ในฐานะที่นั่งดู The Voice ของทั้งไทย และเมืองนอก ดูบ้าง ไม่ดูบ้างนะครับ ไม่ปะติดปะต่ออะไรเท่าไร
อาทิตย์นี้นั่งอ่านกระทู้มาม่าของคุณพืช คำชี้แจงของโค้ช และ Music Director
ผมมีเรื่องอยากถาม Music Director และทีมงานทุกคนครับ
ข้อ 1 อ้างอิงจากคำชี้แจงของ Music Director นะครับ
"... สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างที่สอง คือ "ความพอดี" ความพอดีนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้รายการนี้สามารถเข้าถึงคนหมู่มากได้ ตอบความต้องการของผู้ผลิต และผู้สนับสนุน ทำให้รายการมีความกลมกล่อม ไม่ดูยากเกินกว่าจะเข้าใจและก็ต้องไม่ดูง่ายหรือตื้นเขินจนเกินไป..."
คำถามผมที่มีต่อทีมงานโดยรวม คือ เวลาที่ผลิตรายการ นอกจากการนำเสนอสินค้าของผู้สนับสนุนแล้ว มีเรื่องอื่นที่ต้องตอบความต้องการของผู้สนับสนุนด้วยไหมครับ ถ้าไม่มี ไม่ว่ากันครับ อาจจะเป็นเรื่องของการ tie in โฆษณา อันนี้เข้าใจได้ แต่ที่อยากรู้คือได้มีการมา influence กับ content และผลการตัดสินหรือไม่ครับ ถ้าตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า"ไม่มี" ผมจะขอบคุณมากครับ
ข้อ 2 อ้างอิงจากวีดีโอที่บอกว่าคุณพืชเป็นคนขอเปลี่ยนคีย์นะครับ
ผมสงสัยว่า หลังจากที่คุณพืชขอเปลี่ยนคีย์ จาก F เป็น G (ที่ผมเข้าใจคือ 2 เสียง) โค้ชตอบว่าอย่างไรครับ ทำไมตัดทิ้ง
คุณพืชเป็นคนขอให้เปลี่ยนจริง แต่การขอให้เปลี่ยนเกิดจากคำแนะนำของโค้ชในเบื้องต้นนะครับ
ตอนเปลี่ยนเป็น F โค้ชถึงกับบอกว่า"ดีขึ้นมากเลย" แล้วหลังจากเปลี่ยนเป็น G ล่ะ Reaction ของโค้ชคืออะไรครับ
แล้วภายหลังคุณพืชขอลดคีย์รึเปล่า อันนี้เป็นเรื่องหลังม่านซึ่งผมไม่ขอกล่าวถึงแล้วกัน
ข้อ 3 ไม่เกี่ยวกับคุณพืช แต่เกี่ยวกับผลของสัปดาห์ก่อน ที่มีทั้งแบมแบม และอิงกริดเข้ารอบ
คนไม่เห็นด้วยเยอะมาก และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่าโค้ชมีคำอธิบายที่ดีพอก่อนจะพูดชื่อคนเข้ารอบออกมา
คำถามที่อยากถามทีมงานตัดต่อคือ ทำไมไม่ตัดออกมา จะเพิ่มช่วงเวลา dead air ให้คนลุ้นผลยาวๆ แล้วจบไปแบบไม่เข้าใจทำไม
แบบนี้ทำให้เสียหายทั้งโค้ช และคนเข้ารอบ ซึ่งสัปดาห์ถัดมาโค้ชคิ้มตัดใจไม่เลือกจิมมี่ ก็โดนคนด่าถล่มทลายเช่นกัน
ถ้าไม่ตั้งใจ หรือมีเวลาที่จำกัด ผมก็เห็นว่าเพิ่มเวลาให้โค้ชอธิบายกว่านี้ ไม่ต้องเพิ่มเวลาให้ลุ้นเยอะขนาดนั้นก็ได้
ถ้าทำไม่ได้จริงๆ โค้ชก็ออกมาอธิบายการตัดสินใจภายหลังได้ เหมือนที่ Christina เคยออกมาอธิบายการตกรอบของ Jesse Campbell
คนก็เข้าใจมากขึ้น และก็ไม่โทษ Christina
แต่ถ้าตั้งใจที่จะตัดต่อไม่ให้มีคำอธิบายของโค้ช ผมเห็นว่ามีแค่ 2 กรณี คือ อยากให้เป็นกระแส เหมือนที่ผมมาพิมพ์ถามอยู่ หรือไม่ก็เหตุผลไม่ดีพอเอง
สุดท้ายนี้ ถ้ามีทีมงานหรือคนที่ทำงานร่วมกับทีมงานผ่านมาเห็นบ้าง ผมฝากอะไรยาวๆ หน่อยครับ (ไม่เกี่ยวอะไรกับคำถามครับ)
ผมเชื่อว่าความตั้งใจของทีมงานมีเต็มที่ และเป็นกำลังใจให้ แต่จุดแข็งของ The Voice ที่ทั้ง AF และ The Star ไม่มีวันมีคือการตัดสินจากเสียงจริงๆ
ซึ่งเป็นเรื่องที่กรรมการสามารถอธิบายให้คนเข้าใจได้ และทำให้คนเห็นภาพได้ไม่ยาก (เหมือนที่คุณตัดภาพพี่ก้องอธิบายว่าเบียร์พลาดตรงไหน แล้วให้โค้ชคิ้มตัดสินว่าบอสชนะนั่นแหละครับ)
แต่สิ่งที่ The Voice ทำมาสามปีแล้ว คือมีคำตัดสินที่ค้านสายตาคนดูอย่างน้อย 1-2 คู่แทบทุกครั้งที่ออกอากาศ โดยที่ไม่มีคำอธิบายที่ดีพอ
แบมแบม และกีต้าร์ก็โดนต่อว่า และคนก็ไม่เข้าใจ โค้ชก็โดนตำหนิ รายการก็เกิดกระแสด้านลบ ผมไม่เห็นมีอะไรดี (เว้นแต่ตั้งใจให้เกิดกระแส)
ผมเองชื่นชอบ The Voice มาก แต่เห็นว่าการไม่อธิบายของโค้ชและรายการ จะนำพา The Voice ไปใกล้ The Star และ AF นะครับ
กล่าวคือ คนทั่วไปไม่ได้ดูมากมาย ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้ติดตาม แต่จะมี fan club กลุ่มหนึ่งที่เหนียวแน่นไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการก็ได้ ไม่แน่ใจ
แต่ที่ผมกลัว คือ The Voice อาจจะนำตัวเองไปสู่จุดที่สุดท้ายไม่มีใครดูเลยแบบ KPN Award
บอกตามตรง ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยครับ
รายการนี้เป็นความหวังของนักร้องนับร้อยนะครับ ที่เขาผิดหวังจากรายการอื่นๆ ที่ดูหน้าตาเป็นหลัก
Music Director บอกว่า "...เราทำได้แค่นี้ครับ ทีมงานไม่สามารถพูดได้ว่าเราสร้างสิ่งที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อยในทุกกระบวนการ เราพูดได้เต็มปากว่า เราทำมันอย่างดีที่สุด ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น Blind , Battle , Knock out, Live ..."
คุณตั้งใจ คุณขายงานได้ มีคนดู Sponsor ซื้อโฆษณา คุณได้เงิน กินอิ่มนอนหลับ และอาจจะเสียใจไปกับคนตกรอบ
แต่คนที่เข้าแข่งขัน แล้วตกรอบ เขาต้องลางานมา เด็กที่ลาเรียนมา เขาเสียงาน เสียการเรียน
คุณทำอะไรให้เขาได้บ้าง นอกจากเสียใจ (อาจจะดูแรง แต่มันเป็นความจริง)
อยากให้ทีมงานถามตัวเองด้วยว่านักร้องร้องเพลงไม่ได้มาตรฐาน เพราะกระบวนการทำงานของคุณรึเปล่า (ผมอ้างอิงจาก status ของคุณไอนัทว่าต้องรอทั้งวัน และทำให้หลายคนร้องได้ไม่เต็มที่)
สาเหตุอาจไม่ใช่นักดนตรี อาจเป็นฝ่ายอื่นๆ ในทีมงานรึเปล่า ขอให้ตรองดูครับ
สุดท้ายจริงๆ ผมหวังว่าจะเห็นโชว์ที่สมศักดิ์ศรีของ 16 คนสุดท้ายของ The Voice Thailand นะครับ
และเป็นกำลังใจให้ทีมงานพัฒนาการทำงานต่อไปครับ ขอบคุณครับ
คำถาม 3 ข้อที่อยากถามทีมงาน The Voice
อาทิตย์นี้นั่งอ่านกระทู้มาม่าของคุณพืช คำชี้แจงของโค้ช และ Music Director
ผมมีเรื่องอยากถาม Music Director และทีมงานทุกคนครับ
ข้อ 1 อ้างอิงจากคำชี้แจงของ Music Director นะครับ
"... สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างที่สอง คือ "ความพอดี" ความพอดีนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้รายการนี้สามารถเข้าถึงคนหมู่มากได้ ตอบความต้องการของผู้ผลิต และผู้สนับสนุน ทำให้รายการมีความกลมกล่อม ไม่ดูยากเกินกว่าจะเข้าใจและก็ต้องไม่ดูง่ายหรือตื้นเขินจนเกินไป..."
คำถามผมที่มีต่อทีมงานโดยรวม คือ เวลาที่ผลิตรายการ นอกจากการนำเสนอสินค้าของผู้สนับสนุนแล้ว มีเรื่องอื่นที่ต้องตอบความต้องการของผู้สนับสนุนด้วยไหมครับ ถ้าไม่มี ไม่ว่ากันครับ อาจจะเป็นเรื่องของการ tie in โฆษณา อันนี้เข้าใจได้ แต่ที่อยากรู้คือได้มีการมา influence กับ content และผลการตัดสินหรือไม่ครับ ถ้าตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า"ไม่มี" ผมจะขอบคุณมากครับ
ข้อ 2 อ้างอิงจากวีดีโอที่บอกว่าคุณพืชเป็นคนขอเปลี่ยนคีย์นะครับ
ผมสงสัยว่า หลังจากที่คุณพืชขอเปลี่ยนคีย์ จาก F เป็น G (ที่ผมเข้าใจคือ 2 เสียง) โค้ชตอบว่าอย่างไรครับ ทำไมตัดทิ้ง
คุณพืชเป็นคนขอให้เปลี่ยนจริง แต่การขอให้เปลี่ยนเกิดจากคำแนะนำของโค้ชในเบื้องต้นนะครับ
ตอนเปลี่ยนเป็น F โค้ชถึงกับบอกว่า"ดีขึ้นมากเลย" แล้วหลังจากเปลี่ยนเป็น G ล่ะ Reaction ของโค้ชคืออะไรครับ
แล้วภายหลังคุณพืชขอลดคีย์รึเปล่า อันนี้เป็นเรื่องหลังม่านซึ่งผมไม่ขอกล่าวถึงแล้วกัน
ข้อ 3 ไม่เกี่ยวกับคุณพืช แต่เกี่ยวกับผลของสัปดาห์ก่อน ที่มีทั้งแบมแบม และอิงกริดเข้ารอบ
คนไม่เห็นด้วยเยอะมาก และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่าโค้ชมีคำอธิบายที่ดีพอก่อนจะพูดชื่อคนเข้ารอบออกมา
คำถามที่อยากถามทีมงานตัดต่อคือ ทำไมไม่ตัดออกมา จะเพิ่มช่วงเวลา dead air ให้คนลุ้นผลยาวๆ แล้วจบไปแบบไม่เข้าใจทำไม
แบบนี้ทำให้เสียหายทั้งโค้ช และคนเข้ารอบ ซึ่งสัปดาห์ถัดมาโค้ชคิ้มตัดใจไม่เลือกจิมมี่ ก็โดนคนด่าถล่มทลายเช่นกัน
ถ้าไม่ตั้งใจ หรือมีเวลาที่จำกัด ผมก็เห็นว่าเพิ่มเวลาให้โค้ชอธิบายกว่านี้ ไม่ต้องเพิ่มเวลาให้ลุ้นเยอะขนาดนั้นก็ได้
ถ้าทำไม่ได้จริงๆ โค้ชก็ออกมาอธิบายการตัดสินใจภายหลังได้ เหมือนที่ Christina เคยออกมาอธิบายการตกรอบของ Jesse Campbell
คนก็เข้าใจมากขึ้น และก็ไม่โทษ Christina
แต่ถ้าตั้งใจที่จะตัดต่อไม่ให้มีคำอธิบายของโค้ช ผมเห็นว่ามีแค่ 2 กรณี คือ อยากให้เป็นกระแส เหมือนที่ผมมาพิมพ์ถามอยู่ หรือไม่ก็เหตุผลไม่ดีพอเอง
สุดท้ายนี้ ถ้ามีทีมงานหรือคนที่ทำงานร่วมกับทีมงานผ่านมาเห็นบ้าง ผมฝากอะไรยาวๆ หน่อยครับ (ไม่เกี่ยวอะไรกับคำถามครับ)
ผมเชื่อว่าความตั้งใจของทีมงานมีเต็มที่ และเป็นกำลังใจให้ แต่จุดแข็งของ The Voice ที่ทั้ง AF และ The Star ไม่มีวันมีคือการตัดสินจากเสียงจริงๆ
ซึ่งเป็นเรื่องที่กรรมการสามารถอธิบายให้คนเข้าใจได้ และทำให้คนเห็นภาพได้ไม่ยาก (เหมือนที่คุณตัดภาพพี่ก้องอธิบายว่าเบียร์พลาดตรงไหน แล้วให้โค้ชคิ้มตัดสินว่าบอสชนะนั่นแหละครับ)
แต่สิ่งที่ The Voice ทำมาสามปีแล้ว คือมีคำตัดสินที่ค้านสายตาคนดูอย่างน้อย 1-2 คู่แทบทุกครั้งที่ออกอากาศ โดยที่ไม่มีคำอธิบายที่ดีพอ
แบมแบม และกีต้าร์ก็โดนต่อว่า และคนก็ไม่เข้าใจ โค้ชก็โดนตำหนิ รายการก็เกิดกระแสด้านลบ ผมไม่เห็นมีอะไรดี (เว้นแต่ตั้งใจให้เกิดกระแส)
ผมเองชื่นชอบ The Voice มาก แต่เห็นว่าการไม่อธิบายของโค้ชและรายการ จะนำพา The Voice ไปใกล้ The Star และ AF นะครับ
กล่าวคือ คนทั่วไปไม่ได้ดูมากมาย ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้ติดตาม แต่จะมี fan club กลุ่มหนึ่งที่เหนียวแน่นไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการก็ได้ ไม่แน่ใจ
แต่ที่ผมกลัว คือ The Voice อาจจะนำตัวเองไปสู่จุดที่สุดท้ายไม่มีใครดูเลยแบบ KPN Award
บอกตามตรง ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยครับ
รายการนี้เป็นความหวังของนักร้องนับร้อยนะครับ ที่เขาผิดหวังจากรายการอื่นๆ ที่ดูหน้าตาเป็นหลัก
Music Director บอกว่า "...เราทำได้แค่นี้ครับ ทีมงานไม่สามารถพูดได้ว่าเราสร้างสิ่งที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อยในทุกกระบวนการ เราพูดได้เต็มปากว่า เราทำมันอย่างดีที่สุด ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น Blind , Battle , Knock out, Live ..."
คุณตั้งใจ คุณขายงานได้ มีคนดู Sponsor ซื้อโฆษณา คุณได้เงิน กินอิ่มนอนหลับ และอาจจะเสียใจไปกับคนตกรอบ
แต่คนที่เข้าแข่งขัน แล้วตกรอบ เขาต้องลางานมา เด็กที่ลาเรียนมา เขาเสียงาน เสียการเรียน
คุณทำอะไรให้เขาได้บ้าง นอกจากเสียใจ (อาจจะดูแรง แต่มันเป็นความจริง)
อยากให้ทีมงานถามตัวเองด้วยว่านักร้องร้องเพลงไม่ได้มาตรฐาน เพราะกระบวนการทำงานของคุณรึเปล่า (ผมอ้างอิงจาก status ของคุณไอนัทว่าต้องรอทั้งวัน และทำให้หลายคนร้องได้ไม่เต็มที่)
สาเหตุอาจไม่ใช่นักดนตรี อาจเป็นฝ่ายอื่นๆ ในทีมงานรึเปล่า ขอให้ตรองดูครับ
สุดท้ายจริงๆ ผมหวังว่าจะเห็นโชว์ที่สมศักดิ์ศรีของ 16 คนสุดท้ายของ The Voice Thailand นะครับ
และเป็นกำลังใจให้ทีมงานพัฒนาการทำงานต่อไปครับ ขอบคุณครับ