โดนยกเลิกสัญญาว่าจ้าง ด้วยเหตุผลว่าไม่พร้อม

มีเรื่องปรึกษาค่ะ

เป็นกระทู้แรก สมัครมาเพื่อการนี้เลย ขอเล่ายาวๆระบายด้วยค่ะ

เมื่อประมาณช่วงเดือน ก.ค. 2557 ที่ผ่านมา แฟนเรา (ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ)ได้รับการติดต่อจากโรงแรมแห่งหนึ่งที่กำลังจะเปิดตัวในกรุงเทพฯให้เข้าไปสัมภาษณ์งาน หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์ทางโรงแรมก็โทรมาแจ้งว่ารับเข้าทำงาน แต่อาจจะต้องให้บินออกไปทำวีซ่า non-b แล้วทางโรงแรมจะดำเนินการเรื่อง work permit ให้ พร้อมกันนั้นจะส่งสัญญาว่าจ้างมาให้

พอได้สัญญาอะไรก็สบายใจ เพราะหางานกันมา 7 เดือน แถมรอบนี้ได้ตรงกับที่ต้องการด้วย ทางเราก็รับหน้าที่คุยประสานงานบ้างบางครั้ง เพราะทาง HR แลดูจะสะดวกกว่าถ้าต้องอธิบายอะไรยากๆเป็นภาษาไทย ระหว่างนั้นเราก็ย้ำแล้วย้ำอีก เรื่องความชัวร์ จ้างจริงนะ ? ไม่มีปัญหาจริงๆนะ ? ทางโรงแรมก็บอกให้สบายใจได้ แถมมีให้เรียกเข้าไปเซ็นสัญญาว่าจ้างตัวจริงด้วย เรากับแฟนก็เลยวางใจในระดับหนึ่ง ช่วงนี้แฟนเราก็ไปถอย ม.ไซมาหนึ่งคัน (แม้เราจะค้านเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย แถมอยากให้เขาเริ่มงานชัวร์ๆก่อน) แฟนเราบอกให้เราสบายใจเพราะเขาไปเซ็นสัญญามาแล้ว เจอกับผจก. และ พนง. มาแล้วทุกคนดูโอเคกระตือรือร้นดี

คราวนี้ก็มาเรื่องทำ non-b โดยเรากับแฟนตกลงว่าจะไปขอที่สถานฑูตไทยในลาวกัน ทางเราก็ขอให้โรงแรมช่วยเตรียมเอกสารของทางฝ่ายโรงแรมให้ พวกเอกสารภาษี, จดทะเบียนบริษัทอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เรากับแฟนเป็นคนหาให้หมดว่าทางโรงแรมต้องเตรียมอะไรบ้าง ซึ่งพูดตรงๆว่าเราเองก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ให้ช่วยหาน่ะช่วยได้ แต่นี่เหมือนทางโรงแรมไม่ได้กระตือรือร้นจะหาเลย แถมเราต้องเมลล์ไปย้ำ 2-3 รอบว่าต้องใช้เอกสารอะไร พร้อมทั้งกำหนดเดดไลน์เรื่องเอกสารว่าควรจะได้ภายในวันไหน เพราะยังต้องออดไปทำเรื่อง แถมใกล้เปิดตัวโรงแรมแล้วด้วย (งงๆไหม คนถูกจ้างต้องมาวางแผนให้คนว่าจ้าง) แต่ด้วยว่าโรงแรมอยู่ระหว่างการก่อสร้าง พนง.ก็เพิ่งรับมาใหม่ๆ มันเลยวุ่นๆ เราลยปลงๆไป ถือว่าช่วยๆกัน

สรุปคือแฟนเราได้เอกสารวันเดียวกับที่จะออกเดินทางพอดี (จองไว้ตอนค่ำ) ก่อนไปรับเอกสารเราก็บอกแฟนว่าอย่าลืมเช็คดีๆนะ ไปนั่งไล่กับ HR เลยว่าเอกสารครบถูกต้องมั้ย ซึ่งตรงนี้ก็ความผิดแฟนเราด้วย เพราะเขาไม่ยอมไล่เอกสาร แค่เปิดดูคร่าวๆ เขาเห็นว่าปึกใหญ่ แถม HR บอกด้วยว่าเคยทำพวก  work permit มาก่อน แฟนเราเลยไม่เช็คดีๆ เพราะไว้ใจ ปรากฏว่ากลับมา เอกสารขาดค่ะ เป็นเอกสารที่ลิสท์ไว้ในข้อแรกด้วย (เอกสารเชิญจากทางบ.จ่าหน้าถึงสถานฑูตไทย, ซึ่งสุดท้ายเราก็ต้องมานั่งร่างจม.กับแฟนเราแล้วส่งให้โรงแรมสแตมป์ตราประทับ) สรุปก็ทันเวลาออกเดินทางเฉียดฉิวพอดี

วันต่อมาไปสถานฑูตไทยที่ลาวปรากฏว่าโดนปฏิเสธค่ะ จนท.บอกว่าเอกสารไม่ครบ ขาดจม.รับรองจากกรมแรงงานที่ไทย เรากับแฟนโมโหมาก (ตอนนั้นโมโหตัวเองด้วย เพราะจริงๆเราเห็นเอกสารตัวนี้แล้วก็ตะหงิดๆใจแต่คิดว่าทางนู้นไม่น่าพลาดหรอก) เพราะเอกสารที่ทางโรงแรมแนบมาเป็นแค่ใบคำร้องที่กรอกไว้ แต่ไม่ได้เอาไปยื่น (นี่คือสาเหตุที่ว่าเราไม่คิดว่าทางโรงแรมพลาด เพราะมันชัดเจนมากว่าเป็นใบคำร้อง) เราไลน์ไปบอก HR เขาก็ขอโทษใหญ่โต เรากับแฟนก็ใจดี (แม้โมโห) คิดว่าผิดพลาดได้ ถือซะว่ามาเที่ยวลาวกัน แล้วก็บอกทางโรงแรมให้ไปขอมาให้เรียบร้อยแล้วกัน

หลังจากกลับมาแฟนเราก็ไลน์ไปย้ำๆทางนู้นว่าให้ไปขอได้แล้ว จะไปวันไหน ทางนู้นก็บอก เดี๋ยวต้องขอนาย วันนี้ไม่ได้งานยุ่งมาก ฯลฯ  จนผ่านไปสัปดาห์นึง (บอกไว้ก่อนว่าถ้าฝ่ายเราไม่ถามไป ฝ่ายนั้นจะไม่บอกความคืบหน้าอะไรเลย) ฝ่ายนายจ้างก็ไปกรมแรงงาน และโดนปฏิเสธกลับมาค่ะ =_= เพราะเอกสาร
ของบ.ไม่ถูกต้อง (คือเป็นเรื่องใหญ่โตเลยล่ะ) ตอนนั้นก็ประมาณเดือน ก.ย.แล้ว ซึ่งเลยวันกำหนดเปิดโรงแรมไปแล้วด้วย (แต่โรงแรมยังสร้างไม่เสร็จ) เราก็บอกทางโรงแรมว่าเรารอได้ (ยังจะใจดีอีก) ให้ไปจัดการเอกสารให้เสร็จ เสร็จเมื่อไหร่ให้บอกละกัน

พอเข้าตุลา เงียบ ไม่มีความคืบหน้า, จริงๆลืมบอกไปว่าตอนไปยื่นกรมแรงงานมีปัญหาเรื่องเงินเดือนแฟนเราด้วย เพราะมันไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของชนชาติเขา ซึ่งปัญหานี้ว่ากันตรงๆ มันแก้ไขได้ เพราะโรงแรมก่อนหน้า และเพื่อนแฟนเราบางคน ก็ได้เงินเดือนประมาณ 2-3 หมื่นกันทั้งนั้น ก็เห็นมี work permit ออกเอกสารได้ปกติ อย่างที่เราบอกวิธีแก้ปัญหามันมีแน่ๆ

ต่อนะคะ พอตุลาเงียบ -*- คือเรื่องเอกสารไม่มีความคืบหน้าเลย ไหนจะเรื่องเงินเดือน ซึ่งทางเราก็ถาม HR ว่าทำยังไง ฯลฯ คำตอบที่ได้ส่วนมากก็คือเดี๋ยวไปถามนายนะ แล้วก็เงียบ มีมาระบายให้เราฟังบ้าง ว่างานยุ่ง เครียด จนกลางๆเดือนต.ค. เรากับแฟนเห็นว่าไม่ได้ละ ก็เลยนั่งหากันว่าไปไหนดี ก็พบว่าสิงคโปร์สามารถขอ non-b โดยไม่ต้องใช้จม.จากกระทรวงแรงงาน เราก็เลยแจ้งทางโรงแรมไป และขอให้ร่างจม.แจ้งว่าเหตุใดเอกสารไม่ครบ (คือมันขาดอยู่ 1-2 ใบซึ่งเกี่ยวข้องกับเอกสารชาวต่างชาติซึ่งโรงแรมไม่มีแน่ๆ เพราะไม่เคยจ้างต่างชาติ) พร้อมกันนั้นเราก็แจ้งกำหนดการเดินทาง, บอกล่วงหน้าเป็นวันๆเลยนะ เกือบอาทิตย์เห็นจะได้ แต่ไปๆมาๆยังไงไม่รู้ สุดท้ายแฟนเราต้องมานั่งร่างจดหมายเอง ทั้งจดหมายเชิญมาทำงาน และจม.แจ้งเหตุเอกสารไม่ครบ

หลังจากที่ขอเอกสารที่สิงคโปร์สำเร็จ เราก็ไลน์ไปแจ้งทางโรงแรมว่าเอกสารผ่านแล้วนะ ให้เตรียมเอกสารดำเนินการ work permit ได้เลย แต่ก็ได้คำถามกลับมาว่า ได้เลย "แต่ต้องใช้อะไรบ้าง?" ตอนนั้นคือเงิบน่ะค่ะ แต่ด้วยความใจเย็น เลยบอกว่าเดี๋ยวจะส่งรายละเอียดไปให้ (กำลังจะไป universal studio พอดี) หลังจากกลับมาไทย แฟนเราก็ถามๆไปว่าไปได้เมื่อไหร่ ทางนู้นก็ผลัดเรื่อยๆด้วย บอกว่ายุ่ง เดี๋ยวถามนายให้ แล้วจะคอนเฟิร์มให้วันจันทร์ พอวันจันทร์ก็เงียบ รอบนี้แฟนเราเลยเหวี่ยงไปเบาๆให้ตรงเวลาหน่อย เพราะนี่ตั้งแต่รับเข้าทำงานจนถึงตอนนี้ก็ปาไปจะ 4 เดือนแล้ว ต้องให้ตามตลอด

พอวันพฤหัสฝ่ายนู้นก็ไลน์มาบอกเราว่าไปถามกรมแรงงานมา และก็พอทราบแล้วว่าทำไมเอกสารไม่ผ่าน แล้วก็บอกเราเรื่องปัญหาเอกสารฝั่งโรงแรม เราก็พยายามถามว่าไปกรมแรงงานมาเมื่อไหร่? แต่เขาก็ไม่ตอบ เราก็สงสัยนะ เพราะเอกสารที่แฟนเราต้องเตรียมก็ยังอยู่กับแฟนเรา ใบรับรองแพทย์ที่เคยให้โรงแรมไว้ก็ใช้ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันเลยกำหนด (แฟนเรานัดรพ.สมิติเวชตรวจใหม่ทำใหม่แล้วด้วยเหอะ) คือมันมีข้อสงสัยหลายๆอย่าง แต่เราก็รอเขาอธิบายจนจบ (แถมมีการบอกด้วยว่าผู้ถือหุ้นบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการจ้างชาวต่างชาติ อ้าว เรื่องแบบนี้ทำไมไม่คุยกันให้เคลียร์แต่แรก)  แล้วก็บอกว่าให้ไปถามนายให้เคลียร์ได้มั้ย? พอตอนเย็นหลังจากประชุมเสร็จไลน์มาบอกเราว่าทางนู้นขอยกเลิกการจ้าง เพราะว่าทางบ.ไม่พร้อมจริงๆ

โหตอนนั้นคือ ทั้งโมโห ทั้งเศร้า เราเลยสวด HR ไปชุดใหญ่ แต่ว่าก็ว่ารวมๆนะคะ เพราะเข้าใจว่าไม่ใช่ความผิด HR คนเดียว คือระบบการทำงานรวมๆมันแย่เอง จากนั้น HR ก็เงียบไปเลย ขอโทษแฟนเราซักคำก็ไม่มี แฟนเราไลน์ไปบอกว่าเขาผิดหวังมาก เพราะทางนู้นละเมิดสัญญา นู้นนี้ แถมพอยกเลิกก็ไม่มาบบอกกับเขาเอง แต่มาบอกผ่านเรา แถมหลังจากนั้นไม่กี่วันมีโอกาสได้คุยกับลุงต่างชาติคนหนึ่ง แกก็ชี้แจงให้ฟังเรื่องการขอเอกสาร แฟนเราเลยยิ่งโมโห เพราะถ้าหาข้อมูลดีๆจะรู้ว่าวิธีแก้ปัญหามันมีแน่ๆ แฟนเราก็ไลน์ไปต่อว่าทางโรงแรม และเปรยๆไปเรื่องค่าเสียหาย (คือไม่ได้จะฟ้องนะคะ แต่อยากลองดูว่าเขาจะว่าไง)

ปรากฏว่าไม่อ่านค่ะ -*- ตอนแรกนึกว่าบล๊อก แต่พอกดดู Timeline บนไลน์ก็ยังเห็นอัพสเตตัส แชร์ยูทูป แต่ไม่อ่าน ไม่ตอบ เรากับแฟนโมโหมาก ทุกอย่างที่วางแผนไว้พังหมดเลย ทั้งย้ายไปคอนโด วางเงินประกันเช่าไปแล้วด้วย ม.ไซก็ซื้อไปแล้ว ไหนจะค่าที่เดินทาง ค่าเครื่องบิน ค่ารถ ค่าขอวีซ่า(อย่าลืมว่าตอนไปลาวที่โดนปฏิเสธมา แฟนเราก็ต้องขอ tourist กลับเข้ามาใหม่ เสียเงินอีก นี่ไม่รวมค่าขอ non-b 100 เหรียญสิงคโปร์)  ค่าที่พักเวลาต้องออกไปวีซ่า ค่าต่อวีซ่า tourist ช่วงที่รอเอกสารจากโรงแรม ค่าทำเอกสารจิปาถะ เช่น ตรวจสุขภาพพนง.โรงแรม ที่แฟนเราก็ออกค่าหมอเอง ซึ่งทุกอย่างเราแชร์กับแฟนหมด(ยกเว้นค่าวีซ่านะ) ทำให้เรารู้ว่าค่าใช้จ่ายที่หมดไปรวมๆมันไม่ใช่น้อยๆเลย งานก็ใช้ว่าจะหาง่ายๆ แถมปฏิเสธบางที่ไปเพียงเพราะไว้ใจที่นี่ แล้วต้องมาโดนยกเลิกสัญญาที่เซ็นกันไปแล้ว เพียงเพราะเหตุผลว่าไม่พร้อม !

ดังนั้นเราเลยอยากถามเพื่อนๆพันทิปว่า ในเคสนี้เราควรจะทำอย่างไรคะ ? ตั้งแต่แฟนเราว่าเขาไปวันนั้น ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรคืบหน้า เพราะมัวแต่เร่งหางานใหม่ ส่งเมลล์กันมือหงิก -*- ยังไงก็รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่