แก้ Heading ครับ "อยู่ๆก็พอใจกับความเป็นโสด"
ผมอายุ 23 ครับ สิ้นปีนี้ก็ 24 เต็มแล้วละ ก็อยู่ในช่วงเรียนจบทำงานเก็บตังค์ ทั่วๆไปเขาก็เรียกว่ายังหนุ่มยังแน่นอะไรก็ว่าไปประมาณนี้
**ไม่ได้เข้ามาเพ้อ เรียกร้องความสนใจ หาคนมาจีบมาคบน่ะครับ ไม่เอา!
**ออกตัวกันเหนียวไว้ก่อนว่า จริงๆไม่ได้เป็นคนขี้เหร่ หรือทรามถ่อย ที่จะจีบใครไม่ติด หรือไม่มีใครเอา
ชีวิตความรักครั้งสุดท้ายก็ตอนปี 2 โน่นละ คือผมแค่อยากจะเข้ามาแชร์ในมุมมองของผมตอนนี้ว่า เออ ชีวิตโสดที่ผ่านๆมาสามสี่ปี ก็มีเวลาให้ตัวเอง ค้นหาตัวเอง อยากไปไหน ไป อยากทำอะไร ทำ อยากนอน อยากกิน ตราบใดที่ไม่เดือดร้อนใคร เพื่อนฝูงก็มี แต่ผมออกแนวสันโดษนิดๆ ไม่ได้ถึงกับปลีกวิเวกเก็บตัว แต่จะเป็นแบบแนวลุยเดี่ยว ไปไหนมาไหนคนเดียว โดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คนว่างั้นเถอะ แต่ก็ไม่เหงาหงอยอะไร คือ เป็นคนชอบเห็นผู้เห็นคน มองดูชีวิตคนอื่น รู้สึกกำลังลงตัว
แต่ก็ไม่ถึงกับปิดกั้นหัวใจตัวเอง คือแค่ว่าใช้ชีวิตให้มัน flow ไปตามทางของมัน ถ้าจะถามว่าทำไมไม่ยอมจีบใคร คือ ถ้าคุยๆแล้วรู้อยู่แกใจว่าไม่ได้ชอบเขาจริงไม่ได้คิดจะคบจริงๆจังๆ จะไปลองจีบลองคบให้เสียเวลั่มเวลาเสียความรู้สึกทำไมละ เหมือนกัน ถ้าเกิดมีคนเข้ามาจีบเข้ามาคุยแล้วเราไม่คิดว่าจะชอบเขาก็ตอบกันไว้ดีกว่ามาเสียใจกันทีหลัง รอให้ได้พบได้เจอคนที่เราและเขาต่างชอบพอกันและกัน รวมถึงว่าเป็นคนที่รสนิยม ไลฟสไตล์ ระดับความคิดศิลธรรมจริยธรรมพอๆกันไปด้วยกันได้จะดีกว่า
ระหว่างที่โสดๆอย่มันก็ไม่ได้เสียหายถึงตายอะไรสักหน่อย จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาชีวิตทนคบกับใครที่เขาพยายามให้เราฝืนตัวเอง หรือพยายามเปลี่ยนเราให้เป็นโน่นเป็นนี่ หรือทนอยูกับคนที่เอาแต่ใจสำคัญตัวเองเหนือทุกสิ่งอย่าง บางทีก็เห็นก็มองความสันพันธ์ของคนอื่นคู่อื่น ทั้งของเพื่อน ของญาติผู้ใหญ่ หรือจากใน Pantip บ้าง ClubFriday บ้าง มันก็อุ่นใจอยู่นะ คนโสดมันไม่ต้องมาปวดหัวกับอะไรพันนี้ หรือตอนถึงเวลาจะมีคู่ก็รอคนที่พอดีกันดีว่า ดีเจพี่อ้อยพี่ฉอดก็กล่าวไว้บ่อยๆ
อยู่ๆก็พอใจกับเป็นความโสด
ผมอายุ 23 ครับ สิ้นปีนี้ก็ 24 เต็มแล้วละ ก็อยู่ในช่วงเรียนจบทำงานเก็บตังค์ ทั่วๆไปเขาก็เรียกว่ายังหนุ่มยังแน่นอะไรก็ว่าไปประมาณนี้
**ไม่ได้เข้ามาเพ้อ เรียกร้องความสนใจ หาคนมาจีบมาคบน่ะครับ ไม่เอา!
**ออกตัวกันเหนียวไว้ก่อนว่า จริงๆไม่ได้เป็นคนขี้เหร่ หรือทรามถ่อย ที่จะจีบใครไม่ติด หรือไม่มีใครเอา
ชีวิตความรักครั้งสุดท้ายก็ตอนปี 2 โน่นละ คือผมแค่อยากจะเข้ามาแชร์ในมุมมองของผมตอนนี้ว่า เออ ชีวิตโสดที่ผ่านๆมาสามสี่ปี ก็มีเวลาให้ตัวเอง ค้นหาตัวเอง อยากไปไหน ไป อยากทำอะไร ทำ อยากนอน อยากกิน ตราบใดที่ไม่เดือดร้อนใคร เพื่อนฝูงก็มี แต่ผมออกแนวสันโดษนิดๆ ไม่ได้ถึงกับปลีกวิเวกเก็บตัว แต่จะเป็นแบบแนวลุยเดี่ยว ไปไหนมาไหนคนเดียว โดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คนว่างั้นเถอะ แต่ก็ไม่เหงาหงอยอะไร คือ เป็นคนชอบเห็นผู้เห็นคน มองดูชีวิตคนอื่น รู้สึกกำลังลงตัว
แต่ก็ไม่ถึงกับปิดกั้นหัวใจตัวเอง คือแค่ว่าใช้ชีวิตให้มัน flow ไปตามทางของมัน ถ้าจะถามว่าทำไมไม่ยอมจีบใคร คือ ถ้าคุยๆแล้วรู้อยู่แกใจว่าไม่ได้ชอบเขาจริงไม่ได้คิดจะคบจริงๆจังๆ จะไปลองจีบลองคบให้เสียเวลั่มเวลาเสียความรู้สึกทำไมละ เหมือนกัน ถ้าเกิดมีคนเข้ามาจีบเข้ามาคุยแล้วเราไม่คิดว่าจะชอบเขาก็ตอบกันไว้ดีกว่ามาเสียใจกันทีหลัง รอให้ได้พบได้เจอคนที่เราและเขาต่างชอบพอกันและกัน รวมถึงว่าเป็นคนที่รสนิยม ไลฟสไตล์ ระดับความคิดศิลธรรมจริยธรรมพอๆกันไปด้วยกันได้จะดีกว่า
ระหว่างที่โสดๆอย่มันก็ไม่ได้เสียหายถึงตายอะไรสักหน่อย จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาชีวิตทนคบกับใครที่เขาพยายามให้เราฝืนตัวเอง หรือพยายามเปลี่ยนเราให้เป็นโน่นเป็นนี่ หรือทนอยูกับคนที่เอาแต่ใจสำคัญตัวเองเหนือทุกสิ่งอย่าง บางทีก็เห็นก็มองความสันพันธ์ของคนอื่นคู่อื่น ทั้งของเพื่อน ของญาติผู้ใหญ่ หรือจากใน Pantip บ้าง ClubFriday บ้าง มันก็อุ่นใจอยู่นะ คนโสดมันไม่ต้องมาปวดหัวกับอะไรพันนี้ หรือตอนถึงเวลาจะมีคู่ก็รอคนที่พอดีกันดีว่า ดีเจพี่อ้อยพี่ฉอดก็กล่าวไว้บ่อยๆ