[CR] ประสบการณ์ครั้งแรกและคนเดียว ใน "ออสเตรเลีย" ระยะเวลา 5 เดือน

เริ่มกันเลยล่ะกันนะ



เราเดินทางไปออสเตรเลีย มีจุดประสงค์คือ ไปเรียนภาษาอังกฤษ(แต่กูว่าที่กูเรียนมันอเมกันมากกว่านะ) และไปหางานทำ(make money)

เรื่องเอกสาร ก็ผ่านเอเจนซี่(ตอนนี้ก็ยังจำชื่อเอเจนไม่ได้) ทำเองไม่เป็น เพราะภาษาอังกฤษห่วยแตกมาก นี่ไม่ได้ถ่อมตัวสักนิดห่วยแตกแบบพูดไม่เป็น ศัพท์ง่ายๆก็ไม่ได้ เรียนอิ้งในมหาลัยก็เกรดแบบแคทๆ เบิร์ดๆบางที

คิดดูว่าวันนี้เป็นวันเดินทาง เพราะเหตุผลโรงเรียนภาษาที่เรียนเปิดอีกสามวัน
แต่................อินี่ตกเครื่องคะ ย้ำคะ "ตกเครื่อง" ..ครั้งแรกนอกประเทศ ครั้งแรกการขึ้นเครื่อง ประสบการณ์แบบจำไปยังลูกบวช!
เหตุผลที่ตกเครื่องไม่อยากบอกเลย เอาเป็นรูปล่ะกัน



(ไหนคนไปจริง555) ถึงขนาดต้องไปรถสองคัน อีกคันไปถึงแล้ว ไอคันที่เรานั่งดันมาติดทีทางด่วนพระราม 3 เดินวิ่งลงมาจากทางด่วนเลยจ้า ต่อพี่วิน ไปairport link ที่ราชปรารภ แต่ก็ไม่ทัน (เป็นไงละ!!!)


ทำไงละ เดินหาไฟท์ที่จะไปวันนั้นให้ได้ เดินทั่วสุวรรณภูมิ แต่ก็ไม่มี....
(ก็บอกไปว่ามี แต่มันแพงยิ้ม ไม่มีตังซื้อโว้ย)
ที่บ้านจะร้องไห้แทน สรุปกลับบ้าน ทานข้าวเย็นก่อนกลับบ้าน ดูมีความสุขดี (ความสุข ยิ้มไรละคะ เศร้าแทบตาย)

แก้ปัญหาด้วยการจองไฟท์ใหม่ ของวันพรุ้งนี้ ดีนะยังมีให้ไปทันเปิดเรียน ไฟท์ไปต่อเครื่องที่ มาเลเซีย( ไฟท์อันเก่าก็ไปต่อเครื่องทีสิงคโปร์)
คราวนี้ไม่ไปส่งเยอะแล้ว ไปคันเดียวพอ แต่ไฟท์นี้ไปขึ้นที่ดอนเมือง

ลดปริมาณจำนวนประชากรลง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

คนไม่เคยเดินทางด้วยขึ้นบินเลย ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงอันดับแรก เข้าไปทำยังไง อะไรยังไง คือตื้อ!! แต่ก็ดูๆคนหน้าเอา5555
ในใจนี่กลัวนะ กลัวเด๋อๆด๋าๆ
งั้นไม่ขอพูดถึงรายละเอียดในขาออกนะ ทุกคนคงรู้อยู่แล้วละ


พอมาถึงที่ มาเลเซีย ก็เดินตามคนอื่นๆมา แต่มาถึงจุดที่มีทางแยกระหว่างคนเข้าประเทศกับคนที่ต่อเครื่อง อินี่ก็เอ๋อคะ ไม่รู้จะไปตรงไหน คืออ่านภาษาอังกฤษไม่ออก ไม่ดิอ่านออก แต่แปลไม่ออก (สรุปโง่คะ)

แต่โชคดี เจอพี่คนหนึ่งเป็นคนไทยเลยถามว่า ช่องนี้ถูกมั้ยคะ พี่คนนี้ก็แนะนำว่าน้องต้องดู ช่องที่บอก gate ดีๆนะ เผื่อมันเปลี่ยน ไอเราก็นั่งดูอย่างตั้งใจ แล้วมันก็เปลี่ยนจริงๆด้วย ส่วนพี่คนนั้นก็ต่อเครื่องไป perth ที่ ออสเตรเลีย แต่พี่เค้าเครื่องออกก่อน ก็นั่งรอคนเดียวเหมือนเดิม พอถึง ตม.มาเลเซีย
ก็ถามเรา ว่า ไปทำอะไรที่ออสเตรเลีย อันนี้ก็พอตอบได้ แต่พอถามว่า  ทำไมถึงซื้อตั๋วเมื่อวาน ..

อินี่..เงิบคะ นึกศัพท์ไม่ออก จะบอกว่า กูตกเครื่อง กูตกเครือง นึกไม่ออก ทำไงที่นี้เปิดพจนานุกรมภาษาอังกฤษในมือถือ มันก็แปลอะไรของมันไม่รู้
หน้าแดง เลือดสูบฉีดมากคะตอนนั้น มีคนต่อแถวหลังเราอีกเยอะ

สุดท้ายก็ผ่านมาได้  เย้ๆ

ถึงแล้วออสเตรเลีย เมืองแห่งจิงโจ้ (เหรอ)  ไม่ได้ถ่ายรูปมาน่าเสียดาย ประเด็นคือจะติดต่อกับพี่เจ้าของบ้านให้มารับยังไง เดินวนอยู่หลายรอบ
สรุป ซื้อแมคเพื่อเอาเหรียญ หยอดตู้โทรหา ไอเหรียญที่ได้ก็ไม่ครบดอลลาร์ แต่พี่เจ้าของบ้านฉลาด เลยรู้ว่าเป็นเรา (รอดแล้วเว้ยเห้ย)


ภาพแรกของที่นี้


ถึงที่พักเรียบร้อย อึ้ง!กับที่พักแป๊ป ที่นี้เค้าเรียกกันว่า unit เป็นคล้ายๆ ห้องคอนโด แต่ ...แต่... ในนั้นอยู๋กัน 9-10 คน อ่อในunit ในห้องอีกสองห้อง
รูปก็ไม่ได้ถ่ายมา เอาเป็นว่าเป็นเตียงสองชั้นห้องเรานะ  อยู่อย่างกับพม่าที่มาทำงานเมืองไทย (ดูอนาจมากไปมั้ยกับการเปรียบเทียบ)
ห้องนอนเรามี ห้องน้ำในตัวด้วยนะ แต่อยู่ 4 คน (เป็นไงอย่างกับแรงงานเข้าเมือง) แต่เราก็ชิน เพราะตอนมหาลัยก็อยู่คล้ายๆแบบนี้

รู้สึกตื่นเต้นมากๆๆๆๆ  คนไทยที่ซิดนีย์เยอะมาก เหมือนกับอยู่ที่ภูเก็ตเลย 5555 มีทุกภาษา อีสาน กลาง เหนือ ใต้
วันต่อมาก็เดินหางาน เดินหาจริงๆ เดินส่ง resume เลยเริมที่ thai town

นี่คือซอยthai town

แต่เค้าไม่รับ เค้ารับคนหน้าตาดีๆหน่อย เราไม่ผ่านเกณฑ์ (ศัลยกรรมด่วน)

มาดูงานแรกของเรากัน


ถือไปร้านนวดแผนไทย ได้ชม.ละ 10 Au$ ทำ 3 ชม.ต่อวัน อาทิตหนึ่งทำแค่ 2 วัน

ไม่พอกินสิคะ เพราะต้องจ่ายค่าที่พักเองด้วยต่อสัปดาห์ 150$/w  เลยต้องหางานเพิ่ม แต่ก็ไม่มีครรับคนที่ภาษาอ่อนแอหรอกใช่มั้ย (เออใช่)
ก็หากันต่อไปในเว็บไซต์คนไทยในออสเตรเลีย

ที่เรียนโรงเรียนเราก็คนไทยเยอะมาก ไม่ค่อยได้พูดอิ้งเท่าไหร่ตอนพัก พูดอิ้งตอนเรียนเท่านั้นแหละ แต่เทคนิคการสอนของเค้าดีนะ วันหนึ่งต้องได้ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน  ถ้า ร.ร.ไหนคนไทยน้อยราคาก็จะแพงขึ้นมาหน่อย

เพื่อนๆในคลาสเรียน มีคนไทยไปแล้ว 70%


บรรยากาศในห้องเรียนประมาณนี้

(ตั้งใจเรียนป่ะละ)

เพราะครูที่สอนสวยมาก มาก มาก

เป้นไงๆ สวยสมคำล้ำลือ

ทุกๆ 4 week ร.ร.จะพาออกนอกสถานที่ไปเที่ยวกันหรือพาไปทานอาหารดังๆ (ใช้เงินตัวเองทั้งนั้นนะไม่ได้ฟรีอย่างที่ตอนแรกคิด)
สถานที่แต่ละพี่ก็จำชื่อไม่ค่อยได้

อย่างที่แรก



อาร์ตแกลอลลี่

ที่ไปเที่ยวนี้ก็ยังไม่ได้งานทำนะ ถือป้ายนวดแผนไทยเหมือนเดิม ในใจอยากได้งานเป็นเด็กเสริฟร้านอาหารไรแบบนี้

งั้นเอาที่เที่ยวที่ไปเลยละกันเนอะ

opera house ที่ใครๆก็บอกว่ามาซิดนีย์ต้องมาที่

ต่อไป



อันนี้เป็น อะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ แต่คนจะไปแก้ผ้านอนอาบแดดกัน มันมีที่ให้แก้ผ้าถอดหมดนอนเลยนะ (เราก็ไปยืนดูตั้งนานแหนะ)

สถานที่ต่อไป เหมาะแก่การเดินเล่นตอนกลางคืนเป็นคู่ๆ (แล้วกูก็เดินคนเดียวจ้ะ)


มันคือ Darling harbour ดูจากชื่อก็ไม่เหมาะเดินคนเดียวละ

ส่วนใหญ๋ที่เราเดินทางก็ใช้รถไฟ ห้ามนึกเป็นรถไฟเหมือนบ้านเรานะไม่ใช่ๆ มันลล้ายๆระไฟฟ้าบ้านเราแต่ไม่ได้วิ่งอยู่บนฟ้าเท่านั้น


ภาพนี้เป็นภาพที่ไปเทรนงานร้านอาหารต่างเมือง

งั้นมาพูดถึงร้านอาหารที่เราเป็นเด็กเสริฟเลย
เป็นร้านอาหารไทย มุสลิม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแขกขาวตัวใหญ่ๆ การที่เราพูดอิ้งไม่เก่ง ก็รับออเดอร์ผิดๆถูก ในช่วงแรก(ทั้งช่วงตั้งแต่แรกจนกลับ)
เราเคยโดนเจ้านายที่เป็นคนไทยว่าเรื่องการทำงานด้วย จนเราทนไม่ไหวโทหาแม่ที่ไทย ไปร้องไห้กับแม่เลยนะ
...ไม่เคยรู้สึกกดดันเท่าไหนมาก่อน โดนคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวว่าแบบแรงๆจริงยิ้มแบบนี้
เครียด  เครียด  แต่สุดท้าย..ก็ผ่านจุดนั้นมาได้ ก็ทำงานที่นั้นต่อเหมือนเดิม  ที่โน้นว่าในรายละเอียดงานก็จบที่ตรงนั้น ไม่มีมาพูดลับหลัง เสร็จก็คุยกันทานข้าวกันปกติ ที่นี้มีทำกับข้าวให้ทานด้วย แล้วเอากลับไปทานก็ได้ ชื่อร้าน the house of thai อยู่ที่ Blankstown เพื่อนร่วมงานร้านี้ดีมาก ถือว่าโชคดีที่ได้เพื่อร่วมงานดี

ร้านเรา ห่างจากซิดนีย์ 40 นาที ถ้านั่งรถไฟ




ทำทุกอย่าง ยกเว้นทำกับข้าว



เพื่อนร่วมงานน่ารักๆ


มีเลี้ยงเค้กเรา วันสุดท้ายที่เราทำงานด้วย ผู้ชายที่อยู่ในรูป คนนี้แหละที่ว่าเราจนเราร้องไห้โทหาแม่ แต่บอสน่ารัก น่ารักๆ

ตั้งแต่ดูมายังไม่เห็นจิงโจ้กันเลยใช่มั้ย ถ้ามาออสเตรเลียไม่เห็นจิงโจ้ถือว่ามาไม่ถึง (เค้าพูดกันมางั้นอ่ะ)
มาแล้วจิงโจ้ผู้น่ารัก

เห็น ตัวขาวๆมั้ย นั้นอ่ะจิงโจ้สีขาว (ไม่รู้เรียกว่าอะไร กูตั้งเองเลยล่ะกัน)

ที่เห็นโพกหัวแบบนั้น เพราะจะไปมัสยิดกัน เลยแต่งตัวให้เรียบร้อย ให้เกียรติสถานที่หน่อย
มาดูมัสยิดกัน


ที่จริงในนั้นห้ามถ่ายรูปนะ แต่เรามีรูป

ขอโทษนะ แต่สวยจริงๆ อยากให้คนอื่นที่นอกศาสนาเห็นบ้าง (อย่าว่ากันนะ)

ที่ต่อไปคือ three sister

เห็นภูเขาโล้นๆ สามลูกตรงนั้นมั้ย ที่เรียงติดกันอ่ะ นั้นแหละ three sister
อากาศตอนนั้นเย็นสบายๆ มีแดดนิดๆกำลังดี ถ้ามีหนังสือหนึ่งเล่ม น้ำชาสักแก้วก็คงดี โรแมนติกสุดๆ

อันต่อไปเป็นที่ที่เราชอบมากอีกที่หนึ่ง คือ port stephens



เป็นหาดทรายขนาดใหญ่ที่มีทะเลด้วย (มันก็ต้องมีทะเลสิว่ะ มันมีหาดทรายอ่ะ) สวยๆเราชอบ

นานๆทีจะมีวันหยุด เลยนัดเพื่อนๆที่ทำงานร้านอาหารไปเที่ยวชาดหาดกัน
ที่เราไปทำอะไรทานกันอยู่คือ coogee beach

ก่อนหน้าที่จะไปก็ต้องไปซื้ออาหารทะเลกันก่อน ไม่งั้นจะเอาทีไหนทำล่ะใช่มั้ย
ซื้อของทะเลที่ fish market เป็นตลาดที่มีอาหารทะเลที่เยอะมาก แล้วถูกกว่าที่อื่น (มั้งนะ)




ได้ของกันครบก็มุ่งหน้าสู่ beach กันเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
ติดตามตอนต่อไปนะ ..คือมันจะครบ หมื่นตัวอักษรแล้วอ่ะ (อย่าโทษเราเลย โทษพันทิพ หัวเราะ )
.........ติดตามกันด้วยน้า  มีสถานที่ท่องเทียวอีกเพียบ
ชื่อสินค้า:   ออสเตรเลีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่