วันนี้ผมพลาดไป ซื้อ Dtac 96.25 บาท ไปตั้งขาย 1 ช่วงราคาที่ 96.50 บาท (มือใหม่เลยเน้น ขายหมูครับ แหะๆ)
แต่ผลคือ ผมขาดทุนเฉย งงเลย เอ ค่าคอม มันทำให้ เราขาดทุนได้เหมือนกันแฮะ
เลยลองหาบทความมาอ่านได้ ข้อมูลมาอยากแชร์ให้ มือใหม่ รู้ไว้จะได้ไม่พลาดเหมือนผมครับ
ข้อมูลตามนี้ครับผม ขอบคุณเวป investfordummy.com สำหรับข้อมูลด้วยครับ
1 ช่องได้กำไรจริงรึเปล่า
มือใหม่ บางคนเข้ามาเล่นหุ้นแบบสั้นๆ สั้นมากคือช่องเดียวก็เอา วันนึงซื้อขายกันหลายรอบ มาคิดดูแล้วไม่รุ้ว่าจะคุ้มกับค่าคอมมิชชั่นที่เสียไปหรือไม่ บางทีถือยาวๆ หน่อยจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำกว่ากันเยอะก็ได้ ทีนี้เราต้องมาดูกันว่าเราซื้อขายหุ้นกัน 1 ช่องนั้น ราคามันห่างกันเท่าไหร่ โดยทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดเอาไว้แล้วดังนี้
PRICE SPREAD – ช่วงราคา
การเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ สำหรับการเสนอซื้อและเสนอขายบนกระดานหลักและกระดานหน่วยย่อย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดช่วงราคาตามระดับราคาของแต่ละหลักทรัพย์ไว้ ดังนี้
ระดับราคา (บาท) ช่วงราคา (บาท)
ระดับราคาตลาดช่วงราคาต่ำกว่า 2 บาท 0.01 บาท
ตั้งแต่ 2 บาทแต่ต่ำกว่า 5 บาท 0.02 บาท
ตั้งแต่ 5 บาทแต่ต่ำกว่า 10 บาท 0.05 บาท
ตั้งแต่ 10 บาทแต่ต่ำกว่า 25 บาท 0.10 บาท
ตั้งแต่ 25 บาทแต่ต่ำกว่า 100 บาท 0.25 บาท
ตั้งแต่ 100 บาทแต่ต่ำกว่า 200 บาท 0.50 บาท
ตั้งแต่ 200 บาทแต่ต่ำกว่า 400 บาท 1.00 บาท
ตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป 2.00 บาท
ดังนั้น หากผู้ลงทุนต้องการเสนอซื้อหรือเสนอขายหลักทรัพย์ใด ต้องดูราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์นั้นด้วย เพื่อจะได้เสนอราคาซื้อขายได้ตรงตามช่วงราคา เช่น
ถ้าจะซื้อขายหุ้นที่มีราคา 110 บาท ก็จะต้องเสนอซื้อหรือเสนอขายเพิ่มขึ้นหรือลดลงจาก 110 บาท ครั้งละ 1 บาท เช่น 111 บาท หรือ 109 บาท หรือถ้าจะซื้อขายหุ้นที่มีราคา 4 บาท ช่วงราคาอยุ่ที่ 0.02 บาทก็จะต้องตั้งซื้อตามนั้นคือ 4.02 บาท หรือ 4.04 บาท เป็นต้น
อ้างอิงจาก: TSI
มาดูวิธีการคำนวณกำไรขาดทุนหลังหักค่าคอมมิชชั่นกรณีที่ซื้อขายห่างกัน 1 ช่องราคาค่ะ
เอาราคาที่เพิ่ม 1 จุดหารด้วยต้นทุน ได้กี่% ลบออกจาก 0.00428% ถ้าผลจากการลบ ยังมีค่าบวก นั่นคือ%กำไรที่ได้ จากส่วนต่าง1 จุด (0.00428% คิดไปกลับในกรณีที่ค่าคอม.0.002% ต่อขา)
ตัวอย่างเช่น ซื้อหุ้นราคา 2.05 บาท ต้องการขายหุ้นที่ราคา 2.06 บาท คิดดังนี้ 2.06-2.05 = .01
จากนั้น (0.01/2.05)*100 = .4878 %
จากนั้นนำมาลบด้วยค่าคอมมิชชั่นทั้งขาไปและขากลับ .4878 – .00428 = .48352% ดังนั้นยังกำไรอยู่ .48352% ค่ะ
แน่นอนว่า ย่อมมีบางตัวถึงกำไร1จุด หักค่าคอม.ที่เสียแล้ว จะไม่เหลืออะไรเลย ติดลบด้วยซ้ำค่ะ ดังนั้นเราจึงได้ทำตารางมาให้ค่ะ ว่าช่วงราคาไหน ซื้อขายเพียง 1 ช่องแล้วยังได้กำไรอยู่ค่ะ
0.00-1.86
2.00-3.72
5.00-9.30
10.00-18.60
25.00-46.50
50.00-93.00
100.00-186.00
ช่วงราคาหุ้นเหล่านี้เป็นช่วงที่สามารถซื้อขายใน 1 ช่องราคาได้โดยที่ยังกำไรอยู่ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่แนะนำให้เล่นแบบนี้นะคะ แต่หากต้องการตัดขาดทุนก็สามารถนำมาพิจารณาประกอบได้ค่ะ
link :
http://www.investfordummy.com/fundamental-analysis/1-tick-profit.html
Credit : investfordummy.com
วันนี้พลาด ขายทำกำไร ที่ 1 ช่วงราคา แต่โดนหักค่าคอม+vat แล้ว กลายเป็นขาดทุน เลยไปหาข้อมูลมาแนะนำเพื่อนๆครับ ^^
แต่ผลคือ ผมขาดทุนเฉย งงเลย เอ ค่าคอม มันทำให้ เราขาดทุนได้เหมือนกันแฮะ
เลยลองหาบทความมาอ่านได้ ข้อมูลมาอยากแชร์ให้ มือใหม่ รู้ไว้จะได้ไม่พลาดเหมือนผมครับ
ข้อมูลตามนี้ครับผม ขอบคุณเวป investfordummy.com สำหรับข้อมูลด้วยครับ
1 ช่องได้กำไรจริงรึเปล่า
มือใหม่ บางคนเข้ามาเล่นหุ้นแบบสั้นๆ สั้นมากคือช่องเดียวก็เอา วันนึงซื้อขายกันหลายรอบ มาคิดดูแล้วไม่รุ้ว่าจะคุ้มกับค่าคอมมิชชั่นที่เสียไปหรือไม่ บางทีถือยาวๆ หน่อยจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำกว่ากันเยอะก็ได้ ทีนี้เราต้องมาดูกันว่าเราซื้อขายหุ้นกัน 1 ช่องนั้น ราคามันห่างกันเท่าไหร่ โดยทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดเอาไว้แล้วดังนี้
PRICE SPREAD – ช่วงราคา
การเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ สำหรับการเสนอซื้อและเสนอขายบนกระดานหลักและกระดานหน่วยย่อย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดช่วงราคาตามระดับราคาของแต่ละหลักทรัพย์ไว้ ดังนี้
ระดับราคา (บาท) ช่วงราคา (บาท)
ระดับราคาตลาดช่วงราคาต่ำกว่า 2 บาท 0.01 บาท
ตั้งแต่ 2 บาทแต่ต่ำกว่า 5 บาท 0.02 บาท
ตั้งแต่ 5 บาทแต่ต่ำกว่า 10 บาท 0.05 บาท
ตั้งแต่ 10 บาทแต่ต่ำกว่า 25 บาท 0.10 บาท
ตั้งแต่ 25 บาทแต่ต่ำกว่า 100 บาท 0.25 บาท
ตั้งแต่ 100 บาทแต่ต่ำกว่า 200 บาท 0.50 บาท
ตั้งแต่ 200 บาทแต่ต่ำกว่า 400 บาท 1.00 บาท
ตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป 2.00 บาท
ดังนั้น หากผู้ลงทุนต้องการเสนอซื้อหรือเสนอขายหลักทรัพย์ใด ต้องดูราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์นั้นด้วย เพื่อจะได้เสนอราคาซื้อขายได้ตรงตามช่วงราคา เช่น
ถ้าจะซื้อขายหุ้นที่มีราคา 110 บาท ก็จะต้องเสนอซื้อหรือเสนอขายเพิ่มขึ้นหรือลดลงจาก 110 บาท ครั้งละ 1 บาท เช่น 111 บาท หรือ 109 บาท หรือถ้าจะซื้อขายหุ้นที่มีราคา 4 บาท ช่วงราคาอยุ่ที่ 0.02 บาทก็จะต้องตั้งซื้อตามนั้นคือ 4.02 บาท หรือ 4.04 บาท เป็นต้น
อ้างอิงจาก: TSI
มาดูวิธีการคำนวณกำไรขาดทุนหลังหักค่าคอมมิชชั่นกรณีที่ซื้อขายห่างกัน 1 ช่องราคาค่ะ
เอาราคาที่เพิ่ม 1 จุดหารด้วยต้นทุน ได้กี่% ลบออกจาก 0.00428% ถ้าผลจากการลบ ยังมีค่าบวก นั่นคือ%กำไรที่ได้ จากส่วนต่าง1 จุด (0.00428% คิดไปกลับในกรณีที่ค่าคอม.0.002% ต่อขา)
ตัวอย่างเช่น ซื้อหุ้นราคา 2.05 บาท ต้องการขายหุ้นที่ราคา 2.06 บาท คิดดังนี้ 2.06-2.05 = .01
จากนั้น (0.01/2.05)*100 = .4878 %
จากนั้นนำมาลบด้วยค่าคอมมิชชั่นทั้งขาไปและขากลับ .4878 – .00428 = .48352% ดังนั้นยังกำไรอยู่ .48352% ค่ะ
แน่นอนว่า ย่อมมีบางตัวถึงกำไร1จุด หักค่าคอม.ที่เสียแล้ว จะไม่เหลืออะไรเลย ติดลบด้วยซ้ำค่ะ ดังนั้นเราจึงได้ทำตารางมาให้ค่ะ ว่าช่วงราคาไหน ซื้อขายเพียง 1 ช่องแล้วยังได้กำไรอยู่ค่ะ
0.00-1.86
2.00-3.72
5.00-9.30
10.00-18.60
25.00-46.50
50.00-93.00
100.00-186.00
ช่วงราคาหุ้นเหล่านี้เป็นช่วงที่สามารถซื้อขายใน 1 ช่องราคาได้โดยที่ยังกำไรอยู่ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่แนะนำให้เล่นแบบนี้นะคะ แต่หากต้องการตัดขาดทุนก็สามารถนำมาพิจารณาประกอบได้ค่ะ
link : http://www.investfordummy.com/fundamental-analysis/1-tick-profit.html
Credit : investfordummy.com