:: [ "เอาตัวรอดมาได้" กับเกมทีมชาติไทย 2 - 1 สิงค์โปร์ ] ::

กระทู้สนทนา
ทีมชาติไทย

วันนี้ที่ยังเห็นทำได้ดีน่าชมเชยเหมือนเดิมก็คือ attacking run หรือการวิ่งหาช่อง ทำทาง วิ่งแลบ เราเห็นมีจังหวะดีๆ แบบนี้เรื่อยๆ แต่ขึ้นอยู่กับว่าได้จังหวะส่งให้หรือไม่ แต่อีกก็ต้องชมสิงค์โปร์ที่เกมรับมีสมาธิดี ถึงเราหลุดไปได้ก็ได้แค่เตะยัดใส่ๆ ไปได้เตะมุมบ้างอะไรบ้าง

จังหวะที่ "สอด" แล้ว "หลุด" ชัดๆ ประตูแรกนั่นล่ะครับ นอกนั้นนับนิ้วมาได้เลย เราทำอยู่ แต่เค้าตามดี สมาธิดี

แนวรุกในพื้นที่สุดท้าย กีรติยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ว่าจะพิง พักบอลให้เพื่อน ก็ไม่ค่อยมี จะวิ่งจะสอดหรือจะลูกกลางอากาศ (ที่เราไม่ค่อยเล่น) (ซึ่งดีแล้ว) ก็ไม่เด่น

เกมโดยทั่วๆ ไป

ไม่มีอะไรใกล้เคียงกับอารมณ์อาเซียนสเปนเลย จ่ายบอลธรรมดา และเปรียบเทียบแล้วก็แทบไม่ได้เหนือกว่าสิงค์โปร์เลย (ก่อน อดิศักดิ์ กับ ชนาธิป จะลง)

แต่ที่ "สอบตก" คือ "แนวรับ"

รวนและสเปะสะปะมาก

แท็คติคของสิงค์โปร์คือเค้า กล้า และยินดีอย่างยิ่งที่จะเปิดบอลตั้งแต่พื้นที่ก่อนพื้นที่สุดท้าย ไม่มากจังหวะ ขอชั้นจับบอล 1 ทีแล้วตักเลย ซึ่งก็ทำเราเป๋ได้ตลอด แนวรับเชื่อใจไม่ได้เลย หายใจไม่ทั่วท้องตลอด

รวมถึงความผิดพลาดกันเองเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าและควรจะกลายเป็นใหญ่หลายครั้งไม่ว่าจะเตะแป้ก กะจังหวะผิด เข้าพรวด โดนพลิก บังไม่มิด ประกบห่าง

สิ่งที่ทำให้เรารอดมาได้เพราะหลักพื้นฐานเท่าที่เห็นในเกมของไทยชุดนี้คือ "ซ้อน, ประคอง, วิ่ง" ทุกคนจะขยับเข้าหาบอลโดยไว้วางใจได้ว่ามีเพื่อนคอยซ้อนอยู่ข้างหลัง ทำให้กล้าเข้าบอล

ในเกมรุกเวลาได้บอลทั้งคนที่ส่งเอง และคนที่อยู่ใกล้จะเข้ามาประคอง ทำให้เราเสียบอลยาก (แต่วันนี้ก่อน 2 ตัวสำรองลงมาไม่ได้แบบนี้เลยเสียบ่อย)

โชคดีที่บางครั้งสิงค์โปร์เองก็พลาดไปเองบ้าง ไม่คมบ้าง

ไม่ต้องรอให้โดนโกงแล้วโวยวายแบบเจอเกาหลีหรอกครับ ถ้าแนวรับยังหลวมแบบนี้ ก็ต้องเจอสั่งสอนอีกแน่ ให้จุกจนไม่รู้จะเอามาอ้าง


บทสรุปกับทีมชาติไทยวันนี้ เกมตรงกลางผมเฉยๆ ไม่ได้เล่นดีกว่าสิงค์โปร์แบบที่ควรจะเป็น ทั้งที่เมอร์ไลอ้อน ตั้งกระบวนทัพมาแบบขอชั้น 2-3 ทีถึงหน้าประตูแล้ว ไม่มาปั้นมาครองเกมแบบไทย แต่พี่ไทยเราเองที่ครองเกมไม่ดี เสียเองบ่อยเกินไป เรียกว่า ไม่ค่อยละเอียดจะดีกว่า

2 คนที่ลงมาเล่นบอลกับเท้าได้ดี (กว่า กีรติ) และมีความเร็ว มันเลยดูวูบวาบและลื่นไหล อีกฝ่ายก็ไม่กล้าเข้าพรวด ยืนจ้อง

สิ่งที่ผมยังชอบ ก็อย่างที่บอก คือถ้าฝรั่งพากย์ ต้องมีคำว่า "that's a good run" ให้เราในหลายๆ ช็อตบ้างล่ะ เสียแต่ว่าบางทีบอลมันไม่ถึง

แนวรุก เรา "เน้น" ที่จะพาบอลด้วยเท้าเข้าถึงพื้นที่สุดท้ายก่อนสับไก ไม่ว่าจะริมเส้น หรือตรงกลาง คือ จะไม่ยอมตักบอลเข้าไปเด็ดขาด (เคยมีเห็นลองอยู่ 2-3 มั้ง และผลคือมีทั้งแบบที่สิงค์โปร์โหม่งเคลียชิวๆ กับถึงขนาดพักออกเอาลงมาเล่นต่อ)


สิงค์โปร์

ตรงกันข้ามกับทีมชาติไทย สิงค์โปร์รู้ดีว่าธรรมชาติและพื้นฐานของเค้าไม่รู้จะมาเคาะบอลทำไม เลยเน้นบอล direct น้อยจังหวะ รวดเร็วฉับไว physical ดี จะว่าเป็นสโต๊คแห่งอาเซียนก็ได้มั้ง

มันเหมือนตบหน้าไทยกลายๆ ที่ทิ้งกองหน้าไว้ 1 คนที่ก็ไม่ได้สูงใหญ่เป็น ปีเตอร์ เคร้าช์ และไม่ได้ครอสจากเส้นหลัง แต่ตักตั้งแต่พื้นที่ก่อนพื้นที่สุดท้าย และกองหลังทั้งหมดของไทย รวมถึงผู้รักษาประตูได้ยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นและก้มลงไปเก็บลูกจากก้นตาข่าย

ไบฮัคกี้ ก็ได้ตักบอลข้ามทุกคนในสนามแล้ว อัมรี่ ยังได้จับบอลเดี่ยวๆ ก่อนที่เราจะเคลียชนิดโคตรเส้นยาแดงผ่าแปด


ทั้งหมดนี้มันบอกว่า 1. พื้นที่ระหว่างแผงหลังกับผู้รักษาประตูของไทยยังมากเกินไป และ 2. กองหลังไทย ประกบตัวกันหลวมเกินไป

เกมรับของสิงค์โปร์ชัดเจน เค้าบีบ 2 เส้น 2 แผง แผงกองกลาง กับ แผงกองหลัง ในระยะชิดมากจนทำให้การเคาะเทพๆ ของไทยมันยากและถ้าไม่ใช่พวก ชนาธิป หรือ ธีรศิลป์ คงจะยากที่จะครองบอล

ความละเอียด precision, accuracy มันระดับแทบจะพูดกันเป็นนิ้ว ไม่งั้นก็หลุดแล้ว

ซึ่งเราไม่ใช่สเปน ไม่ว่าจะยุครุ่งเรืองหรือยุคนี้ ดังนั้นเราจึงพลาดเยอะและบ่อย

จริงๆ แล้วแผงหลังของสิงค์โปร์ไม่ถึงกับประกบตัวดีมาก มีจังหวะให้เราได้ยืนว่างๆ อยู่บ้าง แต่ทั้งด้วยเพราะแท็คติคของไทยที่เน้นเคาะไปจนถึงพื้นที่สุดท้ายก่อนค่อยปิด ทำให้เค้ามีเวลาระดมไปกระจุกกันมาก และส่วนลูกกลางอากาศไม่ต้องห่วง พี่แกเก็บกินเรียบหมดอยู่แล้ว


ความสามารถเฉพาะตัว การบังบอล ครองบอล สิงค์โปร์ไม่แพ้เราเลย และยังดีกว่าเรื่อง physical อีกด้วย


แผงหลังของไทยที่จัดการให้ amri หายไปจากเกมไม่ได้ ทำให้สิงค์โปร์สบายใจได้ว่ามีโอกาสเรื่อยๆ

นอกจากลูกตักโด่ง direct จากทุกพื้นที่ของสนามแล้ว สิงค์โปร์ยังมีลูกชิ่ง ไม่มากจังหวะ เอาแค่ชิ่งวันทูเป็นวินนิ่งเป็นพอ แล้วก็ยังหลุดสวยๆ ได้หลายครั้งด้วย

ก็นั่นล่ะครับ ทั่นผู้ชม สรุปสิงค์โปร์ คือ

เล่น direct ลูกโด่ง ไม่มากจังหวะ, มีลูกชิ่ง, ความสามารถเฉพาะตัวดี เบียดบัง ครองบอลได้ไม่เสียง่ายๆ, ลูกกลางอากาศเด่น, physical ดี




เจ้าความพยายามที่จะ "ปั้นเกม" ของไทยนี่ บางทีทำให้แผงหลังเกือบซวยหลายครั้งแล้ว จ่ายสั้นเสียหน้าเขตโทษตัวเอง ดีกว่าแท็คติครุมสกรัมของเราช่วยเอาตัวรอดไปได้เป็นครั้งๆ ไป แต่ถ้าอยากเป็น King of ASEAN จริงๆ ต้องละเอียดและแม่นยำกว่านี้ครับ

attacking run ดีแล้ว ผมชอบ

ที่ต้องแก้เลย คือ เกมรับ ไม่ว่าจะประตัว ชิงจังหวะ ควรจะดีกว่านี้ จะหวังพึ่งการรุมสกรัมตลอดคงไม่ได้ เช่น พวกจังหวะโดนสวน


วันนี้ ส่วนตัว ผลสกอร์ที่ยุติธรรม ผมให้เสมอ สิงค์โปร์มีจังหวะออกหมัดสวยๆ ถ้าไม่น้อยกว่าเราก็น่าจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่พลาดไป น่าเสียดาย แต่รวมๆ แล้วยังครองเกมดีกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะหลังจาก อดิศักดิ์ กับ ชนาธิป ลงมา ชัดเจน


เอาใจช่วยกันต่อไป ฝาก ซิโก้ แก้ปัญหาเกมรับด้วยนะคับ!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่