เรื่องราวบางส่วนของผมเอ้ รงค์ สุภารัตน์(ขอขอบพระคุณพันทิพย์ที่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงกับชีวิตศิลปินของผมให้เป็นที่รู้จัก

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
ผมเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวคนจีนที่นับถือศาสนาอิสลาม พูดได้ว่าพ่อและแม่ของผมและพี่ๆของผมนั้นเคร่งครัดศาสนากันยิ่งนัก ผมเป็นเพียงคนๆเดียวในบ้านเท่านั้นที่เลือกหนทางอาชีพนี้พี่ๆน้องๆคนอื่นๆเขามีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีมีมาตรฐานมากกว่าผม ไร่สวนของทางบ้านพ่อและแม่ยกให้พี่ๆของผมหมด ผมไม่ได้อะไรจากบ้านเลย และผมก็ไม่โทษอะไรใครเพราะผมเลือกที่จะเป็นอย่างนี้นี่เอง จนวันหนึ่งผมกระโดลงจากรถไฟแห่งความโดดเดี่ยวที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงบวกกับลมหนาวของฤดูหนาวที่เยือกเย็นทำให้ผมแต่งงานกับน้องหลินและเรามีลูกมีครอบครัวเล็กๆของเราในบ้านหลังใหญ่บ้านไม้โบราณที่มีวิถีชีวิตและความคิดความอ่านไม่เหมือนผม และความฉลาดน่ารักของลูกๆของผมนั่นเองที่ทำให้พ่อผู้ไม่ยอมมองหน้าผมหันกลับมาโผกอดเด็กหญิงตัวเล็กๆอ้วนๆที่ชื่อ ข้าว สุภารัตน์ ความโกรธของพ่อนั้นถูกทะลายลงด้วยความรักและความเมตตาของพ่อและแม่ของผมเองเช่นกัน สวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา คำพูดประโยคนี้เรียกน้ำตาของผมให้ไหลทะลักออกมา และด้วยคำพูดของแม่เท่านั้นที่ทำให้เจ๊ของผมและพี่ๆของผมให้ความรักกับผมปลูกบ้านและยอมลงทุนช่วยเหลือผมในทุกๆวิถีทาง.ผมเคยเป็นศิลปินของบริษัทร่องเสียงลำใย ที่ก่อตั้งโดยพี่ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือเรารู้จักกันในนามbird and heartนั่นเอง และความที่ผมเป็นคนโง่ หัวรั้น ใจร้อน ไม่มีวิสัยทัศน์ทำให้ลูกพี่ของผมทั้งสองท่านเบิดกับฮาร์ทเบื่อหน่ายและเพิกเฉยกับผม และจนวันนี้ลูกพี่ของผมทั้งสองท่านนี้ก็ยังผิดหวังในตัวผมอยู่ วันเวลาเท่านั้นที่จะทำให้ผมพิสูจน์ตัวเองกับสาธรณะชนว่าผมคู่ควรกับการเป็นศิลปินเบอร์แรกของร่องเสียงลำใยหรือไม่ และเนื้อแท้ในจิตใจของลูกพี่ของผมทั้งสองท่านนั้นงดงาม ต้องปลื้มและดีใจถ้าหากผมประสพผลสำเร็จกับอาชีพศิลปิน และประเทศนี้ถ้าไม่มีเบิดกับฮาร์ทก็ไม่มีผมครับไม่มีเพลงyou ไม่มีเพลงห้องสุดท้ายให้พวกเราฟังกันหรอกครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่