ใครซื้อหุ้นเหมือนซื้อธุรกิจบ้าง????

ซื้อหุ้นเหมือนซื้อธุรกิจ รวยตามธุรกิจที่เติบโต พบคนล้มเหลวน้อยกว่า ถ้าหากหุ้นนั้นถูก จะมีใครรู้บ้างว่ามันจะไม่ถูกไปตลอด? ในไม่ช้าตลาดก็จะวิ่งไปบรรจบกับมูลค่า ซึ่งเกรแฮม จะเลือกหุ้นที่คุณภาพไม่ต้องดีมาก แต่ขอให้ราคาถูกมากๆ เป็นการซื้อ-ขายอนาคตของบริษัท กฎการลงทุนหุ้น 14 ข้อของเกรแฮมที่ลือลั่น มีกฎสำคัญข้อหนึ่งก็คือ ซื้อหุ้นที่มีอนาคตไกลในราคาต่ำ (อาจจะไม่ถึงก้นเหว) และขายเมื่อกำไรพอสมควร คนที่รวยหุ้นมากๆ ต้องมีหุ้นเด็ด ถือยาวและกำไรหนัก ต้องหาหุ้นอย่างนี้ให้เจอ
คุณภาพของธุรกิจแต่ละประเภทมีดังนี้ เช่น

1. ธุรกิจที่มี brand แข็งแกร่ง ขึ้นราคาได้ ไม่มีสินค้าทดแทน เป็นผู้นำตลาด

2. ธุรกิจสัมปทาน ที่ดีควรจะจ่ายสัมปทานน้อย มีคู่แข่งน้อย ไม่ถูกควบคุมราคา มีกำไรดี

3. สถาบันการเงิน แบงค์ดี เงินทุนไม่ดี หลักทรัพย์ไม่ดี

4. สื่อสาร มือถือดี โทรศัพท์พื้นฐานไม่ดี ทีวีดี

5. สาธารณูปโภค ไฟฟ้าดี น้ำดี ทางด่วนไม่ดี (ลงทุนเยอะ ปริมาณรถเริ่มอิ่มตัว)

6. ธุรกิจมีจุดเด่น มีเทคโนโลยีเหนือคู่แข่ง มีความสามารถในการผลิตสูง

7. ธุรกิจโภคภัณฑ์ เป็นบริษัทส่วนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ผลการดำเนินงานไม่สม่ำเสมอ

ไม่เด่น ลูกค้าไม่ยึดติดยี่ห้อ ไม่มีความแตกต่าง ราคาเป็นไปตามตลาดโลก

การลงทุนระยะยาว
1. ต้องอาศัย การรู้กว้าง + รู้จริง มองในภาพใหญ่ คิดแบบเจ้าของธุรกิจ
ขยายได้อีกมากแค่ไหน เช่น ธุรกิจขนาดช้าง แต่ตอนนี้น้ำหนักแค่ 40 kg ก็น่าลงทุน แต่ถ้าธุรกิจเป็นแมว แต่ตอนนี้น้ำหนัก 40 kg ไม่น่าลงทุน

2. มี sense มองแนวโน้มธุรกิจ เช่นประเทศกำลังพัฒนาต้องใช้พลังงานมาก ประเทศพัฒนาแล้วเน้นความสะดวกสบาย บันเทิง นันทนาการต่างๆ ธุรกิจโรงงาน พวก OEM ลำบาก เพราะแข่งขันทั่วโลก

คริสโตเฟอร์ บราวน์เขียนเอาไว้ว่า “ในตลาดหุ้น มีสิ่งที่เย้ายวนและน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะหุ้นเด็ดที่ทุกคนต้องเป็นอันกล่าวถึง หุ้นเด็ดที่ว่านั้นมักเป็นที่สนใจของสาธารณะ ทุกรายการเกี่ยวกับหุ้นต้องพูดถึงมัน และนักวิเคาระห์ต่างบอกเป็นสิ่งเดียวกันว่าหุ้นเด็ดที่ว่านั้นต้องมีในพอร์ต ให้ได้ เมื่อราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้น โบรกเกอร์ต่างออกบทวิเคาระห์มาแนะนำให้”ซื้อ” ทุกคนมักจะซื้อหุ้นขณะที่หุ้นกำลังขึ้นและขายเมื่อหุ้นกำลังตก”

สิ่ง ที่บราวน์กล่าวไว้นั้นไม่ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยมากนัก เมื่อไหร่ที่หุ้นตัวไหนกำลังได้รับความนิยมและราคากำลังเพิ่มสูงขึ้น นักวิเคาระห์มักแนะนำให้ซื้อเป็นส่วนมาก ขณะที่หุ้นราคาลดลง บทวิเคาระห์มักแนะนำให้หลีกเลี่ยง

บราวน์ยังแนะนำต่อไปอีกว่า “การซื้อหุ้นเช่นเดียวกับที่คุณจะทำในร้านขายของชำ คือซื้อของตอนลดราคา เวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อหุ้นคือตอนที่หุ้นกำลังถูกขายเลหลัง ไม่ใช่เวลาที่ราคาหุ้นกำลังเพิ่มสูงขึ้นเพราะทุกคนกำลังต้องการซื้อหุ้นนั้น กันอย่างมาก หรือเราอาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"การลงทุนแบบหุ้นที่น่าดึงดูดใจ"เพราะทำให้การใช้เงินของคุณมีค่ามากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ และเมื่อปล่อยให้หุ้นมีราคาลดต่ำลงจนมีส่วนลดมากๆ จะทำได้ไม่นาน เพราะในไม่ช้าก็จะมีผู้ตาถึงเข้ามาซื้อธุรกิจ คุณค่าก็จะทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นพื้นรองรับราคาหุ้นและนี่คือสิ่งที่นักลงทุนคุณค่ามีความเชื่อเช่นนั้น ที่มา http://books.google.co.th/books?id=DEFHa2D8d88C&pg=PA6&lpg=PA6&dq=%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C+%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C&source=bl&ots=eFD2wF0U-0&sig=yT0Dn2uVLlZrnvSgnT0QwNJwUg8&hl=th&sa=X&ei=VZ56VPbDHdPjuQSQ6oFA&ved=0CCUQ6AEwBA#v=onepage&q=%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%20%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C&f=false

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่