ลิลิตสงครามเก้าทัพ

ลิลิตสงครามเก้าทัพ

ร่าย – กรุงรัตนโกสินทร์
กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตน์ราชธานีบูรีรมย์
อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์ ประดิษฐานพระพุทธรูปแสนองค์
เทียมจงสวัสดิ์สุราลัย ละออละไมแดนสรวง เทวดาทั้งปวงนิมิต เรืองพิพิธแก้วเจ็ดสี ปูชนียสถาน
เทพอภิบาลรองเรือง เมืองวโรตมะ ปวงประชาเป็นสุขถ้วน เปนแหล่งสำราญล้วน มากด้วยหรรษา แลนา

โคลงสี่สุภาพ – ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่
ราชอาณาจักรด้าว...................แดนไทย
เรืองรุ่งดั่งแสงไถง...................สาดฟ้า
เผชิญกับเปลวไฟ....................เปลวศึก
รวมเหล่ารามัญพะหม้า.............ย่างเท้ารณรงค์

องค์กษัตริย์พม่าไท้.................นามปดุง ธ เฮย
เกณฑ์เหล่าทหารกรุง..............กอปรด้วย
มอญ,พม่า,เงี้ยวพยุง...............ยะข่าย อีกนา
ห้าวฮึกบ่กลัวม้วย...................โห่ก้องปฐพี

ร่าย - เก้าทัพยาตรา (๑)
ทัพที่หนึ่งมีพลรบ นับครบหนึ่งหมื่นนาย ล้วนเป็นชายฉกรรจ์ เร่งโรมรันทำศึก อาชาคึกกลองตี
มีถึงหนึ่งพันม้า ให้ยาตราทางสิงขร ยอกรเทพทั้งปวง ก่อนล่วงเข้าชิงชัย ไปทางเมืองมะริด
อาญาสิทธิ์ให้นายกอง แมงยีแมงข่องกยอ เป็นแม่ทัพต่อตีเมือง อันรุ่งเรืองฝ่ายใต้ ของไทยด้วยทัพบก
พลันยกไปเจ็ดพัน มุ่งมั่นแต่ชุมพร ก่อนบรรจบสงขลา ช้างม้าแกล้วไป่รวน ส่วนทัพเรือไป่กลัว
ตะกั่วป่าตะวันตก ยกพลไปสามพัน พร้อมกำปั่นสิบห้า ให้มาบรรจบเมืองถลาง เป็นทางสิ้นสุดโจมตี
มียี่หวุ่นเป็นแม่ทัพ เข้าขับม้าฮึกห้าว หอกหลาวเตรียมพร้อมสรรพ กำกับโยธาแลอาวุธให้  รบพุ่งเพื่อองค์ไท้ ธแกล้วรามัญ กล่าวนา

โคลงสามสุภาพ - เก้าทัพยาตรา (๒)
ครันอนอกแฝกคิดหวุ่นหาญ.................รุกรานตะวันตกใกล้
(อะ-นอ-กะ-แฝก-คิด-หวุ่น)
ทางด่านบ้องตี้ไซร้.............................เร่งเร้าโจมตี สยามฤๅ

ราชบุรีประจัญ...................................โรมรันเมืองเพชรครั้น
พลหมื่นม้าศึกนั้น...............................เพียบหล้าดินสะเทือน

เคลื่อนทัพสรรพพลรบ........................บรรจบทัพที่หนึ่งแกล้ว
เร่งรัดเหล่าทหารแล้ว.........................มุ่งหน้าชุมพร ตามแฮ

ร่าย - เก้าทัพยาตรา (๓)
ฝ่ายมอญทัพที่สาม รุกสยามเข้าตี หวุ่นคยีสะโดศิริมหาอุจจนา ราชาเมืองตองอู ผู้เป็นแม่ทัพมอญ
ต้อนไพร่ถือพลครบ นักรบได้สามหมื่น ม้าศึกดื่นดาษครัน โรมรันนครเชียงใหม่ ให้ตีด่านลำปาง ไปทางสวรรคโลก
โยกทัพเกณฑ์อาชาไนย สู่สุโขทัยเมืองเก่า เข้าพระพิษณุโลกสองแคว แพร่ธงโบกเป็นสัญลักษณ์ ว่าจะพิทักษ์เล่มขวาน
ห้าวหาญจะชิงเชิง จุดเพลิงจะชิงชัย ไปสมทบกับทัพหลวง และทัพทั้งปวงที่กรุงเทพ แลเสพความสำราญ
ถิ่นบ้านเมืองสยาม ให้ต่ำทรามหยุดสู้ ทำศึกครานี้กู้ พระพักตร์ไท้ปดุงรา- มัญเฮย

โคลงสองสุภาพ - เก้าทัพยาตรา (๔-๘)
ห้าทัพยาตรเพียบหล้า.........................แปดหมื่นเก้าพันอ้า
มุ่งเข้าพระนคร

หวังรานรอญฝ่ายไท้............................นเรศไทยเปล่าไหม้
ร่ำร้อนโศกศัลย์ ฤทัยฤๅ

พระจันทร์แสงดับด้าว..........................คืนมืดประชาร้าว
หวั่นห้วงวิญญาณ์ ผวาแฮ

ร่าย - เก้าทัพยาตรา (๔-๘ ต่อ)
เมียนหวุ่นแมงยีมหาทิมข่อง สนองพระประสงค์ถือพล เตรียมกลทำศึกรุก บุกด่านพระเจดีย์สามองค์ ส่งพลหนึ่งหมื่นหนึ่งพัน
ม้าศึกนั้นหนึ่งพันหนึ่งร้อย นำใช้สอยแต่งตี เปนทัพที่สี่มหึมา ทัพที่ห้ามีเมียนเมหวุ่น คอยหนุนทัพที่สี่ ให้ศิริธรรมราชา
พระโอรสาองค์ที่สอง เดินผยองอื้ออึง พร้อมพลหนึ่งหมื่นสองพัน ม้าศึกหนึ่งพันสองร้อย คอยเปนทัพหน้าที่หนึ่ง
พอถึงดินแดนไทย มิให้ระย่อถอยร่น ให้บุตรคนที่สาม นามสะโตทันซอ ตั้งทัพรอคุมเชิง จุดเพลิงสังเกตการณ์
รอประสานทัพใหญ่ ที่เดินใกล้ตามติด ทิศประจิมข้ามเขา มีพระเจ้าปดุงเปนจอมทัพ กำกับพลห้าหมื่นก้องกึก
แลม้าศึกห้าพัน ช้างรบประจัญห้าร้อย ยกเข้าคอยท่วงที ด่านพระเจดีย์สามองค์ โบกธงให้เด่นหล้า
แสดงฤทธิ์มอญพะหม้า เทียบฟ้านภาลัย เชียวนา

โคลงสี่สุภาพ - เก้าทัพยาตรา (๙)
เพลิงไฟทัพสุดท้าย......................เหยียบแดน
ทางด่านแม่ละเมาแสน..................ปวดร้าว
มีแม่ทัพตัวแทน...........................จอข่อง นรธาเฮย
ถือเหล่าพลหาญห้าว.....................เกือบห้าพันคน

ม้าศึกปนฮ่าร้อย............................รองเรือง
หวังหักด่านด้านเมือง.....................ตากโน้น
กำแพงเพชรชำเลือง......................คงไป่ รอดนา
แลคิดบรรจบโพ้น..........................เกียรติฟุ้งเหมืองหลวง

ร่าย - แต่งกลรับศึก (๑)
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ พระมหากษัตริย์ไทย ทรงแจ้งในการศึก พม่าคึกทำสงคราม จัดเวรยามตรวจตรา
บัญชาให้เกณฑ์คน เปนพลร่วมแก้ไข รวมไพร่เจ็ดหมื่นนาย โยกย้ายออกนคร ราญรอนนอกนครา
ทัพที่หนึ่งให้พระมหาอุปราช พระราชบวรมหาสุรสิงหนาท ยาตรทัพคุมไพร่พลหลวง ล่วงไปยังทุ่งลาดหญ้า
ต้านข้าศึกดาษดื่น ด้วยพลสามหมื่นนาย ถวายชีพเป็นราชพลี กาญจนบุรีหน้าด่าน เพื่อต้านทานข้าศึก
ผนึกกำลังรณรงค์ ด่านเจดีย์สามองค์จุ่งได้ นำเกียรติถวายไท้ นอบเกล้าชื่นชม บารมี

โคลงสองสุภาพ - แต่งกลรับศึก (๒)
กรมหลวงอนุรักษ์เทเวศน์เจ้า..............ยกทัพรับศึกเข้า
ด่านหน้าแม่ละเมา แกร่งเฮย

เอาคนคุมไพร่ทั้ง..............................หนึ่งหมื่นห้าพันยั้ง
ยกขึ้นไปเหนือ

ร่าย - แต่งกลรับศึก (๓)
เมื่อเจ้าพระยาธรรมมา แลพระยายมราช ยาตรทัพไปตั้งมั่น คอยยันศึกเมืองราชบุรี ทางด่านบ้องตี้ตรวจคาม
เปนทัพที่สามของไทย มีไพร่พลห้าพันนาย ขยายค่ายแผ่คูมั่น สกัดกั้นเหล่าไพรี ส่วนทัพที่สี่แกล้วกล้า
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯคุมครัน ตั้งมั่นในพระนคร คอยหนุนทัพอ่อนแรง ทรงแจ้งในกลศึก ล้ำลึกแลปราดเปรื่อง
เลื่องชื่อลือนามสี่ทัพสู้ สำเร็จพิชัยสงครามรู้ ม่านไหม้ม้วยมอญ แน่ฤๅ

โคลงสี่สุภาพ - ชนะสงคราม

ยอกรองค์เทพไท้..........................เสื้อเมือง
อีกพระทรงเมืองเรือง.....................เดชกล้า
ทำศึกบ่นึกเปลือง.........................เนื้อเลือด
รุกรบไป่คิดอ้า..............................เปล่ากลุ้มรอนราญ

ด่านกรามช้างแตกพลั้ง..................พังทลาย
มอญไล่ถึงลาดหญ้าวาย.................วุ่นหล้า
ปะทะเดือดสิ้นมลาย.......................ไปมาก อยู่นา
มอญจึ่งตั้งมั่นอ้า............................ไป่ได้ต่อคม

สมเด็จวังหน้าคิด...........................ประดิษฐ์กล
จึงสั่งให้ไพร่พล............................ตัดไม้
ทำเปนลูกปืนผล...........................งามยิ่ง
ปืนใหญ่สอดใส่ไส้.........................พลิกหน้าแผ่นดิน

ยิงสิ้นหอรบเงี้ยว............................ทลายลง
อังวะไป่มั่นคง................................ไป่กล้า
ออกมานอกค่ายคง..........................ขวัญฝ่อ แน่ฤๅ
พลศึกไทยประกาศท้า......................ฮึกห้าวฉลองชัย

ไทยรบพุ่งฉกาจก้อง........................เขตคาม
ุคงพม่าในแดนสยาม.......................หลบเร้น
แตกทัพบ่คิดตาม...........................ตีต่อ
เหลือศึกทางใต้เหล้น......................กระหนาบเบื้องเมืองถลาง

ทางคุณหญิงมุกผู้..........................น้องสาว
ของท่านหญิงจันพราว.....................เดชโอ้
รวมพลต่อกรราว.............................กล้าแกร่ง
ตั้งค่ายตีพม่าโต้..............................ต่างด้าวแรมเดือน

สมเด็จวังหน้าเคลื่อน.......................ทัพมา
เกงหวุ่นแม่ทัพพา..........................ต่อสู้
ถอยร่นจวบสิงขรสา-.......................หัสศึก
จึงกลับสู่อังวะรู้..............................ไป่ได้รณรงค์

ร่าย - ประกาศชัย

องค์เจ้าปดุงยังมิทรงยอมแพ้ ส่งกองทัพตีแก้ไข แต่ไม่สามารถยึดเมือง รองเรืองประวัติศาสตร์ ประกาศชัยชนะสำเร็จ
มอญเข็ดหลาบตราบนิรันดร์ มิกล้าประจัญศึกพบ กับนักรบเหล่าชาวสยาม ทั่วเขตคามเสริญสรร
บากบั่นทำนุบำรุง กรุงเทพมหานครจุ่งได้ งามงดดุจสวรรค์ไซร้ เทพไท้ประทาน ขวัญเอย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่