ผมลองแกะงบการเงินจริงและตีความจากตัวเลขของหุ้นตัวหนึ่งดังนี้
1.ในงบดุล(สินทรัพย์หมุนเวียน) ตรงหัวข้อ "โครงการอสังหาริมทรัพย์ระหว่างพัฒนาเพื่อขาย" เปลี่ยนแปลง 1600% (Q3/14=4900ลบ.,Q4/13=278ลบ.) ตีความว่าโครงการมีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปมากพอสมควร
2.ในงบดุล (สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน) ตรงหัวข้อ "ที่ดิน" เปลี่ยนแปลง 200% (Q3/14=1786ลบ.,Q4/13=57.90ลบ.) ตีความว่า บริษัทมีการซื้อที่ดินเพื่อรอการพัตนาเพื่อขายในอนาคต
3.ในงบดุล (หนี้สินหมุนเวียน) ตรงหัวข้อ "เงินรับล่วงหน้าและเงินมัดจำรับจากลูกค้า" เปลี่ยนแปลง 3000% (Q3/14=1800ลบ.,Q4/13=58.7ลบ.) ตีความว่ารับเงินดาวน์จากลูกค้ามา สมมุติว่า 10% (โดยได้ไปดูนโยบายคิดเงินดาวน์บริษัทที่อยู่ที่ 15-20% ของราคาเต็มผมเอา 10% คิดแบบconservative ) หมายความว่าอีก 1-2 ปีข้างหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้ประมาณ 18,000 ล้านบาท สมมุติเราให้ net margin ที่ 10% คือ 1,800 ล้านบาทคือกำไรสุทธิ บริษัทมีหุ้นจำนวน 2000 ล้านหุ้นจับหารก็จะได้ 1800/2000=0.9 บาท/หุ้น ถ้าให้ PE=10 ก็จะได้ราคาในอนาคตที่ 9 บาท(0.9x10)
วิเคราะห์มั่วๆๆนะครับ
ขอคำแนะนำมือใหม่หัดแกะงบ
1.ในงบดุล(สินทรัพย์หมุนเวียน) ตรงหัวข้อ "โครงการอสังหาริมทรัพย์ระหว่างพัฒนาเพื่อขาย" เปลี่ยนแปลง 1600% (Q3/14=4900ลบ.,Q4/13=278ลบ.) ตีความว่าโครงการมีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปมากพอสมควร
2.ในงบดุล (สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน) ตรงหัวข้อ "ที่ดิน" เปลี่ยนแปลง 200% (Q3/14=1786ลบ.,Q4/13=57.90ลบ.) ตีความว่า บริษัทมีการซื้อที่ดินเพื่อรอการพัตนาเพื่อขายในอนาคต
3.ในงบดุล (หนี้สินหมุนเวียน) ตรงหัวข้อ "เงินรับล่วงหน้าและเงินมัดจำรับจากลูกค้า" เปลี่ยนแปลง 3000% (Q3/14=1800ลบ.,Q4/13=58.7ลบ.) ตีความว่ารับเงินดาวน์จากลูกค้ามา สมมุติว่า 10% (โดยได้ไปดูนโยบายคิดเงินดาวน์บริษัทที่อยู่ที่ 15-20% ของราคาเต็มผมเอา 10% คิดแบบconservative ) หมายความว่าอีก 1-2 ปีข้างหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้ประมาณ 18,000 ล้านบาท สมมุติเราให้ net margin ที่ 10% คือ 1,800 ล้านบาทคือกำไรสุทธิ บริษัทมีหุ้นจำนวน 2000 ล้านหุ้นจับหารก็จะได้ 1800/2000=0.9 บาท/หุ้น ถ้าให้ PE=10 ก็จะได้ราคาในอนาคตที่ 9 บาท(0.9x10)
วิเคราะห์มั่วๆๆนะครับ