เมื่อเกือบ6ปีที่ผ่านมา ฉันคบกับแฟนของฉันคนปัจจุบันนี้เค้าแกกว่าฉัน2ปี แรกคบฉันถึงวันนี้เราทั้งสองต่างช่วยเหลือกันตลอดมาไม่เคยทอดทิ้งห่างกันไปไหนตอนแรกคบเราได้ย้ายไปอยู่ด้วยกันพออยู่กันสักพักมีพี่น้องของเค้าเข้ามาเกี่ยวข้องมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยเรื่องค่าบ้านเรื่องการลงทุนทำงานของเขาส่วนแฟนของฉันก็เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นสงสารเลยช่วยเลยออกค่าบ้านค่าลงทุนให้เป็นเงินประมาณ50000บาท พอเดือนแรกพี่น้องเค้าก็ผ่อนจ่ายมาประมาณ2000 บาท เราก็ไม่ได้ทักถ่วงอะไรถือว่าช่วยๆๆกัน แต่พอผ่านไปเดือนที่2ก็เงียบ เราก็ไม่ได้ทวงเค้าก็เฉยนะทั้งๆๆที่เรายุบ้านเดียวกันเจอกหน้ากันทุกวันเกือบทุกเวลา เรื่องอาหารการกินตอนเค้าทำงานเราก็ออกให้ เพราะเค้าไม่มีตังเราให้เค้าซื้อค่ากับข้าวทุกวันทั้งๆๆที่เค้าก็ทำงานมีรายได้เข้ามาตลอดแต่เค้าก็ไม่มีจิตสำนึกว่าจะช่วยเราจะจ่ายให้เราเลยสักบาท (น่าสงสาร) และตกลงฉันกะแฟนก็ต้องมาเป็นหนี้เองทั้งๆๆที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย
เวลาผ่านไปได้ประมาณ 2ปี ฉันก็ไม่ได้ทำงานแฟนทำคนเดียวแต่แฟนก็ไหวอยู่ผ่อนทีละนิดเงินต้นทบดอกก็ยังจ่ายไม่หมดเงินก็หมุดไม่ค่อยทันพี่น้องของเขาก็ไม่มีจิตใต้สำนึกจะช่วยอะไรเลยมีแต่ขอเราไปวันๆๆ สงสารแฟนมากมายค่ะแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงจะทวงเค้าก็ไม่กล้าทั้งๆๆที่เป็นเงินของเราเพราะเราคิดว่าสักวันเค้าคงนึกได้แต่ก็ไม่อีกตามเคยความรู้สึกของฉันตอนนั้นมันเริ่มท้อและสงสารแฟนเราก็ทั้งสองก็ช่วยๆๆกันและวันนั้นแม่ก็ดทมาบอกว่าให้มาทำงานกะพี่สาวที่สุราษฎร์ธานี ฉันก็คุยกับแฟนว่าฉันขอไปทำงานที่อื่นนะฉันไม่ไหวแล้วถ้าอยู่สภาพแบบนี้และแฟนก็ให้มาส่วนแฟนก็ทำงานอยู่กทมเหมือนเดิมอีกไม่กี่วันฉันมาถึงสุราษฎร์ธานีได้ประมาณอาทิตยืกว่าๆๆแฟนบอกว่าเค้าออกจากงานแล้วนะและเก็บของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วเค้าบอกว่าจะมาอยู่กับฉันด้วยเค้าไม่ไหวแล้วเหมือนกันเค้าท้อไม่มีฉันเค้าบอกว่าเค้าอยู่ไม่ได้และแล้วเราก็ได้อยู่ด้วยกันอีกและฉันก็ได้ทำงานเค้าก็ได้ทำงานอยู่อย่างสบายใจ (แต่หนี้เราก็ยังคงจ่ายให้เค้าอยู่เหมือนเดิม)พอผ่านไปอีกสักพักชีวิตเราก้ดีขึ้นแต่แล้วอุปสรรคก็เข้ามาอีกมาพบเจอพี่น้องเค้าอีกเรื่องต่างๆๆนานาก็ตามมาไม่หยุดหย่อนแต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากต่างคนต่างอยู่กันไป และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ว่าฉันทำงานอยู่ได้ประมาณปีกว่าฉันไม่สบายก็เลยออกจากงานอีกแฟนก็ทำงานคนเดียวเหมือนเดิมและไม่นานเท่าไรคนที่เค้ายืมเงินเราไปตอนแรกนั้นแหละเค้าโทมาบอกว่าเค้าจะมาหางานทำที่นี่ด้วยแฟนบอกว่าแล้วแต่ถ้ามาก็มา และแล้วเค้าก็มามาไม่เปล่านะบอกว่าขอยืมเงิน5000บาทเพื่อจะค่าเดินทางค่าขนส่งของ(ทั้งๆๆที่เป็นเรื่องของเขาแต่แฟนก็สงสารอีกให้อีก)พอมาถึงก็มาเช่าห้องข้างๆๆเรา พอเราย้ายก็ย้ายตามเรา(สงสัยว่าเค้าคงเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราหนีกันไม่พ้น)จนมาอยู่ที่ปัจจุบันก็มาอยู่ติดกะเราเหมือนเดิมเวลามีปัญหาอะไรก็มาพึ่งเราตลอดเราก้ช่วยตลอดแต่ส่วนเงินที่ยืมไปจนถึงวันนี้เราก็ไม่ได้สักบาทนึงวันก่อนแฟนฝากซื้อของในราคา 60บาทแฟนบอกว่าซื้อมาก่อนเด๋วให้ตังแต่ว่าแฟนก็ลืมให้จนเค้าทวง แล้วเราก็พูดว่าทำไมตอนเค้าติดเราเค้าไม่มีจิตใต้สำนึกที่จะให้บ้างละทีของเค้าแค่60บาททวงแล้วของเราละตังเป้นหมื่นเราไม่เคยทวง ถ้าเป็นไปได้ฉันไม่อยากพบเจอพวกคนเหล่านี้แล้วเรามีค่าตอนเค้าลำบากแต่เวลาเค้าสุขสบายไม่เคยเห็นหัวเราเลย(รู้สึกน้อยใจแต่ทำอะไรไม่ได้)ตอนนี้ฉันก้ดีใจกับเค้านะเค้าได้ทำงานดีๆๆแต่ฉันนี่ซิตกงานไม่ซ้ำยังเป็นขี้ปากเค้าอีกไม่รู้จะจองเวรจองกรรมกันไปถึงไหนทั้งๆๆที่ฉันก็ยินดีกับเค้านะไม่ได้อิจฉาอะไรเค้าเลยดีใจด้วยซ้ำกับเค้า ส่วนฉันกับแฟนเราก็ยังอยู่ด้วยกันยังคบกันต่อไปเพราะเราไม่ได้มีอะไรผิดใจกันหรือมีปัญหาต่อกันและเราก็ยิ่งรักเค้ามากขึ้นเค้าเข้าใจความรู้สึกของเราแต่เขาไม่มีทางเลือกเพราะต้องทำงานเขาเลยต้องทนอยู่กับพี่น้องของเขาและสภาพเดิมๆๆ
ถ้าคุณเป็นฉันคุณจะรู้สึกยังไงและจะทำยังไงต่อไปคิดจะอยู่ที่นี่ต่อหรือว่าจะไปขอความคิดเห็นหน่อยนะค่ะ อาจจะวกวนสับสนเพราะตอนนี้ฉันสับสนมากมายค่ะฉันอยากไปจากที่นี่แต่ก็แฟนอีกไม่รู้จะทำไง #เราทั้งสองรักกันมากแต่มีอุปสรรคคือฉันไม่อยากอยู่ใกล้ๆๆพี่น้องเขาเพราะแต่ละคนเห็นแก่ตัวและผลประโยชน์ของตัวเองกันทั้งนั้น
อยากหลุดพ้นจากพี่น้องของเขา ฉันควรทำยังไงต่อไป
เวลาผ่านไปได้ประมาณ 2ปี ฉันก็ไม่ได้ทำงานแฟนทำคนเดียวแต่แฟนก็ไหวอยู่ผ่อนทีละนิดเงินต้นทบดอกก็ยังจ่ายไม่หมดเงินก็หมุดไม่ค่อยทันพี่น้องของเขาก็ไม่มีจิตใต้สำนึกจะช่วยอะไรเลยมีแต่ขอเราไปวันๆๆ สงสารแฟนมากมายค่ะแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงจะทวงเค้าก็ไม่กล้าทั้งๆๆที่เป็นเงินของเราเพราะเราคิดว่าสักวันเค้าคงนึกได้แต่ก็ไม่อีกตามเคยความรู้สึกของฉันตอนนั้นมันเริ่มท้อและสงสารแฟนเราก็ทั้งสองก็ช่วยๆๆกันและวันนั้นแม่ก็ดทมาบอกว่าให้มาทำงานกะพี่สาวที่สุราษฎร์ธานี ฉันก็คุยกับแฟนว่าฉันขอไปทำงานที่อื่นนะฉันไม่ไหวแล้วถ้าอยู่สภาพแบบนี้และแฟนก็ให้มาส่วนแฟนก็ทำงานอยู่กทมเหมือนเดิมอีกไม่กี่วันฉันมาถึงสุราษฎร์ธานีได้ประมาณอาทิตยืกว่าๆๆแฟนบอกว่าเค้าออกจากงานแล้วนะและเก็บของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วเค้าบอกว่าจะมาอยู่กับฉันด้วยเค้าไม่ไหวแล้วเหมือนกันเค้าท้อไม่มีฉันเค้าบอกว่าเค้าอยู่ไม่ได้และแล้วเราก็ได้อยู่ด้วยกันอีกและฉันก็ได้ทำงานเค้าก็ได้ทำงานอยู่อย่างสบายใจ (แต่หนี้เราก็ยังคงจ่ายให้เค้าอยู่เหมือนเดิม)พอผ่านไปอีกสักพักชีวิตเราก้ดีขึ้นแต่แล้วอุปสรรคก็เข้ามาอีกมาพบเจอพี่น้องเค้าอีกเรื่องต่างๆๆนานาก็ตามมาไม่หยุดหย่อนแต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากต่างคนต่างอยู่กันไป และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ว่าฉันทำงานอยู่ได้ประมาณปีกว่าฉันไม่สบายก็เลยออกจากงานอีกแฟนก็ทำงานคนเดียวเหมือนเดิมและไม่นานเท่าไรคนที่เค้ายืมเงินเราไปตอนแรกนั้นแหละเค้าโทมาบอกว่าเค้าจะมาหางานทำที่นี่ด้วยแฟนบอกว่าแล้วแต่ถ้ามาก็มา และแล้วเค้าก็มามาไม่เปล่านะบอกว่าขอยืมเงิน5000บาทเพื่อจะค่าเดินทางค่าขนส่งของ(ทั้งๆๆที่เป็นเรื่องของเขาแต่แฟนก็สงสารอีกให้อีก)พอมาถึงก็มาเช่าห้องข้างๆๆเรา พอเราย้ายก็ย้ายตามเรา(สงสัยว่าเค้าคงเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราหนีกันไม่พ้น)จนมาอยู่ที่ปัจจุบันก็มาอยู่ติดกะเราเหมือนเดิมเวลามีปัญหาอะไรก็มาพึ่งเราตลอดเราก้ช่วยตลอดแต่ส่วนเงินที่ยืมไปจนถึงวันนี้เราก็ไม่ได้สักบาทนึงวันก่อนแฟนฝากซื้อของในราคา 60บาทแฟนบอกว่าซื้อมาก่อนเด๋วให้ตังแต่ว่าแฟนก็ลืมให้จนเค้าทวง แล้วเราก็พูดว่าทำไมตอนเค้าติดเราเค้าไม่มีจิตใต้สำนึกที่จะให้บ้างละทีของเค้าแค่60บาททวงแล้วของเราละตังเป้นหมื่นเราไม่เคยทวง ถ้าเป็นไปได้ฉันไม่อยากพบเจอพวกคนเหล่านี้แล้วเรามีค่าตอนเค้าลำบากแต่เวลาเค้าสุขสบายไม่เคยเห็นหัวเราเลย(รู้สึกน้อยใจแต่ทำอะไรไม่ได้)ตอนนี้ฉันก้ดีใจกับเค้านะเค้าได้ทำงานดีๆๆแต่ฉันนี่ซิตกงานไม่ซ้ำยังเป็นขี้ปากเค้าอีกไม่รู้จะจองเวรจองกรรมกันไปถึงไหนทั้งๆๆที่ฉันก็ยินดีกับเค้านะไม่ได้อิจฉาอะไรเค้าเลยดีใจด้วยซ้ำกับเค้า ส่วนฉันกับแฟนเราก็ยังอยู่ด้วยกันยังคบกันต่อไปเพราะเราไม่ได้มีอะไรผิดใจกันหรือมีปัญหาต่อกันและเราก็ยิ่งรักเค้ามากขึ้นเค้าเข้าใจความรู้สึกของเราแต่เขาไม่มีทางเลือกเพราะต้องทำงานเขาเลยต้องทนอยู่กับพี่น้องของเขาและสภาพเดิมๆๆ
ถ้าคุณเป็นฉันคุณจะรู้สึกยังไงและจะทำยังไงต่อไปคิดจะอยู่ที่นี่ต่อหรือว่าจะไปขอความคิดเห็นหน่อยนะค่ะ อาจจะวกวนสับสนเพราะตอนนี้ฉันสับสนมากมายค่ะฉันอยากไปจากที่นี่แต่ก็แฟนอีกไม่รู้จะทำไง #เราทั้งสองรักกันมากแต่มีอุปสรรคคือฉันไม่อยากอยู่ใกล้ๆๆพี่น้องเขาเพราะแต่ละคนเห็นแก่ตัวและผลประโยชน์ของตัวเองกันทั้งนั้น