นี้เป็นการทำรีวิวครั้งแรกนะคะ หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยคะ^^
เร่ิมต้นด้วยการ แวะหาอะไรกิน หลังจากที่ขับรถออกจากกรุงเทพที่แสนจะติดมาได้สักพัก ^^

และแล้ว ก็เดินทางมาถึงสวนผึ้ง ว่าแล้วก็แวะร้านนี้สักหน่อย เพราะเค้าตั้งเป็นสง่าอยู่ริมถนนเป็นอย่างมาก

ขอชมหน่อยว่า ที่นี่สวยคะ ถ้าไปสวนผึ้งยังไงๆก็ต้องมาแวะกันนะ

พอแวะถ่ายรูปเสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ ตลาดน้ำสวนผึ้งทันที เนื่องจากว่า เวลานั้น ก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้ว
ตอนแรกว่าจะแวะบ้านหอมเทียนนะคะ แต่ว่ากลัวจะไม่ได้จองที่นั่งด้านหน้าๆ
อันนี้คือภาพบรรยากาศลานจอดรถที่ทางงานเค้าจัดไว้ให้ ลานจอดรถจะมีเยอะมาก บางที่ก็เสียตังบางทีก็ฟรี
ของเราขับมาจนลานจอดสุดท้ายเลย จะเลยทางเข้าตลาดน้ำสวนผึ้งไปอีกสัก 300 เมตรเห็นจะได้คะ
จะเป็นลานจอดฟรี และลานจอดสุดท้าย

พอได้ที่จอดปึ๊ป ก็เดินหอบกระเป๋าสัมภารกต่างๆ ไปขึ้นสองแถวที่เค้ามีคิวรอรับคนที่จะมาดูคอนเสิร์ตคะ
ค่ารถสองแถว คนละ 20 บาท จะเป็นราคาทั้งไปและกลับจากงานเลย โดยเค้าจะเก็บตังเรา แล้วจะเอาบัตรสีเหลืองๆให้เราเก็บไว้มาโชว์ตอนจะนั่งรถกลับมาที่ลานจอดคะ
อันนี้ภาพบรรยากาศคนที่กำลังเดินเข้าในงาน ตอนนี้จะยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะมันเพิ่งจะบ่ายเอง

คือเราต้องเดินเข้ามาสักระยะนึง แล้วก็จะเจอกับด่านตรวจกระเป๋าคะ

พอตรวจกระเป๋าเสร็จปึ๊ป เราก็ต้องเดินไปอีก เพื่อที่จะเอาบัตรไปให้เค้าตรวจเพื่อที่จะร้บสายรัดข้อมือที่ใช้แทน
บัตรผ่านเข้างาน
หลังจากผ่านด่านทั้งสองมาแล้ว เราก็จะต้องเดินมาขึ้นรถคะ เป็นรถที่จะพาเราเข้าไปสู่บริเวณที่จัดคอนเสิร์ต

พอรถขับมาส่งเราถึงบริเวณหน้างาน เราก็ต้องมารอประตูเปิดคะ จะต้องเป็นเวลาบ่ายสองโมง ตอนที่เราไปถึงก็ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ
ก็นั่งรอ ยืนรอ ปูเสื่อรอ หาที่รอไปจนกว่าจะบ่ายสอง
พอได้เวลาบ่ายสองปั๊ป สังเกตุแถวจะเร่ิมขยับคะ เราก็เก็บเสื่อ เก็บของ มาต่อแถวเข้าคิวเพื่อที่จะเข้าไปในบริเวณหน้าคอนเสิร์ตคะ
งานนี้ขอบอกว่า เป็นเพราะอยากมานั่งหน้าเวทีแท้ๆ เลยต้องมาก่อนเวลา เพื่อที่จะได้เห็นหน้านักร้องกันชัดๆ

พอทยอยผ่านด่านประตูชั้นสุดท้ายเสร็จ ทุกคนวิ่งกรูกันเลยจ้าาาาาา วิ่งฝุ่นตลบกันไปเลย เพื่อที่จะแย่งชิงที่นั่งแถวหน้ากัน 5555555
ส่วนเราก็เดินไปแบบงงๆ ว่าเค้าวิ่งกันทำไมขนาดนั้น ตอนนั้นงง แต่พอตอนที่เรามาหาที่นั่ง ก็ได้เข้าใจละ ว่าทำไม แค่เวลา
สั้นๆแปปเดียวที่เค้าวิ่งฝุ่นตลบกัน มันทำให้ที่นั่งแถวหน้าเต็มภายในพริบตา เราเลยได้ไกลออกมาหน่อย แต่ก็ไม่มากนัก ยังจัดว่าโอเคนะ
หลังจากได้ที่นั่งแล้ว ต่อไป เป็นการลงทะเบียนพื้นที่+เต้นท์ พื้นที่กางเต้นท์ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนถึงหน้าเวที จะเป็นทางลาดปูนลงไป

พอเดินลงไปเรื่อยๆ จะเจอกับเต้นท์สีขาวใหญ่ ซึ่งนั่นแหละคือจุดที่เราต้องไปเข้าแถวต่อคิว เพื่อที่จะไปลงทะเบียนพื้นที่+เต้นท์ (อ้อ เราเลือกซื้อพื้นที่+เต้นท์ เพราะว่าเราไม่มีเต้นท์ไปกาง อิอิ) สักพักนึกขึ้นมาได้ว่า "เฮ้ย ตูเอาบัตรพื้นที่+เต้นท์มารึป่าวหว่า 55555" ก็ลนหาบัตรอยู่ซักพักนึงเลย สรุปก็เจอ เฮ้ออออ...เกือบไม่มีที่นอนแล้ว --* ส่วนคนที่มีเต้นท์ ซื้อแต่พื้นที่กาง จุดลงทะเบียนก็จะอยู่ข้างๆกันเลยคะ
ส่วนสองภาพนี้ จะพามาดูพื้นที่เต้นท์สำหรับคนที่ไม่มีเต้นท์ สองภาพนี้จะเป็นจุดที่มีเต้นท์อยู่ประมาณ 3 แถว ใกล้ริมเขา และใกล้ริมน้ำ

ส่วนภาพนี้ จะเป็นจุดที่สำหรับคนมาช้า จะได้ตรงนี้กัน เป็นพื้นที่กว้างขวางมา ไม่ได้นับว่ามีกี่แถว ให้ลองนับกันดูเองนะ ^^

ส่วนภาพนี้ ถ่ายซุมเต้นท์กันให้เห็นชัดๆว่าเป็นอย่างไร ลองดูกัน
เดี๋ยวเราพาไปดูห้องน้ำกัน ก็อยากบอกว่า ห้องน้ำเค้าทำไว้ดี มีเยอะมาก แล้วก็มีหลายจุด จะมีที่บริเวณด้านขวามือของเวทีหนึ่งที่ แล้วก็มีตรงบริเวณจุดกางเต้นท์อีกหนึ่งที่ ตรงบริเวณจุดกางเต้น จะมีเป็นแบบห้องอาบน้ำให้ด้วย ห้องน้ำจะเป็นประมาณนี้คะ
และแล้วก็ได้เวลาที่เหล่าศิลปินจะมาสร้างความสุขด้วยเสียงเพลงของเค้ากันแล้วคะ ตอนนั้นก็พระอาทิตย์เริ่มจะตกดินแล้ว อากาศกำลังเริ่มดี แล้ววงแรกที่มาก็คือ.....วัชราวลี (เขียนถูกป่าวไม่แน่ใจ) พี่เค้าน่ารักมาก ไปดูภาพกันเลยคะ
ต่อมาที่จะพาไปดูคือ พี่โรสคะ มาพร้อมทรงผมใหม่ไฉไลกว่าเดิม น่ารักมาก เราก็เพิ่งรู้ว่าเค้าเป็นคนตลกด้วย 5555 ชอบๆฮาดี แกพูดอะไรก็จะมีแต่คนกรี๊ด ไปดูภาพกัน ถ้าไม่เชื่อ
ในส่วนของศิลปิน ขอเอาภาพมาให้ดูกันคร่าวๆแค่นี้เนาะ เดี๋ยวต่อไปจะพาไปดูบรรยากาศภายในงาน ภาพข้างล่างนี้เป็นบรรยากาศของคนที่เริ่มเดินทางมาถึงที่งานกันแล้ว อยากบอกว่าคนเยอะมาก อบอุ่นดี
แล้วก็ภาพนี้จะเป็นโซนของกิน จะอยู่รอบๆงานเลย อยากกินเลยเลือกได้เลยจ้ะ เราถ่ายมาได้แค่รูปเดียว เพราะหลังจากนั้น มือเริ่มไม่ว่างละ
ส่วนอันนี้เป็นภาพบรรยากาศรอบๆงาน เค้าก็จะมีซุ้มต่างๆมากมาย เอาไว้ให้ถ่ายรูปเล่น หรืออาจจะเลือกช็อปบ้างอะไรบ้าง
ส่วนภาพนี้เป็นเทียนหอมที่ทางงานเค้าจัดขึ้นมาให้เราได้ร่วมทำบุญคะ แล้วจะมีการจุดเทียนกันในเวลาเที่ยงคืน
และยังไม่พอ ทางงานยังทำพลุมาเซอร์ไพรส์พวกเราด้วย โฮ่ววว สวยมาก แต่ก็แอบกลัวเหมือนกัน 555
ส่วนภาพนี้เป็นภาพพื้นที่สำหรับคนที่มีเต้นท์มาเองคะ
ตอนเช้าคะ ตื่นมาประมาณ7โมงได้ อากาศดีมากกกกกกกกก^o^ แต่รู้สึกว่าจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง Zzz
คนอื่นๆเค้ากำลังเก็บเต้นท์กันคะ แอบดูวิธีเก็บไปพลางๆ แล้วก็ทำทีเป็นถ่ายรูป
อันนี้คือ เต้นท์ข้างๆเค้าเก็บเต้นท์กลับไปกันละ
ภาพนี้คือโซนที่เราเคยบอกว่าให้นับกันดูว่ามีกี่แถวอะคะ
คะ ก็ขอจบรีวิวของ Season Of Love Songs 5 ไว้เพียงเท่านี้คะ ขอบคุณคะ^^
[CR] Season of love song 5
เร่ิมต้นด้วยการ แวะหาอะไรกิน หลังจากที่ขับรถออกจากกรุงเทพที่แสนจะติดมาได้สักพัก ^^
และแล้ว ก็เดินทางมาถึงสวนผึ้ง ว่าแล้วก็แวะร้านนี้สักหน่อย เพราะเค้าตั้งเป็นสง่าอยู่ริมถนนเป็นอย่างมาก
ขอชมหน่อยว่า ที่นี่สวยคะ ถ้าไปสวนผึ้งยังไงๆก็ต้องมาแวะกันนะ
พอแวะถ่ายรูปเสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ ตลาดน้ำสวนผึ้งทันที เนื่องจากว่า เวลานั้น ก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้ว
ตอนแรกว่าจะแวะบ้านหอมเทียนนะคะ แต่ว่ากลัวจะไม่ได้จองที่นั่งด้านหน้าๆ
อันนี้คือภาพบรรยากาศลานจอดรถที่ทางงานเค้าจัดไว้ให้ ลานจอดรถจะมีเยอะมาก บางที่ก็เสียตังบางทีก็ฟรี
ของเราขับมาจนลานจอดสุดท้ายเลย จะเลยทางเข้าตลาดน้ำสวนผึ้งไปอีกสัก 300 เมตรเห็นจะได้คะ
จะเป็นลานจอดฟรี และลานจอดสุดท้าย
พอได้ที่จอดปึ๊ป ก็เดินหอบกระเป๋าสัมภารกต่างๆ ไปขึ้นสองแถวที่เค้ามีคิวรอรับคนที่จะมาดูคอนเสิร์ตคะ
ค่ารถสองแถว คนละ 20 บาท จะเป็นราคาทั้งไปและกลับจากงานเลย โดยเค้าจะเก็บตังเรา แล้วจะเอาบัตรสีเหลืองๆให้เราเก็บไว้มาโชว์ตอนจะนั่งรถกลับมาที่ลานจอดคะ
อันนี้ภาพบรรยากาศคนที่กำลังเดินเข้าในงาน ตอนนี้จะยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะมันเพิ่งจะบ่ายเอง
คือเราต้องเดินเข้ามาสักระยะนึง แล้วก็จะเจอกับด่านตรวจกระเป๋าคะ
พอตรวจกระเป๋าเสร็จปึ๊ป เราก็ต้องเดินไปอีก เพื่อที่จะเอาบัตรไปให้เค้าตรวจเพื่อที่จะร้บสายรัดข้อมือที่ใช้แทน
บัตรผ่านเข้างาน
หลังจากผ่านด่านทั้งสองมาแล้ว เราก็จะต้องเดินมาขึ้นรถคะ เป็นรถที่จะพาเราเข้าไปสู่บริเวณที่จัดคอนเสิร์ต
พอรถขับมาส่งเราถึงบริเวณหน้างาน เราก็ต้องมารอประตูเปิดคะ จะต้องเป็นเวลาบ่ายสองโมง ตอนที่เราไปถึงก็ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ
ก็นั่งรอ ยืนรอ ปูเสื่อรอ หาที่รอไปจนกว่าจะบ่ายสอง
พอได้เวลาบ่ายสองปั๊ป สังเกตุแถวจะเร่ิมขยับคะ เราก็เก็บเสื่อ เก็บของ มาต่อแถวเข้าคิวเพื่อที่จะเข้าไปในบริเวณหน้าคอนเสิร์ตคะ
งานนี้ขอบอกว่า เป็นเพราะอยากมานั่งหน้าเวทีแท้ๆ เลยต้องมาก่อนเวลา เพื่อที่จะได้เห็นหน้านักร้องกันชัดๆ
พอทยอยผ่านด่านประตูชั้นสุดท้ายเสร็จ ทุกคนวิ่งกรูกันเลยจ้าาาาาา วิ่งฝุ่นตลบกันไปเลย เพื่อที่จะแย่งชิงที่นั่งแถวหน้ากัน 5555555
ส่วนเราก็เดินไปแบบงงๆ ว่าเค้าวิ่งกันทำไมขนาดนั้น ตอนนั้นงง แต่พอตอนที่เรามาหาที่นั่ง ก็ได้เข้าใจละ ว่าทำไม แค่เวลา
สั้นๆแปปเดียวที่เค้าวิ่งฝุ่นตลบกัน มันทำให้ที่นั่งแถวหน้าเต็มภายในพริบตา เราเลยได้ไกลออกมาหน่อย แต่ก็ไม่มากนัก ยังจัดว่าโอเคนะ
หลังจากได้ที่นั่งแล้ว ต่อไป เป็นการลงทะเบียนพื้นที่+เต้นท์ พื้นที่กางเต้นท์ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนถึงหน้าเวที จะเป็นทางลาดปูนลงไป
พอเดินลงไปเรื่อยๆ จะเจอกับเต้นท์สีขาวใหญ่ ซึ่งนั่นแหละคือจุดที่เราต้องไปเข้าแถวต่อคิว เพื่อที่จะไปลงทะเบียนพื้นที่+เต้นท์ (อ้อ เราเลือกซื้อพื้นที่+เต้นท์ เพราะว่าเราไม่มีเต้นท์ไปกาง อิอิ) สักพักนึกขึ้นมาได้ว่า "เฮ้ย ตูเอาบัตรพื้นที่+เต้นท์มารึป่าวหว่า 55555" ก็ลนหาบัตรอยู่ซักพักนึงเลย สรุปก็เจอ เฮ้ออออ...เกือบไม่มีที่นอนแล้ว --* ส่วนคนที่มีเต้นท์ ซื้อแต่พื้นที่กาง จุดลงทะเบียนก็จะอยู่ข้างๆกันเลยคะ
ส่วนสองภาพนี้ จะพามาดูพื้นที่เต้นท์สำหรับคนที่ไม่มีเต้นท์ สองภาพนี้จะเป็นจุดที่มีเต้นท์อยู่ประมาณ 3 แถว ใกล้ริมเขา และใกล้ริมน้ำ
ส่วนภาพนี้ จะเป็นจุดที่สำหรับคนมาช้า จะได้ตรงนี้กัน เป็นพื้นที่กว้างขวางมา ไม่ได้นับว่ามีกี่แถว ให้ลองนับกันดูเองนะ ^^
ส่วนภาพนี้ ถ่ายซุมเต้นท์กันให้เห็นชัดๆว่าเป็นอย่างไร ลองดูกัน
เดี๋ยวเราพาไปดูห้องน้ำกัน ก็อยากบอกว่า ห้องน้ำเค้าทำไว้ดี มีเยอะมาก แล้วก็มีหลายจุด จะมีที่บริเวณด้านขวามือของเวทีหนึ่งที่ แล้วก็มีตรงบริเวณจุดกางเต้นท์อีกหนึ่งที่ ตรงบริเวณจุดกางเต้น จะมีเป็นแบบห้องอาบน้ำให้ด้วย ห้องน้ำจะเป็นประมาณนี้คะ
และแล้วก็ได้เวลาที่เหล่าศิลปินจะมาสร้างความสุขด้วยเสียงเพลงของเค้ากันแล้วคะ ตอนนั้นก็พระอาทิตย์เริ่มจะตกดินแล้ว อากาศกำลังเริ่มดี แล้ววงแรกที่มาก็คือ.....วัชราวลี (เขียนถูกป่าวไม่แน่ใจ) พี่เค้าน่ารักมาก ไปดูภาพกันเลยคะ
ต่อมาที่จะพาไปดูคือ พี่โรสคะ มาพร้อมทรงผมใหม่ไฉไลกว่าเดิม น่ารักมาก เราก็เพิ่งรู้ว่าเค้าเป็นคนตลกด้วย 5555 ชอบๆฮาดี แกพูดอะไรก็จะมีแต่คนกรี๊ด ไปดูภาพกัน ถ้าไม่เชื่อ
ในส่วนของศิลปิน ขอเอาภาพมาให้ดูกันคร่าวๆแค่นี้เนาะ เดี๋ยวต่อไปจะพาไปดูบรรยากาศภายในงาน ภาพข้างล่างนี้เป็นบรรยากาศของคนที่เริ่มเดินทางมาถึงที่งานกันแล้ว อยากบอกว่าคนเยอะมาก อบอุ่นดี
แล้วก็ภาพนี้จะเป็นโซนของกิน จะอยู่รอบๆงานเลย อยากกินเลยเลือกได้เลยจ้ะ เราถ่ายมาได้แค่รูปเดียว เพราะหลังจากนั้น มือเริ่มไม่ว่างละ
ส่วนอันนี้เป็นภาพบรรยากาศรอบๆงาน เค้าก็จะมีซุ้มต่างๆมากมาย เอาไว้ให้ถ่ายรูปเล่น หรืออาจจะเลือกช็อปบ้างอะไรบ้าง
ส่วนภาพนี้เป็นเทียนหอมที่ทางงานเค้าจัดขึ้นมาให้เราได้ร่วมทำบุญคะ แล้วจะมีการจุดเทียนกันในเวลาเที่ยงคืน
และยังไม่พอ ทางงานยังทำพลุมาเซอร์ไพรส์พวกเราด้วย โฮ่ววว สวยมาก แต่ก็แอบกลัวเหมือนกัน 555
ส่วนภาพนี้เป็นภาพพื้นที่สำหรับคนที่มีเต้นท์มาเองคะ
ตอนเช้าคะ ตื่นมาประมาณ7โมงได้ อากาศดีมากกกกกกกกก^o^ แต่รู้สึกว่าจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง Zzz
คนอื่นๆเค้ากำลังเก็บเต้นท์กันคะ แอบดูวิธีเก็บไปพลางๆ แล้วก็ทำทีเป็นถ่ายรูป
อันนี้คือ เต้นท์ข้างๆเค้าเก็บเต้นท์กลับไปกันละ
ภาพนี้คือโซนที่เราเคยบอกว่าให้นับกันดูว่ามีกี่แถวอะคะ
คะ ก็ขอจบรีวิวของ Season Of Love Songs 5 ไว้เพียงเท่านี้คะ ขอบคุณคะ^^