สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องปรึกษาค่ะ
ตัวเราเอง ปัจจุบันอายุ 27 ปีค่ะ ส่วนแฟน อายุ 50 ปีค่ะ เราเจอกับแฟนเมื่อ 16 ปีที่แล้วค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่า (เรื่องยาวหน่อยนะคะ ถ้าขี้เกียจอ่าน อ่านทางเลือกด้านล่าง ที่ความเห็นที่ 1 เลยค่ะ)
ตอนเราอยู่ม. 1 ค่ะ เจอกันครั้งแรกตอนเรียนปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียน เรารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างทำให้เรามองเค้าตลอด
หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ จนม.2 เขาเป็นอ.สอนวิชาหนึ่งให้เราค่ะ ก็ทำให้สนิทและรู้จักกันมากขึ้น แต่ก็ในฐานะครูและลูกศิษย์
ก็เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆค่ะ พอจบม.3 เราสอบได้ม.4 โรงเรียนชื่อดังย่านจุฬาฯ ค่ะ ก็เลยย้ายโรงเรียน
ทีนี้เราสองคนเลยมีข้ออ้างว่า ไม่ได้อยู่ที่เดียวกันแล้ว ไม่ได้เป็นครู-ลูกศิษย์กันแล้ว เลยตัดสินใจคบกันค่ะ
เราคบกัน โดยที่แม่ของเราไม่ทราบค่ะ ก็คบกันมาเรื่อยๆ ตัวติดกันตลอด มั่นใจแน่ๆ ว่าเค้าไม่ได้มีใครค่ะ
แต่เค้าจะมีแฟนเก่า ที่เคยคบกันมา แล้วทำร้านอาหารด้วยกันต่อหลังจากเลิกกันค่ะ
โดยที่เราก็เจอแฟนเก่าเค้าบ่อยๆ เนื่องจากไปช่วยงานที่ร้านอาหารด้วยค่ะ
หน้าที่แฟนเราเค้าจะดูเรื่องอาหาร ดนตรี การดูแลลูกค้า ส่วนแฟนเก่าเค้าจะดูเรื่องบัญชีค่ะ
วันนึงเมื่อร้านอาหารมีปัญหา โดยพบว่าแฟนเก่าเอาเงินไปหมุนใช้ส่วนตัว ทำให้ร้านขาดทุนเป็นจำนวนมาก
แฟนเราก็คิดจะเลิกทำร้านค่ะ ทำให้แฟนเก่าเค้า ซึ่งปกติได้เงินจากส่วนนี้ไปใช้ โมโหมาก ทะเลาะกันรุนแรง
และเอาเรื่องของเราสองคนไปบอกแม่เราค่ะ (ณ ตอนนั้น เราเรียนอยู่ปีสองม.รัฐบาลย่านกลางกรุงค่ะ)
โดยเค้าไปบอกแม่เราค่ะ ว่าแฟนเรามีพันธะ อยู่กินกับเค้าอยู่แล้ว แต่มามีเราอีกคน
ตอนนั้น แม่เราจึงรู้สึกโกรธ และเกลียดแฟนเรามาก โดยแม่บอกว่า แม่รับได้ที่เค้าอายุมากกว่า
แต่รับไม่ได้ที่เป็นคนมีพันธะอยู่แล้ว โดยที่ถึงแม้เราจะอธิบายยังไง แม่ก็ไม่ฟัง ยื่นคำขาดให้เลิกสถานเดียว
ตอนนั้นเราห่างกับเค้าประมาณ 4 เดือน คือ โทรศัพท์คุยกันตลอด แต่ไม่ได้เจอกัน
ก็นั่งคิดอยู่กับตัวเองว่า ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าเค้ามีเราคนเดียว และสิ่งที่แฟนเก่าเค้าเอามาพูดให้แม่เราฟังไม่เป็นความจริง
เพราะเราก็รู้จักเค้าดี และแฟนเราเป็นคนดีมากๆ ค่ะ เค้าดูแล เทคแคร์ เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เฉพาะกับเรา แต่กับคนอื่นๆ ก็ดีค่ะ
คือ ณ ตอนนั้น คบกันมา 5 ปีแล้ว
และคิดว่า มันยากนะที่จะหาคนที่รู้ใจ ใส่ใจ เข้าใจกันทุกเรื่อง โดยที่ไม่ต้องพูดจากันก็เข้าใจ
แค่นั่งอยู่ด้วยกันไม่ต้องพูดอะไรกันก็มีความสุข ในเมื่อเราเจอคนที่ใช่แล้ว
และเค้าไม่ได้ทำผิดอะไรกับเราเลย เราจึงตัดสินใจแอบคบกันต่อไป
โดยหวังว่าวันนึงเมื่อเราทั้งคู่พร้อม เราจะสามารถบอกแม่ได้ค่ะ
ตั้งแต่วันที่เราเริ่มคบกัน ทั้งเราทั้งเค้าพัฒนาตัวเองมากขึ้นๆ ค่ะ เพราะอยากจะทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของแม่
โดยเราไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ตั้งใจเรียนตลอด และหางานพิเศษทำ
โดยขณะที่เราเรียน ป.ตรี เราไม่ได้ขอเงินที่บ้านใช้แล้ว เนื่องจากได้ทุนเรียนดีมีค่าเทอมและค่าใช้จ่ายรายเดือนให้
และมีทำงานพิเศษ เช่น ติว รับแปลเอกสาร รับพิมพ์งาน ฯลฯ ค่ะ
จนเมื่อเราเรียนจบป.ตรี โดยเราจบตรีได้เกียรตินิยมอันดับ 1 จึงได้ทุนเรียนต่อเลยคือทุนโทควบเอก
แต่เราเลือกเปลี่ยนสายที่เรียน จึงไม่รับทุน และไปเรียนป.โทต่อ พร้อมทำงานช่วยอ.ที่ปรึกษาไปด้วยค่ะ
ก็พอได้เงินเดือนและมีเงินเก็บเพื่อจ่ายค่าเทอมและใช้จ่ายค่ะ และเราจบโทด้วยเกรด 4.00
จากนั้นเราไปสมัครงาน โดยอยากทำงานบริษัท แต่แม่อยากให้ทำงานราชการค่ะ
ปัจจุบันจึงทำงานใน รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ซึ่งเงินเดือนกับสวัสดิการก็พอประมาณค่ะ
ทำมาได้ 2 ปีแล้วค่ะ และเราสองคนลงทุนซื้อห้องเพื่อทำห้องให้เช่าสอนพิเศษด้วย
ส่วนแฟนเราเค้าก็ทำงานนอกเวลาหนักมาก เพื่อหารายได้ให้มากขึ้นค่ะ
เนื่องจากบ้านเราถือว่ามีฐานะพอใช้ค่ะ และเราเป็นลูกสาวคนเดียว
ส่วนแฟน บ้านเค้ายากจน พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียน จึงบวชเรียนมาจนจบป.ตรี แล้วจึงออกมาเป็นข้าราชการครูค่ะ
เค้าจึงรู้สึกว่าเค้าต้องพยายามหาเงินมากๆ โดยปัจจุบันเราสองคนก็พอมีแล้ว
โดยมีทั้งบ้านทั้งรถ ไม่เดือดร้อนกับเรื่องหน้าที่การงาน ฐานะการเงินแล้วค่ะ
ป.ล. ขอแทก มนุษย์เงินเดือน เพราะอยากได้คำปรึกษาจากวัยทำงานทุกคนค่ะ แทกสังคมคุณแม่ เพราะอยากได้มุมมองในฐานะแม่ และแทกความรักวัยรุ่น เพราะเรื่องเกิดขึ้นในตอนเป็นวัยรุ่นค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
เรากับแฟนอายุห่างกัน 23 ปี คบกันมา 13 ปี แม่ไม่ยอมรับเรื่องระหว่างเราสองคน เราจะเลือกทางออกอย่างไรดีคะ (รบกวนด้วยค่ะ)
ตัวเราเอง ปัจจุบันอายุ 27 ปีค่ะ ส่วนแฟน อายุ 50 ปีค่ะ เราเจอกับแฟนเมื่อ 16 ปีที่แล้วค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่า (เรื่องยาวหน่อยนะคะ ถ้าขี้เกียจอ่าน อ่านทางเลือกด้านล่าง ที่ความเห็นที่ 1 เลยค่ะ)
ตอนเราอยู่ม. 1 ค่ะ เจอกันครั้งแรกตอนเรียนปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียน เรารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างทำให้เรามองเค้าตลอด
หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ จนม.2 เขาเป็นอ.สอนวิชาหนึ่งให้เราค่ะ ก็ทำให้สนิทและรู้จักกันมากขึ้น แต่ก็ในฐานะครูและลูกศิษย์
ก็เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆค่ะ พอจบม.3 เราสอบได้ม.4 โรงเรียนชื่อดังย่านจุฬาฯ ค่ะ ก็เลยย้ายโรงเรียน
ทีนี้เราสองคนเลยมีข้ออ้างว่า ไม่ได้อยู่ที่เดียวกันแล้ว ไม่ได้เป็นครู-ลูกศิษย์กันแล้ว เลยตัดสินใจคบกันค่ะ
เราคบกัน โดยที่แม่ของเราไม่ทราบค่ะ ก็คบกันมาเรื่อยๆ ตัวติดกันตลอด มั่นใจแน่ๆ ว่าเค้าไม่ได้มีใครค่ะ
แต่เค้าจะมีแฟนเก่า ที่เคยคบกันมา แล้วทำร้านอาหารด้วยกันต่อหลังจากเลิกกันค่ะ
โดยที่เราก็เจอแฟนเก่าเค้าบ่อยๆ เนื่องจากไปช่วยงานที่ร้านอาหารด้วยค่ะ
หน้าที่แฟนเราเค้าจะดูเรื่องอาหาร ดนตรี การดูแลลูกค้า ส่วนแฟนเก่าเค้าจะดูเรื่องบัญชีค่ะ
วันนึงเมื่อร้านอาหารมีปัญหา โดยพบว่าแฟนเก่าเอาเงินไปหมุนใช้ส่วนตัว ทำให้ร้านขาดทุนเป็นจำนวนมาก
แฟนเราก็คิดจะเลิกทำร้านค่ะ ทำให้แฟนเก่าเค้า ซึ่งปกติได้เงินจากส่วนนี้ไปใช้ โมโหมาก ทะเลาะกันรุนแรง
และเอาเรื่องของเราสองคนไปบอกแม่เราค่ะ (ณ ตอนนั้น เราเรียนอยู่ปีสองม.รัฐบาลย่านกลางกรุงค่ะ)
โดยเค้าไปบอกแม่เราค่ะ ว่าแฟนเรามีพันธะ อยู่กินกับเค้าอยู่แล้ว แต่มามีเราอีกคน
ตอนนั้น แม่เราจึงรู้สึกโกรธ และเกลียดแฟนเรามาก โดยแม่บอกว่า แม่รับได้ที่เค้าอายุมากกว่า
แต่รับไม่ได้ที่เป็นคนมีพันธะอยู่แล้ว โดยที่ถึงแม้เราจะอธิบายยังไง แม่ก็ไม่ฟัง ยื่นคำขาดให้เลิกสถานเดียว
ตอนนั้นเราห่างกับเค้าประมาณ 4 เดือน คือ โทรศัพท์คุยกันตลอด แต่ไม่ได้เจอกัน
ก็นั่งคิดอยู่กับตัวเองว่า ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าเค้ามีเราคนเดียว และสิ่งที่แฟนเก่าเค้าเอามาพูดให้แม่เราฟังไม่เป็นความจริง
เพราะเราก็รู้จักเค้าดี และแฟนเราเป็นคนดีมากๆ ค่ะ เค้าดูแล เทคแคร์ เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เฉพาะกับเรา แต่กับคนอื่นๆ ก็ดีค่ะ
คือ ณ ตอนนั้น คบกันมา 5 ปีแล้ว
และคิดว่า มันยากนะที่จะหาคนที่รู้ใจ ใส่ใจ เข้าใจกันทุกเรื่อง โดยที่ไม่ต้องพูดจากันก็เข้าใจ
แค่นั่งอยู่ด้วยกันไม่ต้องพูดอะไรกันก็มีความสุข ในเมื่อเราเจอคนที่ใช่แล้ว
และเค้าไม่ได้ทำผิดอะไรกับเราเลย เราจึงตัดสินใจแอบคบกันต่อไป
โดยหวังว่าวันนึงเมื่อเราทั้งคู่พร้อม เราจะสามารถบอกแม่ได้ค่ะ
ตั้งแต่วันที่เราเริ่มคบกัน ทั้งเราทั้งเค้าพัฒนาตัวเองมากขึ้นๆ ค่ะ เพราะอยากจะทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของแม่
โดยเราไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ตั้งใจเรียนตลอด และหางานพิเศษทำ
โดยขณะที่เราเรียน ป.ตรี เราไม่ได้ขอเงินที่บ้านใช้แล้ว เนื่องจากได้ทุนเรียนดีมีค่าเทอมและค่าใช้จ่ายรายเดือนให้
และมีทำงานพิเศษ เช่น ติว รับแปลเอกสาร รับพิมพ์งาน ฯลฯ ค่ะ
จนเมื่อเราเรียนจบป.ตรี โดยเราจบตรีได้เกียรตินิยมอันดับ 1 จึงได้ทุนเรียนต่อเลยคือทุนโทควบเอก
แต่เราเลือกเปลี่ยนสายที่เรียน จึงไม่รับทุน และไปเรียนป.โทต่อ พร้อมทำงานช่วยอ.ที่ปรึกษาไปด้วยค่ะ
ก็พอได้เงินเดือนและมีเงินเก็บเพื่อจ่ายค่าเทอมและใช้จ่ายค่ะ และเราจบโทด้วยเกรด 4.00
จากนั้นเราไปสมัครงาน โดยอยากทำงานบริษัท แต่แม่อยากให้ทำงานราชการค่ะ
ปัจจุบันจึงทำงานใน รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ซึ่งเงินเดือนกับสวัสดิการก็พอประมาณค่ะ
ทำมาได้ 2 ปีแล้วค่ะ และเราสองคนลงทุนซื้อห้องเพื่อทำห้องให้เช่าสอนพิเศษด้วย
ส่วนแฟนเราเค้าก็ทำงานนอกเวลาหนักมาก เพื่อหารายได้ให้มากขึ้นค่ะ
เนื่องจากบ้านเราถือว่ามีฐานะพอใช้ค่ะ และเราเป็นลูกสาวคนเดียว
ส่วนแฟน บ้านเค้ายากจน พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียน จึงบวชเรียนมาจนจบป.ตรี แล้วจึงออกมาเป็นข้าราชการครูค่ะ
เค้าจึงรู้สึกว่าเค้าต้องพยายามหาเงินมากๆ โดยปัจจุบันเราสองคนก็พอมีแล้ว
โดยมีทั้งบ้านทั้งรถ ไม่เดือดร้อนกับเรื่องหน้าที่การงาน ฐานะการเงินแล้วค่ะ
ป.ล. ขอแทก มนุษย์เงินเดือน เพราะอยากได้คำปรึกษาจากวัยทำงานทุกคนค่ะ แทกสังคมคุณแม่ เพราะอยากได้มุมมองในฐานะแม่ และแทกความรักวัยรุ่น เพราะเรื่องเกิดขึ้นในตอนเป็นวัยรุ่นค่ะ ขอบคุณมากค่ะ