เรื่องนี้เป็นเรื่องของรุ่นน้องที่สนิทของดิฉันมาขอคำปรึกษาและดิฉันก็ได้ขออนุญาตน้องแล้วในการนำเรื่องนี้มาเล่า
เรื่องมีอยู่ว่า พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดน้องแยกทางกันตั้งแต่น้องอายุได้ 6 เดือน แม่เป็นคนเลี้ยงน้องมาแต่เพียงผู้เดียว
จนมาวันหนึ่ง น้องอายุประมาณ 5 ขวบ แม่ได้พาน้องไปทำงานด้วย ซึ่งแม่ทำงานเป็นแม่บ้านในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
และได้มีพนักงานขายของห้างมาเห็นน้องก็รักและเอ็นดู จนได้เอ่ยปากขอน้องเป็นลูกบุญธรรมกับแม่
แม่ก็ยกให้ ซึ่งยกให้เฉยๆ ไม่ได้มีการจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
ต่อมาแม่ผู้ให้กำเนิดก็ลาออกจากงาน กลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดแล้วภายหลังก็แต่งงานใหม่
แต่ก็มีการติดต่อกันกับน้องบ้าง มาเยี่ยมเยียน ส่งเงินมาให้บ้าง ส่วนพ่อแม่บุญธรรมก็ดูแลอย่างดี ส่งเสียให้เรียน เลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเอง
เมื่อน้องมาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ แม่ผู้ให้กำเนิดก็ช่วยส่งเงินค่าเทอมมาให้เทอมละ 15,000 และค่าใช้จ่ายเดือนละ 2,000
ส่วนน้องก็ไปเยี่ยมเยียนแม่ผู้ให้กำเนิดในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์
ซึ่งการไปเยี่ยมเยียนแม่ผู้ให้กำเนิดน้องก็จะเจอพ่อผู้ให้กำเนิด เพราะแม่กับพ่ออยู่หมู่บ้านเดียวกัน
เมื่อเจอพ่อน้องก็ไหว้ ทักทาย ถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไปเท่านั้น
ตอนนี้น้องเรียนจบทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และพ่อผู้ให้กำเนิดก็โทรมาหาน้องบอกน้องว่าให้ส่งเงินไปให้หน่อยเดือนละ 4,000
ซึ่งตอนนี้เงินเดือนของน้องประมาณ 28,000 น้องมีภาระคือ 1. ค่าเรียนโท 2. ค่าผ่อนรถ (พ่อแม่บุญธรรมให้เงินดาวน์มา 2.5 แสน)

คำถาม น้องต้องทำตามพ่อผู้ให้กำเนิดขอไหมหรือว่าน้องควรทำอย่างไร ??