คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 31
เจ๊คนนั้น วุฒิภาวะกระจอกมากเลยครับ รวยได้เพราะอะไรเกาะสามีถึงรวยใช่มั้ย คนแบบนี้ ไม่น่าจะรวยด้วยตัวเองได้นะครับ
ผมเคยเจอเคสคล้าย ๆ แบบนี้ (เรื่องนี้เกือบ 2 ปีละครับ)
บริษัทแถวลาดพร้าว 90 กว่า ๆ (บอกพิกัดเลยทีเดียว)
แต่เป็น HR โทรมา
HR : สวัสดีค่ะ คุณ..... ใช่มั้ยคะ ดิฉันโทรจากบริษัท...... จะโทรมานัดสัมภาษณ์งานตำแหน่ง IT Support (คิดในใจ ตรูทำ Programmer เป็น PM ละ)
ผม : ครับผม
HR : ไม่ทราบว่าอาทิตย์น้าสะดวกเข้ามาสัมภาษณ์มั้ยคะ
ผม : อ๋อครับ ขอสอบถามนิดได้มั้ยครับ
HR : คะ
ผม : ปกติผมทำ Programmer หน่ะครับ แต่ถ้าให้ไปทำ Support ก็ได้ ไม่มีปัญหา แต่ว่า ฐานเงินเดือนค่อนข้างต่างกันนะครับ 2 ตำแหน่งนี้ ไม่ทราบว่า เรทเงินเดือนของทางบริษัท ให้เท่าไหร่เหรอครับ
HR : อ๋อ อยู่ที่ความสามารของคุณคะ ถ้าเก่งจริง ทำงานเป็นจริง ของจริง ทางเราก็พร้อมจ่ายคะ (เสียงดูถูกมาก)
ผม : อ๋อครับ ไม่ทราบว่าพอจะบอกเรทเงินเดือนได้มั้ยครับ ถ้าผมไป แล้วเรียกเกินทางบริษัทไม่พร้อมจ่าย จะได้ ไม่เสียเวลาทั้งคู่หน่ะครับ
HR : ทางบริษัทให้ประมาณ 15000 - 25000 ไม่ทราบว่าคุณคิดว่าเก่งพอรึเปล่าคะ ที่เก่าได้เท่าไหร่คะ (เสียงเหวี่ยง ไม่พอใจ)
ผม : อ๋อ ขอโทษครับ ที่นี่ผมทำ Programmer เป็น PM ด้วยครับ เงินเดือนที่นี่ ผมได้ 45000 ครับ
HR : ....... อ๋อ
แล้วก็วางไปเลยยย
เรื่องนี้ที่ผมไม่พอใจ HR คือ ระหว่างที่คุยกัน เสียงดูถูกมาก จนทำให้เรารู้สึกแย่
ฟังจากเสียง แล้วอายุคง 20 กว่า ๆ กลาง ๆ
ถ้าผมมีบริษัท แล้วรู้ว่า พนักงานผมพูดแบบนี้ ผมมีไล่ออกแน่
ปล. น้องคนนั้นน่ารักมั้ยครับ ผมโสดดดดด ถามให้หน่อยว่าเธอว่างมั้ย
ผมเคยเจอเคสคล้าย ๆ แบบนี้ (เรื่องนี้เกือบ 2 ปีละครับ)
บริษัทแถวลาดพร้าว 90 กว่า ๆ (บอกพิกัดเลยทีเดียว)
แต่เป็น HR โทรมา
HR : สวัสดีค่ะ คุณ..... ใช่มั้ยคะ ดิฉันโทรจากบริษัท...... จะโทรมานัดสัมภาษณ์งานตำแหน่ง IT Support (คิดในใจ ตรูทำ Programmer เป็น PM ละ)
ผม : ครับผม
HR : ไม่ทราบว่าอาทิตย์น้าสะดวกเข้ามาสัมภาษณ์มั้ยคะ
ผม : อ๋อครับ ขอสอบถามนิดได้มั้ยครับ
HR : คะ
ผม : ปกติผมทำ Programmer หน่ะครับ แต่ถ้าให้ไปทำ Support ก็ได้ ไม่มีปัญหา แต่ว่า ฐานเงินเดือนค่อนข้างต่างกันนะครับ 2 ตำแหน่งนี้ ไม่ทราบว่า เรทเงินเดือนของทางบริษัท ให้เท่าไหร่เหรอครับ
HR : อ๋อ อยู่ที่ความสามารของคุณคะ ถ้าเก่งจริง ทำงานเป็นจริง ของจริง ทางเราก็พร้อมจ่ายคะ (เสียงดูถูกมาก)
ผม : อ๋อครับ ไม่ทราบว่าพอจะบอกเรทเงินเดือนได้มั้ยครับ ถ้าผมไป แล้วเรียกเกินทางบริษัทไม่พร้อมจ่าย จะได้ ไม่เสียเวลาทั้งคู่หน่ะครับ
HR : ทางบริษัทให้ประมาณ 15000 - 25000 ไม่ทราบว่าคุณคิดว่าเก่งพอรึเปล่าคะ ที่เก่าได้เท่าไหร่คะ (เสียงเหวี่ยง ไม่พอใจ)
ผม : อ๋อ ขอโทษครับ ที่นี่ผมทำ Programmer เป็น PM ด้วยครับ เงินเดือนที่นี่ ผมได้ 45000 ครับ
HR : ....... อ๋อ
แล้วก็วางไปเลยยย
เรื่องนี้ที่ผมไม่พอใจ HR คือ ระหว่างที่คุยกัน เสียงดูถูกมาก จนทำให้เรารู้สึกแย่
ฟังจากเสียง แล้วอายุคง 20 กว่า ๆ กลาง ๆ
ถ้าผมมีบริษัท แล้วรู้ว่า พนักงานผมพูดแบบนี้ ผมมีไล่ออกแน่
ปล. น้องคนนั้นน่ารักมั้ยครับ ผมโสดดดดด ถามให้หน่อยว่าเธอว่างมั้ย

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
อ่านกระทู้นี้แล้วทำให้ผมนึกย้อนไปในวัย 17 ปี เลย ช่วงปิดเทอมผมอยากหางานพาร์ททามทำมาก ช่วงนั้นว่างมากและอยากได้เงินมากๆตามประสาเด็กอายุเท่านั้น
พอดี ทางร้านชำในห้างแฟชั่นแห่งหนึ่งรับผมเข้าทำงาน ผมก็ทำๆๆๆๆๆไปทั้งวัน จำได้ว่านั่งแพ็คหนังยางติดผมตั้งแต่บ่าย2 ถึง 4ทุ่มเลย พอเสร็จงาน ผมเดินเข้าไปถาม
"เอ่อ ผมอยากทราบว่า ได้ค่าแรงยังไงครับ"
เจ้าของร้านสาวนางหนึ่ง จิกตามาที่ผมและพูดว่า
"นี่ น้อง! มาทำงานแค่วันแรกก็มาทวงถามเรื่องเงินแล้ว"
จากนั้นผมก็จำบทสนทนาต่อจากนั้นไม่ได้แล้ว เพราะผมอึ้งกับคำพูดเธอมาก ก็เพิ่งเคยทำงานนี่ครับก็ไม่รู้ว่าค่าแรงอะไรมันได้อะไร ยังไง ช่วยอธิบายดีๆก็ได้ ได้แต่คิดนะครับ แต่ไม่ได้พูดอะไร กลับบ้านมาน้ำตาไหล ปฏิญาณตนกะตัวเองว่า อนาคตหากเป็นเจ้าคนนายคน ใครมาสมัครงานกะผม สิ่งแรกที่ผมจะบอก คือ เรื่องเงิน ครับ
ใครบ้างที่สมัครเข้าทำงาน แล้วไม่คิดถึงเรื่องเงินบ้าง ไม่มีหรอกครับในโลกนี้
ปัจจุบัน ผมเป็นผู้จัดการร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งแล้ว สิ่งที่ผมบอกกับผู้สมัครทุกครั้ง คือ เรื่องเงิน ครับ
พอดี ทางร้านชำในห้างแฟชั่นแห่งหนึ่งรับผมเข้าทำงาน ผมก็ทำๆๆๆๆๆไปทั้งวัน จำได้ว่านั่งแพ็คหนังยางติดผมตั้งแต่บ่าย2 ถึง 4ทุ่มเลย พอเสร็จงาน ผมเดินเข้าไปถาม
"เอ่อ ผมอยากทราบว่า ได้ค่าแรงยังไงครับ"
เจ้าของร้านสาวนางหนึ่ง จิกตามาที่ผมและพูดว่า
"นี่ น้อง! มาทำงานแค่วันแรกก็มาทวงถามเรื่องเงินแล้ว"
จากนั้นผมก็จำบทสนทนาต่อจากนั้นไม่ได้แล้ว เพราะผมอึ้งกับคำพูดเธอมาก ก็เพิ่งเคยทำงานนี่ครับก็ไม่รู้ว่าค่าแรงอะไรมันได้อะไร ยังไง ช่วยอธิบายดีๆก็ได้ ได้แต่คิดนะครับ แต่ไม่ได้พูดอะไร กลับบ้านมาน้ำตาไหล ปฏิญาณตนกะตัวเองว่า อนาคตหากเป็นเจ้าคนนายคน ใครมาสมัครงานกะผม สิ่งแรกที่ผมจะบอก คือ เรื่องเงิน ครับ
ใครบ้างที่สมัครเข้าทำงาน แล้วไม่คิดถึงเรื่องเงินบ้าง ไม่มีหรอกครับในโลกนี้
ปัจจุบัน ผมเป็นผู้จัดการร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งแล้ว สิ่งที่ผมบอกกับผู้สมัครทุกครั้ง คือ เรื่องเงิน ครับ
แสดงความคิดเห็น
น้องที่ออฟฟิตเจอแบบนี้ แก้เผ็ดไงดีครับ คนสมัยนี้รวยไม่มีสมอง!
แก้ไข
คนสมัยนี้มัยเชี้ยะดีนะคับ ขนาดแค่สัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์!!!
แก้ไข
เรื่องเพิ่งเกิดเมื่อกี้ 15 นาทีที่แล้ว ผมทนไม่ไหวเลยขอพิมพ์หน่อยละกันนะครับ
เมื่อกี้ครับมีพี่คนนึงชื่อP(ขอใช้ตัวย่อนะคับ) เบอ 089-77129xx เป็นบริษัทิbuild-inร้านเสื้อผ้าในห้าง โทรมาหาน้องผู้หญิงคนนึงในออฟฟิตผมครับ
เธอจบตรีวิศะ/โทบริหาร เธอเคยทำบริษัทิbuild-inร้านอาหารในห้างด้วยตำแหน่ง Assist MD(เป็นบริษัทิเล็กๆที่เธอดูแลแทบทุกอย่างเทียบเท่ามือขวา)ด้วยความที่เธออายุ25แต่ความสามารถเธอไม่เคยรองใครเลยครับ เธอเก่งมากโดยเฉพาะการจัดการ,การติดต่อประสานงาน แถมพูดได้3ภาษา ไทย/Eng/German
แล้วเธอก็ลาออกมาอยู่ที่นี่ ยอมกินเงินเดือนน้อยลง ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่มีเวลาพักผ่อน นอนน้อย เธออยากมีสุขภาพที่ดี และมีเวลาดูแลพ่อแม่ของเธอ...เธอเข้าที่นี่เงินเดือนจะ 35Kละครับ
(เยอะกว่าผมอีก แต่นี่ขั้นต่ำสำหรับเธอละครับผมว่า)
พี่Pเห็นโปรไฟล์เธอจากJobThaiทั้งผ่านงานสายbuild-inมา โปรฟล์ดีก็สนใจ โทรมาคุยกับเธอว่าอยากนัดสัมภาษณ์ แถมที่ทำงานพี่เค้าก็ไม่ไกลจากบ้านเธอด้วย ผมเลยสนับสนุนครับ
เธอกำลังถามทางเพื่อจะไปสัมภาษณ์ แต่พี่Pกลัวตอบไม่ชัดเจน
เลยจะโทรกลับพร้อมให้คุยกับเมียพี่เค้าครับ
เมียพี่เค้าโทรมา น้องที่ออฟฟิตผมรับปกติ คุยกันไปซักพักเธอถามช่วงRateเงินเดือนครับ
เธอถามว่า "ตำแหน่งที่ให้หนูไปทำไม่ทราบว่าRateเงินเดือนอยู่ที่เท่าไหร่คะ?"
เมียพี่Pตอบกลับเสียงดังจนผมได้ยินออกมาว่า "แล้วน้องอยากได้เท่าไหร่ล่ะ อายุก็แค่25"
เธอ : "หนูอยากได้ซัก40Kค่ะ เพราะที่ทำอยู่ตอนนี้ก็35-36Kแล้วค่ะ"
เมียพี่P : "น้องพี่จะบอกอะไรให้นะ (พูดเสียงดังมากผมเลยถือวิสาสะเอามือถือเธอมาเปิดลำโพงครับ).... น้องรู้มั้ยว่าน้องไม่ต้องเอาเงินเดือนมาคุยกับพี่ พี่จะให้น้องเป็นล้านก็ได้ เธอคิดว่า4หมื่นนี่เยอะหรอ ชั้นว่าคนที่เค้าเป็นเจ้าของน่ะเค้าคิดถึงประสบการณ์มาก่อนตัวเงินนะ จำไว้น้อง"
เธอถามตอบแบบสุภาพต่อ(เป็นผมคงขึ้นไปละ) ว่า..."ค่ะ แล้วเวลาการทำงานละคะพี่?"
เมียพี่P : อ่อ นี่น้องยังกล้าถามเวลางานอีกหรอพี่อ่ะให้เท่าไหร่ก็ได้ ขอคนที่ทำงานเต็มที่ ไม่ใช่อายุ25แล้วมาถามเรื่องเงินเดือนหรือเวลางาน ชั้นอาจจะจ่ายเธอ4หมื่นมาพิมดีดก็ได้ แต่เธอก็ไม่ทำอยู่ดี หรืออยากได้คนติดต่อประสานงานเก่งๆ ก็จ้างเงินเดือน2หมื่นมา2คนก็ได้ไม่เห็นต้องมาถามเล้ยเงินเดือน,สวัสดิการน่ะ"
(ผมคิดในใจ อ้าวอีเจ้นี่กวนตีนละ สมัครงานที่ไหนเค้าก็ต้องคุยต้องบอก มีจะใช้น้องเค้าคุ้มแล้วจะให้เงินเดือนเค้ากี่บาทกันฮะ! ฟังแล้วมันขึ้นอยากเถียงแทนเธอจริงๆ)
เธอโคตรอดทนและตอบกลับว่า : อ่อพอดีหนูแค่อยากทำงานบริษัทิที่มั้นคง เจ้าของเป็นคนดี และมีเวลาให้ครอบครัวน่ะค่ะ ส่วนตัวเงินหนูไม่รู้ว่า40Kมันน้อยมากสำหรับพี่รึเปล่า แต่ที่อื่นอายุ25เรียกไปก็ต่อมา เลยคุยกันก่อนพี่กับหนูจะได้ไม่เสียเวลาน่ะค่ะ^^
เมียพี่P : พี่ว่าน้องทำที่เก่านั่นแหละดีแล้ว งานคงเป็นเวลา เงินคงมั่นคง!!!
แต่จำไว้เลยนะน้องว่าที่นี่เหมาะกับผู้จะเป็นเจ้าของเท่านั้น ถ้าน้องไม่หัดอดทนแล้วกินเงินน้อยๆก่อนน้องก็คงไม่มีวันทำงานดีได้หรอก พี่ว่าน้องไม่เหมาะกับที่นี่แล้วแหละ พอดีผัวพี่แค่เห็นว่าน้องทำงานสายนี้มา จบก็สูงแต่พอคุยแล้วมีแต่เรื่องเงินเดือนกับเวลาพี่ว่าอย่าเลย
แค่นี้นะ !!!
เธอ : ขอบคุณค่ะพี่ สวัสดีค่ะ.
------------------------------------------------->
จากท่วางสายไป ผมยอมรับครับว่าผม ปิ้ดดด แทนน้องเค้ามมากจนพูดว่า "ทำไมเองไม่ด่ามันกลับวะ"
"อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลย มันไม่คุ้มหรอกพี่ อีกอย่างหนูคงไม่เหมาะกับที่นั่น"
(ผมคิดในใจ แม่พระแท้)
อีเจ้ (เมียพี่P)...ผมจะบอกอะไรให้นะ ผมไม่รู้ว่ากิจการคุณรวยล้นฟ้าขนาดไหน แต่สุดท้ายก็มองหาพนักงานเก่งๆอยู่ดี ถ้ามีปัญญาจ้าง2-3คนตามที่บอก แล้วจะโทรหาน้องผมทำไม
อีอย่างนะเจ้ อย่าดูถูกคนอื่นไม่ว่าเค้ารวยหรือจน น้องผมเป็นคนดี มีมันสมองและที่สำคัญ มันทำงานเก่งมาก และต่อให้เจ้เอาเงินมาวางซักล้านนึง น้องผมก็คงไม่สนใจเจ้เช่นเดียวกัน
ปล.สงสารผัวเจ้เนอะ คงปวดหัวตาย555