กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (1 Dec 14)

กระทู้สนทนา






สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับพี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่านครับ
เผลอแป๊บเดียว ก็ วนมาถึงเดือนธันวาคม แล้วครับ เวลาช่างไปไวยิ่งนัก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index ได้ย่อตัวลงมาเล็กน้อย หลังจากวันพฤหัส ดัชนีขึ้นไปยืนเหนือระดับ  1600 จุด ซึ่งเป็นเป้าหมายทำกำไร
ของนักลงทุนส่วนมาก กับอีกปัจจัยกดดัน นั้นก็คือ มติที่ประชุม OPEC ได้คงเพดานการผลิตน้ำมันดิบไว้เท่าเดิม ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรน/วัน
ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันโลก ดิ่งพสุธา อย่างไร้แนวรับ ดังนั้นหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงได้รับผลกระทบเต็มๆ และถ่วงดัชนี SET index ให้ย่อตัวลงมา
ปิดที่ระดับ 1593 จุด -5.91 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่า SET index จะกลับไปยืนเหนือ ระดับ 1600 จุด ได้อีกครั้ง หรือไม่


Fundamental

"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้น 101.05 จุด หรือ 0.58% แตะที่ 17,560.90 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการ
ได้เพียง 15 นาที เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ระบุว่า กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนทางธุรกิจประจำ
ไตรมาส 3 ของบริษัทญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้น 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 9.44 ล้านล้านเยน

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวจะมีผลต่อการปรับทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ซึ่งสำนักงานคณะ
รัฐมนตรีญี่ปุ่นมีกำหนดจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้


ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่งลง 309.45 จุด หรือ 1.29% เปิดที่ 23,678.00 จุดในวันนี้ หลังจากสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อ
ของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ย.
ลดลงแตะ 50.3 จาก 50.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบรรยากาศทางธุรกิจยังคงซบเซา ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง


"ฝั่งสหรัฐ"
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก
เนื่องจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ต่างก็ใช้แผนทางการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ซื้อในช่วงเทศกาลวันหยุด  อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้น
เพียงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากกลุ่มโอเปค
มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งล่าสุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,828.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.00%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,791.63 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ +0.09%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.56 จุด ลดลง 5.27 จุด หรือ -0.25%

หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น และช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยหุ้นวอล-มาร์ท พุ่งขึ้น 3.02% หลังจากบริษัทใช้กลยุทธ์
ปรับลดราคาสินค้าเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่นๆ รวมถึงทาร์เก็ต เมซี
และเจซี เพนนี ต่างก็ปิดตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก ภายหลังจากที่กลุ่ม
โอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมล่าสุด โดยหุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอนโมบิล ต่างก็ปรับตัวลดลง

ทั้งนี้ กลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ว่าตลาดโลกอยู่ในภาวะที่มีอุปทานน้ำมันมากเกินไปก็ตาม
โดยที่ผ่านมานั้น สมาชิกกลุ่มโอเปคยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมัน โดยเวเนซูเอล่าและอิหร่านต่างก็
ส่งสัญญาณว่าโอเปคควรจะปรับลดการผลิต ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มโอเปคนั้น สนับสนุน
ให้มีการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แทนการปรับลดการผลิต

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 21% และ
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 16%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.,
ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book
จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.


"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานยังคง
ร่วงลงหลังจากกลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งปัจจัยลบดังกล่าวได้สกัดการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่ม
สายการบินและกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.1% ปิดที่ 347.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,390.18 จุด เพิ่มขึ้น 7.84 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,980.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.98 จุด หรือ +0.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,722.62 จุด ลดลง 0.80 จุด หรือ -0.01%

หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงร่วงลง หลังจากกลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ว่าตลาดโลกอยู่ใน
ภาวะที่มีอุปทานน้ำมันมากเกินไปก็ตาม โดยหุ้นโททาล ร่วงลง 2% หุ้นบีจี กรุ๊ป ดิ่งลง 8.8% และหุ้นสแตท ออยล์ ร่วงลง 7.3%

การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานได้สกัดแรงบวกของหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โดยหุ้นสายการบินดอยช์ ลุฟฮันซา
พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้นอินเจนิโค พุ่งขึ้น 3.1%
หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นอินเจนิโค

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในสัปดาห์หน้า เพื่อดูว่าอีซีบีจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรต่ออัตราเงินเฟ้อ
ยูโรโซนที่ยังคงชะลอตัวลง โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซนปรับตัวขึ้น 0.3%
ในเดือนพ.ย. ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 0.4% ในเดือนต.ค. โดยเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากต้นทุนด้านพลังงานที่ร่วงลง
ไปถึง 2.5% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางยุโรปที่ระดับ 2% ท่ามกลางความ
กังวลว่ายูโรโซนอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืด

Credit :  สำนักข่าวอินโฟวเควสท์




Technical Analysis

SET index TF day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ย่อตัวลงมาเล็กน้อย หลังจากวันพฤหัส ได้ขึ้นไปทดสอบ High เดิม (1602 จุด)
แต่ไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้  ซึ่งทำให้ภาพสัญญาณตอนนี้ เกิดเป็น Double Top แนวโน้มวันนี้ คาดว่า ดัชนีจะย่อตัวลงไปได้อีก
แต่ถ้าหากไม่ย่อตัวลงมา และทะลุ 1602 จุดขึ้นไป ก็คงพุ่งขึ้นไปอย่างไร้แนวต้าน

S50Z14 TF day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ย่อตัวลงมาเล็กน้อย หลังจากวันพฤหัส ได้ขึ้นไปทำ All Time High ที่ระดับ 1080 จุด
อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้ จะพุ่งขึ้นไปอย่างไร้แนวต้าน แต่ให้ระวังการย่อตัว จากแรงเทขายทำกำไร ที่อาจจะมีออกมา ระหว่างวัน
อย่างฉับพลัน เพราะ Indicator หลายตัวเริ่มเข้าสู่ภาวะ Over Bought บ้างแล้ว


TF60 :  หลังจากที่ขึ้นไปยืนเหนือ ระดับ 1080 จุด ได้สักพัก ก็เริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมา เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน มีบางช่วง
ที่หลุด EMA25 วัน ลงไป แต่ท้ายตลาก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ปิดแท่งเทียน Hammer คาบ EMA25 วัน  ดังนั้นแนวโน้มวันนี้
คาดว่ามีโอกาส Rebound ขึ้นไป ทดสอบ 1080 จุด อีกครั้ง / แต่ถ้าหากไม่สามารถ Rebound ขึ้นไปได้ ระวังอาจจะไหลลงต่อ
ไปพักตัวที่ EMA75 วัน หรือ Gap ด้านล่างที่เคยเปิดไว้ ก็เป็นได้  

Resistance 1080 1085 / 1602 1610
Support 1070 1066 / 1590 1585

*EOD End of day

ผิดพลาดประดารใดโปรดชี้แนะ


สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่