ระยะสั้น เก็งกำไร กลุ่มสายการบิน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง
คาดดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบจำกัดระหว่าง 1590-1610 จุด ราคาน้ำมันดิบกดดันหุ้นพลังงาน แต่ภาพรวมตลาดหุ้นโลกยังมีโมเมนตัมบวก แนะเก็งกำไรกลุ่มสายการบิน รับเหมาฯ
คาดดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบจำกัดระหว่าง 1590-1610 จุด โดยตลาดหุ้นไทยอาจได้รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน (โรงกลั่น) หลังราคาน้ำมันดิบโลกร่วงแรง จากที่ประชุมโอเปคไม่ลดกำลังการผลิต ขณะที่แรงซื้อต่างชาติวันนี้อาจเบาบาง จากช่วงวันหยุดยาวของสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นโลกยังมีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง หลังตลาดหุ้นยุโรปปิดใกล้จุดสูงสุดเดิม ตามแรงเก็งกำไรอีซีบีออกมาตรการเพิ่มเติม และอัตราการว่างงานเยอรมนีต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จึงคาดวันนี้ดัชนีฯ จะยังคงแกว่งตัวแคบๆ ใกล้บริเวณ 1600 จุด ต่ออีกวัน ทั้งนี้ เรายังคงมุมมองเดิมว่าดัชนีฯ มีโอกาสผ่านแนวต้าน 1600 จุดขึ้นไปได้ในเร็วๆ นี้ โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1620 จุด ขณะที่เดือน ธ.ค. เป็นเดือนที่มีเม็ดเงิน LTF/RMF เข้ามาหนาแน่น
กลยุทธ์ลงทุน : เก็งกำไร กลุ่มสายการบิน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง (AAV NOK BA) รับเหมา (UNIQ CK STEC ITD) หุ้นประเด็นบวกอื่นๆ JAS TICON (เตรียมจัดตั้ง REIT) TRT (4Q57F กำไรดีสุด) NMG(ทยอยปรับค่าโฆษณา) CKP (คาดกำไร Peak ใน 4Q57F)
ระยะกลาง สะสม หุ้น Domestic Play (DEMCO GUNKUL AKR QTC CK ITD GEL PYLON LOXLEY SAMART SCB CPALL SPALI LPN) Tourism Play (AOT AAV THAI CENTEL) Global Play (Buy on dip: HANA)
ปัจจัยต่างประเทศ : ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปดี / โอเปคไม่ลดการผลิต
ที่ประชุมโอเปควานนี้ ไม่ลดการผลิต โดยคงเพดานการผลิตไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลราคาน้ำมันดิบโลกร่วงแรง โดยเบรนท์ปิดร่วงลงมากกว่า 6 ดอลลาร์ สู่ 71.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ทำให้หุ้นพลังงานในต่างประเทศร่วงลง ซึ่งเราคาดว่าหุ้นพลังงาน (กลุ่มโรงกลั่น) ของไทยจะได้รับแรงกดดันเช่นเดียวกัน ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบลดลงทางตรงได้แก่ กลุ่มสายการบิน (แนะนำ AAV NOK BA) และ ทางอ้อมกลุ่มรับเหมา (แนะนำ UNIQ CK STEC ITD)
เก็งกำไรอีซีบีเพิ่มมาตรการกระตุ้น โดยวานนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ ประธานอีซีบี ให้คำมั่นว่าอีซีบีเปิดกว้างสำหรับการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม หลังจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีและสเปน ลดต่ำลง โดยกล่าวว่าเจ้าหน้าที่อีซีบีเห็นพ้องกันว่าถ้ามาตรการที่ใช้อยู่ไม่เพียงพอ ก็พร้อมที่จะเพิ่มประเภทของสินทรัพย์ที่จะซื้อ ทั้งนี้ อีซีบีจะมีการประชุมกันในวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งตลาดจับตาว่าอีซีบีจะเริ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลเมื่อใด
ปัจจัยในประเทศ : กำหนดเวลาเลือกตั้งไม่นิ่ง/ ปลายปีนายกฯ เตรียมมาตรการกระตุ้น
นายกฯ จะแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือน 25 ธ.ค.นี้ โดยจะกล่าวถึงผลงานทั้งด้านเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชน และการช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการบริโภคและการท่องเที่ยว
"ประวิตร"ย้ำ เดินตามโรดแมพ 1 ปีจัดเลือกตั้งต้นปี 59/ปชป. เสนอทำประชามติร่างรธน. โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า คสช.จะเดินหน้าตามโรดแมพที่ประกาศไว้ โดยจะบริหารประเทศ ประมาณ 1 ปี จากนั้น จะจัดการเลือกตั้งได้ราวต้นปี 59 แต่ความเห็นของพรรค ปชป. ได้เสนอให้ทำประชามติร่างรธน. แม้ต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไป ทั้งนี้ ทำให้การเมืองดูเป็นความเสี่ยงมากขึ้น หากการเลือกตั้งไม่สามารถจัดขึ้นได้ตามที่คสช. วางโรดแมพไว้
ทางเทคนิค ดัชนีฯ มีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง ขณะที่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบนี้ ทำให้ทิศทางระยะสั้นดีขึ้น ซึ่งเรายังให้น้ำหนักต่อการปรับขึ้นเหนือระดับนี้ขึ้นไปในรอบนี้ จาก indicators ระยะสั้น อย่าง RSI และ MACD ที่ฟื้นตัวขึ้น และเป็นการปรับขึ้นหลังดัชนีฯ มีการพักฐานมาระยะหนึ่งแล้ว โดยจะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1620/1630 จุด ขณะที่แนวรับอยู่ที่บริเวณ 1585/1575 จุด
ที่มา bangkokbiznews
ระยะสั้น เก็งกำไร กลุ่มสายการบิน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง
คาดดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบจำกัดระหว่าง 1590-1610 จุด ราคาน้ำมันดิบกดดันหุ้นพลังงาน แต่ภาพรวมตลาดหุ้นโลกยังมีโมเมนตัมบวก แนะเก็งกำไรกลุ่มสายการบิน รับเหมาฯ
คาดดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบจำกัดระหว่าง 1590-1610 จุด โดยตลาดหุ้นไทยอาจได้รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน (โรงกลั่น) หลังราคาน้ำมันดิบโลกร่วงแรง จากที่ประชุมโอเปคไม่ลดกำลังการผลิต ขณะที่แรงซื้อต่างชาติวันนี้อาจเบาบาง จากช่วงวันหยุดยาวของสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นโลกยังมีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง หลังตลาดหุ้นยุโรปปิดใกล้จุดสูงสุดเดิม ตามแรงเก็งกำไรอีซีบีออกมาตรการเพิ่มเติม และอัตราการว่างงานเยอรมนีต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จึงคาดวันนี้ดัชนีฯ จะยังคงแกว่งตัวแคบๆ ใกล้บริเวณ 1600 จุด ต่ออีกวัน ทั้งนี้ เรายังคงมุมมองเดิมว่าดัชนีฯ มีโอกาสผ่านแนวต้าน 1600 จุดขึ้นไปได้ในเร็วๆ นี้ โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1620 จุด ขณะที่เดือน ธ.ค. เป็นเดือนที่มีเม็ดเงิน LTF/RMF เข้ามาหนาแน่น
กลยุทธ์ลงทุน : เก็งกำไร กลุ่มสายการบิน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง (AAV NOK BA) รับเหมา (UNIQ CK STEC ITD) หุ้นประเด็นบวกอื่นๆ JAS TICON (เตรียมจัดตั้ง REIT) TRT (4Q57F กำไรดีสุด) NMG(ทยอยปรับค่าโฆษณา) CKP (คาดกำไร Peak ใน 4Q57F)
ระยะกลาง สะสม หุ้น Domestic Play (DEMCO GUNKUL AKR QTC CK ITD GEL PYLON LOXLEY SAMART SCB CPALL SPALI LPN) Tourism Play (AOT AAV THAI CENTEL) Global Play (Buy on dip: HANA)
ปัจจัยต่างประเทศ : ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปดี / โอเปคไม่ลดการผลิต
ที่ประชุมโอเปควานนี้ ไม่ลดการผลิต โดยคงเพดานการผลิตไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลราคาน้ำมันดิบโลกร่วงแรง โดยเบรนท์ปิดร่วงลงมากกว่า 6 ดอลลาร์ สู่ 71.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ทำให้หุ้นพลังงานในต่างประเทศร่วงลง ซึ่งเราคาดว่าหุ้นพลังงาน (กลุ่มโรงกลั่น) ของไทยจะได้รับแรงกดดันเช่นเดียวกัน ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบลดลงทางตรงได้แก่ กลุ่มสายการบิน (แนะนำ AAV NOK BA) และ ทางอ้อมกลุ่มรับเหมา (แนะนำ UNIQ CK STEC ITD)
เก็งกำไรอีซีบีเพิ่มมาตรการกระตุ้น โดยวานนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ ประธานอีซีบี ให้คำมั่นว่าอีซีบีเปิดกว้างสำหรับการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม หลังจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีและสเปน ลดต่ำลง โดยกล่าวว่าเจ้าหน้าที่อีซีบีเห็นพ้องกันว่าถ้ามาตรการที่ใช้อยู่ไม่เพียงพอ ก็พร้อมที่จะเพิ่มประเภทของสินทรัพย์ที่จะซื้อ ทั้งนี้ อีซีบีจะมีการประชุมกันในวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งตลาดจับตาว่าอีซีบีจะเริ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลเมื่อใด
ปัจจัยในประเทศ : กำหนดเวลาเลือกตั้งไม่นิ่ง/ ปลายปีนายกฯ เตรียมมาตรการกระตุ้น
นายกฯ จะแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือน 25 ธ.ค.นี้ โดยจะกล่าวถึงผลงานทั้งด้านเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชน และการช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการบริโภคและการท่องเที่ยว
"ประวิตร"ย้ำ เดินตามโรดแมพ 1 ปีจัดเลือกตั้งต้นปี 59/ปชป. เสนอทำประชามติร่างรธน. โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า คสช.จะเดินหน้าตามโรดแมพที่ประกาศไว้ โดยจะบริหารประเทศ ประมาณ 1 ปี จากนั้น จะจัดการเลือกตั้งได้ราวต้นปี 59 แต่ความเห็นของพรรค ปชป. ได้เสนอให้ทำประชามติร่างรธน. แม้ต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไป ทั้งนี้ ทำให้การเมืองดูเป็นความเสี่ยงมากขึ้น หากการเลือกตั้งไม่สามารถจัดขึ้นได้ตามที่คสช. วางโรดแมพไว้
ทางเทคนิค ดัชนีฯ มีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง ขณะที่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบนี้ ทำให้ทิศทางระยะสั้นดีขึ้น ซึ่งเรายังให้น้ำหนักต่อการปรับขึ้นเหนือระดับนี้ขึ้นไปในรอบนี้ จาก indicators ระยะสั้น อย่าง RSI และ MACD ที่ฟื้นตัวขึ้น และเป็นการปรับขึ้นหลังดัชนีฯ มีการพักฐานมาระยะหนึ่งแล้ว โดยจะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1620/1630 จุด ขณะที่แนวรับอยู่ที่บริเวณ 1585/1575 จุด
ที่มา bangkokbiznews