ประสบการณ์จากการเลือกตากล้องค่ะ

เห็นว่าช่วงนี้หลายๆมหาวิทยาลัยเริ่มรับปริญญากันแล้วนะคะ เลยมีเรื่องมาเล่าให้น้องๆฟังนิดนึงค่ะ

ตอนงานเรา เราตั้งใจว่าวันรับจริงเราจะจ้างช่างที่ดูมีประสบการณ์มากสุด ผลงานเจ๋งสุด เราก็เลยเลือกตากล้องคนนี้ค่ะ ขอเรียกว่า พี่ ก. นะคะ ( ก. ไม่เกี่ยวกับชื่อเล่นจริงๆแต่อย่างใดค่ะ) เพราะเราคิดว่า ถึงแม้จะมีเวลาในการถ่ายน้อย แต่อย่างน้อยจะได้มีรูปครอบครัวใหญ่คุณปู่คุณย่า ลุงป้าฯลฯ

เราก็ตกลงกับพี่ก. ว่าเจอกันกี่โมง ตรงจุดไหน? พี่ ก. ก็มาตรงเวลาค่ะ น่ารักมาก
สังเกตดูว่าพี่ ก. เค้า entertain คนเก่งมากค่ะ ที่บ้านเรายังชมพี่เค้าเลยว่าน่ารัก  ถ่ายกันไปด้วยความรื่นเริง ทุกคนแฮปปี้ เราก็กลับบ้านมานอน เช้าวันรุ่งขึ้น เห็นในเฟซบุ้ค พี่ก. โพสว่า "จะทำยังไงดี ทำไฟล์รูปหาย" ในใจเราตอนนั้นคิดว่า ภาวณาให้ไม่ใช่เรานะคะ ก็เลยไปถาม สรุปว่า เป็นไฟล์รูปเราค่ะ ร้องไห้เลยตอนนั้น รูปหายหมด เรารู้สึกแย่มาก แต่ก็เข้าใจว่ามันคงเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ พี่ก.ยืนยันว่าจะคืนเงินเราทั้งหมด 5000บาท และพาไปถ่ายใหม่ เราก็โอเคค่ะ ยอมที่จะเสียเวลาใหม่ แต่ช่วงก่อนที่จะไปถ่ายใหม่ เรามีเหตุต้องใช้เงิน
เราเลยบอกว่าพี่ก.รบกวนโอนเงินมาให้หน่อยได้มั้ยคะ ครึ่งนึง ที่เหลือค่อยให้ตอนเราเจอกัน พี่เค้าก็โอนมาค่ะ แต่ที่เหลือเราก็ไม่ได้คืน (พี่เค้าอาจนำไปเป็นค่าพาเราไปถ่ายใหม่) ก็ไม่เป็นไรค่ะ

ถ่ายเสรจพี่เค้านัดเรารับรูป ว่าพรุ่งนี้ก็เสร็จแล้ว เราก็ดีใจนะได้รูปเร็วจัง แต่คิดอีกทีทำไมเสร็จไวจังหวา พอไปรับรูป ขึ้นรถมาหยิบกล่องมาดูชื่อม.ก็พิมพ์ผิด เริ่มกังวลรูปในแผ่นจะเป็นยังไง พอไปเปิดดู รูปก็โอเคค่ะ อาจจะน้อยไปหน่อย ก็ไม่เป็นไร

ทั้งหมดที่เล่ามานี่คืออยากเตือนน้องๆว่าในการเลือกตากล้องนะคะ อยากให้สนใจองค์ประกอบหลายๆอย่าง บางคนชื่อดังจริง แต่ความรับผิดชอบ ความละเอียดน้อยมาก ชื่อเรา ชื่อมหาวิทยาลัยเรา พิมพ์ผิดหมดค่ะ
แต่ตากล้องบางคน ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย. แต่งานที่ออกมา ดูรู้เลยว่าตั้งใจทำมาก

ที่สำคัญคือ หากใครมีกล้องของตัวเองนะคะ เราว่าในรูปสำคัญๆ รบกวนให้ตากล้องใช้กล้องเราถ่ายด้วยเลยค่ะ เราโชคดีนิดนึง ที่ได้ถ่ายกล้องตัวเองไว้บ้าง

ปล.ทั้งหมดนี่คือไม่ได้ว่าตากล้องชื่อดังทุกคนนะคะ อย่าเข้าใจผิดกันนะคะ