คืออย่างนี้นะคะ เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศ อเมริกา ได้ประมาณ 4 เดือนจะ 5 เดือนแล้วค่ะ
แล้วเรามีโฮสต์บรา 2 คน คนนึงอายุเท่าเรา อีกคนเรียนมหาลัย
ทุกคนใจดีกับเรามากค่ะ โดยเฉพาะโฮสต์พ่อกับโฮสต์แม่
ตอนแรกๆ ที่มาอยู่ โฮสต์บราเค้าก็ดีกับเรานะ แต่แบบ ชอบแกล้งเราบ่อยๆ อย่างเช่น แรกๆ ก็จะดึงผม แกล้งเรียกชื่อไม่หยุด
มากวนเราเวลาเราดูทีวี มาจั๊กจี้ มากอด มาเล่นกับเราอะไรอย่างนี้อ่ะ
ที่พูดมาทั้งหมดนี้คือโฮสต์บราคนที่อายุเท่าเรานะคะ เพราะ อีกคนเรียนมหาลัยแล้วอยู่หอ เลยกลับบ้านนานๆ ครั้ง เราเลยมีเวลาอยู่กับ คนที่อายุเท่าเรามากกว่า
กลับเข้าเรื่องเลยนะคะ ตอนแรกๆ เราก็แบบไม่ได้ถือสาไร แกล้งแบบนี้ก็น่ารักดี ตอนนั้นเราอารมณ์แบบ แกชอบฉันใช่มั้ย ตอบบบบบบบบ 5555
คือแบบมันแกล้งเราบ่อยมากจนเราคิดว่า มันชอบเรารึเปล่า แต่แบบ หลังๆ มาเราก็รู้ว่ามันชอบเพื่อนที่โรงเรียนอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่ได้แคร์อะไร
แล้วช่วงนี้เรารู้สึกไม่ชอบเลยเวลามันมาแกล้งเรา ไม่รู้ว่าเพราะเราผอมด้วยรึเปล่ามันเลยทำให้เราดูอ่อนแอ
ช่วง เดือนสองเดือนที่ผ่านมา มันเริ่มแกล้งเราแบบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และ เราก็ไม่รู้ว่ามันตั้งใจจริงๆ รึเปล่า
มีวันนึงเราเดินกลับบ้านมาพร้อมมัน แล้วแบบถือหนังสือกลับมาทำการบ้าน 2 เล่ม และคือหนังสือที่นี่ไม่ได้เล็กเลย
เล่มใหญ่มากมีเป็น 400-500 หน้าอ่ะ แล้วแบบเราก็ผอมด้วยไง มันเลยกลายเป็นหนัก x1000 ตอนแรกเราก็เดินตามทางของเราดีๆ
แล้วแบบมันก็เดินนำหน้าเราแล้วจู่ๆ ก็หันหลังมาพูดกับเราว่า ทำไมเดินช้าจัง เราก็บอกว่าหนังสือหนักไม่อยากเดินเร็ว
มันเลยเดินมาหาเราแล้วก็เอาหนังสือเราไปถือเล่มนึง ตอนแรกเราแอบดีใจเล็กๆ นึกว่ามันจะช่วย สุดท้ายก็เปล่า มันถือหนังสือเล่มที่หนักมากไว้ในมือของมันข้างนึง
แล้วแบบยกขึ้นยกลง ทำโชว์พาวน์อ่ะ แล้วก็พูดกับเราว่าไม่เห็นจะหนักเลยก็แค่หนังสือ แล้วจู่ๆ ก็ทิ้งหนังสือเล่มนั้นใส่มือทั้งสองข้างของเราที่ถือหนังสืออีกเล่มอยู่
คือในใจเราแบบ เห้ย! ถ้าไม่คิดจะช่วยก็ไม่ต้องมา

ค่ะ ขอร้อง
แต่เราคิดคำด่าออกไปไม่ออกเลยตอนนั้น เพราะแบบสตั้นกับการกระทำนั้นมาก
หลังจากนั้นมันก็แกล้งเรามาเรื่อยๆ ทั้งแกล้งแบบเล็กๆ น้อยๆ และแกล้งแบบที่ทำเราเจ็บตัว
อันนี้เราไม่รู้ว่ามัน ตั้งใจรึเปล่านะ แต่แบบ หลายอาทิตย์ก่อน เราเดินเข้าบ้านมาแล้วแบบประตูบ้านมันมีสองชั้น ส่วนใหญ่เวลาเราเดินเข้าเดินออกก่อนคนแรกเราจะจับประตูชั้นนอกรอโฮสต์ก่อนตลอด เพราะถ้าปล่อยมันจะปิดแรงมาก แล้วแบบเราสังเกต หลายรอบมากว่า ไอ้โฮสต์บราเราอ่ะ ไม่ค่อยยื้อประตูให้เราเลย ปล่อยใส่ตลอด ต่างจากโฮสต์มัมกับแด๊ดมาก
เข้าเรื่องคือ มันกำลังไขประตูในอยู่แล้วแบบขาอีกข้างนึงของมันก็ดันประตูนอกไว้ ปกติเวลาเราเดินตามหลังมาเห็นมันไขกุญแจอยู่เราก็จะช่วยยื้อประตูนอกไว้ให้ แต่ทีนี้เรามีหนังสือเล่มใหญ่กลับบ้านมาด้วย จะใส่กระเป๋าก็ไม่ได้เพราะกระเป๋าเราไม่ใช่เป้ที่ทนเท่าไหร่ เรากลัวมันขาดเพราะมีใบเดียวเราต้องถือ
พอเรามีหนังสือ เราเลยช่วยจับประตูไม่ได้ ก็เลยจะเอาตัวไปดันให้แทน แต่ใครจะไปรู้ว่า ในขณะที่เรากำลังแทรกตัวเข้าไปช่วยยื้อประตู
มันกลับปล่อยประตูพอดี
แล้วปล่อยแรงมากด้วย ประตูบาดข้อเท้าเราเลยค่ะ เราเลยเดินตามหลังมาแล้วดูอาการตัวเอง ตกใจมากคือเลือดไหลซิบๆ
เราก็เลยถามมันว่า ปล่อยประตูทำไม? มันเลยบอกเราว่า ก็พูดแล้วว่าจะปล่อยทำไมไม่ระวังเองล่ะ?
เอ๊า อินี่ นี่ความผิดกูหรอ?? พูดตอนปล่อยเลยเนี่ยนะ เห็นกูเป็นนินจาหรอหืม?
เราช็อคเลยเลือดเราออกแล้วแบบแสบมาก มันเลยเดินมาดู แล้วพูดว่า แผลแค่นี้ไม่เห็นจะน่าเจ็บตรงไหน
ดูนี่ เมื่อวานฉันโดนเหล็กที่โรงเรียนบาดยังไม่อะไรเลย แล้วมันก็มาเปิดแผลที่ขาให้ดู
เป็นแผลเหล็กบาด ทางยาว 2 ข้อนิ้ว ในใจเรานี่แบบสม ทำตัวเองเองป่ะล่ะเลยไม่เจ็บ ที่กูเจ็บนี่คือเจ็บใจ
ขอโทษซักคำยังไม่มี
แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เราบอกว่าเจ็บ แค่นี้แล้วเดินไปเปิดน้ำก๊อกมาล้างแผล คือยาดงยาแดง ก็ไม่รู้จะหาจากไหน ถามมันว่ามีพลาสเตอร์ไหม
มันก็บอกว่าไม่มี เราแบบอยากกลับบ้านมาก คิดถึงพ่อแม่ เหนื่อยท้อ เราเกิดโฮมซิกขึ้นมาแบบฉับพลันเลยอ่ะตอนนั้น
แต่เราก็แบบทำใจ แล้วก็พยายามบอกกับตัวเองว่า ต้องไม่อ่อนแอ สู้ๆ อะไรอย่างงี้ตลอด
ผ่านเหตุการณ์นั้นมาก็มีเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้ มันมาแกล้งอุ้มเราโชว์ต่อหน้าน้องๆ ที่โรงเรียน
เราก็ไม่เก็ทเหมือนกันว่ามันทำเพื่ออะไร มันอุ้มเราท่าเจ้าสาวแล้วแบบมืออีกข้างเราก็ถือโทรศัพท์เราอยู่
เรื่องคือมันไม่ยอมให้เราเอาแขนโอบคอมันเลย คือตอนนั้นเราพูดตามตรง จะตกแล้ว มันแกะแขนเราออกจากคอมันแล้ว
ทำท่าเหมือนจะเหวี่ยงเราลงพื้น ตอนนั้นเรารู้สึกกลัวมาก คือหัวนี่ตรงกลับพื้นเลยแต่ยังไม่ถึงพื้นเราก็พยายามยืดมือทั้งสองข้างขึ้นไปเกี่ยวคอมันค่ะ
แล้วเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิด ก็เกิดขึ้น โทรศัพท์รุ่น ซัมซุง S5 ใส่เคส สุดหนักของเรา หลุดออกจากมือเราแล้วตกลงมากระแทกปากเรา
อย่างจังค่ะ
คือเข้าใจอารมณ์เวลานอนเล่นโทรศัพท์แล้วทำตกใส่หน้าตัวเองไหมคะ นั่นแหละค่ะ แต่นี่เจ็บกว่าเป็น 2 เท่า เพราะ เรายืดแขนขึ้น มันเลยตกลงมาจากที่สูงกว่า
พอโทรศัพท์ตกปุ๊ปมันก็ยังไม่ปล่อยเราค่ะ แต่เรารู้แน่ๆ ว่ามันเห็น
เราหมดแรงเลยค่ะ จับปากตัวเองน้ำตาคลอ คือแบบกลัวเลือดออกมาก ปากเริ่มชาแบบไม่รู้สึกอะไรเลย
เราเลิกพยายามที่จะเกาะคอมัน แล้วมันก็ปล่อยเราลงนอนเลยค่ะ แล้วมันก็เดินหนีเพราะเห็นเราเงียบมั้ง
เราน้ำตาคลอเลย อยากจะร้องไห้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะคนอยู่เยอะมาก แล้วไม่มีใครมาถามอาการเราด้วย
เราเลยเดินเข้าห้องน้ำแล้วร้องไห้เลยค่ะ ดีที่เลือดไม่แตก แล้วฟันก็ไม่ได้หัก แต่ปากนี่แดงเถือกอ่ะ
เราเกลียดมันมากอ่ะ มันเป็นคนที่พูดมาก มากๆ แล้วก็ชอบเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับเรา ว่ามันมีเพื่อนเยอะกว่า
มันมีความรู้เรื่องนู้นเรื่องนี้เยอะกว่า
คือพูดง่ายๆ ว่า ขี้อวด เวลามันอวดเราก็จะพูดแบบ อืม หรอ อะไรประมาณนี้อ่ะ จนมันคิดว่าเราเป็นคนเงียบไม่ค่อยพูด
ซึ่งเราอยากจะบอกมันมากว่าไม่ใช่ เราอยากจะด่ามัน เราอยากมีเพื่อนที่โรงเรียนเยอะๆ แต่ด้วยความที่ว่า ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้เทพขนาดนั้น
เราเลยมีเพื่อนพอประมาณ มีครั้งนึง มันพูดว่าเธออ่ะขี้อาย จะสอนอะไรให้อย่างนึง เวลาเดินเข้าไปในโรงเรียนเห็นใครยืนอยู่เธอก็เดินเข้าไปทักเค้าเลย
ตอนนั้นเราแบบ จะบ้าหรอ กูอยากมีเพื่อนแต่ก็ก็ไม่ได้บ้าถึงขั้นเจอใครสุ่มๆ ก็ทักไปทั่วนะเห้ย มันก็บอกว่าก็เพราะงี้ไงเลยมีเพื่อนไม่เยอะเท่าฉัน (กรี๊ด!)
แล้วก็วันนี้ตอนอยู่ในรถมันก็ไม่ยอมให้เราเปิดประตู(ประตูรถนะ) คือแบบมันเอาตัวเองมาดันไว้จนเราต้องร้องห้ามเพราะเรายื่นขาจะลงรถไปแล้วข้างนึง
มันเลยพูดว่าก็เอาขากลับเข้าไปดิ พอเราเอาขากลับเข้ามาทันก็ปิดประตูใส่เราไม่ให้เราเปิด
เรารู้นะคะว่ามันอาจจะแค่อยากแกล้งเราเฉยๆ แต่เราไม่สนุกด้วยไง เราไม่สบายอยู่ ซึ่งมันก็รู้แต่มันก็ยังทำ
เราเลยหันไปจะเปิดประตูอีกฝั่งแทน มันเห็นแบบนั้นมั้งมันก็เลิกแกล้งเราแล้วเดินเข้าบ้านเลย
พอเราลงจากรถมา มันก็ยังจะแกล้งเราอีก มันปาหิมะใส่เราแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว แล้วแบบปาแรงมากๆ แล้วมันก็หัวเราะ
แต่เราก็ตลกกับมันเฉยเลย เราเลยวิ่งไล่มันแบบ จะเตะก้นมันไรงี้อ่ะ แต่เราก็ไม่ได้ทำ แค่ทำท่าจะเตะเฉยๆ แล้วมันก็ผลักเราคืนแบบเรามากจนหน้าเราแทบทิ่มพื้นเลยอ่ะ
หลายรอบมากเวลามันมาแกล้งเรา แล้วเราก็แกล้งตีกลับบ้าง ซึ่งทุกครั้งที่เราตีมันคืน มันจะตีกลับเจ็บกว่าเดิม 2 เท่า เวลาเราตีมันเนี่ยไม่เคยเจ็บอ่ะ
ตีเบาๆ เอง แล้วเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องทำ รุนแรงกับเราด้วย
ไม่ชอบเลยค่ะ
สุดท้ายนี้เราเลยอยากจะถามว่า เราควรทำยังไงดีเวลามันมาแกล้งเราคะ เราเคยบอกโฮสต์มัมไปแล้วว่า มันแกล้งเราบ่อยเกินไป มัมก็บอกว่า ก็เขาแกล้งเพราะรัก
ถ้าเขาไม่รักก็ไม่แกล้งหรอก
เราไม่เข้าใจเลย ฝรั่งส่วนใหญ่แกล้งกันเล่นๆ แบบนี้หรอ เวลามันแกล้งเราแรงๆ อย่างผลักจนเราเกือบล้มอย่างงี้ ก็ไม่เคยมีคำว่าขอโทษออกมาจากปากมันเลยค่ะ
เราไม่อยากอยู่กับมันไม่อยากได้ยินเสียงมัน เดินกลับบ้านเรายังไม่อยากกลับทางเดินกันเลยอ่ะ
ขอโทษนะคะถ้าเล่าตรงไหนไม่เข้าใจ
โดนโฮสต์แกล้งจนเจ็บตัว ต้องทำยังไงคะ??
แล้วเรามีโฮสต์บรา 2 คน คนนึงอายุเท่าเรา อีกคนเรียนมหาลัย
ทุกคนใจดีกับเรามากค่ะ โดยเฉพาะโฮสต์พ่อกับโฮสต์แม่
ตอนแรกๆ ที่มาอยู่ โฮสต์บราเค้าก็ดีกับเรานะ แต่แบบ ชอบแกล้งเราบ่อยๆ อย่างเช่น แรกๆ ก็จะดึงผม แกล้งเรียกชื่อไม่หยุด
มากวนเราเวลาเราดูทีวี มาจั๊กจี้ มากอด มาเล่นกับเราอะไรอย่างนี้อ่ะ
ที่พูดมาทั้งหมดนี้คือโฮสต์บราคนที่อายุเท่าเรานะคะ เพราะ อีกคนเรียนมหาลัยแล้วอยู่หอ เลยกลับบ้านนานๆ ครั้ง เราเลยมีเวลาอยู่กับ คนที่อายุเท่าเรามากกว่า
กลับเข้าเรื่องเลยนะคะ ตอนแรกๆ เราก็แบบไม่ได้ถือสาไร แกล้งแบบนี้ก็น่ารักดี ตอนนั้นเราอารมณ์แบบ แกชอบฉันใช่มั้ย ตอบบบบบบบบ 5555
คือแบบมันแกล้งเราบ่อยมากจนเราคิดว่า มันชอบเรารึเปล่า แต่แบบ หลังๆ มาเราก็รู้ว่ามันชอบเพื่อนที่โรงเรียนอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่ได้แคร์อะไร
แล้วช่วงนี้เรารู้สึกไม่ชอบเลยเวลามันมาแกล้งเรา ไม่รู้ว่าเพราะเราผอมด้วยรึเปล่ามันเลยทำให้เราดูอ่อนแอ
ช่วง เดือนสองเดือนที่ผ่านมา มันเริ่มแกล้งเราแบบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และ เราก็ไม่รู้ว่ามันตั้งใจจริงๆ รึเปล่า
มีวันนึงเราเดินกลับบ้านมาพร้อมมัน แล้วแบบถือหนังสือกลับมาทำการบ้าน 2 เล่ม และคือหนังสือที่นี่ไม่ได้เล็กเลย
เล่มใหญ่มากมีเป็น 400-500 หน้าอ่ะ แล้วแบบเราก็ผอมด้วยไง มันเลยกลายเป็นหนัก x1000 ตอนแรกเราก็เดินตามทางของเราดีๆ
แล้วแบบมันก็เดินนำหน้าเราแล้วจู่ๆ ก็หันหลังมาพูดกับเราว่า ทำไมเดินช้าจัง เราก็บอกว่าหนังสือหนักไม่อยากเดินเร็ว
มันเลยเดินมาหาเราแล้วก็เอาหนังสือเราไปถือเล่มนึง ตอนแรกเราแอบดีใจเล็กๆ นึกว่ามันจะช่วย สุดท้ายก็เปล่า มันถือหนังสือเล่มที่หนักมากไว้ในมือของมันข้างนึง
แล้วแบบยกขึ้นยกลง ทำโชว์พาวน์อ่ะ แล้วก็พูดกับเราว่าไม่เห็นจะหนักเลยก็แค่หนังสือ แล้วจู่ๆ ก็ทิ้งหนังสือเล่มนั้นใส่มือทั้งสองข้างของเราที่ถือหนังสืออีกเล่มอยู่
คือในใจเราแบบ เห้ย! ถ้าไม่คิดจะช่วยก็ไม่ต้องมา
แต่เราคิดคำด่าออกไปไม่ออกเลยตอนนั้น เพราะแบบสตั้นกับการกระทำนั้นมาก
หลังจากนั้นมันก็แกล้งเรามาเรื่อยๆ ทั้งแกล้งแบบเล็กๆ น้อยๆ และแกล้งแบบที่ทำเราเจ็บตัว
อันนี้เราไม่รู้ว่ามัน ตั้งใจรึเปล่านะ แต่แบบ หลายอาทิตย์ก่อน เราเดินเข้าบ้านมาแล้วแบบประตูบ้านมันมีสองชั้น ส่วนใหญ่เวลาเราเดินเข้าเดินออกก่อนคนแรกเราจะจับประตูชั้นนอกรอโฮสต์ก่อนตลอด เพราะถ้าปล่อยมันจะปิดแรงมาก แล้วแบบเราสังเกต หลายรอบมากว่า ไอ้โฮสต์บราเราอ่ะ ไม่ค่อยยื้อประตูให้เราเลย ปล่อยใส่ตลอด ต่างจากโฮสต์มัมกับแด๊ดมาก
เข้าเรื่องคือ มันกำลังไขประตูในอยู่แล้วแบบขาอีกข้างนึงของมันก็ดันประตูนอกไว้ ปกติเวลาเราเดินตามหลังมาเห็นมันไขกุญแจอยู่เราก็จะช่วยยื้อประตูนอกไว้ให้ แต่ทีนี้เรามีหนังสือเล่มใหญ่กลับบ้านมาด้วย จะใส่กระเป๋าก็ไม่ได้เพราะกระเป๋าเราไม่ใช่เป้ที่ทนเท่าไหร่ เรากลัวมันขาดเพราะมีใบเดียวเราต้องถือ
พอเรามีหนังสือ เราเลยช่วยจับประตูไม่ได้ ก็เลยจะเอาตัวไปดันให้แทน แต่ใครจะไปรู้ว่า ในขณะที่เรากำลังแทรกตัวเข้าไปช่วยยื้อประตู
มันกลับปล่อยประตูพอดี
แล้วปล่อยแรงมากด้วย ประตูบาดข้อเท้าเราเลยค่ะ เราเลยเดินตามหลังมาแล้วดูอาการตัวเอง ตกใจมากคือเลือดไหลซิบๆ
เราก็เลยถามมันว่า ปล่อยประตูทำไม? มันเลยบอกเราว่า ก็พูดแล้วว่าจะปล่อยทำไมไม่ระวังเองล่ะ?
เอ๊า อินี่ นี่ความผิดกูหรอ?? พูดตอนปล่อยเลยเนี่ยนะ เห็นกูเป็นนินจาหรอหืม?
เราช็อคเลยเลือดเราออกแล้วแบบแสบมาก มันเลยเดินมาดู แล้วพูดว่า แผลแค่นี้ไม่เห็นจะน่าเจ็บตรงไหน
ดูนี่ เมื่อวานฉันโดนเหล็กที่โรงเรียนบาดยังไม่อะไรเลย แล้วมันก็มาเปิดแผลที่ขาให้ดู
เป็นแผลเหล็กบาด ทางยาว 2 ข้อนิ้ว ในใจเรานี่แบบสม ทำตัวเองเองป่ะล่ะเลยไม่เจ็บ ที่กูเจ็บนี่คือเจ็บใจ
ขอโทษซักคำยังไม่มี
แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เราบอกว่าเจ็บ แค่นี้แล้วเดินไปเปิดน้ำก๊อกมาล้างแผล คือยาดงยาแดง ก็ไม่รู้จะหาจากไหน ถามมันว่ามีพลาสเตอร์ไหม
มันก็บอกว่าไม่มี เราแบบอยากกลับบ้านมาก คิดถึงพ่อแม่ เหนื่อยท้อ เราเกิดโฮมซิกขึ้นมาแบบฉับพลันเลยอ่ะตอนนั้น
แต่เราก็แบบทำใจ แล้วก็พยายามบอกกับตัวเองว่า ต้องไม่อ่อนแอ สู้ๆ อะไรอย่างงี้ตลอด
ผ่านเหตุการณ์นั้นมาก็มีเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้ มันมาแกล้งอุ้มเราโชว์ต่อหน้าน้องๆ ที่โรงเรียน
เราก็ไม่เก็ทเหมือนกันว่ามันทำเพื่ออะไร มันอุ้มเราท่าเจ้าสาวแล้วแบบมืออีกข้างเราก็ถือโทรศัพท์เราอยู่
เรื่องคือมันไม่ยอมให้เราเอาแขนโอบคอมันเลย คือตอนนั้นเราพูดตามตรง จะตกแล้ว มันแกะแขนเราออกจากคอมันแล้ว
ทำท่าเหมือนจะเหวี่ยงเราลงพื้น ตอนนั้นเรารู้สึกกลัวมาก คือหัวนี่ตรงกลับพื้นเลยแต่ยังไม่ถึงพื้นเราก็พยายามยืดมือทั้งสองข้างขึ้นไปเกี่ยวคอมันค่ะ
แล้วเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิด ก็เกิดขึ้น โทรศัพท์รุ่น ซัมซุง S5 ใส่เคส สุดหนักของเรา หลุดออกจากมือเราแล้วตกลงมากระแทกปากเรา
อย่างจังค่ะ
คือเข้าใจอารมณ์เวลานอนเล่นโทรศัพท์แล้วทำตกใส่หน้าตัวเองไหมคะ นั่นแหละค่ะ แต่นี่เจ็บกว่าเป็น 2 เท่า เพราะ เรายืดแขนขึ้น มันเลยตกลงมาจากที่สูงกว่า
พอโทรศัพท์ตกปุ๊ปมันก็ยังไม่ปล่อยเราค่ะ แต่เรารู้แน่ๆ ว่ามันเห็น
เราหมดแรงเลยค่ะ จับปากตัวเองน้ำตาคลอ คือแบบกลัวเลือดออกมาก ปากเริ่มชาแบบไม่รู้สึกอะไรเลย
เราเลิกพยายามที่จะเกาะคอมัน แล้วมันก็ปล่อยเราลงนอนเลยค่ะ แล้วมันก็เดินหนีเพราะเห็นเราเงียบมั้ง
เราน้ำตาคลอเลย อยากจะร้องไห้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะคนอยู่เยอะมาก แล้วไม่มีใครมาถามอาการเราด้วย
เราเลยเดินเข้าห้องน้ำแล้วร้องไห้เลยค่ะ ดีที่เลือดไม่แตก แล้วฟันก็ไม่ได้หัก แต่ปากนี่แดงเถือกอ่ะ
เราเกลียดมันมากอ่ะ มันเป็นคนที่พูดมาก มากๆ แล้วก็ชอบเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับเรา ว่ามันมีเพื่อนเยอะกว่า
มันมีความรู้เรื่องนู้นเรื่องนี้เยอะกว่า
คือพูดง่ายๆ ว่า ขี้อวด เวลามันอวดเราก็จะพูดแบบ อืม หรอ อะไรประมาณนี้อ่ะ จนมันคิดว่าเราเป็นคนเงียบไม่ค่อยพูด
ซึ่งเราอยากจะบอกมันมากว่าไม่ใช่ เราอยากจะด่ามัน เราอยากมีเพื่อนที่โรงเรียนเยอะๆ แต่ด้วยความที่ว่า ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้เทพขนาดนั้น
เราเลยมีเพื่อนพอประมาณ มีครั้งนึง มันพูดว่าเธออ่ะขี้อาย จะสอนอะไรให้อย่างนึง เวลาเดินเข้าไปในโรงเรียนเห็นใครยืนอยู่เธอก็เดินเข้าไปทักเค้าเลย
ตอนนั้นเราแบบ จะบ้าหรอ กูอยากมีเพื่อนแต่ก็ก็ไม่ได้บ้าถึงขั้นเจอใครสุ่มๆ ก็ทักไปทั่วนะเห้ย มันก็บอกว่าก็เพราะงี้ไงเลยมีเพื่อนไม่เยอะเท่าฉัน (กรี๊ด!)
แล้วก็วันนี้ตอนอยู่ในรถมันก็ไม่ยอมให้เราเปิดประตู(ประตูรถนะ) คือแบบมันเอาตัวเองมาดันไว้จนเราต้องร้องห้ามเพราะเรายื่นขาจะลงรถไปแล้วข้างนึง
มันเลยพูดว่าก็เอาขากลับเข้าไปดิ พอเราเอาขากลับเข้ามาทันก็ปิดประตูใส่เราไม่ให้เราเปิด
เรารู้นะคะว่ามันอาจจะแค่อยากแกล้งเราเฉยๆ แต่เราไม่สนุกด้วยไง เราไม่สบายอยู่ ซึ่งมันก็รู้แต่มันก็ยังทำ
เราเลยหันไปจะเปิดประตูอีกฝั่งแทน มันเห็นแบบนั้นมั้งมันก็เลิกแกล้งเราแล้วเดินเข้าบ้านเลย
พอเราลงจากรถมา มันก็ยังจะแกล้งเราอีก มันปาหิมะใส่เราแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว แล้วแบบปาแรงมากๆ แล้วมันก็หัวเราะ
แต่เราก็ตลกกับมันเฉยเลย เราเลยวิ่งไล่มันแบบ จะเตะก้นมันไรงี้อ่ะ แต่เราก็ไม่ได้ทำ แค่ทำท่าจะเตะเฉยๆ แล้วมันก็ผลักเราคืนแบบเรามากจนหน้าเราแทบทิ่มพื้นเลยอ่ะ
หลายรอบมากเวลามันมาแกล้งเรา แล้วเราก็แกล้งตีกลับบ้าง ซึ่งทุกครั้งที่เราตีมันคืน มันจะตีกลับเจ็บกว่าเดิม 2 เท่า เวลาเราตีมันเนี่ยไม่เคยเจ็บอ่ะ
ตีเบาๆ เอง แล้วเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องทำ รุนแรงกับเราด้วย
ไม่ชอบเลยค่ะ
สุดท้ายนี้เราเลยอยากจะถามว่า เราควรทำยังไงดีเวลามันมาแกล้งเราคะ เราเคยบอกโฮสต์มัมไปแล้วว่า มันแกล้งเราบ่อยเกินไป มัมก็บอกว่า ก็เขาแกล้งเพราะรัก
ถ้าเขาไม่รักก็ไม่แกล้งหรอก
เราไม่เข้าใจเลย ฝรั่งส่วนใหญ่แกล้งกันเล่นๆ แบบนี้หรอ เวลามันแกล้งเราแรงๆ อย่างผลักจนเราเกือบล้มอย่างงี้ ก็ไม่เคยมีคำว่าขอโทษออกมาจากปากมันเลยค่ะ
เราไม่อยากอยู่กับมันไม่อยากได้ยินเสียงมัน เดินกลับบ้านเรายังไม่อยากกลับทางเดินกันเลยอ่ะ
ขอโทษนะคะถ้าเล่าตรงไหนไม่เข้าใจ