ปัญหาที่ไม่น่าเป็นปัญหา (ขแโทษที่เรื่องยาว)

เรามีเรื่องจะมาระบายและขอคำปรึกษา แต่เราขอไม่เล่าแบบเรียงความนะขอเล่าแบบง่ายๆ  เราเริ่มคบกับแฟนกันมาตั้งแต่เรียนปี 1 จนตอนนี้ เรียนจบ ทำงาน รับปริญญา แต่งงาน มีลูก ฝังๆดูห็ปกติไม่มีอะไร แต่เรื่องที่อัดอันเริ่มขึ้นตอนที่เรากับแฟนอยู่ปี 4 โต๊ะ กี (ปู่ ย่า ของอิสราม) ของแฟนพาผู้หญิงมาให้แฟนเราดูแล้วนอนค้างที่บ้านแฟนว่าคนนี้น่าจะมาเป็นหลานสะใภ้ของเค้าได้ และบ้านผู้หญิงคนนี้ก็มีฐานะพอสมควร จะได้แก้ไข้ปัญหาเรื่องหนี้สินของที่บ้านได้ (ที่บ้านของแฟนรับรู้หมดทุกคนว่าเราคบกันมานานแล้ว ยกเว้น โต๊ะ กี ของแฟนแล้วมีภาระหนี้สินนิดหน่อย) ตอนนั้นเราเครียดมากเลยแล้วไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อ แม่ แฟนไม่บอก โต๊ะ กี ไปว่าลูกมีคนที่คบอยู่แล้ว จนในที่สุดเรากับแฟนเราทนไม่ไหวแฟนเราเลยบอก โต๊ะกับกีไปเองเลยว่ามีเราเป็นแฟนอยู่แล้ว โต๊ะกับกีก็ถามว่าเป็นพุทธหรืออิสราม (บ้านแฟนเราเป็นอิสรามที่ไม่มีความเคร่งเลย) แฟนเราตอบว่าเป็นพุทธโต๊ะเค้าก็ถามว่าทำไมไม่หาแฟนที่เป็นอิสราม โต๊ะเสียใจนะ แล้วรักโต๊ะกับกีไหม ถ้ารักเลิกกับแฟนคนนี้ให้ได้ไหม แฟนเราก็ตอบไปว่าไม่เลิกแล้วเล่านิสัยแล้วเรื่องเกี่ยวกับตัวเราให้ฟัง โต๊ะก็บอกว่ามีแฟนพุทธเดียวก็เรื่องมากแล้วก็บ่นอีกเยอะแยะเลยแล้วปัญหานี้ก็จบไป
เรื่องต่อมาเป็นเรื่องการใช้เงินของแม่แฟน ที่เรามองว่าใช้เกินตัวมากถึงมากที่สุด ซึ่งถ้าเงินเค้าไม่พอใช้ก็จะให้แฟนมายืมเราหรือญาติๆของเรา หรือไม่ก็ให้แฟนไปหายืมมาให้ แต่ในขณะนั้นเราทั้ง 2 คนก็ยังเรียนกันอยู่จนทำให้เรากับแฟนต้องถามว่าเงินที่ขายของมาได้เอาไปทำอะไรหมด แล้วที่ให้หาเงินให้เอาไปทำอะไร เค้าก็ตอบๆๆ บ้างคำตอบก็เหมือยหับข้องอ้าง แล้วที่ทำให้เราปวดหัวแล้วงงมากที่สุดก็คือ เวลานั้นก็มีหนี้ติดตัวเป็นล้านแล้ว แล้วก็ยังจะไปออกรถมือ 2 มาแฟนเราก็ถามว่าออกมาทำไม แม่แฟนตอบว่าให้เอาไว้ให้แฟนเราขับไปเรียนแล้วก็ไปรับไปส่งน้องที่โรงเรียน แฟนเราก็บอกว่ามันไม่จำเป็นเลยนะที่จะมีหนี้เพิ่มด้วยเหตุผลแบบนี้ แล้วคำตอบที่แฟนเราได้กลับมาก็คือว่า อย่ามาขัดมีให้ใช้ก็ใช้ไป สรุปรถคันนั้นได้ใช้แค่ 3 เดือนแล้วเงินไม่มีเลยต้องเอารถไปจำนำกับเจ้าหนี้นอกระบบ อีกแสนกว่าบาท (ตอนที่เอารถมาตอนนั้นเราอยู่ปี 3 กัน ก็ปะมานปี 54 จนเมื่อสิงหาที่ผ่านมาเจ้าหนี้ที่เอารถไปไว้มาทวงเงินแล้วไม่มีเงินจ่าย เจ้าหนี้เลยบอหว่างั้นจะปล่อยรถแล้วนะ แม่แฟนก็บอกว่าแล้วแต่ แล้วอารัยอีกเยอะมาก) แล้วตอนนี้แฟนเราทำงานแล้วพร้อมกับที่เราท้องแล้วเรามีปัญหาเรื่องงานที่เราลาออก สรุปตอนนี้เงินก็มาจากการทำงานของแฟนเราคนเดียว ซึ่งเราก็ไม่ได้ขอเงินแฟนใช้เลย นอกจากให้แฟนจ่ายหนี้ค่าบัตรที่เราทำแล้วแม่แฟนขอยืม(ลืม) ไปใช้ ส่วนอีกบัตรทำมาเป็นค่าสินสอดของเรากะแฟนอีกไม่กี่หมื่น สรุปทุกเดือนแฟนเราจะจ่ายให้ 2,000 แล้วเงินเดือนของแฟนเราแต่ละเดือนก็ได้ประมาน 9,500 - 14,000 บาท แต่ส่วนใหญ่จะไม่ถึง 14,000 แล้วที่บ้ายแฟนก็ขอทุกเดือน เดือนละ 5,000 - 8,000 ซึ่งบางเดือนก็ไม่มีเงินกินกันเลย สงสัยใช่ป่ะว่าแล้วจะมีเงินไปทำงานหรือป่าวมี คือต้องขับรถไปเอาทุกวัน วันละ 100 , 200 บาท จนเราสงสารแฟนเรา เราเลยให้เงินแฟนเราไปทำงานเพิ่มอีกจนรอดพ้นไปได้ทุกเดือน เรื่องเงินพอแค่นี้ก้อแล้วกันเพราะมันมีเยอะเกิน
   แล้วตอนนี้เรามาเอาเรื่องที่หนักใจที่สุดแล้วน้อยใจที่สุดของเราเลยแล้วกัน คือเรื่องงานแต่งของเราซึ่งเราก็ยอมรับว่าเราท้องก่อนแต่ง แต่เราก็บอกพ่อกับแม่เรา พ่อกับแม่เราก็เลยบอกกับแฟนเราว่าจะเอายังไงจะคบกันต่อหรือจะเลิก ถ้าคบกันต่อก็บอกพ่อกับแม่ให้มาคุยกันแล้วทำแบบง่ายๆๆ แค่ผูกแขนพอ บ้านแฟนเราก็จัดหา แค่เรื่องสินสอดพอ (หลักหมื่น) ส่วนเรื่องกับข้าวเดียวแม่เราจ่ายเองทั้งหมด แต่ถ้าไม่ก็เลิกกับเรา แล้วบ้านเราก็จะเก็บลูกในท้องเราไว้ คำตอบของแฟนเราก็คือแต่ง แล้วเย็นวันนั้นแฟนเราก็รีบกลับไปบ้านแล้วไปคุยกับพ่อแล้วแม่ของเค้า (ในความคิดของแฟนเราตอนนั้นก็คือ พ่อกับแม่ต้องว่าแน่ๆๆ แต่ยังไงก็ต้องให้แต่) สรุปคำตอบที่เรากับปฟนเราได้ คือ ไม่ไปคุย แล้วให้เราไปทำแท้งสะ และถ้าแฟนเรายังยืนยันที่จะแต่งกับเราก็หาเงินไปแต่งเอง หาคนไปคุยเอง ไม่ยุ่งแก้ปัญหากันเองสะ เราได้ยินคำตอบแบบอาการเหมือนแทบจะล้มทั้งยืนเลยอ่ะ เหมือนโดนใครตบหน้าแบบแรงๆๆอ่ะ เราก็คิดนะว่าแล้วที่ผ่านมาที่บอกใครต่อใครว่าเราคือลูกสะใภ้ละ แล้วที่บอกว่าเราก็เป็นลูกคนนึ่งละ นี้คือคำตอบของคนเป็นพ่อกับแม่ใช้ป่ะ เรากับแฟนเรา ก็อ้อนวอนให้มาคุยเถอะปัญหาจะได้จบ แต่เค้าไม่มา (เรา 2 คน ขอร้องตั้งแต่เดือนกุมภาเราผูกแขนเดือนพฤศภา ก็เป็นเวลานานมากนะ จนวันที่เราจะผูกแขนกันแล้วก็ยังโทไปว่าไม่มาจิงๆๆหรอ แม่เราก็บอกว่ายังไงก็จะไม่นับญาติ กันใช่ไหม เค้าก็ไม่มา) ก็โอเคไม่มาแต่ ตากับยายของแฟนมา สรุปฝ่ายแฟนมาแค่ 3 คน ตา ยาย น้องแฟน มาแค่นี้ก็แค่นี้ เราก็ทำพิธีแล้วแฟนเราก็ย้ายมาอยู่บ้านเราเลย จนเราท้องได้ 5 เดือน แม่แฟนก็โทมาว่ามานอนบ้านบางสิ พ่ออยากให้มาเราก็ไม่อยากติดใจเรื่องผูกแขนอีกแล้วคิดไปก็เท่านั้น เราก็ไปด้วยความสงสัยแฟนเราก็เลยถามว่าทำไมยอมให้มาหาที่บ้านล่ะ คำตอบก็คือว่ากลัวเวลาน้องสาวมีครอบครัวแล้วกลัวลูกโดนพ่อแม่แฟนทำแบบนี้ใส่ (หะที่ให้มาเพราะกลัวลูกตัวเองโดนแบบเดียวกับเรา อืม ) มาถึงตอนนี้เราคลอดลูกออกมาแล้ว (ลูกเราหน้าตาน่าเกลียดน่าชังมาก) พ่อแฟนก็บอกว่าเดียวจะให้แต่งงานอีกรอบแบบศาสนาอิสรามแล้วเอาเรากับลูกเข้าศาสนา เราก็เลยตอบไปว่าไม่หรือ ถ้าอยากให้เข้าจิงๆๆ ก็หัดไปคุย ไปบอก กับพ่อแม่หนูเหอะ  ตอนนั้นพ่อแฟนโกรดเรามากเลยบังคับแฟนเรากลับบ้าน แฟนเราไม่อยากให้ปัญหาบานปลายเลยยอมกลับไปอธิบายกับพ่อของเค้าว่าสาเหตุที่เราบอกไปอย่างนั้นเพราะอะไร เรื่องนี้ก็จบไปประมาน 2 อาทิตย์ แฟนเราก็ได้รับโทรศัพท์จากโต๊ะ ว่าถ้าเราไม่ยอมเข้าศาสนามันผิดหลักปล้วพระเจ้าจะเอาโทษ (ถามหน่อยเหอะบอกให้แก้ปัญหากันเองปก้ได้แล้วนี้ไง แล้วพระเจ้าจะมาเอาโทษอะไรอีก) แฟนเราก็เลยบอกไปว่าเดียวจะลองคุยกับเราและแม่เราอีกทีแล้วจะโทไปบอก แต่คำตอบของเรากับแม่คือไม่ แฟนเราเลยโทรไปบอกแล้วอธิบายให้ฟังว่าสาเหตุที่ไม่เข้าเพราะอะไร และทำไมไม่เข้า โต๊ะก็เลยบอกว่าให้เลิกกับเราแลเวให้ลืมเรื่องของเรากับลูกให้หมด เพราะถ้าไม่ทำตามพระเจ้าจะเอาโทษทั้งตระกูล แล้วถ้ายังรักทุกคนในตระกูลอยู่ก็ให้เลิก แล้วความรู้สึกที่เราเคยคิดว่ามันคงไม่กลับมาแล้วก็กลับมาอีกแต่ครั้งนี้รู้สึกเหมือนถูกรุมกระทึบเลย และเรากับแฟนเราอธิบายจนเหนื่อยแล้วล้ามากแล้วจนเราตัดสินใจกันว่าเราจะอยู่ด้วยกันถึงแค่ปีใหม่แล้วก็จะแยกกันไปใช้ชีวิต บางคนคงสงสัยว่าแล้วทำไมเราไมยอมสะ เราก็ไม่อยากทิ้งพ่อแม่แล้วไปอยู่กับบ้านแฟนซึ่งเรามีความรู้สึกเหมือนไม่ปลอดภัยจลอดเวลาแล้วเราก็รักพ่อกับแม่ของเราเหมือนกันแฟนเราก็เข้าใจ แล้วเราไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้สึกขายหน้าไปมากกว่านี้แล้ว แล้วบ้านแฟนเราก็ยังคืนเงอนเราไม่หมดเลยยังยอมให้แฟนเราอยู่ไปก่อนแต่ใช้เงินหมดเมื่อไหร่ก็จะมารับกลับเลย เราก็อยากจะระบายปค่นี้แหละแต่เราก็อยากได้คำปรึกษาเผื่อใครจะมีวิธีช่วยได้บาง ทุกวันนี้เรากับแฟนต้องนอนมองหน้าลูกแล้วร้องไห้ขอโทษลูกทุกคืนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ลูกเราพึ่งได้ 1 เดือนก็ต้องไม่มีพ่อทั้งๆไที่มี เราทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกันทั้งๆๆที่ไม่ผิดอะไรเราก็สงสารแฟนเราที่ต้องขาดทั้งเราและลูกไปในเวลาเดียวกัน ถ้าใครมีวิธีแก้ที่ดีเราก็ขอหน่อยนะ เราขอบคุนสำหรับคนที่เสียเวลาอ่านเรื่องนี้นะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่