เกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่เชียงคาน

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 15 -16 พ.ย. ที่ผ่านมาดิฉันไปเที่ยวเมืองเลยกับแฟนช่วงนั้นดิฉันเป็นคนขับเพราะเเฟนเหนื่อยจากการขับลงเขามา แล้วพอมาถึงสี่แยกไฟแดงในตัวเมืองเลยมีรถคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงพร่อมเปิดไฟสูงและบีบแตรดังลั่นเหมือจะให้หลบชิดซ้ายไป ช่วงนั้นรถมันเยอะและวิ่งเร็วเลยหลบไม่ได้แต่พอมีจังหวะเลยหลบให้ไปชิดซ้ายเลย เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้นมันขับมาประกบด้านคนนั่งพร้อมกับชักปืนมาเคาะกระจกรถ แฟนตกใจแต่ก็กดกระจกลง มันชักปืนออกมาขู่พร้อมกับตะคอกว่ามจะเอายังไง จะเอาเลยมั้ย มาทำอะไร พร้อมกับส่ายปืนมาที่คนขับเเละคนนั่ง แฟนและดิฉันอึ้งมากทำอะไรไม่ถูก จนแฟนได้ยกมือไหว้ขอโทษทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด บอกว่าถ้าผมทำไรผิดผมขอโทษ ไม่มีอะไรคับพี่ มันยังไม่หยุดจ่อปืนมาที่รถเราคือมันจะเอาเรื่องดิฉันเพราะเป็นคนขับ แต่ดิฉันพูดอะไรไม่ออกเเล้วจะช๊อกแล้วทำอะไรไม่ถูกเครียสมากอยากออกไปขอความช่วยเหลือกับรถคันอื่นที่จอดติดไฟเเดงอยู่แต่กลัวมันจะยิงแฟนเพราะมันขึ้นลำเตรียมยิงแล้ว แล้วช่วงเวลาที่ติดไฟแดงรู้สึดมันยาวนานมากเมื่อไหร่มันจะไป จนไฟเขียวมันอิกรถไปด้วยความเร็ว จึงให้แฟนถ่ายภาพทะเบียนรถแต่ถ่ายไม่ทันมันเร็วมาก และทำเหมือนเดิมคือเปิดำฟสูงกระพริบๆพร้อมบีบแตรขณะขับออกไป จึงใก้แฟนโทรแจ้ง 191 ให้สกัดจับ แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะสกัดจับทันหรือไม่ช่วงนั้นเลยตัวเมืองแล้ว จึงขับเลยไปจุดหมายคือเชียงคาน ฝากความหวังที่ตำรวจ ช่วงที่เรานั่งดูคอนเสิร์ทที่เชียงคานบอกเลยว่าไม่สนุกเลยใจนี่มัวเเต่พะวงกับเร ื่องที่มันเอาปืนมาจ่อยิงเราสองคนจนเครียสไปหมดดูได้ไม่นานเราก็ไปนอน บอกเลยนอนไม่หลับ พอตอนกลับเลยเเวะไปถามข่าวที่สถานีตำรวจว่าจับได้ไหม ถ้ายังจับไม่ได้จะแจ้งความไว้เพราะจำทะเบียนได้ ปรากฏว่าไม่ได้อย่างที่คาดไว้ เราสองคนเลยแจ้งความไว้ ตำรวจตรวจสอ บป้ายทะเบียน พบว่าเป็นคนที่มาจ่อยิงเราจริงจึงให้ตรวจสอบที่อยู่ ปรากฏว่าเป็นคนที่ทำงานอยู่ที่นั่น แต่ได้แจ้งไปแล้วบอกว่าไม่อยู่ เรื่องมันจบลงตรงนี้ก่ นเพราะเราต้องกลับบ้านแล้ว มันบ่ายแล้วจึงฝากให้ตำรวจติดตามเรื่องให้ ตอนนี้ยังห่วงอยู่ว่าเรื่องจะไม่คืบหน้าเพราะอยู่ไกล เพื่อนคิดว่าเราสองคนโดนขนาดนี้คิดว่าไ ้คนที่ทำมันควรจะได้รับโทษยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่