สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน เป็นกระทู้แรกของผมนะครับผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ (ยืมเลชสมาชิกน้องมาโพสครับ)
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนครับ ผมอายุ30 ยังไม่ได้แต่งงานครับ แต่ก็มีวางแผนคุยกันบ้างแล้วคร่าวๆ คิดว่าคงอีก1-2ปีน่ะครับ ผมคบกับแฟน(อายุ29)มาได้ประมาณ2ปีครับ เธอเป็นผู้หญิงสวย น่ารัก มีเสน่ห์ และทันสมัยอะครับก็ตามประสาสาวๆที่ชอบ shopping ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ ช่วงแรกๆผมรักเธอมากเรียกว่าหลงเลยก็ว่าได้ครับ ปีแรกเราคบกันก็ดีมากๆครับผมและเธอมีความสุขมาก ผมพาเธอไปเที่ยวที่ต่างๆ มีของขวัญให้เธอทุกวันสำคัญส่วนใหญ่จะเป็นพวกกระเป๋าแบร์นเนมที่เธอชอบครับ พอตอนหลังเราเริ่มทะเลาะกันมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ผมห้ามเธอซื้อของใช้บ้าง ใช้เงินฟุ่มเฟือยบ้าง ไม่เก็บเงินบ้าง ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจผู้หญิงนะครับว่าชอบช็อปปิ้งซื้อของแต่งตัวแต่ของแฟนผมเธอเกินที่ทุกคนจะเข้าใจจริงๆครับ เธอซื้อรองเท้าทีละ4-5คู่ เส้อผ้าทีละ10ชุด แล้วยังมีเครื่องสำอางค์ของเธออีกมันเยอะมากๆเลยครับ
ผมเลยบอกเธอไปว่าผมอยากให้เธอลดการซื้อลงไปบ้าง อยากให้เก็บเงินบ้าง เธอก็ตอบผมกลับมาว่า มันเงินของเธอผมไม่มีสิทธ์ไปยุ่งวุ่นวาย แฟนผมเธอทำงานกับบริษัทของที่บ้านเธอเองเงินเดือนประมาณ3หมื่นบาท แต่เธอซื้อของทุกวันเลยครับทุกวันจริงๆ บางทีเธอไม่ได้ออกไปไหนก็ยังซื้อของในเวบออนไลน์จนได้ พัสดุส่งมาที่บ้านเธอทุกวันเลยครับ บางอย่างที่บ้านก็มีอยู่แล้วแต่ก็ยังซื้อมาอีก โดยเธอให้เหตุผลว่า “มันไม่เหมือนกันนะ” และ “ก็ชั้นอยากได้” พอผมเริ่มพูด เริ่มเตือนเธอ เธอก็จะหงุดหงิดตลอด แล้วถามผมกลับว่าทำไมชอบบ่นจัง บ่นทำไมนักหนา นี่มันเงินของเธอนะ เธอจะทำอะไรกับมันก็ได้พอผมอธิบายไปว่าไม่ได้อยากจะบ่นนะ แค่อยากให้ลดลงบ้างอยากให้เก็บเงินบ้างเท่านั้นเอง อีกหน่อยเราจะสร้างครอบครัวด้วยกันแล้วนะ เธอก็จะยิ่งหงุดหงิดแล้วก็จะทะเลาะกันสุดท้ายก็จบลงด้วยเธองอนผมทุกที แต่พอใจเย็นลงผมก็ตามง้อเธอครับ ถ้ามองข้ามเรื่องนี้ไปเธอก็เป็นผู้หญิงที่ดีและน่ารักคนหนึ่งเลยล่ะครับ ผมก็เลยจะพยายามไม่สนใจมัน .... ปล่อยเธอมีความสุขกับการซื้อของของเธอไป
สาระอยู่ตรงนี้ครับ ..... และเมื่อไม่นานมานี้ผมได้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังหนึ่งใจกลางเมืองราคาค่อนข้างสูงทีเดียว โดยใช้วิธีให้คุณพ่อผมท่านใช้เงินสดซื้อให้ครับแล้วผมผ่อนเป็นรายเดือนกับท่านอีกทีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายดอกที่แพงมาก ครอบครัวผมและตัวผมเองตั้งใจจะใช้บ้านหลังนี้เป็นเรือนหออยู่แล้วด้วยครับ ผมเลยคุยกับแฟนว่าจะให้แฟนช่วยผ่อนบ้านด้วย โดยให้เธอจ่าย 15,000 บาทต่อเดือนและผมจ่ายที่เหลือเองอีกประมาณ 2แสนบาท ผมทำงานวิศวะกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งครับ เงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท (ไม่รวมสวัสดิการและโบนัส) ลงทุนตลาดหลักทรพย์และก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง คิดแล้วผมให้เธอจ่ายเดือนละ7% ของทั้งหมดเท่านั้นเองครับ ความจริงแล้วผมไม่ได้อยากเก็บเงินเธอหรอกครับแต่ผมอยากให้เธอมีวินัยในการใช้เงิน ลดการใช้เงินฟุ่มเฟือยของเธอลงเรียกง่ายๆว่าดัดนิสัยเธอนั้นแหล่ะครับ ตอนแรกเธอตอบตกลงไม่มีปัญหาอะไร
แล้วไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอกลับมาบอกผมว่าเธอไม่อยากจ่ายแล้ว เธอไม่อยากได้บ้านหลังแพงๆที่ผมอยากให้เธอ เธอบอกว่าผมไม่ให้เกียรติเธอและครอบครัวเธอเลย ถ้าผมจะขอเธอแต่งงานผมต้องพาเธอไปเลี้ยงดูสิ ไม่ใช่ให้เธอมาช่วยจ่ายค่าบ้านด้วย เธอบอกว่ามันไม่ถูกต้องเธออยากใช้เงินของเธอที่เธอทำงานหามาได้ เธอไม่อยากเอามาจ่ายค่าบ้านแบบนี้ ผมยอมรับครับตอนแรกที่ได้ยินผมเสียใจและโกรธมาก ผมหวังดีกับเธอมาตลอด อยากให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออนาคตของเธอเองแต่เธอกลับมาต่อว่าผมแบบนี้ เธอให้เหตุผลว่าเธอไม่ต้องการบ้านราคาแพงๆแล้วไม่มีเงินใช้หาความสุขให้ตัวเอง ฟังแลวก็อึ้งๆไปนิดนึงเหมือนกันครับ ผมก็ได้แต่มานั่งคิดครับว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ผมไม่ให้เกียรติเธออย่างที่เธอบอกหรือเปล่า เพื่อนๆสมาชิกมีวิธีที่จะช่วยผมได้บ้างไหมครับ ผมไม่อยากเลิกกับเธอแต่บางครั้งผมก็รู้สึกเหนื่อยและท้อมากเลยครับ แฟนผมค่อนข้างเอาแต่ใจแต่ผมก็รักเธอไปแล้วอะครับทำยังไงได้
ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบนะครับ ผมขอความกรุณาอย่าตำหนิแฟนผมด้วยถ้อยคำรุนแรงนะครับแฟนผมไม่ได้เป็นคนไม่ดีครับ เธอมีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น แต่เธอน่ารักครับ เธอรักพ่อแม่ รักเพื่อน รักหมาแมว รักสัตว์ทุกตัว ใจดีมีน้ำใจกับคนรอบข้างเธอเสมอ(ยกเว้นผม ที่เธอชอบเหวี่ยงประจำT_T) ขอบคุณครับ
ผมควรทำอย่างไร ? ถ้าแฟนไม่อยากได้บ้านที่ผมตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่กับเธอ
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนครับ ผมอายุ30 ยังไม่ได้แต่งงานครับ แต่ก็มีวางแผนคุยกันบ้างแล้วคร่าวๆ คิดว่าคงอีก1-2ปีน่ะครับ ผมคบกับแฟน(อายุ29)มาได้ประมาณ2ปีครับ เธอเป็นผู้หญิงสวย น่ารัก มีเสน่ห์ และทันสมัยอะครับก็ตามประสาสาวๆที่ชอบ shopping ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ ช่วงแรกๆผมรักเธอมากเรียกว่าหลงเลยก็ว่าได้ครับ ปีแรกเราคบกันก็ดีมากๆครับผมและเธอมีความสุขมาก ผมพาเธอไปเที่ยวที่ต่างๆ มีของขวัญให้เธอทุกวันสำคัญส่วนใหญ่จะเป็นพวกกระเป๋าแบร์นเนมที่เธอชอบครับ พอตอนหลังเราเริ่มทะเลาะกันมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ผมห้ามเธอซื้อของใช้บ้าง ใช้เงินฟุ่มเฟือยบ้าง ไม่เก็บเงินบ้าง ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจผู้หญิงนะครับว่าชอบช็อปปิ้งซื้อของแต่งตัวแต่ของแฟนผมเธอเกินที่ทุกคนจะเข้าใจจริงๆครับ เธอซื้อรองเท้าทีละ4-5คู่ เส้อผ้าทีละ10ชุด แล้วยังมีเครื่องสำอางค์ของเธออีกมันเยอะมากๆเลยครับ
ผมเลยบอกเธอไปว่าผมอยากให้เธอลดการซื้อลงไปบ้าง อยากให้เก็บเงินบ้าง เธอก็ตอบผมกลับมาว่า มันเงินของเธอผมไม่มีสิทธ์ไปยุ่งวุ่นวาย แฟนผมเธอทำงานกับบริษัทของที่บ้านเธอเองเงินเดือนประมาณ3หมื่นบาท แต่เธอซื้อของทุกวันเลยครับทุกวันจริงๆ บางทีเธอไม่ได้ออกไปไหนก็ยังซื้อของในเวบออนไลน์จนได้ พัสดุส่งมาที่บ้านเธอทุกวันเลยครับ บางอย่างที่บ้านก็มีอยู่แล้วแต่ก็ยังซื้อมาอีก โดยเธอให้เหตุผลว่า “มันไม่เหมือนกันนะ” และ “ก็ชั้นอยากได้” พอผมเริ่มพูด เริ่มเตือนเธอ เธอก็จะหงุดหงิดตลอด แล้วถามผมกลับว่าทำไมชอบบ่นจัง บ่นทำไมนักหนา นี่มันเงินของเธอนะ เธอจะทำอะไรกับมันก็ได้พอผมอธิบายไปว่าไม่ได้อยากจะบ่นนะ แค่อยากให้ลดลงบ้างอยากให้เก็บเงินบ้างเท่านั้นเอง อีกหน่อยเราจะสร้างครอบครัวด้วยกันแล้วนะ เธอก็จะยิ่งหงุดหงิดแล้วก็จะทะเลาะกันสุดท้ายก็จบลงด้วยเธองอนผมทุกที แต่พอใจเย็นลงผมก็ตามง้อเธอครับ ถ้ามองข้ามเรื่องนี้ไปเธอก็เป็นผู้หญิงที่ดีและน่ารักคนหนึ่งเลยล่ะครับ ผมก็เลยจะพยายามไม่สนใจมัน .... ปล่อยเธอมีความสุขกับการซื้อของของเธอไป
สาระอยู่ตรงนี้ครับ ..... และเมื่อไม่นานมานี้ผมได้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังหนึ่งใจกลางเมืองราคาค่อนข้างสูงทีเดียว โดยใช้วิธีให้คุณพ่อผมท่านใช้เงินสดซื้อให้ครับแล้วผมผ่อนเป็นรายเดือนกับท่านอีกทีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายดอกที่แพงมาก ครอบครัวผมและตัวผมเองตั้งใจจะใช้บ้านหลังนี้เป็นเรือนหออยู่แล้วด้วยครับ ผมเลยคุยกับแฟนว่าจะให้แฟนช่วยผ่อนบ้านด้วย โดยให้เธอจ่าย 15,000 บาทต่อเดือนและผมจ่ายที่เหลือเองอีกประมาณ 2แสนบาท ผมทำงานวิศวะกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งครับ เงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท (ไม่รวมสวัสดิการและโบนัส) ลงทุนตลาดหลักทรพย์และก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง คิดแล้วผมให้เธอจ่ายเดือนละ7% ของทั้งหมดเท่านั้นเองครับ ความจริงแล้วผมไม่ได้อยากเก็บเงินเธอหรอกครับแต่ผมอยากให้เธอมีวินัยในการใช้เงิน ลดการใช้เงินฟุ่มเฟือยของเธอลงเรียกง่ายๆว่าดัดนิสัยเธอนั้นแหล่ะครับ ตอนแรกเธอตอบตกลงไม่มีปัญหาอะไร
แล้วไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอกลับมาบอกผมว่าเธอไม่อยากจ่ายแล้ว เธอไม่อยากได้บ้านหลังแพงๆที่ผมอยากให้เธอ เธอบอกว่าผมไม่ให้เกียรติเธอและครอบครัวเธอเลย ถ้าผมจะขอเธอแต่งงานผมต้องพาเธอไปเลี้ยงดูสิ ไม่ใช่ให้เธอมาช่วยจ่ายค่าบ้านด้วย เธอบอกว่ามันไม่ถูกต้องเธออยากใช้เงินของเธอที่เธอทำงานหามาได้ เธอไม่อยากเอามาจ่ายค่าบ้านแบบนี้ ผมยอมรับครับตอนแรกที่ได้ยินผมเสียใจและโกรธมาก ผมหวังดีกับเธอมาตลอด อยากให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออนาคตของเธอเองแต่เธอกลับมาต่อว่าผมแบบนี้ เธอให้เหตุผลว่าเธอไม่ต้องการบ้านราคาแพงๆแล้วไม่มีเงินใช้หาความสุขให้ตัวเอง ฟังแลวก็อึ้งๆไปนิดนึงเหมือนกันครับ ผมก็ได้แต่มานั่งคิดครับว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ผมไม่ให้เกียรติเธออย่างที่เธอบอกหรือเปล่า เพื่อนๆสมาชิกมีวิธีที่จะช่วยผมได้บ้างไหมครับ ผมไม่อยากเลิกกับเธอแต่บางครั้งผมก็รู้สึกเหนื่อยและท้อมากเลยครับ แฟนผมค่อนข้างเอาแต่ใจแต่ผมก็รักเธอไปแล้วอะครับทำยังไงได้
ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบนะครับ ผมขอความกรุณาอย่าตำหนิแฟนผมด้วยถ้อยคำรุนแรงนะครับแฟนผมไม่ได้เป็นคนไม่ดีครับ เธอมีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น แต่เธอน่ารักครับ เธอรักพ่อแม่ รักเพื่อน รักหมาแมว รักสัตว์ทุกตัว ใจดีมีน้ำใจกับคนรอบข้างเธอเสมอ(ยกเว้นผม ที่เธอชอบเหวี่ยงประจำT_T) ขอบคุณครับ