พอเข้าใจปรัชญาลุงแกแล้ว
1.เน้นการครอลบอล ส่งบอลให้มากที่สุด
2.ตำแหน่งการเล่นไม่ตายตัว วาเลนเซีย ยัง เล่นปีกเอามายืนเป็นแบคได้ คารริค เฟรชเชอร์เอามาวางเป็นกองหลังได้ (หรือจะเรียกว่าเป็นสวีปเปอร์ดี)
ตรงนี้ล่ะที่ลุงแก เหนือกว่าเซอร์อเล็กซ์ อันนี้พูดตรงๆคือ "การปรับให้ผู้เล่นมายืนในอีกตำแหน่งนึงที่ไม่ใช่ตำแหน่งหลักได้แล้วเล่นอย่างไม่เคอะเขิน" เช่นวาเลนเซีย เอามาเล่นแบคได้เนียนตามาก ไม่เหมือนตอนที่เซอร์ยังอยู่ถ้าวันไหนวาเลนเซียมายืนเป็นแบคขวา วันนั้นนี่นั่งก้นไม่ติด
แต่
เพราะการครองบอลนี่แหละ ที่ทำให้บางจังหวะที่เล่นเกมเร็วได้ กลับทำเกมให้ช้าลง อันนี้ต่างกับยุคเซอร์ชัดเจนเพราะเซอร์จะสั่งลูกทีม บุกได้ดาหน้าบุกไปเลย ฟานกัลควรเน้นจุดนี้ขึ้นมาอีกนิดนึงนะ
ปล.เอรเรร่า ถึงจะไม่เด่น แต่ถ้าดูดีๆ หมอนี่วิ่งพล่านไปทั่ว ทำชิ่งสั้นๆ ทำให้เกมไหลลื่น ประมาณว่าถ้า นาฬิกาเรือนหนึ่ง ต้องมีฟันเฟืองเล็กๆ เป็นตัวเชื่อมฟันเฟืองตัวใหญ่ ทำให้นาฬิกาเดินได้ เอรเรร่าก็คือฟันเฟืองชิ้นนั้นนั่นแหละ
ประตูที่รูนีย์ยิ่ง เอรเรร่าโหม่งให้ฟานเพอร์ซี่ก่อนที่ฟานเพอร์ซี่จะส่งให้รูนีย์ยิ่ง
ประตูที่ฟานเพอร์ซี่ยิง เอรเรร่าเป็นคนส่งให้
ณ จุดนี้ ลุงแกหล่อมาก
พอเข้าใจปรัชญาลุงแกแล้ว
1.เน้นการครอลบอล ส่งบอลให้มากที่สุด
2.ตำแหน่งการเล่นไม่ตายตัว วาเลนเซีย ยัง เล่นปีกเอามายืนเป็นแบคได้ คารริค เฟรชเชอร์เอามาวางเป็นกองหลังได้ (หรือจะเรียกว่าเป็นสวีปเปอร์ดี)
ตรงนี้ล่ะที่ลุงแก เหนือกว่าเซอร์อเล็กซ์ อันนี้พูดตรงๆคือ "การปรับให้ผู้เล่นมายืนในอีกตำแหน่งนึงที่ไม่ใช่ตำแหน่งหลักได้แล้วเล่นอย่างไม่เคอะเขิน" เช่นวาเลนเซีย เอามาเล่นแบคได้เนียนตามาก ไม่เหมือนตอนที่เซอร์ยังอยู่ถ้าวันไหนวาเลนเซียมายืนเป็นแบคขวา วันนั้นนี่นั่งก้นไม่ติด
แต่
เพราะการครองบอลนี่แหละ ที่ทำให้บางจังหวะที่เล่นเกมเร็วได้ กลับทำเกมให้ช้าลง อันนี้ต่างกับยุคเซอร์ชัดเจนเพราะเซอร์จะสั่งลูกทีม บุกได้ดาหน้าบุกไปเลย ฟานกัลควรเน้นจุดนี้ขึ้นมาอีกนิดนึงนะ
ปล.เอรเรร่า ถึงจะไม่เด่น แต่ถ้าดูดีๆ หมอนี่วิ่งพล่านไปทั่ว ทำชิ่งสั้นๆ ทำให้เกมไหลลื่น ประมาณว่าถ้า นาฬิกาเรือนหนึ่ง ต้องมีฟันเฟืองเล็กๆ เป็นตัวเชื่อมฟันเฟืองตัวใหญ่ ทำให้นาฬิกาเดินได้ เอรเรร่าก็คือฟันเฟืองชิ้นนั้นนั่นแหละ
ประตูที่รูนีย์ยิ่ง เอรเรร่าโหม่งให้ฟานเพอร์ซี่ก่อนที่ฟานเพอร์ซี่จะส่งให้รูนีย์ยิ่ง
ประตูที่ฟานเพอร์ซี่ยิง เอรเรร่าเป็นคนส่งให้