คำแนะนำ : รีวิวผมเป็นรีวิวกาก ๆ ที่ไม่ได้ใส่รายละเอียดข้อมูลแนะนำต่าง ๆ ไว้ให้นะครับ
เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังกับประสบการณ์ที่ได้เดินทางไป ได้พบ ได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ
แล้วก็อยากแชร์ภาพถ่ายให้ดู คิดซะว่าอ่านเล่น ๆ ยามว่างแล้วกันนะครับ
ภาษา ความรุนแรง อาจไม่เหมาะสม กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับลม...เอ่ย..รับชม ด้วยนะคร๊าบ
...เมื่อ...ใบไม้แดงที่ “โครังเค”
-*-22 Nov 2014-*-
กลับมาอีกครั้งกับทริปฤดูใบไม้ผลิตามคำสัญญา (กับใครก็ไม่รู้อะ) ไว้ว่าจะมารีวิว และแล้วฤดูอันสวยงามนี้ก็มาถึงซะที
เนื่องจากเบี้ยน้อยหอยน้อย ไปไหนไกล ๆ เหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้ ก็เอาวะ ไปแค่โครังเคนี้แหละ (ไม่ใช่รังแคนะ อ่านดีดี 55)
รายละเอียดการเดินทางต่าง ๆ มีคนเขียนไว้เยอะแล้ว ลองหาเอานะครับ
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้า เนื่องจากอยากออกแต่เช้า เพราะกว่าจะขึ้นรถไฟไปครึ่งชั่วโมงแล้วต้องต่อรถบัสอีกชั่วโมงกว่า
ไม่อยากเสียเวลาในการตามล่าภาพสวย ๆ
พอเช้ามา สะดุ้งรู้สึกตัว มองนาฬิกา เย้ย......เจ็ดโมง สาด นาฬิกาไม่ปลุก ซวยแล้วกรู
ตอนนั้นรีบสุดชีวิตอะ เพราะรถบัสรอบถัดไปมีแปดโมงครึ่ง ด้วยความโง่จัดไง ตั้งนาฬิกาไว้แต่เซ็ทวันหยุดให้ปิด ชีวิตเกือบเศร้าไปแล้ว

นั่งรถไฟออกจากชิริวเมืองที่อยู่ ไปยังเมืองโอคาซากิ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
จากนั้นจะมีรถบัสสายแปด ขึ้นได้ที่ชานชาลาสี่ ใช้เวลาราว ๆ เจ็ดสิบนาที
ก้าวแรกลงจากรถปั๊บ เราจะพบกันต้นไม้สีเหลืองอลังการ แต่เราจะเพิ่งเสียเวลากับต้น ๆ เดียว เพราะเรายังมีอีกเป็นป่า 55

ใช้เวลาเดินจริง ๆ แค่เฉพาะส่วนที่เลียบแม่น้ำ น่าจะราว ๆ สามสี่ชั่วโมง รวมหยุดถ่ายภาพแล้ว น่าจะได้นะครับ
ส่วนใครจะขึ้นเขาด้วย ก็บวกไปอีกสักสองชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ไม่ใช้เพราะเดินไกลไรนะ แต่มันสวยอะ อยากดูนาน ๆ
ผมเดินถ่ายภาพไปเรื่อย ในใจได้แต่พูดว่า แมร่งเอ่ย....สวยวะสาด เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นก็วันนี้แหละ
บางช็อตก็แอบมีอิจฉา อยากมีแฟนมาเดินด้วยอ่าาาา
เดิน ๆ ไปนี่ คนไทยเยอะนะครับ รู้สึกเจอแต่คนไทย แต่ผมไม่ได้พูดไรด้วย แต่ถ้ามีสาว ๆ มาเดี่ยวนี่ รีบวิ่งเข้าใส่ทันทีนะครับ 55
หลังจากเดินเรียบแม่น้ำจนสุดทะลุออกอีกฝั่งถนน ผมก็เดินอ้อมไปหลังเขา เผื่อไปขึ้นเขาทางด้านนี้
ซึ่งมารู้ทีหลังว่าฟลุกมาที่มาขึ้นด้านนี้ เพราะด้านนี้เดินสั้นน้อยกว่าเดินหน้าศาล ที่คนขึ้นกันเยอะ ๆ สวยกว่ามากด้วย
หลังจากลงจากเขา ก็เริ่มจะเย็น ๆ แหละ ผมรีบลงมาเพื่อเก็บแสงสุดท้ายก่อนจะมืด
และก็เตรียมไปรอถ่ายภาพไฟประดับ ที่เขาจะเริ่มเปิดตอนฟ้ามืด
ตอนนั่ง ๆ รอถ่ายนี่ เริ่มสั่นนะครับ จากชีวิตมีเสื้อยืดตัวเดียว เริ่มใส่เสื้อกันหนาว อีกห้านาทีถัดมาเริ่มหยิบผ้าผันคอ อีกแป๊บต้องเอาถุงมือมาใส่ ใครจะมา (ซึ่งไม่น่าจะทันแล้ว) ก็เตรียมหนาวด้วยนะครับ
หลังจากนั้น ก็เดินทางกลับ แต่ขากลับนี่มาทางเมืองโตโยต้า เนื่องจากรถเมย์ที่วิ่งไปเส้นโอคาซากิหมดแล้ว
แล้วก็ฝันดีครับ 55
ตอนหน้า ฤดูหนาวแล้ว เด๋วที่บ้านกับแฟนจะมาเที่ยว คงจะมีรูปสวย ๆ มาฝากอีกนะคร๊าบ
ขอบคุณสำหรับคำติชมล่วงหน้านะครับ จะนำไปปรับปรุงต่อไปครับ
[CR] PHOmTOz’s :...เมื่อ...ใบไม้แดง ที่ "โครังเค"
เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังกับประสบการณ์ที่ได้เดินทางไป ได้พบ ได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ
แล้วก็อยากแชร์ภาพถ่ายให้ดู คิดซะว่าอ่านเล่น ๆ ยามว่างแล้วกันนะครับ
ภาษา ความรุนแรง อาจไม่เหมาะสม กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับลม...เอ่ย..รับชม ด้วยนะคร๊าบ
...เมื่อ...ใบไม้แดงที่ “โครังเค”
-*-22 Nov 2014-*-
กลับมาอีกครั้งกับทริปฤดูใบไม้ผลิตามคำสัญญา (กับใครก็ไม่รู้อะ) ไว้ว่าจะมารีวิว และแล้วฤดูอันสวยงามนี้ก็มาถึงซะที
เนื่องจากเบี้ยน้อยหอยน้อย ไปไหนไกล ๆ เหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้ ก็เอาวะ ไปแค่โครังเคนี้แหละ (ไม่ใช่รังแคนะ อ่านดีดี 55)
รายละเอียดการเดินทางต่าง ๆ มีคนเขียนไว้เยอะแล้ว ลองหาเอานะครับ
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้า เนื่องจากอยากออกแต่เช้า เพราะกว่าจะขึ้นรถไฟไปครึ่งชั่วโมงแล้วต้องต่อรถบัสอีกชั่วโมงกว่า
ไม่อยากเสียเวลาในการตามล่าภาพสวย ๆ
พอเช้ามา สะดุ้งรู้สึกตัว มองนาฬิกา เย้ย......เจ็ดโมง สาด นาฬิกาไม่ปลุก ซวยแล้วกรู
ตอนนั้นรีบสุดชีวิตอะ เพราะรถบัสรอบถัดไปมีแปดโมงครึ่ง ด้วยความโง่จัดไง ตั้งนาฬิกาไว้แต่เซ็ทวันหยุดให้ปิด ชีวิตเกือบเศร้าไปแล้ว
นั่งรถไฟออกจากชิริวเมืองที่อยู่ ไปยังเมืองโอคาซากิ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
จากนั้นจะมีรถบัสสายแปด ขึ้นได้ที่ชานชาลาสี่ ใช้เวลาราว ๆ เจ็ดสิบนาที
ก้าวแรกลงจากรถปั๊บ เราจะพบกันต้นไม้สีเหลืองอลังการ แต่เราจะเพิ่งเสียเวลากับต้น ๆ เดียว เพราะเรายังมีอีกเป็นป่า 55
ใช้เวลาเดินจริง ๆ แค่เฉพาะส่วนที่เลียบแม่น้ำ น่าจะราว ๆ สามสี่ชั่วโมง รวมหยุดถ่ายภาพแล้ว น่าจะได้นะครับ
ส่วนใครจะขึ้นเขาด้วย ก็บวกไปอีกสักสองชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ไม่ใช้เพราะเดินไกลไรนะ แต่มันสวยอะ อยากดูนาน ๆ
ผมเดินถ่ายภาพไปเรื่อย ในใจได้แต่พูดว่า แมร่งเอ่ย....สวยวะสาด เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นก็วันนี้แหละ
บางช็อตก็แอบมีอิจฉา อยากมีแฟนมาเดินด้วยอ่าาาา
เดิน ๆ ไปนี่ คนไทยเยอะนะครับ รู้สึกเจอแต่คนไทย แต่ผมไม่ได้พูดไรด้วย แต่ถ้ามีสาว ๆ มาเดี่ยวนี่ รีบวิ่งเข้าใส่ทันทีนะครับ 55
หลังจากเดินเรียบแม่น้ำจนสุดทะลุออกอีกฝั่งถนน ผมก็เดินอ้อมไปหลังเขา เผื่อไปขึ้นเขาทางด้านนี้
ซึ่งมารู้ทีหลังว่าฟลุกมาที่มาขึ้นด้านนี้ เพราะด้านนี้เดินสั้นน้อยกว่าเดินหน้าศาล ที่คนขึ้นกันเยอะ ๆ สวยกว่ามากด้วย
หลังจากลงจากเขา ก็เริ่มจะเย็น ๆ แหละ ผมรีบลงมาเพื่อเก็บแสงสุดท้ายก่อนจะมืด
และก็เตรียมไปรอถ่ายภาพไฟประดับ ที่เขาจะเริ่มเปิดตอนฟ้ามืด
ตอนนั่ง ๆ รอถ่ายนี่ เริ่มสั่นนะครับ จากชีวิตมีเสื้อยืดตัวเดียว เริ่มใส่เสื้อกันหนาว อีกห้านาทีถัดมาเริ่มหยิบผ้าผันคอ อีกแป๊บต้องเอาถุงมือมาใส่ ใครจะมา (ซึ่งไม่น่าจะทันแล้ว) ก็เตรียมหนาวด้วยนะครับ
หลังจากนั้น ก็เดินทางกลับ แต่ขากลับนี่มาทางเมืองโตโยต้า เนื่องจากรถเมย์ที่วิ่งไปเส้นโอคาซากิหมดแล้ว
แล้วก็ฝันดีครับ 55
ตอนหน้า ฤดูหนาวแล้ว เด๋วที่บ้านกับแฟนจะมาเที่ยว คงจะมีรูปสวย ๆ มาฝากอีกนะคร๊าบ
ขอบคุณสำหรับคำติชมล่วงหน้านะครับ จะนำไปปรับปรุงต่อไปครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น