...แม้จะเปิดเรื่องมาโฉ่งฉ่าง เรียกกระแสคนดู แต่พอดูไปเรื่อย ๆ แล้วทำให้เห็นพัฒนาการของทุกตัวละคร
ที่มีปมในใจ เรียกได้ว่า บทกลมกล่อมครบรส เป็นกุหลาบเล่นไฟ ยุค 2014 ละครที่ไม่ได้น่าสนใจแค่ความ
ร้าย ๆ แรง ๆ ของสามนางเอก แต่ยังแฝงแง่คิด ให้เรียนรู้จากปัญหาในครอบครัว สังคม ผลของการกระทำ
และความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ (หรือความตั้งใจกันแน่..?)
…การเริ่มต้นเล่าเรื่องแบบโฉ่งฉ่างตรงไปตรงมา ทำให้เห็นคาแรคเตอร์ของตัวละครชัดเจนตั้งแต่ตอนแรก
ซึ่งเริ่มต้นด้วยมิตรภาพของสามนางเอก ผ่านเหตุการณ์ที่นำไปสู่เรื่องราว..และพัฒนาการของทุกตัวละคร
ที่ดูกลมกล่อมมีมิติขึ้นเรื่อย ๆ เป็นมนุษย์เราที่มีทั้งด้าน ดี-ชั่ว เป็นตัวละครสีเทา ที่คนดูสัมผัสได้ในชีวิตจริง
แต่ก็ปรับอารมณ์ตามไม่ทัน “เกมส์กุหลาบเล่นไฟ” ที่เริ่มโดยตรัย พระเอกร้ายของเรื่อง
…จากตอนแรกไม่เข้าใจตรัย เริ่มหนักใจแทนอ้อม ชักจะสงสารดาว แต่พอเริ่มไม่ชอบดาวก็มาเห็นใจมิ้นท์
และรำคาญอ้อม ต่อมาสงสารดาวมาก และเกลียดมิ้นท์มากแต่ยังเข้าใจเธอ เริ่มจะเกลียดเทพกับอ้อมด้วย
ส่วนตรัยดูเหมือนจะมีคนไม่ชอบหน้าทุกอาทิตย์เลย (หลากหลายอารมณ์มากกกก ๆ)
“...ฉันอาสาทางวัดทำดอกไม้จันทน์ มันช่วยเตือนสติเรา สุดท้ายเราก็ต้องตาย แต่ก่อนตายเราควรทำเพื่อ
คนอื่น บางทีเรามัวแต่คิดถึงตัวเอง คิดแต่เรื่องแก้แค้น ก็มีแต่เสียกับเสีย คนที่เราสู้ด้วยอาจเสียใจ เสียหาย
หรือเสียชีวิต แต่เราเองก็เสียเวลา ความรู้สึก หรืออาจจะต้องเสียชีวิตด้วย ฉันรู้ว่าเธอรักและจริงใจกับดาว
เธอทำทุกอย่างเพื่อดาว แต่หยุดเถอะ”
“ผมกำลังทำตามความต้องการของดาวนะครับ ดาวให้ผมแก้แค้นให้ดาว”
“เธออย่าหลอกตัวเองเลย...ชีวิตหลังความตายของฉัน มันสอนให้ฉันรู้ว่าชีวิตที่มีค่าไม่ได้อยู่เพื่อแก้แค้น
แต่อยู่เพื่อให้ความรัก ให้อภัย ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเราเอง การกระทำที่
โง่เขลาที่สุด ก็คือการหลอกลวง...”
...โดยในตอนล่าสุดนั้น แม่ของดาว และอ้อม ที่เคยโกรธแค้นมิ้นท์ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ดาวต้องจบชีวิตลง
ได้ปล่อยวางและโน้มน้าวเทพ ให้เลิกแก้แค้นมิ้นท์ เพราะท้ายสุดแล้ว..จะไม่มีใครได้อะไรเลย รังแต่สูญเสีย
และทุกข์ใจด้วยกันทั้งนั้น
…ดูแล้วทำให้คิดได้ว่า หากพวกเขา “อภัย” ให้กัน ไม่สร้าง-ผูกเรื่อง ความสูญเสียทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดขึ้น
รวมถึงความสนุกร้อนแรงด้วยเช่นกัน (หากแต่นี่คือละคร..ไม่ใช่ชีวิตจริง)
...ต้องขอชื่นชมบทโทรทัศน์ ลายน้ำ ที่เอาบทประพันธ์เรื่องเก่าของ เทพิตา มาเล่าใหม่ได้น่าสนุก มีชั้นเชิง
และให้ข้อคิดตามยุคสมัย...
และนอกจากทุกตัวละครจะมีพัฒนาการทางความรู้สึกนึกคิดแล้ว นาว-เซฟ สองนางเอกที่ยังคงไฝว้กันอยู่
ยังมีพัฒนาการความสวยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ดูแล้วเพลินตาเพลินใจจริง ยิ่งมาเจอกับผู้กำกับ หนึ่ง ชัชวาล
ตากล้อง และคอสตูม ของค่ายพอดีคำ ยิ่งทำให้ดูสวยพิศ มีเสน่ห์เหมาะกับบทบาทที่ได้เล่นมากเลยทีเดียว
ปล.
อังคารที่ 25 นี้ “กุหลาบเล่นไฟ” จะจบลงแล้ว..อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ !
#ทีมอ้อม #บ้านคนรัก 7 สี (CH7 CLUB)
✎ บทละครร้อนแรงแห่งปี “กุหลาบเล่นไฟ 2014” เปิดเรื่องโฉ่งฉ่าง..แต่แอบซ่อนหนาม !
...แม้จะเปิดเรื่องมาโฉ่งฉ่าง เรียกกระแสคนดู แต่พอดูไปเรื่อย ๆ แล้วทำให้เห็นพัฒนาการของทุกตัวละคร
ที่มีปมในใจ เรียกได้ว่า บทกลมกล่อมครบรส เป็นกุหลาบเล่นไฟ ยุค 2014 ละครที่ไม่ได้น่าสนใจแค่ความ
ร้าย ๆ แรง ๆ ของสามนางเอก แต่ยังแฝงแง่คิด ให้เรียนรู้จากปัญหาในครอบครัว สังคม ผลของการกระทำ
และความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ (หรือความตั้งใจกันแน่..?)
…การเริ่มต้นเล่าเรื่องแบบโฉ่งฉ่างตรงไปตรงมา ทำให้เห็นคาแรคเตอร์ของตัวละครชัดเจนตั้งแต่ตอนแรก
ซึ่งเริ่มต้นด้วยมิตรภาพของสามนางเอก ผ่านเหตุการณ์ที่นำไปสู่เรื่องราว..และพัฒนาการของทุกตัวละคร
ที่ดูกลมกล่อมมีมิติขึ้นเรื่อย ๆ เป็นมนุษย์เราที่มีทั้งด้าน ดี-ชั่ว เป็นตัวละครสีเทา ที่คนดูสัมผัสได้ในชีวิตจริง
แต่ก็ปรับอารมณ์ตามไม่ทัน “เกมส์กุหลาบเล่นไฟ” ที่เริ่มโดยตรัย พระเอกร้ายของเรื่อง
…จากตอนแรกไม่เข้าใจตรัย เริ่มหนักใจแทนอ้อม ชักจะสงสารดาว แต่พอเริ่มไม่ชอบดาวก็มาเห็นใจมิ้นท์
และรำคาญอ้อม ต่อมาสงสารดาวมาก และเกลียดมิ้นท์มากแต่ยังเข้าใจเธอ เริ่มจะเกลียดเทพกับอ้อมด้วย
ส่วนตรัยดูเหมือนจะมีคนไม่ชอบหน้าทุกอาทิตย์เลย (หลากหลายอารมณ์มากกกก ๆ)
“...ฉันอาสาทางวัดทำดอกไม้จันทน์ มันช่วยเตือนสติเรา สุดท้ายเราก็ต้องตาย แต่ก่อนตายเราควรทำเพื่อ
คนอื่น บางทีเรามัวแต่คิดถึงตัวเอง คิดแต่เรื่องแก้แค้น ก็มีแต่เสียกับเสีย คนที่เราสู้ด้วยอาจเสียใจ เสียหาย
หรือเสียชีวิต แต่เราเองก็เสียเวลา ความรู้สึก หรืออาจจะต้องเสียชีวิตด้วย ฉันรู้ว่าเธอรักและจริงใจกับดาว
เธอทำทุกอย่างเพื่อดาว แต่หยุดเถอะ”
“ผมกำลังทำตามความต้องการของดาวนะครับ ดาวให้ผมแก้แค้นให้ดาว”
“เธออย่าหลอกตัวเองเลย...ชีวิตหลังความตายของฉัน มันสอนให้ฉันรู้ว่าชีวิตที่มีค่าไม่ได้อยู่เพื่อแก้แค้น
แต่อยู่เพื่อให้ความรัก ให้อภัย ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเราเอง การกระทำที่
โง่เขลาที่สุด ก็คือการหลอกลวง...”
...โดยในตอนล่าสุดนั้น แม่ของดาว และอ้อม ที่เคยโกรธแค้นมิ้นท์ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ดาวต้องจบชีวิตลง
ได้ปล่อยวางและโน้มน้าวเทพ ให้เลิกแก้แค้นมิ้นท์ เพราะท้ายสุดแล้ว..จะไม่มีใครได้อะไรเลย รังแต่สูญเสีย
และทุกข์ใจด้วยกันทั้งนั้น
…ดูแล้วทำให้คิดได้ว่า หากพวกเขา “อภัย” ให้กัน ไม่สร้าง-ผูกเรื่อง ความสูญเสียทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดขึ้น
รวมถึงความสนุกร้อนแรงด้วยเช่นกัน (หากแต่นี่คือละคร..ไม่ใช่ชีวิตจริง)
...ต้องขอชื่นชมบทโทรทัศน์ ลายน้ำ ที่เอาบทประพันธ์เรื่องเก่าของ เทพิตา มาเล่าใหม่ได้น่าสนุก มีชั้นเชิง
และให้ข้อคิดตามยุคสมัย...
และนอกจากทุกตัวละครจะมีพัฒนาการทางความรู้สึกนึกคิดแล้ว นาว-เซฟ สองนางเอกที่ยังคงไฝว้กันอยู่
ยังมีพัฒนาการความสวยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ดูแล้วเพลินตาเพลินใจจริง ยิ่งมาเจอกับผู้กำกับ หนึ่ง ชัชวาล
ตากล้อง และคอสตูม ของค่ายพอดีคำ ยิ่งทำให้ดูสวยพิศ มีเสน่ห์เหมาะกับบทบาทที่ได้เล่นมากเลยทีเดียว
ปล. อังคารที่ 25 นี้ “กุหลาบเล่นไฟ” จะจบลงแล้ว..อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ !
#ทีมอ้อม #บ้านคนรัก 7 สี (CH7 CLUB)