พันแสงรัก
ความรัก... ให้แสงสว่างกระจ่างใจ
ขออย่า... ปล่อยให้ความเกลียดชัง
มาบังแสงแห่งความรัก
ขอให้... พันแสงรัก... ส่องสว่าง
ร้อยรัดสองหัวใจให้เคียงคู่
ตอนที่ ๔ แสงแห่งความหวัง
“อ้าว คุณพ่อยังไม่ลงมาอีกหรือ”
พี่ชายที่ส่งเสียงถามตั้งแต่ยังเดินเข้ามาไม่ถึงโต๊ะอาหาร ทำให้สายาห์เงยหน้าขึ้นมองตอบด้วยน้ำเสียงกังวลอย่างที่น้อยครั้งจึงจะเป็น
“เห็นฟารินให้คนลงมาบอกว่า วันนี้ท่านตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย ขอพักผ่อนต่ออีกสักครู่ ประเดี๋ยวจะลงมาค่ะ”
บุตรชายคนเดียวของพลเอกเส่งกาขมวดคิ้วทันทีที่น้องสาวพูดจบ มือที่ติดกระดุมปลายแขนเสื้อไม่ค่อยถนัดนักเพราะยังเจ็บแผลชะงัก
สองสามเดือนมานี้รู้สึกว่าอาการป่วยของคุณพ่อออดแอดลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้จะเคยยิ่งใหญ่เพียงไร แต่ในที่สุดมนุษย์ก็ย่อมพ่ายแพ้ให้แก่กาลเวลาที่ล่วงเลย และสังขารที่มีแต่จะทรุดโทรมลงเมื่อเข้าสู่วัยชรา ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่เคยประกาศิตทุกสิ่งได้ในการ์เมียนพ่อของเขา
“แล้วคุณพี่ล่ะคะ ดีขึ้นแล้วหรือ”
ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับน้องสาว รอประมุขของบ้านมานั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะ คำถามนี้ของสายาห์ทำให้เขาอดนึกถึงผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เขาถูกยิงขึ้นมาไม่ได้...
ป่านนี้เธอจะทำอะไรอยู่หนอ?
“พี่ถูกยิงมาวันนี้เข้าวันที่สี่แล้วนะยายน้อง เกือบหายแล้วล่ะ”
“ดีแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อลงมาท่านจะได้ไม่ผิดสังเกตอะไร”
เมื่อสี่วันก่อน กว่าจะแวะทำแผลที่โรงพยาบาลเสร็จ กลับมาถึงบ้านก็ดึกดื่น คุณพ่อเข้าห้องหลับพักผ่อนไปแล้ว เขาจึงสั่งน้องสาวไว้ว่าไม่ต้องเรียนให้ท่านทราบ เรื่องอะไรที่จะกระทบจิตใจของผู้ป่วยโรคหัวใจในวัยชรา ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากให้คุณพ่อต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย
“นี่ยังดีนะคะ ที่คุณพี่ถูกยิงที่แขนมาแค่นัดเดียวแล้วโชคดีที่ไม่โดนกระดูก ไม่งั้นล่ะแย่เชียว” น้องสาวของเขาเอ่ยเสียงอ่อน
“ฮื่อ... โชคดี” โชคดีที่ผู้หญิงแข็งกร้าวคนนั้นไม่เป็นอะไร
“แล้วรู้หรือยังคะ ว่าเป็นฝีมือใคร”
“พี่ก็กำลังรอผลชันสูตรศพที่พี่เอากลับมาด้วยอยู่ว่าเป็นใคร” ส่วนอีกคนที่หนีไปได้ เขาก็ยังไม่ได้เบาะแสใดๆ ทางสิมขาลเองก็ยังไม่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมอะไรมา
“คุณพ่อมาแล้วค่ะ” สายาห์กระซิบเสียงเบา เป็นเชิงให้หยุดคุยเรื่องที่บิดายังไม่ทราบนี่ไว้ก่อนเมื่อเห็นพยาบาลส่วนตัวพยุงท่านผ่านประตูห้องอาหารเข้ามา ผุดลุกขึ้นไปช่วยพยุงแขนบิดาอีกข้างหนึ่ง ถามอย่างหนักใจเมื่อเห็นสีหน้านายพลเส่งกาถนัด
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ”
จวบจนเมื่อทรุดตัวลงนั่งเรียบร้อยแล้วนั่นล่ะ อดีตประธานาธิบดีของการ์เมียนถึงได้บอกลูกสาว “ธรรมดาของคนแก่แหละลูก พ่อไม่เป็นอะไรหรอก”
ดูเหมือนลูกทั้งสองคนจะไม่เชื่อถือเท่าไหร่ เพราะต่างก็เงยหน้าขึ้นมองพยาบาลประจำตัวของท่านพร้อมกัน ฟารินเลยต้องขยายความ
“พอดีช่วงนี้ท่านขอติดตามข่าวการหาเสียงเลือกตั้งค่อนข้างดึกมาสองสามคืนแล้วน่ะค่ะ เช้าวันนี้เลยอ่อนเพลียนิดหน่อย แต่เท่าที่ดิฉันตรวจดูคร่าวๆ ก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ”
ดวงตาคมปราบละจากพยาบาลสาว ใบหน้าค่อยคลายความกังวล “ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรที่เราควบคุมไม่ได้หรอกครับ คุณพ่ออย่าห่วงเลย ถ้ามีอะไรจริงๆ เดี๋ยวผมจะบอกคุณพ่อเอง”
นายพลเส่งกาในวัยชราที่มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัวถอนหายใจยาวหนักหน่วง ส่ายีสะท้อนใจ เขารู้... ตั้งแต่ตโมนุทถูกไอ้ไศลจับตัวไป พ่อของเขาไม่เคยยิ้มอย่างแจ่มใสอีกเลย ถึงแม้ว่าอีกไม่ถึงสองเดือน คนทั้งคู่จะแต่งงานกัน แต่ท่านก็ยังคิดเสมอว่า ไศลแต่งงานกับลูกสาวตนเองเพื่อผลทางการเมือง
เพราะถึงแม้อาจจะบีบการ์เมียนเรื่องสนธิสัญญาหยุดยิงไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การมีลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีไว้เป็นตัวประกันในสิมขาล ก็ย่อมเป็นหลักประกันได้ว่าอย่างน้อยการ์เมียนก็ไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามรุนแรงกับสิมขาลลงไปแน่... ถ้าไม่กลัวว่าตโมนุทจะถูกฆ่าทิ้งล่ะก็
“ส่ายี... ลูกจำเอาไว้ว่า อำนาจจะเป็นของผู้ที่เข้มแข็งกว่า เด็ดขาดกว่า และรวดเร็วกว่า ผู้ที่อ่อนแอถึงแม้จะได้อำนาจมา แต่ก็รักษาไว้ได้ไม่นาน ตอนนี้คลื่นใต้น้ำมันมากเหลือเกินลูก อย่าปล่อยให้คลื่นที่มองไม่เห็นพวกนี้มาทำให้ผิวน้ำกระเพื่อมได้”
คราวนี้กลายเป็นเขาบ้างที่หนักใจ แน่นอนว่าเขาเองก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกระเพื่อมใต้ผิวน้ำที่จะทำให้นาวาแห่งอำนาจของเขามีปัญหา มันเริ่มตั้งแต่การที่มีข่าวลวงออกมาว่าตโมนุทโดนไอ้ไศลฆ่าตายมาแล้ว แถมยังมีกลุ่มคนลึกลับที่ลอบยิงถล่มเขาที่ท่าเรือโฮม่า และล่าสุดเมื่อสี่วันก่อน... เขาถูกลอบยิง
จนถึงวันนี้ แม้จะพอรู้ว่ามันเป็นใครที่กล้าเขย่าฐานเก้าอี้ประธานาธิบดีของเขา แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ให้เขาได้พยานหลักฐานที่แน่ชัดเมื่อไหร่เถอะ ถึงเวลานั้น อย่ามาว่าเขาโหดเหี้ยมก็แล้วกัน ตอนนี้ที่ทำได้ คือพูดให้บิดาคลายความกังวลไปก่อน
“คุณพ่อสบายใจได้ครับ เท่าที่ผมให้คนของเราเช็คคะแนนเสียงในพื้นที่ตอนนี้ เรายังมีคะแนนนำอยู่”
“ที่พ่อห่วง ไม่ใช่กลัวว่าลูกจะแพ้เลือกตั้งหรอกลูก แต่พ่อกลัวคนที่มันไม่เล่นกันซึ่งๆ หน้าต่างหาก”
น้ำเสียงของเส่งกามีรอยเหน็ดเหนื่อย วันเวลาที่อยู่ในอำนาจมายาวนาน สอนให้เขาเรียนรู้ ศัตรูที่ชอบลอบกัดมักยืนอยู่ในที่มืดเสมอ กว่าจะรู้ตัวมันก็มักจะเข้ามาประชิดตัว หายใจรดต้นคออยู่ประชิดติดแผ่นหลังเสียแล้ว
ส่ายีลอบผ่อนลมหายใจ แอบสบตารู้กันกับน้องสาวแวบหนึ่ง วันนี้เขาจงใจสวมเสื้อเชิ้ตเนื้อหนาสีเทาเข้มจนเกือบดำตัวใหญ่กว่าไซส์ปกติที่เคยสวม เพื่อให้ยากที่จะสังเกตเห็นผ้าพันแผลที่ต้นแขน ยิ้มตอบสีหน้าห่วงใยของบิดา
“ผมจะพยายามระวังตัวให้มากที่สุด พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ”
“อนาคตของประเทศจะเป็นยังไง ทัศนคติของผู้นำจะเป็นตัวบ่งชี้ พ่อก็ได้แต่หวังว่าการ์เมียนจะได้ผู้นำเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะพัฒนาประเทศได้อย่างจริงจังเสียที” อย่าให้ติดอยู่ในหล่มของสงครามจนบ้านเมืองล้าหลังไม่ไปไหนเสียทีอย่างในช่วงยุคสมัยที่ผ่านมาเลย
“ผมก็หวังไว้อย่างนั้นครับพ่อ การ์เมียนถึงเวลาที่ควรจะต้องปฏิรูปในทุกๆ ด้านเสียที เริ่มที่การปกครองนี่ก่อน”
บ้านนี้เมืองนี้ถูกปกครองภายใต้ร่มเงาท็อปบูทของทหารมายาวนาน การจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศคราวนี้จึงนับเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของการ์เมียนในรอบยี่สิบปีสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งส่ายีและรัฐบาลชุดของพ่อพยายามผลักดันจนได้รับการประกาศใช้ตามผลการลงประชามติเมื่อเกือบสองปีที่ผ่านมาเพื่อเลือกผู้แทนประชาชนมาทำหน้าที่ในการสร้างชาติให้ทันสมัยและปูทางไปสู่การสร้างประชาธิปไตยให้เต็มใบตามลำดับ
“พ่อก็ขอให้ทุกอย่างราบรื่นอย่างที่ลูกตั้งใจนะส่ายี”
“ขอบคุณครับคุณพ่อ เมื่อถึงเวลานั้น โครงการเมกะโปรเจ็คท์จะได้เดินหน้าต่อเสียที” ดวงตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและคาดหวังของคนรุ่นใหม่ที่ไฟยังแรง
ในระยะต่อไปการ์เมียนจะเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนจากต่างชาติ เมกะโปรเจ็คท์ที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่วินนายเป็นตัวขับเคลื่อนถูกบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหมดแล้วทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ต่อให้เขาไม่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี โครงการนี้ก็ไม่มีทางล้มไปเด็ดขาด
การปฎิรูปการเมืองอย่างเป็นรูปธรรมควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบเศรษฐกิจให้มีความเป็นสากล นับเป็นก้าวย่างสำคัญที่จะเปิดประเทศสู่สังคมโลก การเปิดประตูทางเศรษฐกิจครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสในการขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ กับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ถ้าการเมืองมั่นคง เศรษฐกิจก็พุ่ง นักลงทุนที่ไหนก็อยากเข้ามาลงทุนในประเทศที่มีแรงงานพร้อม มีเมืองท่าขนส่ง จะขาดก็แต่...
ส่ายีว้าวุ่นใจเมื่อคิดมาถึงตรงนี้
ฟังดูเหมือนจะเป็นการจับเสือมือเปล่า โครงการเมกะโปรเจ็คท์ของเขาต้องดึงทุนจากต่างชาติทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมทุนเพราะในการ์เมียนเองยังขาดทั้งเงินทุนและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ ทั้งด้านการโทรคมนาคม การขนส่ง
ส่วนทรัพยากรสำคัญที่จะนำมาเป็นปัจจัยการผลิต การ์เมียนยังมีไม่มากพอที่สามารถจะนำมาพัฒนาประเทศในอนาคตได้อย่างที่ตั้งใจ เขาจะทำอย่างไรในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการมันกลับมีอยู่อย่างมหาศาลในดินแดนคู่สงครามผู้ไม่เคยยอมสิโรราบให้... สิมขาล
ดวงหน้าสวยติดตาตรึงใจของสตรีผู้หนึ่งพลันกระจ่างขึ้นในความทรงจำ แม้จะพบกันเพียงแค่สองครั้ง แต่เขากลับจดจำผู้หญิงคนนั้นได้แจ่มชัด แววตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังของผู้ดูแลกระเป๋าเงินของสิมขาลสลักลึกแนบแน่นอยู่ในหัวใจ
‘เราต้องได้พบกันอีกแน่... คุณอันนา’
พันแสงรัก (ภาคต่อภูพันแสง) ตอนที่ ๔ แสงแห่งความหวัง
ขออย่า... ปล่อยให้ความเกลียดชัง
มาบังแสงแห่งความรัก
ขอให้... พันแสงรัก... ส่องสว่าง
ร้อยรัดสองหัวใจให้เคียงคู่
“อ้าว คุณพ่อยังไม่ลงมาอีกหรือ”
พี่ชายที่ส่งเสียงถามตั้งแต่ยังเดินเข้ามาไม่ถึงโต๊ะอาหาร ทำให้สายาห์เงยหน้าขึ้นมองตอบด้วยน้ำเสียงกังวลอย่างที่น้อยครั้งจึงจะเป็น
“เห็นฟารินให้คนลงมาบอกว่า วันนี้ท่านตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย ขอพักผ่อนต่ออีกสักครู่ ประเดี๋ยวจะลงมาค่ะ”
บุตรชายคนเดียวของพลเอกเส่งกาขมวดคิ้วทันทีที่น้องสาวพูดจบ มือที่ติดกระดุมปลายแขนเสื้อไม่ค่อยถนัดนักเพราะยังเจ็บแผลชะงัก
สองสามเดือนมานี้รู้สึกว่าอาการป่วยของคุณพ่อออดแอดลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้จะเคยยิ่งใหญ่เพียงไร แต่ในที่สุดมนุษย์ก็ย่อมพ่ายแพ้ให้แก่กาลเวลาที่ล่วงเลย และสังขารที่มีแต่จะทรุดโทรมลงเมื่อเข้าสู่วัยชรา ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่เคยประกาศิตทุกสิ่งได้ในการ์เมียนพ่อของเขา
“แล้วคุณพี่ล่ะคะ ดีขึ้นแล้วหรือ”
ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับน้องสาว รอประมุขของบ้านมานั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะ คำถามนี้ของสายาห์ทำให้เขาอดนึกถึงผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เขาถูกยิงขึ้นมาไม่ได้...
ป่านนี้เธอจะทำอะไรอยู่หนอ?
“พี่ถูกยิงมาวันนี้เข้าวันที่สี่แล้วนะยายน้อง เกือบหายแล้วล่ะ”
“ดีแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อลงมาท่านจะได้ไม่ผิดสังเกตอะไร”
เมื่อสี่วันก่อน กว่าจะแวะทำแผลที่โรงพยาบาลเสร็จ กลับมาถึงบ้านก็ดึกดื่น คุณพ่อเข้าห้องหลับพักผ่อนไปแล้ว เขาจึงสั่งน้องสาวไว้ว่าไม่ต้องเรียนให้ท่านทราบ เรื่องอะไรที่จะกระทบจิตใจของผู้ป่วยโรคหัวใจในวัยชรา ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากให้คุณพ่อต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย
“นี่ยังดีนะคะ ที่คุณพี่ถูกยิงที่แขนมาแค่นัดเดียวแล้วโชคดีที่ไม่โดนกระดูก ไม่งั้นล่ะแย่เชียว” น้องสาวของเขาเอ่ยเสียงอ่อน
“ฮื่อ... โชคดี” โชคดีที่ผู้หญิงแข็งกร้าวคนนั้นไม่เป็นอะไร
“แล้วรู้หรือยังคะ ว่าเป็นฝีมือใคร”
“พี่ก็กำลังรอผลชันสูตรศพที่พี่เอากลับมาด้วยอยู่ว่าเป็นใคร” ส่วนอีกคนที่หนีไปได้ เขาก็ยังไม่ได้เบาะแสใดๆ ทางสิมขาลเองก็ยังไม่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมอะไรมา
“คุณพ่อมาแล้วค่ะ” สายาห์กระซิบเสียงเบา เป็นเชิงให้หยุดคุยเรื่องที่บิดายังไม่ทราบนี่ไว้ก่อนเมื่อเห็นพยาบาลส่วนตัวพยุงท่านผ่านประตูห้องอาหารเข้ามา ผุดลุกขึ้นไปช่วยพยุงแขนบิดาอีกข้างหนึ่ง ถามอย่างหนักใจเมื่อเห็นสีหน้านายพลเส่งกาถนัด
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ”
จวบจนเมื่อทรุดตัวลงนั่งเรียบร้อยแล้วนั่นล่ะ อดีตประธานาธิบดีของการ์เมียนถึงได้บอกลูกสาว “ธรรมดาของคนแก่แหละลูก พ่อไม่เป็นอะไรหรอก”
ดูเหมือนลูกทั้งสองคนจะไม่เชื่อถือเท่าไหร่ เพราะต่างก็เงยหน้าขึ้นมองพยาบาลประจำตัวของท่านพร้อมกัน ฟารินเลยต้องขยายความ
“พอดีช่วงนี้ท่านขอติดตามข่าวการหาเสียงเลือกตั้งค่อนข้างดึกมาสองสามคืนแล้วน่ะค่ะ เช้าวันนี้เลยอ่อนเพลียนิดหน่อย แต่เท่าที่ดิฉันตรวจดูคร่าวๆ ก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ”
ดวงตาคมปราบละจากพยาบาลสาว ใบหน้าค่อยคลายความกังวล “ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรที่เราควบคุมไม่ได้หรอกครับ คุณพ่ออย่าห่วงเลย ถ้ามีอะไรจริงๆ เดี๋ยวผมจะบอกคุณพ่อเอง”
นายพลเส่งกาในวัยชราที่มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัวถอนหายใจยาวหนักหน่วง ส่ายีสะท้อนใจ เขารู้... ตั้งแต่ตโมนุทถูกไอ้ไศลจับตัวไป พ่อของเขาไม่เคยยิ้มอย่างแจ่มใสอีกเลย ถึงแม้ว่าอีกไม่ถึงสองเดือน คนทั้งคู่จะแต่งงานกัน แต่ท่านก็ยังคิดเสมอว่า ไศลแต่งงานกับลูกสาวตนเองเพื่อผลทางการเมือง
เพราะถึงแม้อาจจะบีบการ์เมียนเรื่องสนธิสัญญาหยุดยิงไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การมีลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีไว้เป็นตัวประกันในสิมขาล ก็ย่อมเป็นหลักประกันได้ว่าอย่างน้อยการ์เมียนก็ไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามรุนแรงกับสิมขาลลงไปแน่... ถ้าไม่กลัวว่าตโมนุทจะถูกฆ่าทิ้งล่ะก็
“ส่ายี... ลูกจำเอาไว้ว่า อำนาจจะเป็นของผู้ที่เข้มแข็งกว่า เด็ดขาดกว่า และรวดเร็วกว่า ผู้ที่อ่อนแอถึงแม้จะได้อำนาจมา แต่ก็รักษาไว้ได้ไม่นาน ตอนนี้คลื่นใต้น้ำมันมากเหลือเกินลูก อย่าปล่อยให้คลื่นที่มองไม่เห็นพวกนี้มาทำให้ผิวน้ำกระเพื่อมได้”
คราวนี้กลายเป็นเขาบ้างที่หนักใจ แน่นอนว่าเขาเองก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกระเพื่อมใต้ผิวน้ำที่จะทำให้นาวาแห่งอำนาจของเขามีปัญหา มันเริ่มตั้งแต่การที่มีข่าวลวงออกมาว่าตโมนุทโดนไอ้ไศลฆ่าตายมาแล้ว แถมยังมีกลุ่มคนลึกลับที่ลอบยิงถล่มเขาที่ท่าเรือโฮม่า และล่าสุดเมื่อสี่วันก่อน... เขาถูกลอบยิง
จนถึงวันนี้ แม้จะพอรู้ว่ามันเป็นใครที่กล้าเขย่าฐานเก้าอี้ประธานาธิบดีของเขา แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ให้เขาได้พยานหลักฐานที่แน่ชัดเมื่อไหร่เถอะ ถึงเวลานั้น อย่ามาว่าเขาโหดเหี้ยมก็แล้วกัน ตอนนี้ที่ทำได้ คือพูดให้บิดาคลายความกังวลไปก่อน
“คุณพ่อสบายใจได้ครับ เท่าที่ผมให้คนของเราเช็คคะแนนเสียงในพื้นที่ตอนนี้ เรายังมีคะแนนนำอยู่”
“ที่พ่อห่วง ไม่ใช่กลัวว่าลูกจะแพ้เลือกตั้งหรอกลูก แต่พ่อกลัวคนที่มันไม่เล่นกันซึ่งๆ หน้าต่างหาก”
น้ำเสียงของเส่งกามีรอยเหน็ดเหนื่อย วันเวลาที่อยู่ในอำนาจมายาวนาน สอนให้เขาเรียนรู้ ศัตรูที่ชอบลอบกัดมักยืนอยู่ในที่มืดเสมอ กว่าจะรู้ตัวมันก็มักจะเข้ามาประชิดตัว หายใจรดต้นคออยู่ประชิดติดแผ่นหลังเสียแล้ว
ส่ายีลอบผ่อนลมหายใจ แอบสบตารู้กันกับน้องสาวแวบหนึ่ง วันนี้เขาจงใจสวมเสื้อเชิ้ตเนื้อหนาสีเทาเข้มจนเกือบดำตัวใหญ่กว่าไซส์ปกติที่เคยสวม เพื่อให้ยากที่จะสังเกตเห็นผ้าพันแผลที่ต้นแขน ยิ้มตอบสีหน้าห่วงใยของบิดา
“ผมจะพยายามระวังตัวให้มากที่สุด พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ”
“อนาคตของประเทศจะเป็นยังไง ทัศนคติของผู้นำจะเป็นตัวบ่งชี้ พ่อก็ได้แต่หวังว่าการ์เมียนจะได้ผู้นำเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะพัฒนาประเทศได้อย่างจริงจังเสียที” อย่าให้ติดอยู่ในหล่มของสงครามจนบ้านเมืองล้าหลังไม่ไปไหนเสียทีอย่างในช่วงยุคสมัยที่ผ่านมาเลย
“ผมก็หวังไว้อย่างนั้นครับพ่อ การ์เมียนถึงเวลาที่ควรจะต้องปฏิรูปในทุกๆ ด้านเสียที เริ่มที่การปกครองนี่ก่อน”
บ้านนี้เมืองนี้ถูกปกครองภายใต้ร่มเงาท็อปบูทของทหารมายาวนาน การจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศคราวนี้จึงนับเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของการ์เมียนในรอบยี่สิบปีสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งส่ายีและรัฐบาลชุดของพ่อพยายามผลักดันจนได้รับการประกาศใช้ตามผลการลงประชามติเมื่อเกือบสองปีที่ผ่านมาเพื่อเลือกผู้แทนประชาชนมาทำหน้าที่ในการสร้างชาติให้ทันสมัยและปูทางไปสู่การสร้างประชาธิปไตยให้เต็มใบตามลำดับ
“พ่อก็ขอให้ทุกอย่างราบรื่นอย่างที่ลูกตั้งใจนะส่ายี”
“ขอบคุณครับคุณพ่อ เมื่อถึงเวลานั้น โครงการเมกะโปรเจ็คท์จะได้เดินหน้าต่อเสียที” ดวงตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและคาดหวังของคนรุ่นใหม่ที่ไฟยังแรง
ในระยะต่อไปการ์เมียนจะเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนจากต่างชาติ เมกะโปรเจ็คท์ที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่วินนายเป็นตัวขับเคลื่อนถูกบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหมดแล้วทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ต่อให้เขาไม่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี โครงการนี้ก็ไม่มีทางล้มไปเด็ดขาด
การปฎิรูปการเมืองอย่างเป็นรูปธรรมควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบเศรษฐกิจให้มีความเป็นสากล นับเป็นก้าวย่างสำคัญที่จะเปิดประเทศสู่สังคมโลก การเปิดประตูทางเศรษฐกิจครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสในการขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ กับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ถ้าการเมืองมั่นคง เศรษฐกิจก็พุ่ง นักลงทุนที่ไหนก็อยากเข้ามาลงทุนในประเทศที่มีแรงงานพร้อม มีเมืองท่าขนส่ง จะขาดก็แต่...
ส่ายีว้าวุ่นใจเมื่อคิดมาถึงตรงนี้
ฟังดูเหมือนจะเป็นการจับเสือมือเปล่า โครงการเมกะโปรเจ็คท์ของเขาต้องดึงทุนจากต่างชาติทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมทุนเพราะในการ์เมียนเองยังขาดทั้งเงินทุนและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ ทั้งด้านการโทรคมนาคม การขนส่ง
ส่วนทรัพยากรสำคัญที่จะนำมาเป็นปัจจัยการผลิต การ์เมียนยังมีไม่มากพอที่สามารถจะนำมาพัฒนาประเทศในอนาคตได้อย่างที่ตั้งใจ เขาจะทำอย่างไรในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการมันกลับมีอยู่อย่างมหาศาลในดินแดนคู่สงครามผู้ไม่เคยยอมสิโรราบให้... สิมขาล
ดวงหน้าสวยติดตาตรึงใจของสตรีผู้หนึ่งพลันกระจ่างขึ้นในความทรงจำ แม้จะพบกันเพียงแค่สองครั้ง แต่เขากลับจดจำผู้หญิงคนนั้นได้แจ่มชัด แววตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังของผู้ดูแลกระเป๋าเงินของสิมขาลสลักลึกแนบแน่นอยู่ในหัวใจ
‘เราต้องได้พบกันอีกแน่... คุณอันนา’