คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
นิยายหรือวรรณกรรม เมื่อเขียนขึ้นมาแล้ว เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนเพียงผู้เดียวโดยอัตโนมัติค่ะ ไม่จำเป็นต้องไปขึ้นทะเบียนให้ยุ่งยาก
หากกังวลว่าจะโดนละเมิดก็ส่งเมลถึงตัวเองโดยแนบไฟล์เรื่องไว้ ระบบของอีเมลจะบันทึกวันเวลาที่มีไฟล์นี้อยู่ สามารถเป็นหลักฐานยืนยันได้อีกทางหนึ่งค่ะ
ในส่วนของการแก้ไข
เมื่อผ่านขั้นตอนของการบรรณาธิกรโดยบรรณาธิการ ฉบับที่ผ่านการตรวจแก้แล้วถือเป็นลิขสิทธิ์ของสนพ. แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องของเราจะกลายเป็นของคนอื่น สนพ.เพียงได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของต้นฉบับ ฉบับสำนวนนี้ โดยหากจะตีพิมพ์ อย่างไรเสียก็ต้องขออนุญาตเป็นเรื่องเป็นราวจากเจ้าของบทประพันธ์หรือนักเขียน
และตามมารยาทแล้ว นักเขียนก็ไม่ควรนำ "สำนวน" ของสนพ.ที่ผ่านการตรวจแก้ไขแล้วไปใช้เป็นของตัวเอง ดังจะเห็นได้ว่าหากเรื่องของคุณตีพิมพ์กับสนพ.หมายเลขหนึ่งแล้ว และเมื่อครบรอบสัญญา (หมดสัญญา) มีสนพ.หมายเลขสองสนใจจะตีพิมพ์ต่อ ตัวนักเขียนก็ต้องมอบต้นฉบับที่เป็นสำนวนของตัวเองให้สนพ.หมายเลขสองตรวจแก้ไข ไม่ใช่ฉบับที่ผ่านการตรวจแก้ไขจากสนพ.หมายเลขหนึ่งเรียบร้อยแล้วค่ะ
ถ้ารักงานสายนี้ ลองหาพรบ.ลิขสิทธิ์อ่านประกอบด้วยนะคะ มีเอกสารให้อ่านทั่วไปในอินเตอร์เน็ต มีประโยชน์มากค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติม :
การบรรณาธิกร คือการเฟ้นเรื่องที่จะตีพิมพ์ ตรวจแก้ไขถ้อยคำสำนวน ประโยค ตัวสะกด พิจารณาการตีพิมพ์ เลือกกระดาษ ฟอนต์ ปก ฯลฯ
หมายเหตุ : อาจไม่หมายรวมถึงการปรับปรุงเนื้อเรื่อง เพราะตรงส่วนนี้ต้องผ่านความเห็นชอบของนักเขียนและเขียนออกมาเป็นสำนวนของนักเขียนเอง ซึ่งพิจารณาร่วมกันกับพรบ.ลิขสิทธิ์ได้ว่า พรบ.ลิขสิทธิ์ไม่คุ้มครองครอบคลุมถึงการเสนอความคิด หรือพล็อตเรื่อง
เพราะฉะนั้นอย่าไปเล่าพล็อตให้คนที่ไม่น่าไว้ใจฟังนะคะ เพราะถ้าเขาเอาไปเขียนเป็นเรื่องขึ้นมา ศาลทรัพย์สินไม่รับฟ้องเพราะมันเป็นการกล่าวหาลอยๆ (ลอยอยู่ในหัวคุณ) ไม่เหมือนเรื่องราวที่เขียนร้อยเรียงออกมาแล้วค่ะ
**ยืนยันให้ศึกษานะคะ มีประโยชน์จริงๆ ค่ะ **
หากกังวลว่าจะโดนละเมิดก็ส่งเมลถึงตัวเองโดยแนบไฟล์เรื่องไว้ ระบบของอีเมลจะบันทึกวันเวลาที่มีไฟล์นี้อยู่ สามารถเป็นหลักฐานยืนยันได้อีกทางหนึ่งค่ะ
ในส่วนของการแก้ไข
เมื่อผ่านขั้นตอนของการบรรณาธิกรโดยบรรณาธิการ ฉบับที่ผ่านการตรวจแก้แล้วถือเป็นลิขสิทธิ์ของสนพ. แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องของเราจะกลายเป็นของคนอื่น สนพ.เพียงได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของต้นฉบับ ฉบับสำนวนนี้ โดยหากจะตีพิมพ์ อย่างไรเสียก็ต้องขออนุญาตเป็นเรื่องเป็นราวจากเจ้าของบทประพันธ์หรือนักเขียน
และตามมารยาทแล้ว นักเขียนก็ไม่ควรนำ "สำนวน" ของสนพ.ที่ผ่านการตรวจแก้ไขแล้วไปใช้เป็นของตัวเอง ดังจะเห็นได้ว่าหากเรื่องของคุณตีพิมพ์กับสนพ.หมายเลขหนึ่งแล้ว และเมื่อครบรอบสัญญา (หมดสัญญา) มีสนพ.หมายเลขสองสนใจจะตีพิมพ์ต่อ ตัวนักเขียนก็ต้องมอบต้นฉบับที่เป็นสำนวนของตัวเองให้สนพ.หมายเลขสองตรวจแก้ไข ไม่ใช่ฉบับที่ผ่านการตรวจแก้ไขจากสนพ.หมายเลขหนึ่งเรียบร้อยแล้วค่ะ
ถ้ารักงานสายนี้ ลองหาพรบ.ลิขสิทธิ์อ่านประกอบด้วยนะคะ มีเอกสารให้อ่านทั่วไปในอินเตอร์เน็ต มีประโยชน์มากค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติม :
การบรรณาธิกร คือการเฟ้นเรื่องที่จะตีพิมพ์ ตรวจแก้ไขถ้อยคำสำนวน ประโยค ตัวสะกด พิจารณาการตีพิมพ์ เลือกกระดาษ ฟอนต์ ปก ฯลฯ
หมายเหตุ : อาจไม่หมายรวมถึงการปรับปรุงเนื้อเรื่อง เพราะตรงส่วนนี้ต้องผ่านความเห็นชอบของนักเขียนและเขียนออกมาเป็นสำนวนของนักเขียนเอง ซึ่งพิจารณาร่วมกันกับพรบ.ลิขสิทธิ์ได้ว่า พรบ.ลิขสิทธิ์ไม่คุ้มครองครอบคลุมถึงการเสนอความคิด หรือพล็อตเรื่อง
เพราะฉะนั้นอย่าไปเล่าพล็อตให้คนที่ไม่น่าไว้ใจฟังนะคะ เพราะถ้าเขาเอาไปเขียนเป็นเรื่องขึ้นมา ศาลทรัพย์สินไม่รับฟ้องเพราะมันเป็นการกล่าวหาลอยๆ (ลอยอยู่ในหัวคุณ) ไม่เหมือนเรื่องราวที่เขียนร้อยเรียงออกมาแล้วค่ะ
**ยืนยันให้ศึกษานะคะ มีประโยชน์จริงๆ ค่ะ **
แสดงความคิดเห็น
ก่อนส่งนิยาย ให้สำนักพิมพ์ จำเป็นต้อง จดลิขสิทธิ์ ก่อนมั้ย
จำเป็นต้องมีใบลิขสิทธิ์ยืนยัน ความเป็นเจ้าของ
หรือว่า
ส่งต้นฉบับ ไปก่อนถ้าทางสำนักพิมพ์รับ
เพราะอาจจะมีการแก้ไขต้นฉบับใหม่
แล้วค่อยจดลิขสิทธิ์ ตอนที่ต้นฉบับ เสร็จสมบูรณ์พร้อมตีพิมพ์
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยครับ