ความยุติธรรมกับการรอคอย

เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ฟ้องร้องบริษัทเรื่องเงินเดือนและค่าคอมมิตชั่น เมื่อประมาณเดือน10-11ปี2556 ซึ่งเรื่องได้มาถึงที่สุดและศาลนัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 วันนั้นเราได้รับแจ้งว่าศาลไม่อาจอ่านคำพิพากษาได้เรื่องจากหนึ่งในผู้พิพากษาร่วมหมดวาระจึงขอเลื่อนไปอ่านวันที่ 8 ตุลาคม 2557 และเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2557 เราได้รับแจ้งว่าศาลขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปวันที่ 18 พฤษจิกายน 2557 เนื่องจากผู้พิพากษาร่วมยังเขียนคำวินิฉัยร่วมไม่เสร็จ และวันนี้เราได้รับแจ้งจากศาลว่าศาลขอเลื่อนไปอ่านคำพิพากษาวันที่ 3 ธันวาคม 2557 เพราะผู้พิพากษาร่วมเพิ่งมาดำรงตำแหน่ง
แรกๆระหว่างที่เรารอคำตัดสินที่หน้าอกเรามันรู้สึกว่างเปล่ามันเหมือนเป็นรูกลวงๆและมีไฟรุมอยู่ในนั้น เราอย่างได้เงินเราที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงขอเรา เราหวังว่าจะมีคนยืนยันได้ว่าเราเป็นฝ่ายถูก บริษัที่เราฟ้องเป็นฝ่ายผิดเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องที่เค้าไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทนเราตามที่ตกลง ระหว่าที่รอและได้คำตอบว่าเลื่อนออกไปอีก และเลื่อนออกไปอีก เรากัดฟันกรามทุกครั้งที่ได้ยิน แล้วเราก็รอไปเลื่อยๆจนวันที่ศาลนัดฟังคำพิกพากษาเราจำได้ระหว่างที่รอรูกลวงที่อกเรามันจะเติมเต็มด้วยความหวัง แต่จะถูกคำว่าเลื่อนกระเทาะมันออกไปให้กลวงทุกที ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงบอกเราว่าให้หลีกเลี่ยงการขึ้นโรงขึ้นศาลต่อให้เราเป็นฝ่ายถูก เค้าบอกเราว่าความยุติธรรมนั้นไม่มีจริงหรอก ตอนนั้นเราไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว ตอนนี้เข้าใจเลยว่าคุณนิสิตป.โทที่ถูกล่วงละเมิดบนรถไฟที่ต้องรอคำตัดสินเป็น10ปีรู้สึกอย่างไร จริงอยู่เรื่องของเรากับของเค้ามันเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่พอมาเจอด้วยตัวเองนี่นับถือน้ำใจเค้าเลย
ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้จะประนามการทำงานของใครเพียงแต่คิดหาวิธีที่จะเติมเต็มรูกลวงในอกให้เต็มจะได้ไปทำมาหากินอีกครั้ง การระบายแบบนี้นับว่าช่วยได้บ้าง
ขอบคุณที่อ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่