ถ้าเมื่อใดท่านคิด เมื่อนั้นท่านก็เข้าไปสู่อดีตอันเป็นของไม่จริงทันที เป็นสิ่งปรุงแต่งที่เอามาย้อนเล่นใหม่จากสัญญาหรือความจํา
ความเป็นปัจจุบันกับความเป็นอดีตมันเร็วมากๆจนแทบจะเป็นขณะเดียวกันเลย เกิดแล้วดับติดต่อกัน เพราะความต่อเนื่องของสภาวะธรรม
ที่เรียกว่า สันตติ หรือการสืบต่อกันนี้ มันเลยปิดบังการมองเห็นความเป็นจริงของธรรมชาติว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันตั้งอยู่คงที่ไม่ได้
มันคงทนอยู่ไม่ได้ ไม่มีอะไรสามารถไปบังคับมันได้ อย่างนี้ก็จึงตรงกับคําที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง (อนิจจัง)
ธรรมทั้งหลายเป็นทุกข์ (ทุกขัง) ธรรมทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน คนสัตว์ เราเขา (อนัตตา)
เหตุเพราะว่ามันเกิดดับรวดเร็วมากๆ ถ้ากําลังสติและสมาธิไม่แข็งแรงพอก็จะมองไม่เห็นสภาวะนี้ตามความเป็นจริงเลย
ที่เรากําลังคุยเราสนทนากันนั้น เราก็กําลังอยู่ในอดีตทั้งนั้น เราสนทนากันในสิ่งที่มันดับไปแล้วทั้งสิ้น
ถ้าคิดเมื่อใดจิตก็เข้าไปสู่อดีต
ความเป็นปัจจุบันกับความเป็นอดีตมันเร็วมากๆจนแทบจะเป็นขณะเดียวกันเลย เกิดแล้วดับติดต่อกัน เพราะความต่อเนื่องของสภาวะธรรม
ที่เรียกว่า สันตติ หรือการสืบต่อกันนี้ มันเลยปิดบังการมองเห็นความเป็นจริงของธรรมชาติว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันตั้งอยู่คงที่ไม่ได้
มันคงทนอยู่ไม่ได้ ไม่มีอะไรสามารถไปบังคับมันได้ อย่างนี้ก็จึงตรงกับคําที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง (อนิจจัง)
ธรรมทั้งหลายเป็นทุกข์ (ทุกขัง) ธรรมทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน คนสัตว์ เราเขา (อนัตตา)
เหตุเพราะว่ามันเกิดดับรวดเร็วมากๆ ถ้ากําลังสติและสมาธิไม่แข็งแรงพอก็จะมองไม่เห็นสภาวะนี้ตามความเป็นจริงเลย
ที่เรากําลังคุยเราสนทนากันนั้น เราก็กําลังอยู่ในอดีตทั้งนั้น เราสนทนากันในสิ่งที่มันดับไปแล้วทั้งสิ้น