พ่อร้องลูกสาวตกตึกห้องแฟนหนุ่มมือกีตาร์วงซันชายน์ดับ คดีไม่คืบ

พ่อโพสต์ข้อความร้องขอความยุติธรรม หลังลูกสาวตกตึกชั้น 7 จากห้องของแฟนหนุ่ม ท็อป มือกีตาร์ วงซันชายน์ เสียชีวิต แต่คดีไม่คืบ

          วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2557) ที่เฟซบุ๊ก มั่นใจเกินร้อยเพื่อน ๆ และญาติ ๆ พี่น้องของน้ำส้มไม่พอใจ ท็อป วงซันชายน์ ได้มีการโพสต์ข้อความร้องขอความยุติธรรม ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยนายชยุตช์พงศ์ งามบุศยโพยม ผู้เป็นบิดาของนางสาววิศรุตา งามบุศยโพยม อดีตแฟนสาวของนายมัชฌิมา เพ็ชรากรณ์ หรือ ท็อป มือกีต้าร์วงซันชายน์ ที่เกิดเหตุตกตึกที่คอนโดแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 24 เมื่อกลางดึกของวันที่ 7 มกราคม 2555 ในขณะที่อยู่กับนายมัชฌิมา โดยบอกว่าวันเกิดเหตุนายมัชฌิมา ได้บอกว่าลูกสาวของตนตกตึกและได้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมบอกว่าจะช่วยค่ารักษาพยาบาล จนสุดท้ายบุตรสาวของตนก็เสียชีวิต

          แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว นายมัชฌิมา ไม่เคยยื่นมือมาช่วยเหลืออะไรเลย ด้านคดีก็ไม่มีความคืบหน้า ตนและครอบครัวหมดค่ารักษาไปกว่า 2 แสนบาท ล่าสุดภรรยาของตนได้พยายามติดต่อนายมัชฌิมาเพื่อที่จะบอกว่า ทางตนจะเผาบุตรสาวในปีหน้าหลังเก็บศพเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตนก็ไม่ทราบว่าเขากลัวอะไร เพราะตนแค่ต้องการให้เขาไปปิดคดีที่โรงพักเพื่อทำการยกฟ้องเท่านั้น เพื่อที่จะได้ไม่มีเวรกรรมและจะได้อโหสิกรรมแก่กัน

โดยมีข้อความทั้งหมด ดังนี้

          "ข้อความของผู้เป็นพ่อ

          ผมนายชยุตช์พงศ์ งามบุศยโพยม มีเรื่องจะเล่าเรื่องบุตรสาวของผม คือ นางสาววิศรุตา งามบุศยโพยม ให้ท่านทั้งหลายได้รับทราบถึงเหตุการณ์ของบุตรสาวของผม ได้ตกตึกที่คอนโดแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 24 ที่กรุงเทพมหานคร ในคืนวันที่ 7 มกราคม 2555 คืนเกิดเหตุมีนายมัชฌิมา เพ็ชรากรณ์ หรือ นายท็อป มือกีต้าร์วงซันชายน์ โทรมาแจ้งผมว่า บุตรสาวของผมได้ตกตึกที่คอนโดชั้น 7 ซอยพหลโยธิน 24 และเค้าได้นำตัวบุตรสาวของผมส่งโรงพยาบาลเปาโล ผมก็ได้ถามถึงอาการของบุตรสาวของผมว่า เป็นอะไรมากหรือเปล่า เขาตอบว่าไม่เป็นอะไรมากแค่ขาหัก

          ผมก็เตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ผมยังไม่ทันออกจากบ้าน นายมัชฌิมา ได้โทรกลับมาหาผมอีกว่า บุตรสาวของผมต้องเข้าห้องผ่าตัด เพราะตับและไตมีปัญหา ทางโรงพยาบาลได้เรียกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล 4-5 แสนบาท ผมก็ตกลงให้หมอผ่าตัด เขาบอกว่าญาติต้องให้ญาติเซ็นชื่อรับรองในการผ่าตัด ภรรยาผมก็โทรให้แม่ของภรรยาผมที่อยู่กรุงเทพไปเซ็นแทน นายมัชฌิมา ก็ได้คุยกับผมว่าจะช่วยค่ารักษาพยาบาลกับบุตรสาวของผม เมื่อหมอได้นำบุตรสาวของผมเข้าห้องผ่าตัด ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงน่าจะได้ ผมก็ได้เดินทางถึงโรงพยาบาลพอดี ผมถึงโรงพยาบาลไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หมอก็ผ่าตัดเสร็จพอดี หมอก็ออกมาบอกว่า บุตรสาวของผมมีโอกาสจะรอดมีน้อยมาก ให้ญาติทำใจ หลังจากนั้น ประมาณครึ่งชั่วโมง หมอได้ออกมาบอกว่าบุตรสาวของผมได้เสียชีวิตแล้ว ในวันที่เสียชีวิตเป็นวันที่ 8 มกราคม 2555 เวลาประมาณ ตี 2 ทุกคนเสียใจมากรวมถึงตัวผมด้วย

          ผมและญาติ ๆ ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ กว่าจะทำใจได้ หมอก็เดินมาบอกให้ญาติไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่ารักษาประมาณ 8 หมื่นกว่าบาท เมื่อจ่ายเสร็จหมอนำร่างของบุตรสาวของผมไปห้องดับจิต และเช้าก็นำร่างไปตรวจโรงพยาบาลนิติเวช และผมก็คอยหมอตรวจเสร็จ ผมก็พาบุตรสาวของผมกลับบ้านมาบำเพ็ญกุศลที่วัดนิโครธาวาส จ.ปราจีนบุรี ผมได้เก็บบุตรสาวของผมไว้ ผมหมดค่าใช้จ่ายจากการบำเพ็ญกุศลศพ ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ตอนนี้จะสามปีแล้ว นายมัชฌิมา เพ็ชรากรณ์ ไม่เคยยื่นมือมาช่วยเหลืออะไรเลยจากวันที่เกิดเหตุจากคำพูดที่ว่าจะช่วย ท่านทั้งหลายลองคิดว่าเขาทำผิดหรือทำถูก บุตรสาวของผมก็ตกตึกที่ห้องพักของนายมัชฌิมา เพ็ชรากรณ์ ภรรยาของผมก็ได้โทรติดต่อว่าจะเผาบุตรสาวของผมในปีหน้าแล้ว เขาก็ไม่มีคำตอบอะไรเลย และทุกวันนี้ก็พยายามติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ เขากลัวอะไร..ที่ผมจะติดต่อ ผมจะให้เขาไปปิดคดีที่โรงพักเพื่อทำการยกฟ้อง บุตรสาวของผมจะได้ไม่มีเวรกรรมและจะได้อโหสิกรรมแก่กัน"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่