ปปช........ตักน้ำใส่กระโหลก.......ชะโงกดูหน้าตัวเองหน่อย

กระทู้สนทนา
อ่านข่าว ปปช ขอเพิ่มอำนาจตัวเอง

http://www.thairath.co.th/content/465803

ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาด่าคนพวกนี้ เกือบทุกองค์กรเหมือนกันหมด

ตลก ขยายอำนาจตัวเอง รับฟ้อง มาตรา 68 โดยไม่ผ่านอัยการสูงสุด

สนช ไม่มีอำนาจถอดถอน แต่ก็เอาสีข้างเข้าถู จนสามารถจะถอดถอน ทั้งสมศักดิ์ นิคม และสส สว


องค์กรเหล่านี้มีหน้าที่รักษาความยุติธรรมของประเทศ เป็นความหวังและที่พึ่งสุดท้ายของคนทั้งชาติ

แต่ที่ผ่านมากลับไร้ซึ่งความยุติธรรม จ้องแต่จะล้างแค้น เต็มไปด้วยความอคติ  หลายๆครั้งเมื่อเกิดคำครหา

แทนที่จะรีบแก้ไข ปรับปรุง กลับสำแดงอาการโอหัง ไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา จ้องแต่เชลียร์ผู้มีอำนาจ

เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง


ปปช เป็นองค์กรหนึ่งที่ช่วงนี้ มีเสียงก่นด่าจากทุกสารทิศ แม้กระทั่งองค์กรต่างประเทศอย่าง PERC ยังจัดอันดับ

ให้เป็นที่โหล่ในบรรดาองค์กรปราบคอร์รัปชั่นในเอเชีย และพิมพ์คำว่า BOO ซึ่งแปลว่าสุดบู่

http://www.isranews.org/isranews-article/item/32625-pcc_32625.html

เมื่อคะแนนออกมาอย่างนี้แล้ว แทนที่ ปปช จะมีความละอาย แต่กลับมาเล่นลิ้นบอก PERC ไม่น่าเชื่อถือ


การที่ PERC ให้คะแนนเป็นอันดับสุดท้าย โดยให้เหตุผลว่า ปปช ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากเกินไป

ซึ่งวิเคราะห์ดูแล้วก็เห็นจริง  ตัวอย่างง่ายๆที่ทุกคนรู้คือ การปล่อยให้คดีสำคัญอย่าง ปรส หมดอายุความ

ทั้งๆที่มีเวลาสอบเป็นสิบปี หรืออย่างโครงการระบายข้าวของรัฐบาลแมงสาบ ก็เกิดก่อนโครงการจำนำข้าว

ตั้งหลายปี แต่ ปปช กลับไม่ดำเนินการก่อน โดยให้เหตุผลว่า เอกสารหายช่วงน้ำท่วม แต่พอโครงการจำนำข้าว

กลับเร่งรีบดำเนินการ ทั้งๆที่ข้อมูลมีแค่รายงานวิจัย TDRI  เพียงอย่างเดียว


ปปช จะเล่นงาน นายก ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่กล้าฟ้องว่าทุจริต ได้เพียงเล่นงานว่า "ละเว้นที่จะยับยั้งโครงการ"

ทั้งๆที่ นายก ปู ไม่สามารถยับยั้งได้เนื่องจากเป็นนโยบายที่ใช้หาเสียง ถ้าไม่ทำตามนโยบาย ก็จะโดนข้อหา

อย่างอื่นอีก เรียกว่า หมาป่ากับลูกแกะ


ข้ออ้างที่ว่า ปปช ได้ออก จ.ม เตือนรัฐบาลเพื่อไทยให้ยับยั้งโครงการนี้แล้ว ยิ่งเห็นชัดถึงความอยุติธรรมของ ปปช

จ.ม เตือนของ ปปช ออกไป 2 ฉบับ ฉบับแรก มิ.ย ปี 2555 ส่วนฉบับ 2 ออกตอนเดือนตุลา 2555 ทั้งๆที่

ครม นายก ปู เข้ารับตำแหน่งเดือน สิงหาคม 2554 เรียกว่า เริ่มโครงการปุ๊บ เตือนทันที แถมยังให้กลับไปใช้

ประกันรายได้ อย่างที่ TDRI แนะนำ นี่ก็แสดงให้เห็นได้ชัดว่า ปปช ตั้งธงไว้ก่อนแล้ว


ซึ่งการกลั่นแกล้งของ ปปช ต่อเรื่องนี้ คนส่วนใหญ่จึงร้องเรียกหาคำตอบเรื่อง 2 มาตรฐานจาก ปปช

แต่คำตอบที่ได้รับจาก วิชา มหาค.. ทำเอาคนที่รักความยุติธรรมหงายท้องไปตามๆกันคือ




แค่คำตอบนี้คำตอบเดียวก็สมควรไล่ ปปช หรือยุบไปทั้งคณะได้แล้ว มีที่ไหนในโลก ที่ใช้กฏหมายโดยที่

ไม่ต้องให้ความเป็นธรรมกับคนทุกคน ตามหลักกฏหมายแล้ว "ยอมปล่อยคนผิดร้อยคน ดีกว่าจับผู้บริสุทธิ์คนเดียว"

แต่นี่ยังไม่ยอมให้ผู้เสียหายชี้แจงหรือหาพยานเพิ่ม กลับคิดจะรวบรัดจัดการท่าเดียว


นี่ยังไม่รับการที่ ปปช บอกว่า สมาชิก สปช ไม่ต้องแสดงทรัพย์สิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นงานทางวิชาการ

ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่มีผลประโยชน์ ถามหน่อยเถอะว่า "คนพวกนี้ไม่ได้รีบเงินเดือนหรือเบี้ยเลี้ยงหรือไง" สิทธิประโยชน์

ของตนเองและผู้ติดตามอีก 5 คน ไม่เรียกว่าผลประโยชน์ได้ไง และการร่าง รธน ฉบับใหม่ ก็คือส่วนได้ส่วนเสีย

ไหนคุยว่าจะปฏิรูปไง แค่ความบริสุทธิ์ขั้นตอนแรก ปปช ก็ไปปกป้องแล้ว


จากเหตุผลข้างต้น จขกท จึงเห็นว่า ปปช ควรจะตักน้ำใส่กระโหลก แล้วชะโงกดูหน้าตัวเองด้วยว่า

น่าสะอิดสะเอียนแค่ไหนกับพฤติกรรมที่ผ่านมา สรุปก็คือ อย่าว่าแต่เพิ่มอำนาจให้ ปปช เลยสมควรยุบองค์กรนี้ทิ้งด้วยซ้ำ


ป.ล  วิชา เคยท้าว่าถ้าจะยุบ ปปช ให้ถามประชาชนก่อน จขกท ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ก็อยากบอกว่า ยุบไปเถอะ

อยู่ไปก็รังแต่จะเพิ่มความแตกแยกให้บ้านเมือง

ป.ล 2 PERC ให้ ปปช " B00 " แต่ จขกท อยากให้ "BOOT" มากกว่า เพราะพฤติกรรมเหมาะกับ BOOT เบอร์ 45 จริงๆ

ป.ล 3 หน่วยงานนี้ เคยมีข้าราชการตงฉินคนหนึ่ง ไม่เคยแม้แต่ใช้รถหลวง นั่งรถเมล์ไปทำงาน อยู่บ้านเช่าตลอดชีวิต

ได้รับสมญาว่า "เปาบุ้นจิ้น เมืองไทย "ท่านผู้นั้นชื่อ สุธี อากาศฤกษ์ เลขา ปปป (สมัยนั้นเรียกว่า ปปป ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น ปปช )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่