ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับโครงการในกระทู้นี้ถ้ามีรายละเอียดส่วนไหนผิดพลาดยังไงเราก็ขอโทษล่วงหน้าเลยแล้วกันนะค่ะ เราพยายามหาข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเองตามสื่อต่างๆ เท่าที่จะหาได้ก่อนจะพิมพ์มาให้ทุกคนได้อ่าน ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆเลยค่ะ ^^
เราชื่อ กิ๊ก นะคะ คือเราเป็นคนที่ไม่มีโอกาสทำอะไรให้คุณพ่อเลย ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดา วันพ่อ หรือเทศกาลต่างๆ เพราะคุณพ่อของเราเสียไปตั้งแต่ตอนเรายังเด็กๆ และยิ่งโอกาสที่จะทำอะไรให้ในหลวงนี่ยิ่งไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสทำอะไรเพื่อท่านโดยตรงได้เลย บอกเลยว่าเราตื่นเต้นดีใจรู้สึกเป็นเกียรติและโชคดีมากๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน "หนังสั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ภายใต้โครงการ "ทศพิธธรรมราชา" เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ และในโอกาสเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 86 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยนำเสนอเป็นภาพยนตร์สั้น 10 เรื่อง จากฝีมือของผู้กำกับชั้นนำของประเทศไทย (โครงการเดียวกับในข่าวที่คุณเยิ่นต๊ะหัวมาเล่นให้ฟรีๆไม่เอาค่าตัว ในชื่อเรื่องว่า บ้านของบุญเหม็น ค่ะ) แต่ในส่วนของเราจะเป็นเรื่อง “โชคดีที่ผมโชคร้าย”ซึ่งเป็นคนละตอนกับที่คุณเยิ่นต๊ะหัวแสดง (แอบเสียดายที่ไม่ได้เล่นตอนเดียวกัน อิอิ ^^) แต่ไม่เป็นไรค่ะเพราะในตอนของเราก็มีพระเอกที่เราและหลายๆคนชื่นชอบมาแสดงนำเหมือนกันจ้า แม้จะเป็นแค่บทเล็กๆไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่เราก็ภูมิใจมากจนไม่อยากเก็บประสบการณ์นี้ไว้คนเดียว อยากที่จะมาแชร์อยากเล่าให้คนอื่นได้รับรู้ว่า เราทำอะไรยังไงบ้างก่อนถึงวันนั้นไปจนจบวันถ่ายเสร็จ
ขอแทรกนิดนึง ^^
*** พรุ่งนี้(2 ธันวาคม)ใครไป สยามพารากอน 14.00น. ถ้าเจอเราที่งานเปิดตัวหนังสั้นก็ทักทายกันได้นะคะ เราชื่อ กิ๊ก ค่ะ หรือใครจะเรียกว่า จขกท. ก็ไม่ว่ากัน 555 ^^
ขอเริ่มจากเราได้รับโอกาสนี้ได้ยังไงก็แล้วกันนะคะ
พอดีเราก็รับงานพวก พริตตี้ MC ปกติค่ะ ไม่เคยแสดงหนังสั้นหรือละครอะไรมาก่อนเลย จะมีก็แค่เล่น MVเพลงอยู่ 1 เพลง แต่ก็นานมากแล้ว พอดีมีงานนึง ซึ่งเราต้องแต่งเป็น ผี เพื่อโปรโมทหนังเรื่องจูออน แต่งเป็นจูออนไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น สยาม สีลม รัชดา ฯลฯ ใครเคยเจอกันคงพอจะนึกออก 555 และเราก็ได้รู้จักกับพี่ที่เป็นคนช่วยหานักแสดงของโครงการนี้
หลังจากจบงาน จูออน ไปซักพัก ประมาณกลางเดือนตุลา พี่เค้าก็บอกว่ามีงานหนังสั้น ถ่ายวันที่ 6-7 พ.ย. เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ เราจะสนใจมั้ย แต่ไม่ได้รับค่าตัวนะเป็นหนังสั้นวันพ่อ และแน่นอนว่าเราตอบรับทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรเลยค้ะ โดยที่ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าต้องเล่นกับใครถ่ายที่ไหนกี่โมงรู้แต่วันถ่ายกับต้องรับบทเป็นเลขาสาว ^^ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากในชิวิตแล้ว แถมค่าตัวยังได้เท่ากับดาราดังระดับ SuperStar ของฮ่องกงอย่างคุณเยิ่นต๊ะหัวอีกตะหาก ใครจะไม่รับ 555^^
และเราก็จัดการ ทั้งโทรและไลน์ไปแคนเซิลงานที่เรารับไว้ตรงกับวันที่ 6-7 พ.ย.โดยหาคนมาแทนให้เรียบร้อย (ถ้าจะแคนเซิลงานไหนที่รับไว้แล้วเราจะหาคนมาแทนให้เสมอค่ะไม่หนีหายไปเฉยๆให้คนอื่นเดือดร้อน อิอิ) เวลาผ่านไปเราก็พยายามลดน้ำหนักและรับงานทำงานตามปกติมาเรื่อยๆโดยที่เว้นคิวของวันที่ 6-7 พ.ย. ไว้โดยไม่รับงานที่ตรงกับ 2สองวันนี้โดยเด็ดขาด ^^ (ล็อคไว้ให้เลย 555)
วันเวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆน้ำหนักก็ลงไปได้ประมาณ 5 กิโล จนกระทั่งวันที่ 4 พ.ย. พี่เค้าไลน์มาบอกว่า เลื่อนเป็นถ่ายวันที่ 16-17 แทนนะ วันที่ 6-7 ไม่ได้ถ่ายแล้ว (ความรู้สึกเราตอนนั้นคือ งานชั้นนน...อุส่ารับไม่รับเลยแถมรีบแคนเซิลและหาคนแทนงานที่เคยรับไว้แล้วอย่างเรียบร้อย 555 กลายเป็นวันว่างเลย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าพักผ่อนไปทำไรไม่ได้ T_T) เราก็ถามพี่เค้าว่าทำไมถึงเลื่อนหรอคะพี่ คำตอบที่พี่เค้าพิมกลับมาทำให้แทบกรี๊ดค่ะ
พี่ชาคริตไม่ว่าง และเราเป็นเลขาของพี่ชาคริต ต้องถ่ายด้วยกัน 555 ดีใจมากค่ะ และก็ทำเหมือนเดิม ไล่หาคนแทนและแคนเซิลคิววันที่ 16-17 พ.ย. แต่คราวนี้แตกต่างค่ะ ยิ่งใกล้วันถ่ายเท่าไร น้ำหนักก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆซะงั้น เพราะเป็นช่วงประจำเดือนจะมาเลยขยันกินไปนิดไม่ค่อยได้คุมอาหาร น้ำหนักก็เลยเพิ่มขึ้นมา 3 กิโลเลย T_T แต่ก็ยังดี คิดซะว่าหักลบกันแล้ว ลดไปได้ 2 กิโล ก็ละกันเน๊อะ ^^
จนมาถึงวันเสาร์ที่ 15 ก็คอนเฟิร์มว่า ถ่าย วันจันทร์ที่ 17 วันเดียวเลย 16 ไม่ต้องแล้ว (งานหายไป 1 วัน ได้พักผ่อนเหมือนเดิม 555 T_T) และให้เตียมชุดไปเอง 5 ชุด พอดีเรา มีงานพริตตี้ต่อในวันที่ 20-26 เลยถือโอกาสช๊อปปิ้งชุดใหม่ที่ยูเนี่ยนมอล์ซะเลย แต่ปัญหาคือ 2 งานนี้ ใช้ชุดรวมกันไม่ได้ด้วย กำหนดสีของชุดมาซะ ตรงข้ามกัน เหมือนเตี๊ยมกันมาเลยแฮะ ก็เลยต้องจับจ่ายใช้สอยไปซะเยอะเลย ^^
งานหนังสั้น ไม่เอาชุดสีฟ้า เขียว ขาว ดำ
งานพริตตี้ เอาชุดสี ขาว ฟ้า หรือเขียวอ่อน
ข่าวร้ายอีกอย่างคือ ไม่ได้เป็นเลขาแล้วกลายเป็นฝ่ายขายแทน T_Tแอบเสียใจและเสียดายโดยไม่บอกใคร555 เพราะว่าดูในกระดาษท่องบทแล้ว จะถ่ายในออฟฟิศ บทของพี่ชาคริต กับ แม่บ้าน จะมีบทบาทในเรื่องเยอะที่สุด และเลขาจะมีบทไม่มากแต่ก็มากที่สุดในหมู่พนักงานในออฟฟิศ (ตอนอ่านบทคิดในใจ อยากเล่นเป็นป้าแม้บ้านจังเลย บทเยอะดี อิอิ ^^ ก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมป้าแม่บ้านบทเยอะจัง...แอบอิจฉา 555) แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่ได้ถ่ายกะพี่ชาคริตก็ดีใจมากแล้ว ^^
และแล้วก็มาถึงวันถ่ายจริงวันที่ 17 เย้^^
คืนวันที่ 16 พี่เค้าบอกอีกทีว่า "สรุปเราได้เป็นเลขาเหมือนเดิมละนะ" ทีนี้ตื่นเต้นจนไม่หลับเลยค่ะ ขนาดไปเดินช๊อบทั้งวันจนเหนื่อยนะเนี่ย ^^ กว่าจะหลับก็ปาไป ตี 2 และตี 5 ก็ต้องตื่นนอนแล้ว เพราะ ต้องออกเดินทางตอน 6 โมงเช้า จากพัฒนาการ ไปถึง สมุทรสาคร และวันจันทร์ นี่รถติดมากมาย นัดไว้ 8.30 น. ไปถึงกองถ่ายนี่แทบจะพอดีเป๊ะ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งกันเลยทีเดียวเชียว ^^
มาถึงที่กองก็รีบหอบชุดที่เตรียมมาขึ้นไปเปลี่ยน พอเปลี่ยนเสร็จก็เอาชุดที่หอบมาไปให้พี่ที่เป็นคนคัดเลือกเสื้อผ้า เซอร์ไพรส์เลยค่า พี่เค้าตอบมาว่า "น้องเอามาทำไมคะ ที่นี่ก็มีชุดให้นะ" งงเป็นไก่ตาแตกเลยทีนี้ ชุดที่ซื้อมาก็ใช้งานถัดไปไม่ได้ด้วยคนละคอนเซ็ปกันเลย สรุปว่าชุดที่ซื้อมาทั้งหมด ไม่ได้ใช้ถ่ายเลยจ้า 555 ^^ ใส่แต่ชุดที่ทางกองถ่ายเตรียมให้ทั้ง 5 ชุดเลย (ตังช๊านนนนน กระเด็นไปหลายพันเบยยยย T_T)
เปลี่ยนชุดเสร็จก็ถึงเวลาแต่งหน้าทำผม แระก็รอคิวถ่ายค่ะ และแล้ว...................พระเอกของเราก็มา พี่ชาคริตค่ะ ออกจากลิฟมา พี่เค้าก็หันมองดูรอบๆที่มีเอ็กตร้านักแสดงอื่นๆและก็พี่ช่างแต่งหน้าทำผม และยกมือขึ้นไหว้ทุกคนก่อนเลยพร้อมพูดว่า "สวัสดีครับ" ความรู้สึกตอนนั้น...จากพี่ปลื้มอยู่แล้ว กลายเป็นถึงขีดสุดเลยค่ะ ไม่คิดว่าพี่เค้าจะนิสัยดีและน่ารักกับทุกคนขนาดนั้นทั้งๆที่เค้าไม่รู้จักพวกเราเลย คือเราคิดว่าแค่เค้าเข้ามาเฉยๆ แล้วถ้าเราไปทักว่าพี่สวัสดีค่ะ แล้วเค้ายกมือรับไหว้เราตอบ นี่ก็สุดยอดแล้วก็ถือว่าไม่หยิ่งแล้วนะ แต่นี่พี่เค้ายกมือไหว้ทักทายทุกคนก่อนเลย โดยที่เรากลับเป็นฝ่ายยกมือรับไหว้เค้าแทนอ่ะค่ะ ประทับใจในตัวพี่เค้าสุดๆ เวลานี้ให้เป็นเบอร์หนึ่งเลยค่า ^^
และคำตอบที่เราสงสัยว่าทำไมบทแม่บ้านถึงได้เยอะจังเลยก็คลี่คลายได้ด้วยการปรากฎตัวของ คุณ โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ค่ะ นิสัยดีและน่ารักมาเช่นกันค่ะเราก็เลยเข้าไปขอถ่ายรูปคู่ด้วยกับทั้งสองคนซะเลย แช๊ะ ^^
หลังจากนั้นทีมงานและพี่ชาคริตก็ลงไปถ่ายฉากหน้าออฟฟิศกันก่อน เรารอ...ร๊อ...รอ...รอไปรอมาก็ถึงคิวเราถ่ายค่ะเวลาบ่าย 3 โมง !!!!!! อ่านไม่ผิดค่ะ บ่ายสามโมงจริงๆ 555 ^^ นั่งรอนั่งเล่นโทรสับ ช๊าตไอแพด กันเพลินเลย ^^ และวันนั้นก็มีอุปสรรคใหญ่อยู่อย่างนึงค่ะ เมนส์มาเยอะม๊ากกกก ไม่รู้ทำไม ดีนะที่เตรียมผ้าอนามัยมาเยอะ เปลี่ยนผ้าอนามัย กันเพลินเลยทีเดียว ^^ นี่ค่ะหลักฐาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอ๊ะรูปไม่ขึ้นแฮะ
(ล้อเล่นค่า อันนี้ขออนุญาตไม่ถ่ายหลักฐานมาให้ดูแล้วกันนะคะ 555 ^^)
วันนั้นเราก็ถ่ายเสร็จประมาณ 3 ทุ่มครึ่งค่ะ แต่ทีมงานและพี่ชาคริตกับคุณโยต้องไปถ่ายต่อทีโรงพยาบาลค่ะมืออาชีพสุดๆถ่ายมาราธอนกันเลยทีเดียว^^ ส่วนเราไม่ได้ตามไปเพราะบทเราหมดแล้วและที่สำคัญเพลียมากเลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ากองถ่าย และเป็นอะไรที่สุดๆจริงๆค่ะ ทั้งสนุกสุดๆ มีความสุข สุดๆ ดีใจสุดๆ ตื่นเต้นสุดๆ เกร็งสุดๆ ลุ้นสุดๆ ง่วงสุดๆ เพลียสุดๆ ^^ วันนั้นกลับบ้านไปหลับสบายเลยทีเดียวเชียวค่า ^^
มีบรรยากาศกองถ่ายมาให้ดูนิดๆหน่อยๆค่ะ ^^
ฉากที่ตื่นเต้นที่สุด
เราต้องถือเค้กเพื่อเดินเข้าไปเซอร์ไพรส์เจ้านาย (พี่คริต) ฉากนี้ลุ้นมากที่สุด เพราะว่า เค้กมี ก้อนเดียวไม่มีสำรอง และที่เท้าเราก่อนจะเริ่มมีสายไฟวางอยู่ พอสั่งแอคชั่นปุ๊ป เราต้องเดินข้ามและเข้าไปห้องเจ้านาย ถ้าสะดุดสายไฟแล้วเค้กหล่น .... อนาคตคงดับไปพร้อมๆกับเทียนบนเค้กกันเลยทีเดียว T_T เผื่อนึกภาพไม่ออกมีวีดีโอประกอบค่ะ ^^
https://www.facebook.com/video.php?v=815855208456118&set=vb.100000949396938&type=2&theater
ฉากที่ประทับใจที่สุด
เราต้องหลับเวลางานและพี่คริตต้องเอาลิปสติกมาแกล้งเขียนหน้าเราค่ะ (แอบฟิน อิอิ ^^)
https://www.facebook.com/video.php?v=815865701788402&set=vb.100000949396938&type=2&theater
ใกล้ครบ 10000 ตัวอักษรแล้ว ยังไงรูปและคลิปเบื้องหลังที่เหลือดูได้ในเฟสบุ๊คเราเลยนะคะ
ขอฝากถึงพี่ๆทุกคนในกองถ่ายและพี่ที่เลือกหนูมานะคะ "หนูขอขอบพระคุณพี่ๆทุกคนะคะที่ให้โอกาสหนู ให้หนูได้มีโอกาสทำสิ่งดีดีเพื่อในหลวง หนูเชื่อว่ามีคนอีกมากมายที่พร้อมจะทำสิ่งดีดีเพื่อในหลวงของเรา โดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทน แต่โอกาสครั้งนี้หนูได้รับมา หนูถือว่าพวกพี่ทุกคนมีบุญคุณกับหนูมากๆ ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากๆเลยนะคะ"
สุดท้ายนี้ อยากเชิญชวนทุกๆคนไปดูในโรงภาพยนตร์กันค่ะ โดยจะจัดฉายรอบปฐมฤกษ์ ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้เวลา 14.00 น.ที่ สยามพารากอนและฉายพร้อมกันทั่วประเทศให้ประชาชนได้ชมฟรีโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพลกซ์ 73 สาขา ในวันที่ 5 ธันวาคม รวมทั้งสามารถรับชมได้ทางฟรีทีวี ดิจิตัลทีวี และเคเบิลทีวี ตลอดเดือนธันวาคมด้วยค่า ^^ ส่วนเราไปดูในโรงภาพยนตร์แน่นอนค่ะ ส่วนจะเป็นรอบไหนและเวลาไหนคงต้องดูตารางงานอีกที
บอกตรงๆเลยว่าเราอยากให้มีคนไปดูเต็มทุกรอบ จะได้มีโครงการดีดีแบบนี้ไปทุกๆปี เพราะเราเชื่อว่าทุกๆคนเต็มที่กับการผลิตผลงานนี้เพื่อในหลวงจริงๆค่ะ ถ้าใครสะดวกหรือไม่ลำบากจนเกินไปก็อยากให้ไปชวนเพื่อนๆหรือครอบครัวไปชมในโรงภาพยนตร์กันเยอะๆนะคะ อยากให้มีกระแสตอบรับกับโครงการนี้เยอะๆ เราเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ในหลวงรู้สึกชื่นใจและมีความสุขได้ค่ะ
พอดีวันนี้เราฟังวิทยุบนรถและได้ยินคำพูดนึง หลายคนอาจเคยได้ฟังเหมือนเรา แต่หลายคนก็อาจจะไม่ได้ฟัง แต่เราฟังแล้วเราประทับใจคำพูดนี้มากค่ะ ^^
"ยายไม่ได้ไปดูในหลวงหรอก แต่ยายไปให้ในหลวงดูว่า มีคนรักท่านมากมายแค่ไหน" ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
แชร์ประสบการณ์ครั้งแรกในกองถ่ายหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติในหลวง และ อยากเชิญชวนทุกคนไปดูฟรีในโรงภาพยนตร์ค่ะ (มีรูป+คลิป)
เราชื่อ กิ๊ก นะคะ คือเราเป็นคนที่ไม่มีโอกาสทำอะไรให้คุณพ่อเลย ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดา วันพ่อ หรือเทศกาลต่างๆ เพราะคุณพ่อของเราเสียไปตั้งแต่ตอนเรายังเด็กๆ และยิ่งโอกาสที่จะทำอะไรให้ในหลวงนี่ยิ่งไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสทำอะไรเพื่อท่านโดยตรงได้เลย บอกเลยว่าเราตื่นเต้นดีใจรู้สึกเป็นเกียรติและโชคดีมากๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน "หนังสั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ภายใต้โครงการ "ทศพิธธรรมราชา" เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ และในโอกาสเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 86 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยนำเสนอเป็นภาพยนตร์สั้น 10 เรื่อง จากฝีมือของผู้กำกับชั้นนำของประเทศไทย (โครงการเดียวกับในข่าวที่คุณเยิ่นต๊ะหัวมาเล่นให้ฟรีๆไม่เอาค่าตัว ในชื่อเรื่องว่า บ้านของบุญเหม็น ค่ะ) แต่ในส่วนของเราจะเป็นเรื่อง “โชคดีที่ผมโชคร้าย”ซึ่งเป็นคนละตอนกับที่คุณเยิ่นต๊ะหัวแสดง (แอบเสียดายที่ไม่ได้เล่นตอนเดียวกัน อิอิ ^^) แต่ไม่เป็นไรค่ะเพราะในตอนของเราก็มีพระเอกที่เราและหลายๆคนชื่นชอบมาแสดงนำเหมือนกันจ้า แม้จะเป็นแค่บทเล็กๆไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่เราก็ภูมิใจมากจนไม่อยากเก็บประสบการณ์นี้ไว้คนเดียว อยากที่จะมาแชร์อยากเล่าให้คนอื่นได้รับรู้ว่า เราทำอะไรยังไงบ้างก่อนถึงวันนั้นไปจนจบวันถ่ายเสร็จ
ขอแทรกนิดนึง ^^
*** พรุ่งนี้(2 ธันวาคม)ใครไป สยามพารากอน 14.00น. ถ้าเจอเราที่งานเปิดตัวหนังสั้นก็ทักทายกันได้นะคะ เราชื่อ กิ๊ก ค่ะ หรือใครจะเรียกว่า จขกท. ก็ไม่ว่ากัน 555 ^^
ขอเริ่มจากเราได้รับโอกาสนี้ได้ยังไงก็แล้วกันนะคะ
พอดีเราก็รับงานพวก พริตตี้ MC ปกติค่ะ ไม่เคยแสดงหนังสั้นหรือละครอะไรมาก่อนเลย จะมีก็แค่เล่น MVเพลงอยู่ 1 เพลง แต่ก็นานมากแล้ว พอดีมีงานนึง ซึ่งเราต้องแต่งเป็น ผี เพื่อโปรโมทหนังเรื่องจูออน แต่งเป็นจูออนไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น สยาม สีลม รัชดา ฯลฯ ใครเคยเจอกันคงพอจะนึกออก 555 และเราก็ได้รู้จักกับพี่ที่เป็นคนช่วยหานักแสดงของโครงการนี้
หลังจากจบงาน จูออน ไปซักพัก ประมาณกลางเดือนตุลา พี่เค้าก็บอกว่ามีงานหนังสั้น ถ่ายวันที่ 6-7 พ.ย. เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ เราจะสนใจมั้ย แต่ไม่ได้รับค่าตัวนะเป็นหนังสั้นวันพ่อ และแน่นอนว่าเราตอบรับทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรเลยค้ะ โดยที่ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าต้องเล่นกับใครถ่ายที่ไหนกี่โมงรู้แต่วันถ่ายกับต้องรับบทเป็นเลขาสาว ^^ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากในชิวิตแล้ว แถมค่าตัวยังได้เท่ากับดาราดังระดับ SuperStar ของฮ่องกงอย่างคุณเยิ่นต๊ะหัวอีกตะหาก ใครจะไม่รับ 555^^
และเราก็จัดการ ทั้งโทรและไลน์ไปแคนเซิลงานที่เรารับไว้ตรงกับวันที่ 6-7 พ.ย.โดยหาคนมาแทนให้เรียบร้อย (ถ้าจะแคนเซิลงานไหนที่รับไว้แล้วเราจะหาคนมาแทนให้เสมอค่ะไม่หนีหายไปเฉยๆให้คนอื่นเดือดร้อน อิอิ) เวลาผ่านไปเราก็พยายามลดน้ำหนักและรับงานทำงานตามปกติมาเรื่อยๆโดยที่เว้นคิวของวันที่ 6-7 พ.ย. ไว้โดยไม่รับงานที่ตรงกับ 2สองวันนี้โดยเด็ดขาด ^^ (ล็อคไว้ให้เลย 555)
วันเวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆน้ำหนักก็ลงไปได้ประมาณ 5 กิโล จนกระทั่งวันที่ 4 พ.ย. พี่เค้าไลน์มาบอกว่า เลื่อนเป็นถ่ายวันที่ 16-17 แทนนะ วันที่ 6-7 ไม่ได้ถ่ายแล้ว (ความรู้สึกเราตอนนั้นคือ งานชั้นนน...อุส่ารับไม่รับเลยแถมรีบแคนเซิลและหาคนแทนงานที่เคยรับไว้แล้วอย่างเรียบร้อย 555 กลายเป็นวันว่างเลย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าพักผ่อนไปทำไรไม่ได้ T_T) เราก็ถามพี่เค้าว่าทำไมถึงเลื่อนหรอคะพี่ คำตอบที่พี่เค้าพิมกลับมาทำให้แทบกรี๊ดค่ะ
พี่ชาคริตไม่ว่าง และเราเป็นเลขาของพี่ชาคริต ต้องถ่ายด้วยกัน 555 ดีใจมากค่ะ และก็ทำเหมือนเดิม ไล่หาคนแทนและแคนเซิลคิววันที่ 16-17 พ.ย. แต่คราวนี้แตกต่างค่ะ ยิ่งใกล้วันถ่ายเท่าไร น้ำหนักก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆซะงั้น เพราะเป็นช่วงประจำเดือนจะมาเลยขยันกินไปนิดไม่ค่อยได้คุมอาหาร น้ำหนักก็เลยเพิ่มขึ้นมา 3 กิโลเลย T_T แต่ก็ยังดี คิดซะว่าหักลบกันแล้ว ลดไปได้ 2 กิโล ก็ละกันเน๊อะ ^^
จนมาถึงวันเสาร์ที่ 15 ก็คอนเฟิร์มว่า ถ่าย วันจันทร์ที่ 17 วันเดียวเลย 16 ไม่ต้องแล้ว (งานหายไป 1 วัน ได้พักผ่อนเหมือนเดิม 555 T_T) และให้เตียมชุดไปเอง 5 ชุด พอดีเรา มีงานพริตตี้ต่อในวันที่ 20-26 เลยถือโอกาสช๊อปปิ้งชุดใหม่ที่ยูเนี่ยนมอล์ซะเลย แต่ปัญหาคือ 2 งานนี้ ใช้ชุดรวมกันไม่ได้ด้วย กำหนดสีของชุดมาซะ ตรงข้ามกัน เหมือนเตี๊ยมกันมาเลยแฮะ ก็เลยต้องจับจ่ายใช้สอยไปซะเยอะเลย ^^
งานหนังสั้น ไม่เอาชุดสีฟ้า เขียว ขาว ดำ
งานพริตตี้ เอาชุดสี ขาว ฟ้า หรือเขียวอ่อน
ข่าวร้ายอีกอย่างคือ ไม่ได้เป็นเลขาแล้วกลายเป็นฝ่ายขายแทน T_Tแอบเสียใจและเสียดายโดยไม่บอกใคร555 เพราะว่าดูในกระดาษท่องบทแล้ว จะถ่ายในออฟฟิศ บทของพี่ชาคริต กับ แม่บ้าน จะมีบทบาทในเรื่องเยอะที่สุด และเลขาจะมีบทไม่มากแต่ก็มากที่สุดในหมู่พนักงานในออฟฟิศ (ตอนอ่านบทคิดในใจ อยากเล่นเป็นป้าแม้บ้านจังเลย บทเยอะดี อิอิ ^^ ก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมป้าแม่บ้านบทเยอะจัง...แอบอิจฉา 555) แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่ได้ถ่ายกะพี่ชาคริตก็ดีใจมากแล้ว ^^
และแล้วก็มาถึงวันถ่ายจริงวันที่ 17 เย้^^
คืนวันที่ 16 พี่เค้าบอกอีกทีว่า "สรุปเราได้เป็นเลขาเหมือนเดิมละนะ" ทีนี้ตื่นเต้นจนไม่หลับเลยค่ะ ขนาดไปเดินช๊อบทั้งวันจนเหนื่อยนะเนี่ย ^^ กว่าจะหลับก็ปาไป ตี 2 และตี 5 ก็ต้องตื่นนอนแล้ว เพราะ ต้องออกเดินทางตอน 6 โมงเช้า จากพัฒนาการ ไปถึง สมุทรสาคร และวันจันทร์ นี่รถติดมากมาย นัดไว้ 8.30 น. ไปถึงกองถ่ายนี่แทบจะพอดีเป๊ะ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งกันเลยทีเดียวเชียว ^^
มาถึงที่กองก็รีบหอบชุดที่เตรียมมาขึ้นไปเปลี่ยน พอเปลี่ยนเสร็จก็เอาชุดที่หอบมาไปให้พี่ที่เป็นคนคัดเลือกเสื้อผ้า เซอร์ไพรส์เลยค่า พี่เค้าตอบมาว่า "น้องเอามาทำไมคะ ที่นี่ก็มีชุดให้นะ" งงเป็นไก่ตาแตกเลยทีนี้ ชุดที่ซื้อมาก็ใช้งานถัดไปไม่ได้ด้วยคนละคอนเซ็ปกันเลย สรุปว่าชุดที่ซื้อมาทั้งหมด ไม่ได้ใช้ถ่ายเลยจ้า 555 ^^ ใส่แต่ชุดที่ทางกองถ่ายเตรียมให้ทั้ง 5 ชุดเลย (ตังช๊านนนนน กระเด็นไปหลายพันเบยยยย T_T)
เปลี่ยนชุดเสร็จก็ถึงเวลาแต่งหน้าทำผม แระก็รอคิวถ่ายค่ะ และแล้ว...................พระเอกของเราก็มา พี่ชาคริตค่ะ ออกจากลิฟมา พี่เค้าก็หันมองดูรอบๆที่มีเอ็กตร้านักแสดงอื่นๆและก็พี่ช่างแต่งหน้าทำผม และยกมือขึ้นไหว้ทุกคนก่อนเลยพร้อมพูดว่า "สวัสดีครับ" ความรู้สึกตอนนั้น...จากพี่ปลื้มอยู่แล้ว กลายเป็นถึงขีดสุดเลยค่ะ ไม่คิดว่าพี่เค้าจะนิสัยดีและน่ารักกับทุกคนขนาดนั้นทั้งๆที่เค้าไม่รู้จักพวกเราเลย คือเราคิดว่าแค่เค้าเข้ามาเฉยๆ แล้วถ้าเราไปทักว่าพี่สวัสดีค่ะ แล้วเค้ายกมือรับไหว้เราตอบ นี่ก็สุดยอดแล้วก็ถือว่าไม่หยิ่งแล้วนะ แต่นี่พี่เค้ายกมือไหว้ทักทายทุกคนก่อนเลย โดยที่เรากลับเป็นฝ่ายยกมือรับไหว้เค้าแทนอ่ะค่ะ ประทับใจในตัวพี่เค้าสุดๆ เวลานี้ให้เป็นเบอร์หนึ่งเลยค่า ^^
และคำตอบที่เราสงสัยว่าทำไมบทแม่บ้านถึงได้เยอะจังเลยก็คลี่คลายได้ด้วยการปรากฎตัวของ คุณ โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ค่ะ นิสัยดีและน่ารักมาเช่นกันค่ะเราก็เลยเข้าไปขอถ่ายรูปคู่ด้วยกับทั้งสองคนซะเลย แช๊ะ ^^
หลังจากนั้นทีมงานและพี่ชาคริตก็ลงไปถ่ายฉากหน้าออฟฟิศกันก่อน เรารอ...ร๊อ...รอ...รอไปรอมาก็ถึงคิวเราถ่ายค่ะเวลาบ่าย 3 โมง !!!!!! อ่านไม่ผิดค่ะ บ่ายสามโมงจริงๆ 555 ^^ นั่งรอนั่งเล่นโทรสับ ช๊าตไอแพด กันเพลินเลย ^^ และวันนั้นก็มีอุปสรรคใหญ่อยู่อย่างนึงค่ะ เมนส์มาเยอะม๊ากกกก ไม่รู้ทำไม ดีนะที่เตรียมผ้าอนามัยมาเยอะ เปลี่ยนผ้าอนามัย กันเพลินเลยทีเดียว ^^ นี่ค่ะหลักฐาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันนั้นเราก็ถ่ายเสร็จประมาณ 3 ทุ่มครึ่งค่ะ แต่ทีมงานและพี่ชาคริตกับคุณโยต้องไปถ่ายต่อทีโรงพยาบาลค่ะมืออาชีพสุดๆถ่ายมาราธอนกันเลยทีเดียว^^ ส่วนเราไม่ได้ตามไปเพราะบทเราหมดแล้วและที่สำคัญเพลียมากเลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ากองถ่าย และเป็นอะไรที่สุดๆจริงๆค่ะ ทั้งสนุกสุดๆ มีความสุข สุดๆ ดีใจสุดๆ ตื่นเต้นสุดๆ เกร็งสุดๆ ลุ้นสุดๆ ง่วงสุดๆ เพลียสุดๆ ^^ วันนั้นกลับบ้านไปหลับสบายเลยทีเดียวเชียวค่า ^^
มีบรรยากาศกองถ่ายมาให้ดูนิดๆหน่อยๆค่ะ ^^
ฉากที่ตื่นเต้นที่สุด
เราต้องถือเค้กเพื่อเดินเข้าไปเซอร์ไพรส์เจ้านาย (พี่คริต) ฉากนี้ลุ้นมากที่สุด เพราะว่า เค้กมี ก้อนเดียวไม่มีสำรอง และที่เท้าเราก่อนจะเริ่มมีสายไฟวางอยู่ พอสั่งแอคชั่นปุ๊ป เราต้องเดินข้ามและเข้าไปห้องเจ้านาย ถ้าสะดุดสายไฟแล้วเค้กหล่น .... อนาคตคงดับไปพร้อมๆกับเทียนบนเค้กกันเลยทีเดียว T_T เผื่อนึกภาพไม่ออกมีวีดีโอประกอบค่ะ ^^
https://www.facebook.com/video.php?v=815855208456118&set=vb.100000949396938&type=2&theater
ฉากที่ประทับใจที่สุด
เราต้องหลับเวลางานและพี่คริตต้องเอาลิปสติกมาแกล้งเขียนหน้าเราค่ะ (แอบฟิน อิอิ ^^)
https://www.facebook.com/video.php?v=815865701788402&set=vb.100000949396938&type=2&theater
ใกล้ครบ 10000 ตัวอักษรแล้ว ยังไงรูปและคลิปเบื้องหลังที่เหลือดูได้ในเฟสบุ๊คเราเลยนะคะ
ขอฝากถึงพี่ๆทุกคนในกองถ่ายและพี่ที่เลือกหนูมานะคะ "หนูขอขอบพระคุณพี่ๆทุกคนะคะที่ให้โอกาสหนู ให้หนูได้มีโอกาสทำสิ่งดีดีเพื่อในหลวง หนูเชื่อว่ามีคนอีกมากมายที่พร้อมจะทำสิ่งดีดีเพื่อในหลวงของเรา โดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทน แต่โอกาสครั้งนี้หนูได้รับมา หนูถือว่าพวกพี่ทุกคนมีบุญคุณกับหนูมากๆ ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากๆเลยนะคะ"
สุดท้ายนี้ อยากเชิญชวนทุกๆคนไปดูในโรงภาพยนตร์กันค่ะ โดยจะจัดฉายรอบปฐมฤกษ์ ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้เวลา 14.00 น.ที่ สยามพารากอนและฉายพร้อมกันทั่วประเทศให้ประชาชนได้ชมฟรีโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพลกซ์ 73 สาขา ในวันที่ 5 ธันวาคม รวมทั้งสามารถรับชมได้ทางฟรีทีวี ดิจิตัลทีวี และเคเบิลทีวี ตลอดเดือนธันวาคมด้วยค่า ^^ ส่วนเราไปดูในโรงภาพยนตร์แน่นอนค่ะ ส่วนจะเป็นรอบไหนและเวลาไหนคงต้องดูตารางงานอีกที
บอกตรงๆเลยว่าเราอยากให้มีคนไปดูเต็มทุกรอบ จะได้มีโครงการดีดีแบบนี้ไปทุกๆปี เพราะเราเชื่อว่าทุกๆคนเต็มที่กับการผลิตผลงานนี้เพื่อในหลวงจริงๆค่ะ ถ้าใครสะดวกหรือไม่ลำบากจนเกินไปก็อยากให้ไปชวนเพื่อนๆหรือครอบครัวไปชมในโรงภาพยนตร์กันเยอะๆนะคะ อยากให้มีกระแสตอบรับกับโครงการนี้เยอะๆ เราเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ในหลวงรู้สึกชื่นใจและมีความสุขได้ค่ะ
พอดีวันนี้เราฟังวิทยุบนรถและได้ยินคำพูดนึง หลายคนอาจเคยได้ฟังเหมือนเรา แต่หลายคนก็อาจจะไม่ได้ฟัง แต่เราฟังแล้วเราประทับใจคำพูดนี้มากค่ะ ^^
"ยายไม่ได้ไปดูในหลวงหรอก แต่ยายไปให้ในหลวงดูว่า มีคนรักท่านมากมายแค่ไหน" ขอพระองค์ทรงพระเจริญ