อ่านบทอื่นๆ ได้ที่นี่ค่ะ
http://pantip.com/topic/32729269
บทที่ 8 ใช่รัก...รึเปล่า
“ดูสิตัวเปียกหมดเลย” ลูบผมเบาๆ
“เป็นเพราะคริสนั่นแหละไม่ยอมรับโทรศัพท์ เมยถึงได้เปียกแบบนี้” ย่นจมูก
“ผมขอโทษ...” แอบอมยิ้มขำๆ “เปียกเหมือนลูกเป็ดเลย เป็ดน้อยตกน้ำ” ยีหัวอย่างหมั่นไส้
“ฮัด...เช้ย! ”
“เป็นหวัดแล้วไง” รีบห้าผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้ามาให้ “พี่ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“เอ่อ...”
“ทำไม ไม่ไว้ใจผมเหรอ”
“ปะ...เปล่า แค่คิดว่ามันจะดีเหรอ”
“ถ้าเปลี่ยนชุดไม่ดี แสดงว่าเป็นหวัดถึงจะดีใช่ไหม ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย...” จูงมือพาไปห้องน้ำ “รีบๆ อาบแล้วก็รีบๆ เช็ดผมให้แห้งเข้าใจไหม” คนฟังได้แต่ทำตาปริบๆ “ผมถามว่าเข้าใจไหม”
“เข้าใจๆ ” รีบปิดประตูห้องน้ำทันที “ตายแล้ว...ทำไงดี นี่ฉันต้องใส่เสื้อผ้าผู้ชายจริงๆ เหรอเนี่ย” มองดูเสื้อผ้าในมือ
“อาบรึยัง! ”
“อาบแล้วๆ ”เขาจะดีเหมือนกับคำที่พูดไหมนะหรือเขาจะเป็นเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ อาบน้ำไปคิดไปจนหัวหมุนติ้ว...ทำไมปวดหัวอย่างนี้!
“เสร็จแล้วเหรอ...กับข้าวใกล้เสร็จพอดี เดี๋ยวรอแป๊บนะ”
“ทำอะไรกินเหรอ? ”
“ผัดเปรี้ยวหวาน พี่ยังไม่ทานข้าวใช่ไหม”
“ยังเลย หอมจัง...” ยื่นหน้าเข้าไปดูว่าในกระทะว่ามีอะไร “ปกติทำกับข้าวกินเองแบบนี้ตลอดเลยไหม”
“ไม่หรอก จะทำตอนที่มีเวลาและก็ตอนมีแขกพิเศษมาเท่านั้น” หันมาส่งยิ้มให้แขกคนพิเศษ
เมวดียิ้มตอบ “หอคริสดีจังเลยนะมีครัวแยกให้ด้วยแถมยังกว๊าง กว้าง อย่างนี้เวลาเพื่อนมาคงสนุกน่าดู” อดนึกถึงชีวิตตอนที่ตนเองเรียนมหาวิทยาลัยกับเพื่อนๆ แก๊งนางฟ้าไม่ได้
“บอมกับแท่งก็ชอบมานอนด้วยบ่อยๆ แต่มาทีไรผมต้องทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่ทุกที” พูดยิ้มๆ “เสร็จแล้ว...” ยกกระทะขึ้นแล้วตักผัดเปรี้ยวหวานใส่จาน “ฝนตกออกไปซื้อของอะไรไม่ได้เลย กินแค่นี้ไปก่อนก็แล้วกันนะ”
“แค่นี้ก็หรูแล้วสำหรับอาหารทำกินเอง” พูดขำๆ พร้อมกับเดินตาม คริสไปยังโต๊ะกินข้าวเล็กๆ ข้างในห้อง “เมยน่ะทำกับข้าวเองไม่เป็นเลยนะ สมัยเรียนซื้อมากินอย่างเดียวเลย”
“ผมรู้แล้ว...”
“ฮะ? ”
“เอ่อ..ผมหมายถึงเคยได้อ่านในข่าวว่าพี่ทำกับข้าวไม่เก่ง”
“ฮัดเช้ย! ”
รีบหยิบทิชชูให้ “ผมว่าพี่ต้องเป็นหวัดแน่ๆ รีบๆ กินข้าวเถอะเดี๋ยวผมหายาให้กิน”
เมวดีสบตาคนตรงหน้าด้วยความอุ่นใจแบบแปลกๆ รู้สึกดีจัง...ไม่จำเป็นต้องกินอาหารราคาแพงๆ ไม่จำเป็นต้องนั่งที่ภัตตาคารหรูแต่แค่มีเขา ผู้ชายคนนี้...ผู้ชายคนที่ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงของเขาและได้เห็นสายตาคู่นั่น...
“คริสชอบทำอาหารเหรอ”
“ครับ ผมอยากทำให้คนที่ผมรักกินน่ะ”
คนที่รักงั้นเหรอ หมายถึงใคร? พ่อ แม่ เพื่อน หรือแฟน แล้วแฟนหมายถึงฉันรึเปล่า? โอ๊ย...สับสนวุ่นวาย! หัวก็เริ่มปวดขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“ปวดหัวนิดหน่อย”
“งั้นก็รีบๆ กินจะได้กินยา”
“คริส...”
“ครับ”
“ดูแลเมยแบบนี้ตลอดไปได้ไหม”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอบอุ่น “คำว่าตลอดไปของพี่มันนานแค่ไหนล่ะ สิบปี ยี่สิบปี สามสิบปีหรือว่าตลอดชีวิต”
“ตลอดชีวิต”
“แน่ใจแล้วเหรอว่าจะให้ผมเป็นคนดูแล ลองคิดดีๆ ก่อนไหม บางทีอนาคตพี่อาจจะเจอคนที่ดีกว่าผมก็ได้”
“คนที่ดีหาง่าย แต่คนที่ใช่หายาก...และคริสก็คือคนที่ใช่สำหรับเมย”
ฉีกยิ้มอีกครั้ง “ถ้าพี่เลือกผม ผมก็พร้อมจะดูแลพี่ตลอดไป” สายตาทั้งคู่ผสานกันเพื่อสื่อสารความรู้สึกภายในที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดออกมาได้ “กินเถอะเย็นหมดแล้ว” ตัดบทก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
เพราะเขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง การที่มีผู้หญิงมาอยู่ด้วยสองต่อสองแบบนี้ มันค่อนข้างยากที่จะควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ดั้งนั้นทางที่ดีคือต้องรีบห้ามใจตัวเองตั้งแต่ต้น
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 8
“ดูสิตัวเปียกหมดเลย” ลูบผมเบาๆ
“เป็นเพราะคริสนั่นแหละไม่ยอมรับโทรศัพท์ เมยถึงได้เปียกแบบนี้” ย่นจมูก
“ผมขอโทษ...” แอบอมยิ้มขำๆ “เปียกเหมือนลูกเป็ดเลย เป็ดน้อยตกน้ำ” ยีหัวอย่างหมั่นไส้
“ฮัด...เช้ย! ”
“เป็นหวัดแล้วไง” รีบห้าผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้ามาให้ “พี่ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“เอ่อ...”
“ทำไม ไม่ไว้ใจผมเหรอ”
“ปะ...เปล่า แค่คิดว่ามันจะดีเหรอ”
“ถ้าเปลี่ยนชุดไม่ดี แสดงว่าเป็นหวัดถึงจะดีใช่ไหม ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย...” จูงมือพาไปห้องน้ำ “รีบๆ อาบแล้วก็รีบๆ เช็ดผมให้แห้งเข้าใจไหม” คนฟังได้แต่ทำตาปริบๆ “ผมถามว่าเข้าใจไหม”
“เข้าใจๆ ” รีบปิดประตูห้องน้ำทันที “ตายแล้ว...ทำไงดี นี่ฉันต้องใส่เสื้อผ้าผู้ชายจริงๆ เหรอเนี่ย” มองดูเสื้อผ้าในมือ
“อาบรึยัง! ”
“อาบแล้วๆ ”เขาจะดีเหมือนกับคำที่พูดไหมนะหรือเขาจะเป็นเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ อาบน้ำไปคิดไปจนหัวหมุนติ้ว...ทำไมปวดหัวอย่างนี้!
“เสร็จแล้วเหรอ...กับข้าวใกล้เสร็จพอดี เดี๋ยวรอแป๊บนะ”
“ทำอะไรกินเหรอ? ”
“ผัดเปรี้ยวหวาน พี่ยังไม่ทานข้าวใช่ไหม”
“ยังเลย หอมจัง...” ยื่นหน้าเข้าไปดูว่าในกระทะว่ามีอะไร “ปกติทำกับข้าวกินเองแบบนี้ตลอดเลยไหม”
“ไม่หรอก จะทำตอนที่มีเวลาและก็ตอนมีแขกพิเศษมาเท่านั้น” หันมาส่งยิ้มให้แขกคนพิเศษ
เมวดียิ้มตอบ “หอคริสดีจังเลยนะมีครัวแยกให้ด้วยแถมยังกว๊าง กว้าง อย่างนี้เวลาเพื่อนมาคงสนุกน่าดู” อดนึกถึงชีวิตตอนที่ตนเองเรียนมหาวิทยาลัยกับเพื่อนๆ แก๊งนางฟ้าไม่ได้
“บอมกับแท่งก็ชอบมานอนด้วยบ่อยๆ แต่มาทีไรผมต้องทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่ทุกที” พูดยิ้มๆ “เสร็จแล้ว...” ยกกระทะขึ้นแล้วตักผัดเปรี้ยวหวานใส่จาน “ฝนตกออกไปซื้อของอะไรไม่ได้เลย กินแค่นี้ไปก่อนก็แล้วกันนะ”
“แค่นี้ก็หรูแล้วสำหรับอาหารทำกินเอง” พูดขำๆ พร้อมกับเดินตาม คริสไปยังโต๊ะกินข้าวเล็กๆ ข้างในห้อง “เมยน่ะทำกับข้าวเองไม่เป็นเลยนะ สมัยเรียนซื้อมากินอย่างเดียวเลย”
“ผมรู้แล้ว...”
“ฮะ? ”
“เอ่อ..ผมหมายถึงเคยได้อ่านในข่าวว่าพี่ทำกับข้าวไม่เก่ง”
“ฮัดเช้ย! ”
รีบหยิบทิชชูให้ “ผมว่าพี่ต้องเป็นหวัดแน่ๆ รีบๆ กินข้าวเถอะเดี๋ยวผมหายาให้กิน”
เมวดีสบตาคนตรงหน้าด้วยความอุ่นใจแบบแปลกๆ รู้สึกดีจัง...ไม่จำเป็นต้องกินอาหารราคาแพงๆ ไม่จำเป็นต้องนั่งที่ภัตตาคารหรูแต่แค่มีเขา ผู้ชายคนนี้...ผู้ชายคนที่ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงของเขาและได้เห็นสายตาคู่นั่น...
“คริสชอบทำอาหารเหรอ”
“ครับ ผมอยากทำให้คนที่ผมรักกินน่ะ”
คนที่รักงั้นเหรอ หมายถึงใคร? พ่อ แม่ เพื่อน หรือแฟน แล้วแฟนหมายถึงฉันรึเปล่า? โอ๊ย...สับสนวุ่นวาย! หัวก็เริ่มปวดขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“ปวดหัวนิดหน่อย”
“งั้นก็รีบๆ กินจะได้กินยา”
“คริส...”
“ครับ”
“ดูแลเมยแบบนี้ตลอดไปได้ไหม”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอบอุ่น “คำว่าตลอดไปของพี่มันนานแค่ไหนล่ะ สิบปี ยี่สิบปี สามสิบปีหรือว่าตลอดชีวิต”
“ตลอดชีวิต”
“แน่ใจแล้วเหรอว่าจะให้ผมเป็นคนดูแล ลองคิดดีๆ ก่อนไหม บางทีอนาคตพี่อาจจะเจอคนที่ดีกว่าผมก็ได้”
“คนที่ดีหาง่าย แต่คนที่ใช่หายาก...และคริสก็คือคนที่ใช่สำหรับเมย”
ฉีกยิ้มอีกครั้ง “ถ้าพี่เลือกผม ผมก็พร้อมจะดูแลพี่ตลอดไป” สายตาทั้งคู่ผสานกันเพื่อสื่อสารความรู้สึกภายในที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดออกมาได้ “กินเถอะเย็นหมดแล้ว” ตัดบทก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
เพราะเขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง การที่มีผู้หญิงมาอยู่ด้วยสองต่อสองแบบนี้ มันค่อนข้างยากที่จะควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ดั้งนั้นทางที่ดีคือต้องรีบห้ามใจตัวเองตั้งแต่ต้น