สวัสดีค่ะ ตอนนี้Backpack อยู่ที่ญี่ปุ่น ขณะที่พิมพ์อยู่เป็นวันที่ 6 ของทริปนี้ค่ะ
เนื่องจากอัพรูปลงเฟสตลอดเวลา เพื่อนๆเกิดอิจฉา.. อิอิ และอยากจะมาบ้าง เลยเข้ามาเล่าให้ฟัง กระตุ้นต่อมอยากอีกนิสนึงค่ะ
เล่าให้ฟังก่อนว่า เราไม่เคย Backpack ไปไหน และนี่ครั้งแรกที่มา ญี่ปุ่น ^^ จัดเต็มไปเลยค่ะ ครั้งแรกทั้งที 15วันเต็มพิกัด!!!
ได้ตั๋วการบินไทยมาค่ะ ราคา 18000 จองตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนู้นน บินมาลงที่ฟุกุโอกะ 15 พ.ย. และบินกลับจากนาริตะ 29 พ.ย.
ทริปนี้มากัน 2 คนค่ะ เริ่มต้นด้วยการชวนกันเล่นๆในวงเหล้า สุดท้ายได้มาจริงๆซะงั้น ฮ่าๆๆๆ
หาข้อมูลในพันทิปเป็นหลักและถามจากเพื่อนที่เคยมาค่ะ เวลาคุณเก็บข้อมูล พอคุณจำทุกอย่างได้คร่าวๆ มาถึงที่นี้มันจะง่ายและสนุกมากค่ะ ^^
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนมา
- JR Pass เนื่องจากเราเปลี่ยนเมืองบ่อยค่ะ ซื้อมาเลยแบบ 7 วัน คุ้มสุดๆ 8พันบาทนิดๆค่ะ ซื้อที่ HIS สถานี bts อโศก
- แลกเงินค่ะ ทริปนี้เรากับบัดดี้ ตั้งงบไว้คนละ 50000บาท ตอนที่แลกมาค่าเงินอยู่ที่ 30ค่ะ ( ไม่รวมค่า ตั๋วเครื่องบิน และ ที่พักและ JR pass )
- จองที่พักผ่าน Agoda และ Airbnb ถูกมากจิงๆค่ะ จ่ายผ่านบัตรเครดิต เฉลี่ยแล้ว ตกลงคนละ 700บาทนิดๆ ต่อคืน
-ลิสรายชื่ออาหารที่อยากกิน เมืองไหนมีดีอะไร ที่ไหนที่อยากไป และอะไรเด็ดๆ จดไว้ในมือถือเลยค่ะ แผนที่ที่พักด้วยนะค่ะ และสถานที่ไหนอยู่สถานนี้ไหนเดินทางยังไงจัดตารางมาเลยค่ะ
-เช่า WiFi มาด้วยนะจ้ะ ของ bs mobile อันนี้แนะนำเลยคะ
-เตรียมข้าวของมาไม่ต้องเยอะ ยิ่งแบกเป้แบบเราเอามาน้อยๆพอค่ะ (เพราะตอนกลับเชื่อว่าของแน่นแน่ๆ) เสื้อผ้ามาซักที่นี้เอาคะ
6ชั่วโมง สบายๆกับการบินไทยรักคุณเท่าฟ้า ปล.ควรเชคอินในเน็ตให้เรียบร้อยเพื่อเลือกที่นั่งนะค่ะ
วันแรก เสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน มาถึงสนามบินฟุกุโอกะ 8:30 เช้าตรู่ อากาศ 12 องศาค้าาาาาา
พอมาถึงเราก็มุ่งหน้าไป สถานี HAKATA ศูนย์กลางของการเดินทางในฟุกุโอกะ (นั่งรถบัสจากสนามบินไป HAKATA) ไปถึงที่นั้นเพื่อเอา JR pass ไปแลกเป็นตั๋วจริงใช้เดินทางค่ะ อะอะ!! ยังค่ะยัง เรายังไม่เที่ยวฟุกุโอกะค้าา แพลนแรกของเราจะลงไปเที่ยวที่
นางาซากิกันก่อน!!!!
เรานั่ง JR จากฮากาตะ ไปนางาซากิ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงค่ะ รถไฟสะดวกสบายมากๆ และตรงเวลาสุดๆ เราขอตารางเวลามาจาก information จะมีตารางเวลาแบบละเอียดยิบเลยค่ะ ว่าถึงสถานีไหนเวลาไหน สามารถนอนหลับและตั้งปลุกขึ้นมาได้แบบเป๊ะมาก ไม่ต้องกลัวเลยป้าย 55555
ปล. ลืมบอกไป มาถึงญี่ปุ่นแล้วอย่าลืมตั้งเวลาที่นาฬิกาให้ตรงกับเวลาของที่นี้เป๊ะๆนะคะ ไม่ต้องเผื่อให้เร็วกว่าเลยนะ! เพราะอาจะทำให้คุณขึ้นรถผิดขบวน เราเกือบซวยแล้วค่ะ ฮ่าาาาาๆๆๆๆๆ
นางาซากิ เมืองเล็กๆ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เดินทางรอบเมืองได้ด้วยรถราง ไปไหนมาไหนง่ายมากๆ ( ทุกที่ในญี่ปุ่นมีแผนที่บอกแบบเข้าใจง่ายและละเอียดจริงๆค่ะ ) และที่นี้ก็มีสถานที่สำคัญๆมากมาย อย่างเช่น Atomic bomb museum , Peace park , Huis Ten Bosch และของกินที่ต้องตามล่าอย่าง จัมปง!
เราพักที่ Guesthouse nagasaki kagamiya 2คืน ที่พักสไตล์ญี่ปุ่น แอบซ่อนอยู่ในลืบแต่ห้องดี บริการดี น่ารักสุดๆ ราคาเบาๆ เปิด google map จากแอพของ agoda เลยจ้าาานำทางได้แม่นเป๊ะ (แต่ตอนแรกอีนี่โง่ ดูไม่เป็น 555 ถามทางชาวบ้านแถวนั้น ใจดี้ใจดี พูดอังกฤษไปพี่แกใส่ญี่ปุ่นกลับมารัวๆ คุยกันไม่รู้เรื่องแต่นำทางไปเลยค่ะ เก๋มั่กๆ )
เอารูปไปดูเลยละกันน้าาา
แบกกันมาคนละใบ รอดูขากลับจะงอกอีกกี่ใบหว่าาา 5555
สะอาดปลอดภัยไร้กังวล สบายฝุดๆบนรถไฟJR ไป นางาซากิ
ถึงนางาซากิแล้วจ้าาา เดินทางด้วยรถรางรอบเมือง น่ารักไม๊ๆๆๆ 120ํ Y ตลอดสายแฮปปรี้ตรงจุดนี้
อ่าาา บอกนิดนึง วันแรกเราซื้อ one day ticket 500Y นั่งรถรางไม่อั้นของนางาซากิ คือไม่คุ้มมมเลยค่ะคุณขา เพราะเอาเข้าจิงเราก็เดินเดินและเดิน ดูนู้นแวะนี้ นั่งไป2 ครั้งเอง เสียใจจจ
ไม่ต้องกลัวหลง แผนที่บอกละเอียดยิ่งกว่าอะไรดี ละเอียดจนอยากกราบขอบพระคุณถึงความใส่ใจ มีบอกแบ่งสีแบ่งขบวนน่ารักที่สุด เย้เย้
เดินเล่นชิวๆอากาศ เย็นๆ เกิดกระหายน้ำอยากจิบชาร้อน อย่าได้ห่วงค่ะ ตู้กดน้ำมีทุกๆ 100ก้าวมดเดิน ราคาไม่เกิน 130ํY
วันแรกมาถึงตื่นตาตื่นใจกับ familymart มากๆนะ บุ๋มขอพูดตรงๆว่ามันน่ากินทุกอย่างงง คือไม่ต้องไปไหนแล้ว อิ่มตั้งแต่แฟมมิลี่มาท เดี๋ยวววนะ!
สวนสันติภาพนางาซากิ Peace park ใหญ่โตโอ่อ่า ดีงามและมีความหมายแต่ไม่กล้าโพสท่าตามจิงๆ (ถึงแม้จะอยากมากเพียงใด)
อีกหนึ่งที่สำคัญที่ต้องไป Atomic bomb museum ไปดูเถอะนะ ประเทศชาติเค้าก็เจอเรื่องราวเศร้าๆมามากมายเหลือเกิน แต่เค้าก็กลับมายิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ และที่สำคัญพิพิธภัณฑ์ของเค้าทำดีมากๆค่ะ ราคาก็ไม่แพง แถมเป็นนักท่องเที่ยวมีบัตรส่วนลดให้ด้วย (บัตรส่วนลดเอาจากโรงแรมที่พัก)
ดูต้นไม้ริมทางเท้าสิ น่ารักชะมัดดด >< ใส่ใจรายละเอียดดีจัง ไม่มีกลิ่นท่อระบายน้ำด้วย เดินได้หลายกิโล(ช่วยย่อยได้ดี 5555)
ฟ้ามืดแย้ววว ไปเที่ยวกันเถอะ ดึกๆแบบนี้ไปดูไฟที่ Huis Ten Bosch นั่ง JR ไปเลยจ้าา มีบัตรแล้วนิ ไปให้คุ้ม แต่อย่าลืม ขอตารางเวลาจากสถานีด้วยนะ จะได้รู้ว่า ขบวนสุดท้ายกี่โมง และจัดเวลาต่อรถรางกลับที่พักได้พอดี (อิฉันตกรถรางรอบสุดท้ายมาแล้วค่ะ โดนTAXIไป 300บาท)
โอ้ยยยย ง่วงแล้วงะ ตั้งกะทู้นี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดแฮะ >< พึ่งผ่านไปวันแรกเองนะ แงๆๆๆ เอาเป็นว่าตอนนี้ใครมีไรจะถาม จัดมาโลดดดด เดี๋ยวมาอัพใหม่เรื่อยๆ ขอบอกว่า สนุกมากกก ฟินมากกก อร่อยมากกก สวยมากกก มากมากทุกอย่าง อยากเที่ยวให้ทั่วประเทศเลย อิอิ
โอเค อีกฮึบนึง เอาให้จบ นางาซากิ มาที่ของกินบ้าง จากที่อ่านๆมา เค้าาว่ามาที่นี้ต้องโดน จัมปง! หากินได้ที่ไชน่าทาวน์
น่าตาเป็นแบบนี้ จิงๆก็คล้ายๆราเมงนะ เส้นมันเหมือนหมี่ซั่ว น้ำซุปไม่เข้มข้นเท่าไหร่ แต่หอยใหญ่และให้เยอะ ชามนึงมีจุก เอาไป 5กะโหลก
การเที่ยวของเราเคยมีการวางแผนนะ ว่าจะไปไหนอะไรยังไง แต่เมื่อมาถึงที่นี้คือมันผิดแผนไปหมด แต่เรากลับชอบ!! เพราะว่ามันไม่ใช่แบบทัวร์จุ่ม มันคือทัวร์เปื่อย 5555 เอาจิงๆมันตื่นเต้นไปหมดทุกอย่าง เจอนี่ก็ชอบ เจอนั้นก็อยากแวะ ไม่ห่วงเรื่องแผนอะไรทั้งนั้น อยากทำไรทำ อยากกินไรกิน อยากไปไหนไป ก็มาถึงญี่ปุ่นแล้วนิ จะต้องมีตารางชีวิตอีกหรอ!!! ^_____^
การที่เดินไปเรื่อยๆเข้าซอยนู้น ออกซอยนี้ ทำให้ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นคนเค้ารีวิวเยอะมากนะคะ บ้านคน วิถีชีวิต ร้านอาหารเก๋ๆราคาถูก นางาซากิเป็นเมืองที่ยังเรียบง่ายมากๆ ไม่เร่งรีบ เป็นชนบทที่คุณจะตื่นตาตื่นใจ และอยู่ได้แบบชิวๆ เอาเป็นว่าเราชอบมาก ประทับใจเลย อาหารทุกอย่างยังราคาถูกมาก อันนี้สำคัญ เพราะเราเน้นกิน! และอยากกินหลายๆอย่าง กว่าจะถึงโตเกียว กลัวเงินหมด 55555
โซนช้อปปิ้งที่นี้ มันคล้ายๆพวกแบบ นิมมาน เชียงใหม่ คือเก๋ คือน่ารักและเป็นบ้านเค้าเอง
เอาละ 2 วันที่ นางาซากิ ถือว่าเริ่มต้นได้ดี ทัวร์ชิลของเรานั้น ใช้เงินไป แค่ 10000 Y หน่อยๆ คุมงบสุดริด5555 เพราะว่าที่ต่อไปเราจะไป ฟุกุโอกะ มันจะตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่านี้ ค่อยๆเนาะไม่รีบบบ
ฟุกุโอกะ ศูนย์กลางของเกาะคิวชู ~~ นั่ง JR กลับมาเลยจ้ะ ชิวๆเข้าเมือง พอมาถึงต้องเติมพลังกันซักหน่อย เริ่มตกใจกับราคาอาหารที่มันแพงขึ้นละ 5555 คือมันแพงขึ้นแบบเห็นชัดต่างจากนางาซากิ เหมือนกินข้าวในห้างทุกมื้ออะเอางี้ แต่ว่าตุณภาพและปริมาณต่างกันมากนะ นี่ให้เยอะแบบไม่แคร์กระเพาะ อร่อยแบบทลายลิ้น สะดวกสบายกดตู้ หยอดเหรียญ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา (อะไรจะคุ้มค่าทุกนาทีขนาดนี้) ทุกคนที่เข้ามากินในร้าน เราสังเกตุแล้วว่าเค้ากินเร็วมากกกกก คือเรายังเป่าอยู่ แต่เค้าซวบเข้าไปเลย มาเร็วเคลมเร็ว กินเสร็จก็รีบออกเหมือนมีธุระตลอดเวลา นี่ไงๆๆ เริ่มเข้าเมืองละ ตื่นเต้นละไงๆๆ
ตู้สั่งราเมง
ที่ฟุกุโอกะ เราพักกันที่ International Hostel Khaosan Fukuoka ที่นี้มีแต่ฝรั่ง อ๋ออลืมบอก ที่พักของเรา เราไม่เน้นชีวิตหรูอยู่อย่างราชา เราเน้นถูก และเราเชื่อว่าเกสเฮ้านั้นอบอุ่นเหมือนบ้าน 5555 เพราะเราใช้ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำร่วมกัน ไม่ได้อาบพร้อมกันนะ ไม่ต้องกลัว แค่มันเหมือนอยู่ที่บ้านอะ ออกมาอาบน้ำ แยกย้ายเข้าห้องตัวเอง ของใช้ส่วนใหญ่ทุกอย่างจะเป็นส่วนกลาง ใช้ด้วยกัน และเราเชื่ออีกว่าขึ้นชื่อว่า ญี่ปุ่น ทุกว่าจะออกมาดี และมันก็เป็นอย่างที่ว่า ที่พักของเรานั้น ถูกและดีจริงๆ ปรบมืออออออ แปะๆๆๆ ^^
ที่ฟุกุโอกะไม่มีรถรางนะฮับ เรานั่งรถบัสกัน อันนี้เริ่ม งงๆ นิสนึง เพราะรถบัสมันมีหลายเส้นทางมากกว่ารถราง และก็มีรถใต้ดินSubway ด้วย เมื่อไปถึงสถานีHaKaTa (ศุนย์กลางฟุกุโอกะไง จำได้ป่าว) ไปหยิบแผนที่มาเลย มีบอกละเอียดอะไรอยุ่ตรงไหน ผ่านไปครึ่งวันแล้ว ทำอะไรกันต่อดี ออกไปชมเมืองกันดีกว่า สถานที่สำคัญอาจจะใกล้เวลาปิด งั้นเราไปช้อปปิ้งกัน!!!
นั่งรถบัส Loop bus 100ํY ไปCanal City มันคือห้างอะ อิชั้นไม่นิยม เราก็เลยเดินไปเรื่อยๆๆๆ ไปเรื่อยจริงๆจนไปเจอกับที่นี้ค่ะ
คาวาบาตะ ถนนคนเดิน คล้ายๆสำเพ็ง! คือของถูกได้ใจป้า แต่ป้าก็ยังไม่กล้าซื้อ ฮือๆๆๆ คือเพื่อนบอกว่าไปโอซาก้าค่อยช้อปไง เราก็เลยอดใจไว้ก่อน เดินดูเดินกินเพลินๆละกัน อากาศที่นี้ดีจิงๆค่ะช่วงนี้ยังไม่ถึงกับหนาวทนไม่ได้ มันทำให้เราเดินไปเรื่ยๆจนลืมไกล
อ่าาาา ร้านเบเกอรี่จัดเต็มแบบนี้ทุกร้านเบยยยย ทำน้ำหนักกันเถิดๆๆๆ
Backpack ญี่ปุ่น 15 วัน 5 เมือง รายงานสดแบบ RealTime ^^
เนื่องจากอัพรูปลงเฟสตลอดเวลา เพื่อนๆเกิดอิจฉา.. อิอิ และอยากจะมาบ้าง เลยเข้ามาเล่าให้ฟัง กระตุ้นต่อมอยากอีกนิสนึงค่ะ
เล่าให้ฟังก่อนว่า เราไม่เคย Backpack ไปไหน และนี่ครั้งแรกที่มา ญี่ปุ่น ^^ จัดเต็มไปเลยค่ะ ครั้งแรกทั้งที 15วันเต็มพิกัด!!!
ได้ตั๋วการบินไทยมาค่ะ ราคา 18000 จองตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนู้นน บินมาลงที่ฟุกุโอกะ 15 พ.ย. และบินกลับจากนาริตะ 29 พ.ย.
ทริปนี้มากัน 2 คนค่ะ เริ่มต้นด้วยการชวนกันเล่นๆในวงเหล้า สุดท้ายได้มาจริงๆซะงั้น ฮ่าๆๆๆ
หาข้อมูลในพันทิปเป็นหลักและถามจากเพื่อนที่เคยมาค่ะ เวลาคุณเก็บข้อมูล พอคุณจำทุกอย่างได้คร่าวๆ มาถึงที่นี้มันจะง่ายและสนุกมากค่ะ ^^
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนมา
- JR Pass เนื่องจากเราเปลี่ยนเมืองบ่อยค่ะ ซื้อมาเลยแบบ 7 วัน คุ้มสุดๆ 8พันบาทนิดๆค่ะ ซื้อที่ HIS สถานี bts อโศก
- แลกเงินค่ะ ทริปนี้เรากับบัดดี้ ตั้งงบไว้คนละ 50000บาท ตอนที่แลกมาค่าเงินอยู่ที่ 30ค่ะ ( ไม่รวมค่า ตั๋วเครื่องบิน และ ที่พักและ JR pass )
- จองที่พักผ่าน Agoda และ Airbnb ถูกมากจิงๆค่ะ จ่ายผ่านบัตรเครดิต เฉลี่ยแล้ว ตกลงคนละ 700บาทนิดๆ ต่อคืน
-ลิสรายชื่ออาหารที่อยากกิน เมืองไหนมีดีอะไร ที่ไหนที่อยากไป และอะไรเด็ดๆ จดไว้ในมือถือเลยค่ะ แผนที่ที่พักด้วยนะค่ะ และสถานที่ไหนอยู่สถานนี้ไหนเดินทางยังไงจัดตารางมาเลยค่ะ
-เช่า WiFi มาด้วยนะจ้ะ ของ bs mobile อันนี้แนะนำเลยคะ
-เตรียมข้าวของมาไม่ต้องเยอะ ยิ่งแบกเป้แบบเราเอามาน้อยๆพอค่ะ (เพราะตอนกลับเชื่อว่าของแน่นแน่ๆ) เสื้อผ้ามาซักที่นี้เอาคะ
6ชั่วโมง สบายๆกับการบินไทยรักคุณเท่าฟ้า ปล.ควรเชคอินในเน็ตให้เรียบร้อยเพื่อเลือกที่นั่งนะค่ะ
วันแรก เสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน มาถึงสนามบินฟุกุโอกะ 8:30 เช้าตรู่ อากาศ 12 องศาค้าาาาาา
พอมาถึงเราก็มุ่งหน้าไป สถานี HAKATA ศูนย์กลางของการเดินทางในฟุกุโอกะ (นั่งรถบัสจากสนามบินไป HAKATA) ไปถึงที่นั้นเพื่อเอา JR pass ไปแลกเป็นตั๋วจริงใช้เดินทางค่ะ อะอะ!! ยังค่ะยัง เรายังไม่เที่ยวฟุกุโอกะค้าา แพลนแรกของเราจะลงไปเที่ยวที่ นางาซากิกันก่อน!!!!
เรานั่ง JR จากฮากาตะ ไปนางาซากิ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงค่ะ รถไฟสะดวกสบายมากๆ และตรงเวลาสุดๆ เราขอตารางเวลามาจาก information จะมีตารางเวลาแบบละเอียดยิบเลยค่ะ ว่าถึงสถานีไหนเวลาไหน สามารถนอนหลับและตั้งปลุกขึ้นมาได้แบบเป๊ะมาก ไม่ต้องกลัวเลยป้าย 55555
ปล. ลืมบอกไป มาถึงญี่ปุ่นแล้วอย่าลืมตั้งเวลาที่นาฬิกาให้ตรงกับเวลาของที่นี้เป๊ะๆนะคะ ไม่ต้องเผื่อให้เร็วกว่าเลยนะ! เพราะอาจะทำให้คุณขึ้นรถผิดขบวน เราเกือบซวยแล้วค่ะ ฮ่าาาาาๆๆๆๆๆ
นางาซากิ เมืองเล็กๆ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เดินทางรอบเมืองได้ด้วยรถราง ไปไหนมาไหนง่ายมากๆ ( ทุกที่ในญี่ปุ่นมีแผนที่บอกแบบเข้าใจง่ายและละเอียดจริงๆค่ะ ) และที่นี้ก็มีสถานที่สำคัญๆมากมาย อย่างเช่น Atomic bomb museum , Peace park , Huis Ten Bosch และของกินที่ต้องตามล่าอย่าง จัมปง!
เราพักที่ Guesthouse nagasaki kagamiya 2คืน ที่พักสไตล์ญี่ปุ่น แอบซ่อนอยู่ในลืบแต่ห้องดี บริการดี น่ารักสุดๆ ราคาเบาๆ เปิด google map จากแอพของ agoda เลยจ้าาานำทางได้แม่นเป๊ะ (แต่ตอนแรกอีนี่โง่ ดูไม่เป็น 555 ถามทางชาวบ้านแถวนั้น ใจดี้ใจดี พูดอังกฤษไปพี่แกใส่ญี่ปุ่นกลับมารัวๆ คุยกันไม่รู้เรื่องแต่นำทางไปเลยค่ะ เก๋มั่กๆ )
เอารูปไปดูเลยละกันน้าาา
แบกกันมาคนละใบ รอดูขากลับจะงอกอีกกี่ใบหว่าาา 5555
สะอาดปลอดภัยไร้กังวล สบายฝุดๆบนรถไฟJR ไป นางาซากิ
ถึงนางาซากิแล้วจ้าาา เดินทางด้วยรถรางรอบเมือง น่ารักไม๊ๆๆๆ 120ํ Y ตลอดสายแฮปปรี้ตรงจุดนี้
อ่าาา บอกนิดนึง วันแรกเราซื้อ one day ticket 500Y นั่งรถรางไม่อั้นของนางาซากิ คือไม่คุ้มมมเลยค่ะคุณขา เพราะเอาเข้าจิงเราก็เดินเดินและเดิน ดูนู้นแวะนี้ นั่งไป2 ครั้งเอง เสียใจจจ
ไม่ต้องกลัวหลง แผนที่บอกละเอียดยิ่งกว่าอะไรดี ละเอียดจนอยากกราบขอบพระคุณถึงความใส่ใจ มีบอกแบ่งสีแบ่งขบวนน่ารักที่สุด เย้เย้
เดินเล่นชิวๆอากาศ เย็นๆ เกิดกระหายน้ำอยากจิบชาร้อน อย่าได้ห่วงค่ะ ตู้กดน้ำมีทุกๆ 100ก้าวมดเดิน ราคาไม่เกิน 130ํY
วันแรกมาถึงตื่นตาตื่นใจกับ familymart มากๆนะ บุ๋มขอพูดตรงๆว่ามันน่ากินทุกอย่างงง คือไม่ต้องไปไหนแล้ว อิ่มตั้งแต่แฟมมิลี่มาท เดี๋ยวววนะ!
สวนสันติภาพนางาซากิ Peace park ใหญ่โตโอ่อ่า ดีงามและมีความหมายแต่ไม่กล้าโพสท่าตามจิงๆ (ถึงแม้จะอยากมากเพียงใด)
อีกหนึ่งที่สำคัญที่ต้องไป Atomic bomb museum ไปดูเถอะนะ ประเทศชาติเค้าก็เจอเรื่องราวเศร้าๆมามากมายเหลือเกิน แต่เค้าก็กลับมายิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ และที่สำคัญพิพิธภัณฑ์ของเค้าทำดีมากๆค่ะ ราคาก็ไม่แพง แถมเป็นนักท่องเที่ยวมีบัตรส่วนลดให้ด้วย (บัตรส่วนลดเอาจากโรงแรมที่พัก)
ดูต้นไม้ริมทางเท้าสิ น่ารักชะมัดดด >< ใส่ใจรายละเอียดดีจัง ไม่มีกลิ่นท่อระบายน้ำด้วย เดินได้หลายกิโล(ช่วยย่อยได้ดี 5555)
ฟ้ามืดแย้ววว ไปเที่ยวกันเถอะ ดึกๆแบบนี้ไปดูไฟที่ Huis Ten Bosch นั่ง JR ไปเลยจ้าา มีบัตรแล้วนิ ไปให้คุ้ม แต่อย่าลืม ขอตารางเวลาจากสถานีด้วยนะ จะได้รู้ว่า ขบวนสุดท้ายกี่โมง และจัดเวลาต่อรถรางกลับที่พักได้พอดี (อิฉันตกรถรางรอบสุดท้ายมาแล้วค่ะ โดนTAXIไป 300บาท)
โอ้ยยยย ง่วงแล้วงะ ตั้งกะทู้นี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดแฮะ >< พึ่งผ่านไปวันแรกเองนะ แงๆๆๆ เอาเป็นว่าตอนนี้ใครมีไรจะถาม จัดมาโลดดดด เดี๋ยวมาอัพใหม่เรื่อยๆ ขอบอกว่า สนุกมากกก ฟินมากกก อร่อยมากกก สวยมากกก มากมากทุกอย่าง อยากเที่ยวให้ทั่วประเทศเลย อิอิ
โอเค อีกฮึบนึง เอาให้จบ นางาซากิ มาที่ของกินบ้าง จากที่อ่านๆมา เค้าาว่ามาที่นี้ต้องโดน จัมปง! หากินได้ที่ไชน่าทาวน์
น่าตาเป็นแบบนี้ จิงๆก็คล้ายๆราเมงนะ เส้นมันเหมือนหมี่ซั่ว น้ำซุปไม่เข้มข้นเท่าไหร่ แต่หอยใหญ่และให้เยอะ ชามนึงมีจุก เอาไป 5กะโหลก
การเที่ยวของเราเคยมีการวางแผนนะ ว่าจะไปไหนอะไรยังไง แต่เมื่อมาถึงที่นี้คือมันผิดแผนไปหมด แต่เรากลับชอบ!! เพราะว่ามันไม่ใช่แบบทัวร์จุ่ม มันคือทัวร์เปื่อย 5555 เอาจิงๆมันตื่นเต้นไปหมดทุกอย่าง เจอนี่ก็ชอบ เจอนั้นก็อยากแวะ ไม่ห่วงเรื่องแผนอะไรทั้งนั้น อยากทำไรทำ อยากกินไรกิน อยากไปไหนไป ก็มาถึงญี่ปุ่นแล้วนิ จะต้องมีตารางชีวิตอีกหรอ!!! ^_____^
การที่เดินไปเรื่อยๆเข้าซอยนู้น ออกซอยนี้ ทำให้ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นคนเค้ารีวิวเยอะมากนะคะ บ้านคน วิถีชีวิต ร้านอาหารเก๋ๆราคาถูก นางาซากิเป็นเมืองที่ยังเรียบง่ายมากๆ ไม่เร่งรีบ เป็นชนบทที่คุณจะตื่นตาตื่นใจ และอยู่ได้แบบชิวๆ เอาเป็นว่าเราชอบมาก ประทับใจเลย อาหารทุกอย่างยังราคาถูกมาก อันนี้สำคัญ เพราะเราเน้นกิน! และอยากกินหลายๆอย่าง กว่าจะถึงโตเกียว กลัวเงินหมด 55555
โซนช้อปปิ้งที่นี้ มันคล้ายๆพวกแบบ นิมมาน เชียงใหม่ คือเก๋ คือน่ารักและเป็นบ้านเค้าเอง
เอาละ 2 วันที่ นางาซากิ ถือว่าเริ่มต้นได้ดี ทัวร์ชิลของเรานั้น ใช้เงินไป แค่ 10000 Y หน่อยๆ คุมงบสุดริด5555 เพราะว่าที่ต่อไปเราจะไป ฟุกุโอกะ มันจะตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่านี้ ค่อยๆเนาะไม่รีบบบ
ฟุกุโอกะ ศูนย์กลางของเกาะคิวชู ~~ นั่ง JR กลับมาเลยจ้ะ ชิวๆเข้าเมือง พอมาถึงต้องเติมพลังกันซักหน่อย เริ่มตกใจกับราคาอาหารที่มันแพงขึ้นละ 5555 คือมันแพงขึ้นแบบเห็นชัดต่างจากนางาซากิ เหมือนกินข้าวในห้างทุกมื้ออะเอางี้ แต่ว่าตุณภาพและปริมาณต่างกันมากนะ นี่ให้เยอะแบบไม่แคร์กระเพาะ อร่อยแบบทลายลิ้น สะดวกสบายกดตู้ หยอดเหรียญ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา (อะไรจะคุ้มค่าทุกนาทีขนาดนี้) ทุกคนที่เข้ามากินในร้าน เราสังเกตุแล้วว่าเค้ากินเร็วมากกกกก คือเรายังเป่าอยู่ แต่เค้าซวบเข้าไปเลย มาเร็วเคลมเร็ว กินเสร็จก็รีบออกเหมือนมีธุระตลอดเวลา นี่ไงๆๆ เริ่มเข้าเมืองละ ตื่นเต้นละไงๆๆ
ตู้สั่งราเมง
ที่ฟุกุโอกะ เราพักกันที่ International Hostel Khaosan Fukuoka ที่นี้มีแต่ฝรั่ง อ๋ออลืมบอก ที่พักของเรา เราไม่เน้นชีวิตหรูอยู่อย่างราชา เราเน้นถูก และเราเชื่อว่าเกสเฮ้านั้นอบอุ่นเหมือนบ้าน 5555 เพราะเราใช้ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำร่วมกัน ไม่ได้อาบพร้อมกันนะ ไม่ต้องกลัว แค่มันเหมือนอยู่ที่บ้านอะ ออกมาอาบน้ำ แยกย้ายเข้าห้องตัวเอง ของใช้ส่วนใหญ่ทุกอย่างจะเป็นส่วนกลาง ใช้ด้วยกัน และเราเชื่ออีกว่าขึ้นชื่อว่า ญี่ปุ่น ทุกว่าจะออกมาดี และมันก็เป็นอย่างที่ว่า ที่พักของเรานั้น ถูกและดีจริงๆ ปรบมืออออออ แปะๆๆๆ ^^
ที่ฟุกุโอกะไม่มีรถรางนะฮับ เรานั่งรถบัสกัน อันนี้เริ่ม งงๆ นิสนึง เพราะรถบัสมันมีหลายเส้นทางมากกว่ารถราง และก็มีรถใต้ดินSubway ด้วย เมื่อไปถึงสถานีHaKaTa (ศุนย์กลางฟุกุโอกะไง จำได้ป่าว) ไปหยิบแผนที่มาเลย มีบอกละเอียดอะไรอยุ่ตรงไหน ผ่านไปครึ่งวันแล้ว ทำอะไรกันต่อดี ออกไปชมเมืองกันดีกว่า สถานที่สำคัญอาจจะใกล้เวลาปิด งั้นเราไปช้อปปิ้งกัน!!!
นั่งรถบัส Loop bus 100ํY ไปCanal City มันคือห้างอะ อิชั้นไม่นิยม เราก็เลยเดินไปเรื่อยๆๆๆ ไปเรื่อยจริงๆจนไปเจอกับที่นี้ค่ะ
คาวาบาตะ ถนนคนเดิน คล้ายๆสำเพ็ง! คือของถูกได้ใจป้า แต่ป้าก็ยังไม่กล้าซื้อ ฮือๆๆๆ คือเพื่อนบอกว่าไปโอซาก้าค่อยช้อปไง เราก็เลยอดใจไว้ก่อน เดินดูเดินกินเพลินๆละกัน อากาศที่นี้ดีจิงๆค่ะช่วงนี้ยังไม่ถึงกับหนาวทนไม่ได้ มันทำให้เราเดินไปเรื่ยๆจนลืมไกล
อ่าาาา ร้านเบเกอรี่จัดเต็มแบบนี้ทุกร้านเบยยยย ทำน้ำหนักกันเถิดๆๆๆ