จากเนื้อข่าว
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่สภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ได้ออกแถลงการณ์ของ
สภาทนายความฉบับที่ 18/2557 เรื่องการดำเนินคดีต่อการกระทำผิดกฎหมายไทยของคนต่างชาตินายเดชอุดมกล่าวว่า
จากกรณีที่มีการดำเนินคดีต่อสองนักท่องเที่ยวสัญชาติอเมริกันที่ลักทรัพย์ชิ้นส่วนมนุษย์จากพิพิธภัณฑ์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช
เพื่อส่งผ่านพัสดุไปรษณีย์ไปยังสหรัฐอเมริกา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อทั้งสองคนทันทีที่เกิดเหตุ
ซึ่งตามหลักการของกฎหมายถือว่านักท่องเที่ยวทั้งสองคนมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรตั้งแต่แรก
เนื่องจากมีการลงลายมือชื่อในใบแจ้งขนส่งซึ่งตามกฎหมายศุลกากรนั้น ผู้ที่ส่งจะต้องรับผิดชอบสินค้านั้นๆ ดังนั้นจึงเข้าข่ายความผิด
ตามกฎหมายศุลกากร เพราะได้กระทำการโดยสมคบกันส่งชิ้นส่วนมนุษย์ออกไปนอกประเทศ โดยชิ้นส่วนมนุษย์นั้นถือเป็นสินค้าต้องห้าม
หรือต้องจำกัดตามพระราชบัญญัติศุลกากรและกรณีนี้ยังมีการสำแดงรายการสินค้าที่จะส่งอันเป็นเท็จอีกด้วยจึงถือว่ามีความผิดชัดเจนแต่แรกแล้ว
******************************************************************************************************
ข้อเท็จจริง มีนักท่องเที่ยวต่างขาติสองคนเอาอวัยวะมนุษย์ใส่กล่องไปที่บริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ(DHL)
เพื่อให้ส่งออกไปนอกประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ของบรัษัทพบก่อนจึงแจ้งตำรวจไปตรวจสอบ ตำรวจจึงไปเอาตัวมาทำการสอบสวนปากคำ
เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า ชิ้นส่วนนั้นเป็นอวัยวะมนุษย์จริงหรือไม่และต้องใช้ความเห็นของแพทย์มาประกอบคดี จึงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งสองคนกลับไปก่อน ต่อมาทั้งสองคนเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ต่อมาทราบจากแพทย์ว่าเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์จริงและ
ถูกขโมยจากรพ.ศิริราช หลังจากได้รับผลตรวจจากแพทย์แล้ว พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติออกหมายจับชาวต่างชาติในเรื่องพยายาม
สำแดงเท็จกับลักทรัพย์
ส่วนตัวไม่ได้รู้จักหรือโกรธเคืองกับผู้ใดในเรื่องนี้ แต่อยากให้ฟังอีกด้านหนึ่งสมมุติว่าผมเป็นร้อยเวรในคดีนี้
เมื่อรับตัวนักท่องเที่ยวทั้งสองพร้อมชิ้นส่วนมนุษย์มาที่สน.แล้วก็สอบสวนปากคำ แล้วก็ให้กลับไปก่อนเพราะต้องนำชิ้นส่วนส่งแพทย์
ทำการตรวจก่อน เพราะจะต้องรอแพทย์ยืนยันก่อนว่าเป็นอวัยวะมนุษย์จริงๆ ไม่สามารถกักตัวหรือดำเนินคดีได้ทันที อีกทั้งการ
สำแดงเท็จอำพรางว่าเป็นของเล่นทั้งที่เป็นของอย่างอื่นอันเป็นความผิดทางศุลกากรนั้น มีองค์ประกอบคือการยื่นเอกสารอันเป็น
เท็จหรืออื่นใดต่อเจ้าหน้าที่ แต่ทีนี้มันยังไม่ถึงขั้นตอนนั้นของหรือเอกสารแจ้งการขนส่งยังไม่ถูกส่งไปอยู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เลย
มันจะเป็นความผิดและดำเนินการจับกุมนักท่องเที่ยวได้ในวันนั้นหรือไม่...? โปรดพิจารณาครับ...
สภาทนายความตำหนิ ตร.ปล่อยตัวคนขโมยชิ้นส่วนมนุษย์
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่สภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ได้ออกแถลงการณ์ของ
สภาทนายความฉบับที่ 18/2557 เรื่องการดำเนินคดีต่อการกระทำผิดกฎหมายไทยของคนต่างชาตินายเดชอุดมกล่าวว่า
จากกรณีที่มีการดำเนินคดีต่อสองนักท่องเที่ยวสัญชาติอเมริกันที่ลักทรัพย์ชิ้นส่วนมนุษย์จากพิพิธภัณฑ์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช
เพื่อส่งผ่านพัสดุไปรษณีย์ไปยังสหรัฐอเมริกา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อทั้งสองคนทันทีที่เกิดเหตุ
ซึ่งตามหลักการของกฎหมายถือว่านักท่องเที่ยวทั้งสองคนมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรตั้งแต่แรก
เนื่องจากมีการลงลายมือชื่อในใบแจ้งขนส่งซึ่งตามกฎหมายศุลกากรนั้น ผู้ที่ส่งจะต้องรับผิดชอบสินค้านั้นๆ ดังนั้นจึงเข้าข่ายความผิด
ตามกฎหมายศุลกากร เพราะได้กระทำการโดยสมคบกันส่งชิ้นส่วนมนุษย์ออกไปนอกประเทศ โดยชิ้นส่วนมนุษย์นั้นถือเป็นสินค้าต้องห้าม
หรือต้องจำกัดตามพระราชบัญญัติศุลกากรและกรณีนี้ยังมีการสำแดงรายการสินค้าที่จะส่งอันเป็นเท็จอีกด้วยจึงถือว่ามีความผิดชัดเจนแต่แรกแล้ว
******************************************************************************************************
ข้อเท็จจริง มีนักท่องเที่ยวต่างขาติสองคนเอาอวัยวะมนุษย์ใส่กล่องไปที่บริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ(DHL)
เพื่อให้ส่งออกไปนอกประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ของบรัษัทพบก่อนจึงแจ้งตำรวจไปตรวจสอบ ตำรวจจึงไปเอาตัวมาทำการสอบสวนปากคำ
เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า ชิ้นส่วนนั้นเป็นอวัยวะมนุษย์จริงหรือไม่และต้องใช้ความเห็นของแพทย์มาประกอบคดี จึงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งสองคนกลับไปก่อน ต่อมาทั้งสองคนเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ต่อมาทราบจากแพทย์ว่าเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์จริงและ
ถูกขโมยจากรพ.ศิริราช หลังจากได้รับผลตรวจจากแพทย์แล้ว พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติออกหมายจับชาวต่างชาติในเรื่องพยายาม
สำแดงเท็จกับลักทรัพย์
ส่วนตัวไม่ได้รู้จักหรือโกรธเคืองกับผู้ใดในเรื่องนี้ แต่อยากให้ฟังอีกด้านหนึ่งสมมุติว่าผมเป็นร้อยเวรในคดีนี้
เมื่อรับตัวนักท่องเที่ยวทั้งสองพร้อมชิ้นส่วนมนุษย์มาที่สน.แล้วก็สอบสวนปากคำ แล้วก็ให้กลับไปก่อนเพราะต้องนำชิ้นส่วนส่งแพทย์
ทำการตรวจก่อน เพราะจะต้องรอแพทย์ยืนยันก่อนว่าเป็นอวัยวะมนุษย์จริงๆ ไม่สามารถกักตัวหรือดำเนินคดีได้ทันที อีกทั้งการ
สำแดงเท็จอำพรางว่าเป็นของเล่นทั้งที่เป็นของอย่างอื่นอันเป็นความผิดทางศุลกากรนั้น มีองค์ประกอบคือการยื่นเอกสารอันเป็น
เท็จหรืออื่นใดต่อเจ้าหน้าที่ แต่ทีนี้มันยังไม่ถึงขั้นตอนนั้นของหรือเอกสารแจ้งการขนส่งยังไม่ถูกส่งไปอยู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เลย
มันจะเป็นความผิดและดำเนินการจับกุมนักท่องเที่ยวได้ในวันนั้นหรือไม่...? โปรดพิจารณาครับ...