ว่าด้วยเรื่อง " แฉ !! ประสบการณ์จริงจากคนใกล้ตัวที่สุดจะ

จนคนรอบข้างต่างพากันเอือมระอา " จนเป็นที่มาของคำถาม
คำถามน้ะค้ะ อยากจะทราบว่า
1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเค้าไม่เคร่งเรื่องชุดนักศึกษาหรอค่ะ ?
2. สามารถใส่ชุดนอกมาเรียนได้ด้วยหรอคะ ?
3. แล้วนิสิตจุฬาไม่ต้องใส่เข็มขัดหรือไม่ติดเข็ม ไม่ใส่เนคไทเข้าเรียนได้ด้วยหรอค่ะ ?
( อาจมีคำหยาบต้องขออภัยในที่นี้ด้วยน้ะค้ะ )
เนื่องด้วยประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ตรงของเอเอง ( ขอเรียกแทนตัวเองว่า "เอ" ละกันนะค่ะ )
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวของเอเองและรวมถึงเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ โรงเรียนในสมัยมัธยมต้น และมัธยมปลาย
และมหาวิทยาลัย ซึ่งเอและเพื่อน ๆ ต่างโดนอีตุ๊ดหลอกจนหูพรุน !!! ( อุ๊บ !! เจ้าของกระทู้ขออนุญาติเรียกบุคคลที่ จขกท.กำลังกล่าวถึงว่า อีตุ๊ดล่ะกันนะค่ะเพราะว่า นางเป็นพวก ตุ๊ดแบบไม่เจี้ยมหนังหน้าตัวเองสักเท่าไหร่คิดว่าตัวเองเพอเฟคทุกอริยะบทบนร่างกาย .... ( เรื่องราวต่อไปนี้ไม่ได้พลาดผิงถึงผู้อื่นน้ะค่ะนอกจากผู้ที่กล่าวถึงในกระทู้ จขกท.เพียงต้องการถามข้อมูลและ แฉ ความเน่าของนาง ให้ชาวโลกได้รับรุ้เท่านั้นค่ะ )
PART 1 สมัยมัธยม
เรื่องนี้เริ่มต้นจากที่ตัวเอเองเริ่มรู้จักนางคนนี้จาก รร. มัธยมแห่งหนึ่งใน จังหวัด ( สป. ) ในตอนที่รุ้จักนางเอเองก็ไม่ได้รู้จักนาง เองโดยตรงหรอกค่ะ
แต่รู้จักนางจากชื่อเสียงและผ่านเพื่อนมาจนได้รู้จักกับนางแต่ก็ไม่ถึงกับสนิทมาก เริ่มถึงวีระกรรมของนางกันเรยละกันน้ะค้ะ
วันจบการเรียนของระดับชั้นม.ปลายมาถึง ซึ่งแต่ละโรงเรียนคงจะมีปลายประกาศว่าใครติด โรงเรียนไหนบ้างที่หย้าห้องแนะแนวใช่ไหมค้ะ
ที่โรงเรียนของเอ เองก็มีค้ะ ซึ่งชื่อของนางติด มหาวิทยาลัยบูรพาค๊าาาาาาาาาาา ซึ่งทุกคนต่างเห็นชื่อของนางบน บอร์ดประกาศ !!
ผ่านไปได้จนถึงเปิดเรียนวันแรก
ตัวเอ เองถามนางว่านางเรียนที่ไหนอยู่ รุ้ไหมค้ะนางตอบว่าอะไร " นางบอกว่านางเรียน จุฬาลงกรณ์ ค๊าาาทุกท่าน มันโอ้วมายก้อด มากใช่ไหมค้ะทุกคนเมื่อได้รุ้ว่าคนใกล้ตัวที่เรารู้จักได้เรียน โรงเรียนดีดี ๆ แสดงว่านาง ต้องเป็นคนที่เรียนเก่งมากใช่ไหมค้ะ และนางยังบอกต่ออีกว่านางเรียนอยู่ 2 ที่ คือ จุฬา และ สวนสุนัน ตอนแรกเอ บอกก่อนเลยว่า เอไม่เชื่อค้ะ ไม่เชื่อย่างแน่นอน เรลยเงียบ ๆ ไปก่อนจนเอ ได้ไปถามรุ่นน้อง และเพื่อน ๆ ของเอ รวมถึงอาจารย์ที่สนิทกับนางหลาย ๆ คน ซึ่งได้คำตอบมาว่า
รุ่นน้องในโรงเรียน : พี่เขาเรียนจุฬา ค้ะพี่เอ พี่เขามาบอกหนุเอง
เพื่อน ๆ ของเอ : มันก็บอกว่ามันเรียนจุฬา ภาคพิเศษวะ
อาจารย์คนที่ 1 : มันบอกเรียนจุฬา จริงหรือป่าวก็ไม่รุ้ไม่มีใครรุ้ด้วยสิ ครุก็ไม่รุ้ว่ามันเรียนจริงหรือเปล่า
อาจารย์คนที่ 2 : โอ้ยอี่นี่

เก่งจะตายไปะเชื่อมัน มันไม่ได้เรียนที่นี่หรอก
ค้ะนี่คือคำตอบที่ เอ ได้ยินมาทั้งหมดซึ้งคนส่วนใหญ่ที่ร็จักกับนาง จะรู้ดีว่านางเป็นคนที่ชอบโกหกและโกหกเก่งมาก
และที่ทุกคนต่างพูดแบบนั้นเป็นเพราะว่า เวลาที่นางไปเรียนนางไม่เคยใส่ชุดตามระเบียบของมหาลัยเรย และไม่เคยใส่ไทของมหาลัย ไม่เคยติดเข็ม บางครั้งนางใส่ชุดนอกไปเรียน และเวลามีเพื่อน ๆ คนไหนไปสยาม นางจะชอบทักมาหาเพื่อน ๆ เสมอว่าเนี่ยฉันก็อยู่สยามเพิ่งเรียนเสร็จมาหาหน่อยสิ ( ซึ่งคนที่ไปหลาย ๆ คนต่างบอกต่อกันว่าทุกครั้งที่ไปสยาม ไม่เคยเหนนางเข้าเรียนเรย ไปทีไรจะเจอนางอยู่แต่ทรูคอฟฟี่ ที่สาขาทรูคอฟฟี่ซอย 2 บางทีนางก็อยู่ที่ทรูคอฟฟี่ ชั้น 3 พารากอน หลาย ๆ คนต่างบอกว่านางเรียนจุฬาจริงหรือเปล่าทำไมเวลาไปไม่เคยเห็นนางมีเรียน หรือไปตรงกับที่นางมีเรียนเรย และนางก็ทำแบบนี้เป็นประ ๆ )
แต่ก็ไม่มีใครพูดให้นางรุ้สึกเสียหน้านะค้ะ เพราะว่ากลัวนางจะเสียใจ รวมถึงตัวเอ เองด้วย 5555' ดูตลกนะค้ะว่าทำไม มาเล่าขนาดนนี้ แต่ตัวเองไม่รุ้จักไปบอกนางเอง ก็ถึงบอกที่ชื่อเรื่องไงค้ะว่า จนคนรอบข้างเอือมระอา แต่ไม่สามารถบอกได้ เพราะทุกคนที่พบเจอต่างประสบ พบเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กันมาแต่ไม่กล้าบอกนางเพราะสนิทกับนาง กลัวจะเสียเพื่อนไป
PART 2 ช่วงมหาลัยปี 1
ถึงตอนนี้นางเริ่มรู้จักคนมากมายแล้วค่ะ และไม่ใช่แค่เพียงรู้จักคนมากมายเท่านั้น !!! นางยังทำให้คนรอบตัว ทุกคน ! ทุกคนน่ะค่ะ ได้ทราบถึงวีรกรรมต่าง ๆ ของนางค้ะ แต่ก็ยังพูดคุยกับนางต่ออยู่เพราะมันยังไม่ถึงขีดสุด....... ค้ะและมาต่อกันเรยน้ะค้ะ ขอเล่าถึงเรื่องส่วนตัวของนางนะค้ะ นางบอกว่าที่บ้านของนาง เปิดคาร์แคร์ล้างรถที่บ้าน เปิดอพาทเม้นท์ให้คนเช่า ซึ่งเป็นเจ้าของ และอยู่บ้านหลังใหญ่ ในช่วงแรก ๆ เอ และคนอื่น ๆ ก็เชื่อนางค้ะ เพระาไม่เคยมีใครได้ไปบ้านของนาง ไม่เคยมีใครได้พบเห็นความเป็นจริง แต่ล่าสุดค้ะ เพื่อน ๆ ของเอ รวมตัวกันไปเที่ยวและได้พูดคุยกันถึงเรื่องของนางกัน และก็โป๊ะแตกค้ะ !!!!!! เพื่อนของเอบอกว่า เคยไปส่งนางที่บ้านเมื่อจอดรถนาง ก็ไม่ยอมเดินเข้าบ้านนะคะ นางเดินไปหาคนที่อยู๋หน้าบ้านเหมือนทำทีท่าว่าจะเข้าไปคุย และเลี่ยงการที่จะเดินเข้าบ้านเพื่อรอให้เพื่อนของเอ ขับรถออกไปก่อน แต่เพื่อนของเอไม่แน่ใจนักว่าใช่บ้านของนางจริงหรือเปล่า แต่ยังมีเพื่อนอีก 1 คนมาบอกว่าบ้านของนางหรอ ไม่นะ นางอยู่ห้องเช่า ชั้นแรกของตึกเลย เอาล้ะสิค่ะคราวนี้ ทุกคนตกใจจนถึงกลับเงียบและมองหน้ากันเรยทีเดียว !!!!!
แล้วก็มาถึงจุดสำคัญที่ทำให้ทุกคนเริ่มจับผิดนางกันมันมีเรื่องอยุ๋ว่า...
คู่กรณีคนที่ 1
ชื่อซี ( ชื่อสมมุติ ) ค่ะซีและนางเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงมหาลัยนางอยู่ด้วยกันค้ะที่หอ ในย่านสาธร นางก็อยู๋ด้วยกันเข้าใจกันดีคะ แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น นางมาเล่าให้คนอื่น ๆ ฟังว่า นางไม่ถูกกับซีแล้ว นางบอกว่าซี ให้นางจ่ายค่าหอคนเดียวทั้ง ๆ ที่อยุ๋ด้วยกันตั้ง 3 คน นางบอกว่านางเลยจ่ายให้เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท และนางก็เก็บข้าวของออกมาไปอยุ๋บ้าน *** แต่ความจริงแล้วคือ นางไม่ยอมจ่ายค่าห้องค้ะอยุ๋ฟรี ไม่มีเงินจ่ายแต่เอาดีเข้าตัวเองและทำให้ซี ดูแย่ในสายตาผู้อื่น ( ความจริงจากคู่กรณีที่เล่าให้หลาย ๆ คนฟังจนมาถึงหูเอฟัง )
คู่กรณีคน 2
ชื่อ ดี ( ชื่อสมมุติ ) ค้ะหลังจากที่นางย้ายกลับไปอยู่บ้านได้ไม่นาน นางก็ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตใน กทม.ย่าน สาธรอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นางได้ย้ายเข้าไปอยู่กับรุ่นน้องชื่อว่า ดี และก็เหมือนเดิมค้ะ อยู่ได้ไม่นานก็เกิดเรื่อง นางบอกว่า นางทนไม่ได้อยู่ไม่ได้ บอกว่าดีชอบเอา ผู้หญิงมา เ_ากันในห้องบ่อย ๆ จนทำให้นางเนี่ยทนไม่ได้ รับไม่ได้ เพราะนางก็แชร์หออยู่กกับดี นางเลยมีปากเสียงทะเลาะกับดีและได้ย้ายออกมาจากที่นั้นอีกครั้ง ***และความจริงจากปากของ ดีค้ะ ดีบอกว่า นางขอมาอยู่ด้วยที่หอพักของดี โดยไม่เสียค่าห้องเพราะนางถือว่านางสนิทกับดีมาก จึงขอพักอยุ่ด้วย แต่นางก็ทำตัวเอนเจ้าของห้องจนดี เองรับไม่ได้จนทะเลาะกันและนางต้องย้ายออก
ก่อนจะถึงคู่กรณีคนที่ 3 นะคะ ขอบอกก่อนเลยว่า นาง ชอบหลอกคนอื่นว่านางมีรวย นางมีเงินเลี้ยงผู้ชาย และที่สำคัญนางชอบโกหกว่าคนอื่นเป็นงานอดิเรกคะ โกหกได้ทุกเรื่องเพื่อให้ตัวนางเองดูดี และไม่ด้อยไปกว่าใคร
คู่กรณีคนที่ 3
ชื่อบี ( ชื่อสมมุติ ) บีเรียนอยู๋ใน กทม.คะแต่บ้านบีอยู่ที่ สป บีเลยอยุ๋หอซึ่งบีเล่าว่า ตอนแรก ก็สนิทกลับนางมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนถึงขั้นให้นางมาพักที่หอด้วยกันแต่แล้วก็มีปัญหาค่ะ เรื่องเดิม ๆ เลยก็ว่าได้ นางมาขอบีแชร์ค่าหอเพื่อจะอยุ่ด้วย บีก็ให้คะเพราะบีสนิทกับนางมาก ก่อนที่เรื่องจะเกิด บีก็เก็บเงินค่าหอจากเพื่อน ๆ ที่แชร์ค่าหอด้วยกันจนครบจนมาถึงนาง ( คนละ 600 บาท ) บีบอกให้นางโอนเงินมาให้ แต่บีไม่รีบเพราะบีบอกว่า มีเมื่อไหร่ค่อยโอนมา แต่ผ่านไปหลายสัปดาห์นางก็ไม่โอนมาค้ะจนบีต้องการใช้เงิน จึงบอกให้นางโอนเงินมา และนางก็โอนค้ะ โอนผ่านระบบมือถือ และส่ง แคปเจอร์ ให้กับบี แต่บีไปเช็คไม่มียอดเงินเข้ามือถือค้ะ บีจึงถามว่าไม่มีเงินเข้ามาแล้วหรอ ดูให้ใหม่หน่อย นางก็ก็บอกว่าโอนแล้ว ๆๆๆๆ แล้วก็ส่งแคปเจอร์การโอนไปอีกครั้ง บี จึงคิดว่า อาจเป็นที่ความผิดพลาดของบีเอง บีจึงไปที่ธนาคารและถามว่า ชื่อนี้ เลขบัญชีนี้โอนเงินมาเข้าบัญชีของบีหรือยัง ซึ่งทางธนาคารบอกว่า ไม่มีหมายเลขบีญชีนี้โอนเข้ามา ( คือธนาคารจะโกหกหรอค้ะว่า ไม่มียอดเงินโอนมา ) บีโมโมโหมาก จนโพสสเตตัสด่านางจน นางเป็นที่อับอายของชาวโซเชี่ยว นางจึงเอาคืนด้วยการโพสขอความเห็นใจจากผู้อื่นว่านางโอนไปแล้วจริง ๆ แต่ก็ไม่มีใครอยากยุ่ง เพราะรู้ว่านิสัยของนางเป็นยังไง
แต่นางก็แพ้นะค้ะครั้งนี้ ยางจึงหาวิธีแก้แค้นโดยการโทรไปหาสำนักงานของหอพักที่บี พักอยู่ว่าห้องของบี มีผู้พักต้องห้องเกินกำหนดของหอ จนบีโดนหอไล่ออกให้ไปอยู่ที่อื่น คือเรื่องนี้มันแรงมากค้ะ จนทุกคนที่คอยจับผิดนางอยู่ ได้รุ้ถึงสันดานของนางมากขึ้นและละเอียดเลยค้ะ *** ความจริงที่บีเล่าคือ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง นางชอบเอาผู้ชายมานอนที่หอและไล่เพื่อนของบี ออกไปอยุ่ที่อื่นก่อน แบบนี้หลายครั้งและชอบเบี้ยวค่าห้อง จนไม่จ่าย และเกิดปัญหา
PART 3 นางเรียนเก่งมากจนถึงขั้นได้ทุนไปประเทศต่าง ๆ ( จริงหรอ ?? )
เมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาค่ะ นางบอกว่านางได้ทุนระยะสั้นไปเกาหลี นางมโนให้คนนั้นคนนี้ฟังว่าเนี่ยเดี๋ยวนางจะไปเกาหลี จะฝากซื้ออะไรไหม นางจะซื้อกลับมาให้ เป็นเรื่องเป็นราวคะ แต่ทุกคนก็เฉย ๆ กับการไปเกาหลีของนาง และนางก็ไปคะ ในวันที่นางไปไม่มีใครร็ค้ะ จนนางกลับมา เพื่อน ๆ คนอื่นก็ถามว่าไปเกาหลีวันไหน นางบอกว่านางไปมาแล้ว กลับมาแล้ว คือปกติคนที่ไปต่างประเทศต้องถ่ายรุปและลงเฟสบุ๊คหรือ อินสตาแกรมให้คนอื่นอิจฉากันบ้างตามประสาวัยรุ่นสมัยนี้ใช่ไหมค้ะ แต่นางไม่เรยค้ะไม่มี แต่เพื่อน ๆ ก็คิดกันว่านางคงไม่มีเวลาได้ถ่ายเพราะคงยุ่งกับเรื่องทุน !!!
ทุนเกาหลีผ่านไป
ผ่านมาเพียง 1 เดือนนางประกาศให้ชาวโซเชี่ยวได้รุ้อีกแล้วค้ะว่านางได้ทุนระยะสั้นอีกแล้ว ครั้งนี้ได้ไปที่ อเมริกาค๊าาาา
มันสุดยอดมากเลยใช่ไหมค้ะ เป็นประเทศที่ใครหลาย ๆ คนอยากจะไป นางบอกเพื่อน ๆ ว่า เดี๋ยวนางจะไปแล้วบอกเพื่อน ๆ มาส่งแต่ก็ม่มีใครว่างไปค้ะ มีเพียงพ่อกับแม่ และบุคคล คนสนิทของนางไปส่งนางที่สนามบินค้ะ วันที่นางเริ่มเดินทาง
บุคคล คนสนิท : _____ไปทุนทำไมไปกันแค่ 2 คนละแล้วคนอื่นล้ะ มันต้องไปพร้อมกันหลาย ๆ คนไม่ใช่หรอ ?
นาง : คนอื่นเค้าไปกันก่อนแล้วเหลือแค่นางกับเพื่อนสาวของนางอีกคนต้องตามไปทีหลัง
( ซึ่งมีคนบอกว่าหน้าเพื่อของนางซีดมากไม่เหมือนคนที่กำลังจะไปเมืองนอกเลย เพราะปกติคนที่ไปต่างประเทศต้องมีสีหน้าที่ดีใจและตื่นเต้น แต่เพื่อนของนางยืนนิ่งไม่มองหน้า หลบตาตลอดเวลาค้ะ )
และตอนไปส่งโดยปกติแล้ว ญาติสามารถเข้าปส่งผู้เดินทางได้ถึงเกตุด้านหน้าประตูขึ้นเครื่อง แต่นางกลับบอกพ่อแม่และคนที่มาส่งนางคนอื่น ๆ ว่า ส่งแค่เนี้ยแหละเดี๋ยวนางไปแล้ว แล้วก็รอให้คนอื่นกลับไปหมดนางถึงจะเดินออกไปจากที่นั้น
!!!! กรณีนี้ เป็นที่พูดถึงของเหล่าบรรดาคนที่รู้จักกับนางกันมากมายว่านางโกหกได้ไม่เนียนเลยสักนิดเพราะมีคนคอยจับผิดนางเยอะมาก
1. นางลงรุปว่านางถึงสนามบิน USA แล้วแต่หารู้ไม่รุปที่นางเอาลงเป้นรูปที่ก็อบจากอินเตอร์เน็ตแต่นางอ้างว่านางเป็นคนถ่าย
2. ถ่ายรุปอยุ่ที่อพักที่ USA แต่สภาพคือ อพาทเม้นเมืองไทยแบบบ้านเรา ไทย ๆ กันเรลยนี่แหละค้ะ
3. นางถ่ายรุปที่ร้านขนมแห่งหนึ่งให้เหมือนอารมณ์เหมือนอยุ่ในร้านมินิมาร์ทที่ต่างประเทศ แต่ความจริงแล้วเหมือนอยุ่ใน Top บ้านเรา
4. นาง เฟคทามกับ ผู้ชาย

บอกว่าอยู่ต่างประเทศแต่คือนางอยุ๋หอเพื่อนค่า คิดดุสิค้ะ
5. มีเพื่อนคนหนึ่งอยากรู้ว่านางไปจริงไหม เขาจึงลองโทรเขาเบอร์โทรของนางที่เป็นเบอไทย มันโทรติดค้ะ แต่ไม่มีคนรับ เพื่อนของเอเลยโทรไปหลายสาย 4-5 สายได้จนเข้าสายที่ 6 ปิดเครื่องไปเลยค้ะ
และนางชอบยืมเงินชาวบ้านแล้วทำเปนจำไม่ได้ว่าต้องคืน หรือยืมไปตอนไหน พอทวงนางทำเปนไม่ได้ยินไม่สนใจ โทรหาไม่รับ ไลนไปไม่ตอบ แต่นางเล่นเฟสบุ้คทั้งวันก็ไม่เข้าใจมีปัญญายืมทำไมเวลาคืนไม่ทำให้ได้เหมือนตอนยืมเงิน
ยังมีอีกหลายวีรกรรมที่นางทำไว้ที่ยังเล่าไม่หมด และไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนถ้าว่างจะมาเล่าเรื่องวีรกรรมของนางที่ผิดมนุษย์มนาให้ฟังอีกนะคะ ขอบคุณสำหรับการอ่านค
รบกวนตอบทีนะคะ !! ตอนนี้คนรอบข้างต่างพากันเอือมระอากับสันดานของนางเต็มทีแล้วค่ะ
คำถามน้ะค้ะ อยากจะทราบว่า
1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเค้าไม่เคร่งเรื่องชุดนักศึกษาหรอค่ะ ?
2. สามารถใส่ชุดนอกมาเรียนได้ด้วยหรอคะ ?
3. แล้วนิสิตจุฬาไม่ต้องใส่เข็มขัดหรือไม่ติดเข็ม ไม่ใส่เนคไทเข้าเรียนได้ด้วยหรอค่ะ ?
( อาจมีคำหยาบต้องขออภัยในที่นี้ด้วยน้ะค้ะ )
เนื่องด้วยประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ตรงของเอเอง ( ขอเรียกแทนตัวเองว่า "เอ" ละกันนะค่ะ )
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวของเอเองและรวมถึงเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ โรงเรียนในสมัยมัธยมต้น และมัธยมปลาย
และมหาวิทยาลัย ซึ่งเอและเพื่อน ๆ ต่างโดนอีตุ๊ดหลอกจนหูพรุน !!! ( อุ๊บ !! เจ้าของกระทู้ขออนุญาติเรียกบุคคลที่ จขกท.กำลังกล่าวถึงว่า อีตุ๊ดล่ะกันนะค่ะเพราะว่า นางเป็นพวก ตุ๊ดแบบไม่เจี้ยมหนังหน้าตัวเองสักเท่าไหร่คิดว่าตัวเองเพอเฟคทุกอริยะบทบนร่างกาย .... ( เรื่องราวต่อไปนี้ไม่ได้พลาดผิงถึงผู้อื่นน้ะค่ะนอกจากผู้ที่กล่าวถึงในกระทู้ จขกท.เพียงต้องการถามข้อมูลและ แฉ ความเน่าของนาง ให้ชาวโลกได้รับรุ้เท่านั้นค่ะ )
PART 1 สมัยมัธยม
เรื่องนี้เริ่มต้นจากที่ตัวเอเองเริ่มรู้จักนางคนนี้จาก รร. มัธยมแห่งหนึ่งใน จังหวัด ( สป. ) ในตอนที่รุ้จักนางเอเองก็ไม่ได้รู้จักนาง เองโดยตรงหรอกค่ะ
แต่รู้จักนางจากชื่อเสียงและผ่านเพื่อนมาจนได้รู้จักกับนางแต่ก็ไม่ถึงกับสนิทมาก เริ่มถึงวีระกรรมของนางกันเรยละกันน้ะค้ะ
วันจบการเรียนของระดับชั้นม.ปลายมาถึง ซึ่งแต่ละโรงเรียนคงจะมีปลายประกาศว่าใครติด โรงเรียนไหนบ้างที่หย้าห้องแนะแนวใช่ไหมค้ะ
ที่โรงเรียนของเอ เองก็มีค้ะ ซึ่งชื่อของนางติด มหาวิทยาลัยบูรพาค๊าาาาาาาาาาา ซึ่งทุกคนต่างเห็นชื่อของนางบน บอร์ดประกาศ !!
ผ่านไปได้จนถึงเปิดเรียนวันแรก
ตัวเอ เองถามนางว่านางเรียนที่ไหนอยู่ รุ้ไหมค้ะนางตอบว่าอะไร " นางบอกว่านางเรียน จุฬาลงกรณ์ ค๊าาาทุกท่าน มันโอ้วมายก้อด มากใช่ไหมค้ะทุกคนเมื่อได้รุ้ว่าคนใกล้ตัวที่เรารู้จักได้เรียน โรงเรียนดีดี ๆ แสดงว่านาง ต้องเป็นคนที่เรียนเก่งมากใช่ไหมค้ะ และนางยังบอกต่ออีกว่านางเรียนอยู่ 2 ที่ คือ จุฬา และ สวนสุนัน ตอนแรกเอ บอกก่อนเลยว่า เอไม่เชื่อค้ะ ไม่เชื่อย่างแน่นอน เรลยเงียบ ๆ ไปก่อนจนเอ ได้ไปถามรุ่นน้อง และเพื่อน ๆ ของเอ รวมถึงอาจารย์ที่สนิทกับนางหลาย ๆ คน ซึ่งได้คำตอบมาว่า
รุ่นน้องในโรงเรียน : พี่เขาเรียนจุฬา ค้ะพี่เอ พี่เขามาบอกหนุเอง
เพื่อน ๆ ของเอ : มันก็บอกว่ามันเรียนจุฬา ภาคพิเศษวะ
อาจารย์คนที่ 1 : มันบอกเรียนจุฬา จริงหรือป่าวก็ไม่รุ้ไม่มีใครรุ้ด้วยสิ ครุก็ไม่รุ้ว่ามันเรียนจริงหรือเปล่า
อาจารย์คนที่ 2 : โอ้ยอี่นี่
ค้ะนี่คือคำตอบที่ เอ ได้ยินมาทั้งหมดซึ้งคนส่วนใหญ่ที่ร็จักกับนาง จะรู้ดีว่านางเป็นคนที่ชอบโกหกและโกหกเก่งมาก
และที่ทุกคนต่างพูดแบบนั้นเป็นเพราะว่า เวลาที่นางไปเรียนนางไม่เคยใส่ชุดตามระเบียบของมหาลัยเรย และไม่เคยใส่ไทของมหาลัย ไม่เคยติดเข็ม บางครั้งนางใส่ชุดนอกไปเรียน และเวลามีเพื่อน ๆ คนไหนไปสยาม นางจะชอบทักมาหาเพื่อน ๆ เสมอว่าเนี่ยฉันก็อยู่สยามเพิ่งเรียนเสร็จมาหาหน่อยสิ ( ซึ่งคนที่ไปหลาย ๆ คนต่างบอกต่อกันว่าทุกครั้งที่ไปสยาม ไม่เคยเหนนางเข้าเรียนเรย ไปทีไรจะเจอนางอยู่แต่ทรูคอฟฟี่ ที่สาขาทรูคอฟฟี่ซอย 2 บางทีนางก็อยู่ที่ทรูคอฟฟี่ ชั้น 3 พารากอน หลาย ๆ คนต่างบอกว่านางเรียนจุฬาจริงหรือเปล่าทำไมเวลาไปไม่เคยเห็นนางมีเรียน หรือไปตรงกับที่นางมีเรียนเรย และนางก็ทำแบบนี้เป็นประ ๆ )
แต่ก็ไม่มีใครพูดให้นางรุ้สึกเสียหน้านะค้ะ เพราะว่ากลัวนางจะเสียใจ รวมถึงตัวเอ เองด้วย 5555' ดูตลกนะค้ะว่าทำไม มาเล่าขนาดนนี้ แต่ตัวเองไม่รุ้จักไปบอกนางเอง ก็ถึงบอกที่ชื่อเรื่องไงค้ะว่า จนคนรอบข้างเอือมระอา แต่ไม่สามารถบอกได้ เพราะทุกคนที่พบเจอต่างประสบ พบเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กันมาแต่ไม่กล้าบอกนางเพราะสนิทกับนาง กลัวจะเสียเพื่อนไป
PART 2 ช่วงมหาลัยปี 1
ถึงตอนนี้นางเริ่มรู้จักคนมากมายแล้วค่ะ และไม่ใช่แค่เพียงรู้จักคนมากมายเท่านั้น !!! นางยังทำให้คนรอบตัว ทุกคน ! ทุกคนน่ะค่ะ ได้ทราบถึงวีรกรรมต่าง ๆ ของนางค้ะ แต่ก็ยังพูดคุยกับนางต่ออยู่เพราะมันยังไม่ถึงขีดสุด....... ค้ะและมาต่อกันเรยน้ะค้ะ ขอเล่าถึงเรื่องส่วนตัวของนางนะค้ะ นางบอกว่าที่บ้านของนาง เปิดคาร์แคร์ล้างรถที่บ้าน เปิดอพาทเม้นท์ให้คนเช่า ซึ่งเป็นเจ้าของ และอยู่บ้านหลังใหญ่ ในช่วงแรก ๆ เอ และคนอื่น ๆ ก็เชื่อนางค้ะ เพระาไม่เคยมีใครได้ไปบ้านของนาง ไม่เคยมีใครได้พบเห็นความเป็นจริง แต่ล่าสุดค้ะ เพื่อน ๆ ของเอ รวมตัวกันไปเที่ยวและได้พูดคุยกันถึงเรื่องของนางกัน และก็โป๊ะแตกค้ะ !!!!!! เพื่อนของเอบอกว่า เคยไปส่งนางที่บ้านเมื่อจอดรถนาง ก็ไม่ยอมเดินเข้าบ้านนะคะ นางเดินไปหาคนที่อยู๋หน้าบ้านเหมือนทำทีท่าว่าจะเข้าไปคุย และเลี่ยงการที่จะเดินเข้าบ้านเพื่อรอให้เพื่อนของเอ ขับรถออกไปก่อน แต่เพื่อนของเอไม่แน่ใจนักว่าใช่บ้านของนางจริงหรือเปล่า แต่ยังมีเพื่อนอีก 1 คนมาบอกว่าบ้านของนางหรอ ไม่นะ นางอยู่ห้องเช่า ชั้นแรกของตึกเลย เอาล้ะสิค่ะคราวนี้ ทุกคนตกใจจนถึงกลับเงียบและมองหน้ากันเรยทีเดียว !!!!!
แล้วก็มาถึงจุดสำคัญที่ทำให้ทุกคนเริ่มจับผิดนางกันมันมีเรื่องอยุ๋ว่า...
คู่กรณีคนที่ 1
ชื่อซี ( ชื่อสมมุติ ) ค่ะซีและนางเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงมหาลัยนางอยู่ด้วยกันค้ะที่หอ ในย่านสาธร นางก็อยู๋ด้วยกันเข้าใจกันดีคะ แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น นางมาเล่าให้คนอื่น ๆ ฟังว่า นางไม่ถูกกับซีแล้ว นางบอกว่าซี ให้นางจ่ายค่าหอคนเดียวทั้ง ๆ ที่อยุ๋ด้วยกันตั้ง 3 คน นางบอกว่านางเลยจ่ายให้เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท และนางก็เก็บข้าวของออกมาไปอยุ๋บ้าน *** แต่ความจริงแล้วคือ นางไม่ยอมจ่ายค่าห้องค้ะอยุ๋ฟรี ไม่มีเงินจ่ายแต่เอาดีเข้าตัวเองและทำให้ซี ดูแย่ในสายตาผู้อื่น ( ความจริงจากคู่กรณีที่เล่าให้หลาย ๆ คนฟังจนมาถึงหูเอฟัง )
คู่กรณีคน 2
ชื่อ ดี ( ชื่อสมมุติ ) ค้ะหลังจากที่นางย้ายกลับไปอยู่บ้านได้ไม่นาน นางก็ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตใน กทม.ย่าน สาธรอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นางได้ย้ายเข้าไปอยู่กับรุ่นน้องชื่อว่า ดี และก็เหมือนเดิมค้ะ อยู่ได้ไม่นานก็เกิดเรื่อง นางบอกว่า นางทนไม่ได้อยู่ไม่ได้ บอกว่าดีชอบเอา ผู้หญิงมา เ_ากันในห้องบ่อย ๆ จนทำให้นางเนี่ยทนไม่ได้ รับไม่ได้ เพราะนางก็แชร์หออยู่กกับดี นางเลยมีปากเสียงทะเลาะกับดีและได้ย้ายออกมาจากที่นั้นอีกครั้ง ***และความจริงจากปากของ ดีค้ะ ดีบอกว่า นางขอมาอยู่ด้วยที่หอพักของดี โดยไม่เสียค่าห้องเพราะนางถือว่านางสนิทกับดีมาก จึงขอพักอยุ่ด้วย แต่นางก็ทำตัวเอนเจ้าของห้องจนดี เองรับไม่ได้จนทะเลาะกันและนางต้องย้ายออก
ก่อนจะถึงคู่กรณีคนที่ 3 นะคะ ขอบอกก่อนเลยว่า นาง ชอบหลอกคนอื่นว่านางมีรวย นางมีเงินเลี้ยงผู้ชาย และที่สำคัญนางชอบโกหกว่าคนอื่นเป็นงานอดิเรกคะ โกหกได้ทุกเรื่องเพื่อให้ตัวนางเองดูดี และไม่ด้อยไปกว่าใคร
คู่กรณีคนที่ 3
ชื่อบี ( ชื่อสมมุติ ) บีเรียนอยู๋ใน กทม.คะแต่บ้านบีอยู่ที่ สป บีเลยอยุ๋หอซึ่งบีเล่าว่า ตอนแรก ก็สนิทกลับนางมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนถึงขั้นให้นางมาพักที่หอด้วยกันแต่แล้วก็มีปัญหาค่ะ เรื่องเดิม ๆ เลยก็ว่าได้ นางมาขอบีแชร์ค่าหอเพื่อจะอยุ่ด้วย บีก็ให้คะเพราะบีสนิทกับนางมาก ก่อนที่เรื่องจะเกิด บีก็เก็บเงินค่าหอจากเพื่อน ๆ ที่แชร์ค่าหอด้วยกันจนครบจนมาถึงนาง ( คนละ 600 บาท ) บีบอกให้นางโอนเงินมาให้ แต่บีไม่รีบเพราะบีบอกว่า มีเมื่อไหร่ค่อยโอนมา แต่ผ่านไปหลายสัปดาห์นางก็ไม่โอนมาค้ะจนบีต้องการใช้เงิน จึงบอกให้นางโอนเงินมา และนางก็โอนค้ะ โอนผ่านระบบมือถือ และส่ง แคปเจอร์ ให้กับบี แต่บีไปเช็คไม่มียอดเงินเข้ามือถือค้ะ บีจึงถามว่าไม่มีเงินเข้ามาแล้วหรอ ดูให้ใหม่หน่อย นางก็ก็บอกว่าโอนแล้ว ๆๆๆๆ แล้วก็ส่งแคปเจอร์การโอนไปอีกครั้ง บี จึงคิดว่า อาจเป็นที่ความผิดพลาดของบีเอง บีจึงไปที่ธนาคารและถามว่า ชื่อนี้ เลขบัญชีนี้โอนเงินมาเข้าบัญชีของบีหรือยัง ซึ่งทางธนาคารบอกว่า ไม่มีหมายเลขบีญชีนี้โอนเข้ามา ( คือธนาคารจะโกหกหรอค้ะว่า ไม่มียอดเงินโอนมา ) บีโมโมโหมาก จนโพสสเตตัสด่านางจน นางเป็นที่อับอายของชาวโซเชี่ยว นางจึงเอาคืนด้วยการโพสขอความเห็นใจจากผู้อื่นว่านางโอนไปแล้วจริง ๆ แต่ก็ไม่มีใครอยากยุ่ง เพราะรู้ว่านิสัยของนางเป็นยังไง
แต่นางก็แพ้นะค้ะครั้งนี้ ยางจึงหาวิธีแก้แค้นโดยการโทรไปหาสำนักงานของหอพักที่บี พักอยู่ว่าห้องของบี มีผู้พักต้องห้องเกินกำหนดของหอ จนบีโดนหอไล่ออกให้ไปอยู่ที่อื่น คือเรื่องนี้มันแรงมากค้ะ จนทุกคนที่คอยจับผิดนางอยู่ ได้รุ้ถึงสันดานของนางมากขึ้นและละเอียดเลยค้ะ *** ความจริงที่บีเล่าคือ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง นางชอบเอาผู้ชายมานอนที่หอและไล่เพื่อนของบี ออกไปอยุ่ที่อื่นก่อน แบบนี้หลายครั้งและชอบเบี้ยวค่าห้อง จนไม่จ่าย และเกิดปัญหา
PART 3 นางเรียนเก่งมากจนถึงขั้นได้ทุนไปประเทศต่าง ๆ ( จริงหรอ ?? )
เมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาค่ะ นางบอกว่านางได้ทุนระยะสั้นไปเกาหลี นางมโนให้คนนั้นคนนี้ฟังว่าเนี่ยเดี๋ยวนางจะไปเกาหลี จะฝากซื้ออะไรไหม นางจะซื้อกลับมาให้ เป็นเรื่องเป็นราวคะ แต่ทุกคนก็เฉย ๆ กับการไปเกาหลีของนาง และนางก็ไปคะ ในวันที่นางไปไม่มีใครร็ค้ะ จนนางกลับมา เพื่อน ๆ คนอื่นก็ถามว่าไปเกาหลีวันไหน นางบอกว่านางไปมาแล้ว กลับมาแล้ว คือปกติคนที่ไปต่างประเทศต้องถ่ายรุปและลงเฟสบุ๊คหรือ อินสตาแกรมให้คนอื่นอิจฉากันบ้างตามประสาวัยรุ่นสมัยนี้ใช่ไหมค้ะ แต่นางไม่เรยค้ะไม่มี แต่เพื่อน ๆ ก็คิดกันว่านางคงไม่มีเวลาได้ถ่ายเพราะคงยุ่งกับเรื่องทุน !!!
ทุนเกาหลีผ่านไป
ผ่านมาเพียง 1 เดือนนางประกาศให้ชาวโซเชี่ยวได้รุ้อีกแล้วค้ะว่านางได้ทุนระยะสั้นอีกแล้ว ครั้งนี้ได้ไปที่ อเมริกาค๊าาาา
มันสุดยอดมากเลยใช่ไหมค้ะ เป็นประเทศที่ใครหลาย ๆ คนอยากจะไป นางบอกเพื่อน ๆ ว่า เดี๋ยวนางจะไปแล้วบอกเพื่อน ๆ มาส่งแต่ก็ม่มีใครว่างไปค้ะ มีเพียงพ่อกับแม่ และบุคคล คนสนิทของนางไปส่งนางที่สนามบินค้ะ วันที่นางเริ่มเดินทาง
บุคคล คนสนิท : _____ไปทุนทำไมไปกันแค่ 2 คนละแล้วคนอื่นล้ะ มันต้องไปพร้อมกันหลาย ๆ คนไม่ใช่หรอ ?
นาง : คนอื่นเค้าไปกันก่อนแล้วเหลือแค่นางกับเพื่อนสาวของนางอีกคนต้องตามไปทีหลัง
( ซึ่งมีคนบอกว่าหน้าเพื่อของนางซีดมากไม่เหมือนคนที่กำลังจะไปเมืองนอกเลย เพราะปกติคนที่ไปต่างประเทศต้องมีสีหน้าที่ดีใจและตื่นเต้น แต่เพื่อนของนางยืนนิ่งไม่มองหน้า หลบตาตลอดเวลาค้ะ )
และตอนไปส่งโดยปกติแล้ว ญาติสามารถเข้าปส่งผู้เดินทางได้ถึงเกตุด้านหน้าประตูขึ้นเครื่อง แต่นางกลับบอกพ่อแม่และคนที่มาส่งนางคนอื่น ๆ ว่า ส่งแค่เนี้ยแหละเดี๋ยวนางไปแล้ว แล้วก็รอให้คนอื่นกลับไปหมดนางถึงจะเดินออกไปจากที่นั้น
!!!! กรณีนี้ เป็นที่พูดถึงของเหล่าบรรดาคนที่รู้จักกับนางกันมากมายว่านางโกหกได้ไม่เนียนเลยสักนิดเพราะมีคนคอยจับผิดนางเยอะมาก
1. นางลงรุปว่านางถึงสนามบิน USA แล้วแต่หารู้ไม่รุปที่นางเอาลงเป้นรูปที่ก็อบจากอินเตอร์เน็ตแต่นางอ้างว่านางเป็นคนถ่าย
2. ถ่ายรุปอยุ่ที่อพักที่ USA แต่สภาพคือ อพาทเม้นเมืองไทยแบบบ้านเรา ไทย ๆ กันเรลยนี่แหละค้ะ
3. นางถ่ายรุปที่ร้านขนมแห่งหนึ่งให้เหมือนอารมณ์เหมือนอยุ่ในร้านมินิมาร์ทที่ต่างประเทศ แต่ความจริงแล้วเหมือนอยุ่ใน Top บ้านเรา
4. นาง เฟคทามกับ ผู้ชาย
5. มีเพื่อนคนหนึ่งอยากรู้ว่านางไปจริงไหม เขาจึงลองโทรเขาเบอร์โทรของนางที่เป็นเบอไทย มันโทรติดค้ะ แต่ไม่มีคนรับ เพื่อนของเอเลยโทรไปหลายสาย 4-5 สายได้จนเข้าสายที่ 6 ปิดเครื่องไปเลยค้ะ
และนางชอบยืมเงินชาวบ้านแล้วทำเปนจำไม่ได้ว่าต้องคืน หรือยืมไปตอนไหน พอทวงนางทำเปนไม่ได้ยินไม่สนใจ โทรหาไม่รับ ไลนไปไม่ตอบ แต่นางเล่นเฟสบุ้คทั้งวันก็ไม่เข้าใจมีปัญญายืมทำไมเวลาคืนไม่ทำให้ได้เหมือนตอนยืมเงิน
ยังมีอีกหลายวีรกรรมที่นางทำไว้ที่ยังเล่าไม่หมด และไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนถ้าว่างจะมาเล่าเรื่องวีรกรรมของนางที่ผิดมนุษย์มนาให้ฟังอีกนะคะ ขอบคุณสำหรับการอ่านค