่สามารถผ่านจากใต้ดินขึ้นไปได้ ต้องจอดไว้ใต้ดินแล้วเดินเอา ตอนนั้น 4 แยกในที่จอดรถใต้ดินเยอะมาก การจราจรยังไม่ได้จัดดีนัก เอายามมายืนโบกรถทุกแยก ส่วนมหาวิทยาลัยก็ตั้งป้อมแลกบัตรเข้าออก
6.ต่อมา ในปีเดียวกันทุกอย่างเริ่มเข้าที่ มหาวิทยาลัยได้ปล่อยสัมปทานบริหารที่จอดรถฯ โดยมีผู้ที่เคาะได้คือ "บริษัท จงภัคดีภูมิ จำกัด" มีการปรับการจราจรใหม่ จัดจุดเลี้ยวจุดวน ปิด 4 แยกที่มั่วๆเกือบหมด และจะแจกบัตรแม่เหล็กให้บุคคลากรใช้คู่กับสติกเกอร์ จะเก็บค่าบริการด้วยเกือบๆ 900 มั้ง แต่โดนด่า เลยต้องยอมให้ฟรีไป
7.การคิดค่าบริการทั้งหมด มีดังนี้ 1.บุคคลากร/ฟรี 2.ผ่านเข้า-ออก/20บาท 3.ติดต่อราชการและประสานกับส่วนราชการภายในแล้ว/รับบัตรประทับตราจอดฟรี 4.ผู้ปกครองผ่านทางไปส่งลูก ร.ร.สาธิต/....บัตรเหมาจำราคาไม่ได้ และ 5.นิสิต-บุคคลทั่วไป/...จำราคาไม่ได้
8.เหตุผลที่เก็บค่าบริการ คือ 1.กันคนใช้เป็นทางผ่าน(ใครจะผ่านก็จ่ายซะ แบบที่ตึกแกรมมี่ทำ) 2.กันคนมาจอดกันมั่ว 3.เป็นค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าบริหารจัดการของบริษัทที่รับสัมปทาน
สรุปคือ ปัจจุบันที่จอดรถใต้ดิน มีเอกชนรับสัมปทานบริหารครับ มหาวิทยาลัยแค่กำกับแต่ไม่ได้ดูแลเองโดยตรง และผู้บริหารให้เหตุผลว่ามันต้องมีผลตอบแทนให้กับคนที่มาดูแล และค่าไฟอีกเดือนนึงหลักล้าน เลยต้องเก็บเงิน(ยกเว้นบุคคลากร)ครับ
เหตุผลก็ตามนี้แหละครับ..... ผมมาเล่าให้ฟังในฐานะที่เคยเป็นคนในมาก่อน ไม่ได้ม้า ไม่ได้อวยใครทั้งสิ้นครับ
1.เมื่อก่อนเลยสมัยยังไม่มีที่จอดรถใต้ดิน ก็จอดกันรอบๆสนามฟุตบอล และทุกๆที่ที่พอจะเสียบได้ครับ เมื่อก่อนข้างตึก3 ข้างหอประชุม ข้างคณะศิลปกรรม หน้าตึกสังคม-ศึกษาศาสตร์ ฯลฯ จอดได้หมดครับ
2.เมื่อประมาณปี 2540 เป็นต้นมา รถเริ่มเยอะขึ้น เลยเป็นที่มาของสติ๊กเกอร์แปะหน้ารถครับ การจราจรเข้าออกก็สลับข้างไปมา บางทีก็เข้าตรงหอประชุม ออกทางคณะสังคม บางทีก็เปลี่ยนใหม่เป็นเข้าทางคณะสังคม ออกทางหอประชุม (โดยตรงกลางนั่นคือสนามฟุตบอล) สำหรับใครไม่มีบัตรก็จอดเอาแถวๆ ร.ร.สาธิตฯ หรือแถวๆอาคาร9 ครับ
3.ประมาณปี 2549++ อธิการในสมัยนั้นท่านไปเคาะประมูลที่ดินได้ ปัจจุบันคือตึก 300 กับ 400 ล้าน ริมถนนอโศก ทีนี้พอได้ที่ดินมาก็สร้างตึก แล้วอธิการประสงค์จะลดมลภาวะทางการจราจรลง ก็มีแผนเอารถทั้งหมดลงใต้ดิน เลยเป็นที่มาของโครงการสร้างอาคารจอดรถใต้ดิน
4.ปี 2550 เริ่มรื้อสนามฟุตบอลเดิมออกเพื่อก่อนสร้าง ต่อมาประมาณปี 52 อาคารจอดรถใต้ดินยังไม่เสร็จดี แต่ก็ให้จอดได้(มีคำเตือนว่าจอดได้ แต่ถ้ามีอะไรตกใส่รถไม่รับผิดชอบนะ....) สำหรับเส้นทางข้างบน หน้าตึก9 ไปถึงหน้าโรงเรียนสาธิต ยังเปิดการจราจรอยู่ แต่เริ่มรณรงค์ขึ้นป้ายว่า ".....ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นทางผ่าน สงวนสิทธิ์สำหรับผู้มาติดต่อราชการเท่านั้น" (ประมาณนี้) มีการตั้งกรวยกวดขันอย่างเข้มงวด รถนอกเข้ามาจะห้ามทะลุ ให้วนออกอย่างเดียว แต่ก็ไม่ค่อยเป็นผล
5.ประมาณปี 2553 อาคารจอดรถใต้ดินเสร็จสมบูรณ์ ปิดการจราจรข้างบนเป็นถนนคนเดินทั้งหมด (คณะพละ คณะมนุษย์ คณะวิทย์ และพื้นที่อื่นๆนอกเขตอาคารจอดรถใต้ดิน) ถือว่าเป็นโซนใน ถ้าไม่ใช่บุคคลากรจะไม่สามารถผ่านจากใต้ดินขึ้นไปได้ ต้องจอดไว้ใต้ดินแล้วเดินเอา ตอนนั้น 4 แยกในที่จอดรถใต้ดินเยอะมาก การจราจรยังไม่ได้จัดดีนัก เอายามมายืนโบกรถทุกแยก ส่วนมหาวิทยาลัยก็ตั้งป้อมแลกบัตรเข้าออก
6.ต่อมา ในปีเดียวกันทุกอย่างเริ่มเข้าที่ มหาวิทยาลัยได้ปล่อยสัมปทานบริหารที่จอดรถฯ โดยมีผู้ที่เคาะได้คือ "บริษัท จงภัคดีภูมิ จำกัด" มีการปรับการจราจรใหม่ จัดจุดเลี้ยวจุดวน ปิด 4 แยกที่มั่วๆเกือบหมด และจะแจกบัตรแม่เหล็กให้บุคคลากรใช้คู่กับสติกเกอร์ จะเก็บค่าบริการด้วยเกือบๆ 900 มั้ง แต่โดนด่า เลยต้องยอมให้ฟรีไป
7.การคิดค่าบริการทั้งหมด มีดังนี้ 1.บุคคลากร/ฟรี 2.ผ่านเข้า-ออก/20บาท 3.ติดต่อราชการและประสานกับส่วนราชการภายในแล้ว/รับบัตรประทับตราจอดฟรี 4.ผู้ปกครองผ่านทางไปส่งลูก ร.ร.สาธิต/....บัตรเหมาจำราคาไม่ได้ และ 5.นิสิต-บุคคลทั่วไป/...จำราคาไม่ได้
8.เหตุผลที่เก็บค่าบริการ คือ 1.กันคนใช้เป็นทางผ่าน(ใครจะผ่านก็จ่ายซะ แบบที่ตึกแกรมมี่ทำ) 2.กันคนมาจอดกันมั่ว 3.เป็นค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าบริหารจัดการของบริษัทที่รับสัมปทาน
สรุปคือ ปัจจุบันที่จอดรถใต้ดิน มีเอกชนรับสัมปทานบริหารครับ มหาวิทยาลัยแค่กำกับแต่ไม่ได้ดูแลเองโดยตรง และผู้บริหารให้เหตุผลว่ามันต้องมีผลตอบแทนให้กับคนที่มาดูแล และค่าไฟอีกเดือนนึงหลักล้าน เลยต้องเก็บเงิน(ยกเว้นบุคคลากร)ครับ
เหตุผลก็ตามนี้แหละครับ..... ผมมาเล่าให้ฟังในฐานะที่เคยเป็นคนในมาก่อน ไม่ได้ม้า ไม่ได้อวยใครทั้งสิ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมมหาลัยบางที่ต้องเก็บค่าที่จอดรถแพงๆด้วยคะ?
เก็บค่าที่จอดชมละ20บาท เหมาจ่ายทั้งวัน100บาท มีให้ซื้อคูปองสำหรับ1เดือน เดือนละ900 แต่เราไม่ได้เอารถไปทุกวัน มันไม่คุ้มอะ
ที่จอดฟรีแถวนั้นก็หายากเหลือเกิน
คิดดูนะคะ บางวันเนี่ย ต้องอ่านหนังสือหรือทำงานที่มอต่อหลังเลิกเรียน บางทีแบบไม่อยากเสียค่าที่จอดแพงอะ
เลยกลับบ้านเลย เซงๆๆเปลืองแบบไร้เหตุผล
บางมหาลัยไม่เห็นเสียค่าที่จอดเลย สงสัยอะ มาเรียนน้าาาา เฮลโหลว