กระแสเงินสดคือ การนับเงินไหลเข้าออกในกิจการ ถ้าเดือนนี้เงินไหลเข้ามากกว่าไหลออก กระแสเงินสดก็จะเป็นบวก แต่ถ้าเดือนนี้เงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า กระแสเงินสดก็จะเป็นลบ
ถ้ากระแสเงินสดเป็นลบบ่อยๆ สุดท้ายเงินสดก็จะขาดมือ และธุรกิจก็จะเดินต่อไปไม่ได้ในที่สุด
คือถ้าเทียบเป็นธุรกิจ ถึงคุณทำกำไรได้มากจริง แต่เงินที่ได้มันช้า กว่าจะได้เงินต้องรอถึง 90 วัน แต่รายจ่ายที่คุณต้องควักกระเป๋าจ่ายทุกวันๆ มันจ่ายสดๆ รอไม่ได้ บางทียังเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ คุณก็เจ๊งก่อนแล้ว
ดังนั้นกระแสเงินสดจึงเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ นั่นคือ ถ้าคุณกำไรไม่มากนัก แต่มีเงินสดไหลเข้ากิจการสม่ำเสมอ ย่อมดีกว่ากำไรมากๆ แต่เงินขาดมือ กว่าจะเก็บเงินลูกค้าได้ 3 เดือน 6 เดือน แบบนี้ธุรกิจก็อยู่ลำบาก
และเมื่อกระแสเงินสดในบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็จะมีเงินสดสะสมเพิ่มขึ้น เหมือนน้ำในแทงค์น้ำน่ะครับ น้ำไหลเข้า มากกว่าน้ำไหลออก เราก็จะมีน้ำสำรองเหลือไว้ในยามแล้ง ถ้าในบางเดือนที่ท่อน้ำมันตัน น้ำไหลมาไม่ได้มาก คุณก็ยังเอาตัวรอดได้ เพราะมีน้ำในแทงค์เหลืออยู่พอกินพอใช้
Cash Flow มีสามประเภทครับ
- Operating Cash Flow หรือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
- Investing Cash Flow หรือ กระแสเงินสดจากการลงทุน
- Financing Cash Flow หรือ กระแสเงินสดจากกิจกรรมทางการเงิน
พอรู้แบบนี้ คุณจะเริ่มเห็นภาพว่า การหาบริษัทที่กำไรเติบโตต่อเนื่องอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอ..!! (กำไรตลอดก็เจ๊งได้ ถ้าต้องลงทุนหนัก แล้วกระแสเงินสดไม่ดี จนเงินช๊อต)
http://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=cashflow&symbol=CEN&language=th&country=TH
เอ้า พวกปากเก่งชอบกระแนะกระแหน ไหนออกมาโต้แย้งให้แบบมีสมองคิดหน่อยว่า บริษัทนี้ ไม่ดีตรงไหน??????
หุ้นของบริษัทไหนทีพื้นฐานดี ต้องดุที่งบกระแสเงินสดล่าสุดครับ อ่านกัน
ถ้ากระแสเงินสดเป็นลบบ่อยๆ สุดท้ายเงินสดก็จะขาดมือ และธุรกิจก็จะเดินต่อไปไม่ได้ในที่สุด
คือถ้าเทียบเป็นธุรกิจ ถึงคุณทำกำไรได้มากจริง แต่เงินที่ได้มันช้า กว่าจะได้เงินต้องรอถึง 90 วัน แต่รายจ่ายที่คุณต้องควักกระเป๋าจ่ายทุกวันๆ มันจ่ายสดๆ รอไม่ได้ บางทียังเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ คุณก็เจ๊งก่อนแล้ว
ดังนั้นกระแสเงินสดจึงเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ นั่นคือ ถ้าคุณกำไรไม่มากนัก แต่มีเงินสดไหลเข้ากิจการสม่ำเสมอ ย่อมดีกว่ากำไรมากๆ แต่เงินขาดมือ กว่าจะเก็บเงินลูกค้าได้ 3 เดือน 6 เดือน แบบนี้ธุรกิจก็อยู่ลำบาก
และเมื่อกระแสเงินสดในบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็จะมีเงินสดสะสมเพิ่มขึ้น เหมือนน้ำในแทงค์น้ำน่ะครับ น้ำไหลเข้า มากกว่าน้ำไหลออก เราก็จะมีน้ำสำรองเหลือไว้ในยามแล้ง ถ้าในบางเดือนที่ท่อน้ำมันตัน น้ำไหลมาไม่ได้มาก คุณก็ยังเอาตัวรอดได้ เพราะมีน้ำในแทงค์เหลืออยู่พอกินพอใช้
Cash Flow มีสามประเภทครับ
- Operating Cash Flow หรือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
- Investing Cash Flow หรือ กระแสเงินสดจากการลงทุน
- Financing Cash Flow หรือ กระแสเงินสดจากกิจกรรมทางการเงิน
พอรู้แบบนี้ คุณจะเริ่มเห็นภาพว่า การหาบริษัทที่กำไรเติบโตต่อเนื่องอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอ..!! (กำไรตลอดก็เจ๊งได้ ถ้าต้องลงทุนหนัก แล้วกระแสเงินสดไม่ดี จนเงินช๊อต)
http://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=cashflow&symbol=CEN&language=th&country=TH
เอ้า พวกปากเก่งชอบกระแนะกระแหน ไหนออกมาโต้แย้งให้แบบมีสมองคิดหน่อยว่า บริษัทนี้ ไม่ดีตรงไหน??????