คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
มั่วแท้ คนที่เปิด โดนไม่พิจารณา เลยนั่นแหละครับ ตัวต้นเหตุ ท่านๆอื่นๆ ก็ผิดพลาดจริง จากการที่ ไม่พยายามปรับเปลี่ยนนโยบาย แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆ คนที่ผิดมากที่สุดไม่ใช่ ชวลิตครับ แต่ เป็นคนดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้นตะหากครับ รวมไปถึง ธปทด้วย หาอ่านเอาใน ศปร ก็ได้
ลองไปค้นดูเอาเองว่า ธปท มีหน้าที่อะไรบ้าง เกี่ยวพันโดยตรงรึเปล่า คุณชวลิต เข้ามาบริหารงานได้ไม่นาน ไม่ถึงปี ด้วยซ้ำ แค่เจอต้นตอของปัญหาก็เก่งละ ดันไปโทษ ซะงั้น
แล้วถ้าจะเอาจริงๆ มาไล่ดู ไทม์ ไลน์ ในเรื่องนี้เลย ก็ได้ครับ
รัฐบาลชวน1 ระหว่าง 23 กันยายน 2535 - 12 กรกฎาคม 2538
รัฐบาลบรรหาร ระหว่างวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
รัฐบาลชวลิต ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
ตัวเลขทางการเงิน ที่แสดงให้ เห็น ว่า เศรษฐกิจเริ่มมีปัญหา
ที่เห็นเด่นชัด มีทั้งหมด
สามตัว คือ
35 36 37 38 39
1. ดุลบัญชีเดินสะพัด -6.1 -6.1 -7.8 -13.2 -14.3
2. เงินทุนเคลื่อนย้าย 8.1 10.5 12.2 21.9 19.5
3. ดุลการชะระเงิน 3. 3.9 4.2 7.2 2.2
4. ดุลการค้า -3.9 -4 -3 -7.6 -9
ตัว เลข ทั้งสามตัวนี้ มีความสำคัญ ในการ วิเคราะห์ ถึงผลจากนโยบายดังกล่าว
เรื่องแรก คือ การเคลื่อนย้ายเงินทุนสุทธิ หาก คุณ ไปดู ตั้งแต่ ปี ที่เปิด จะเห็นได้ชัด ว่า เงินทุนไหลเข้าอย่างมาก ซึ่ง มาจากการกูยืมเงินของเอกชน ที่นำมาปล่อยกูให้ กับภาคครัวเรือนและภาคเอกชนในไทย โดยที่ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในเรื่องของค่าเงิน
เรื่องที่สอง คือ การที่เงินไหลเข้าอย่างมาก ซึ่งมีผลต่อปริมาณเงินในประเทศ ทำให้ ปริมาณเงินในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และ ทำให้ เศรษฐกิจขยายตัวขึ้น อย่างมาก ผ่านนโยบายดังกล่าว และ ส่งผลให้รายได้ของประชาชน มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ ประเทศเรานำเข้ามากยิ่งขึ้น จากการใช้จ่ายของประชาชน และ นำเข้าในเรื่องของ เครื่องมือต่างๆในภาคธุรกิจ ซึ่ง ณ จุดนี้เองที่ คนดำเนินนโยบายนั่นผิดพลาด (จริงๆ ก่อนจะเปิด BIBF นั่น จะต้อง มีข้อกำหนดในการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน แล้ว ไม่ใช่ว่า ปัญหาเกิด แล้วค่อยมาเปลี่ยน โทษใครไม่ได้ครับ ชวนกับคนที่ดำเนินการเปิด BIBF นั่นอ่ะผิดเต็มๆ ) การส่งออก เราไม่สามารถปรับตัวได้เนื่องจาก อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในขณะนั่น คงที่ ทำให้ไม่สามารถปรับตัวตามกลไกตลาดได้ ส่งผลให้ เมื่อเกิด ภาวะ ฟองสบู่ขึ้น ทำให้ ปริมาณเงินที่ไหลเข้า ซึ่งดุได้จาก เงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิ นั่นได้ ลดลง ในปี 38-39 และ (หาข้อมูลดูเองละกันนะครับของปี 40อ่ะ สยอง )
สาเหตุที่ โซรอสเข้ามาเก็งกำไร หลายๆคนอาจโกรธ หลายคน อาจเกลียดขี้หน้าเจ้าหมอนี้
แต่เอาเข้าจริง ๆเจ้าหมอนี้ เพียงแต่ รู้จักกลไกตลาดดี และ หาประโยชน์ จากมัน ถ้าจะโทษ มันบอกได้คำเดียว คือ คนดำเนินนโยบายที่ไม่รอบคอบ
สร้างปัญหา ให้กับชาติ นั่นเป็นความจริงที่ไม่ว่าใคร จะแถยังไง ก็ ไมรอด
สรุป ชวลิตซวยครับ เข้ามารับหน้าเสื่อ โดยที่ไม่ได้รู้อะไรเลย เพราะ ปัญหามันก่อตัว มาตั้งแต่ ปี 38 และ เริ่มแสดงผลในปี 39 กระทบหนักสุดในปี 40 แหละนี้จึงเป็นเหตุผลที่หลายๆคน ที่รับรู้ ในเรื่องนี้ ได้บอกว่า ปชป มักจะวางยาคู่แข่งเอาไว้ในทุกครั้งหรือทุกรอบ
แล้วผมจะบอกให้อีกอย่างว่า คนที่ จะก่อให้ เกิดปัญหา ในเรื่องของศักยภาพ การผลิตของไทย ก็คือ ปชป อีกนั่นแหละครับ จากนโยบายในปี 53
ณตอนนี้ ยังหรอก ยังไม่มีใครคิดถึง มันก็เหมือนตอนปี 36 อ่ะ ไม่มีใครพูดถึง ต้องรอให้ปัญหามันเกิดก่อน ถ้าผมวิเคราะห์ผิดก็ดี และผมภาวนาให้ตัวเองวิเคราะห์ ผิดด้วยซ้ำเพราะ ไม่อยากให้ มีปัญหา ด้านเศรษฐกิจอีก แต่ ก็อีกนั่นแหละ ถ้าปัญหามันเกิดขึ้นจริง หลายๆคน ก็ไม่มองหาสาเหตุหรอก แต่ไปโทษหรือลงที่ รัฐบาลคุณปู เลย
ปล ผมไม่ได้บอกว่า รัฐบาลคุณปู ทำดี หรือถูกต้องนะในเรื่องนี้นะ แยกให้ออก แต่ ตัวต้นเหตุไม่ได้เกิดมาจากรัฐบาลชุดนี้ แต่เกิดมาจาก ปชป ครับ
ปล 1 เอาแค่ตรงนี้ คุณทำใจยอมรับให้ได้ก่อน ว่า ปชป นั่นแหละ ที่เป็นต้นเรื่องและเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เกิดปัญหาต้มยำกุ้ง ถ้า คุณทำใจยอมรับตรงนี้ไม่ได้ ยังพยายามเชียร์ แบบ สุดลิ่มทิ่มประตูดิน เชียรแบบ ขาด เหตุผล ขาดหลักการ คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ
ขออนุญาติ หยุดการโต้ตอบไว้ตรงนี้ก่อน พรุ่งนี้ผมมีสอบ หลังจากพรุ่งนี้ ถ้ายังอยากจะคุยเรื่องนี้ มาว่ากันครับตามทฤษฏี และเหตุผล แต่ถ้าไม่อยาก คุย รับไม่ได้ในสิ่งที่ผมบอก ไม่เป็นไรครับ ข้ามความเห็นผมไปเลย เพราะผมก็ขี้เกียจ อธิบายอะไรเยอะๆยาวๆเหมือนกัน ยิ่งถ้าต้องเอาทฤษฏี มาลงให้อ่านกันด้วย ก็ยิ่งเหนื่อย
ลองไปค้นดูเอาเองว่า ธปท มีหน้าที่อะไรบ้าง เกี่ยวพันโดยตรงรึเปล่า คุณชวลิต เข้ามาบริหารงานได้ไม่นาน ไม่ถึงปี ด้วยซ้ำ แค่เจอต้นตอของปัญหาก็เก่งละ ดันไปโทษ ซะงั้น
แล้วถ้าจะเอาจริงๆ มาไล่ดู ไทม์ ไลน์ ในเรื่องนี้เลย ก็ได้ครับ
รัฐบาลชวน1 ระหว่าง 23 กันยายน 2535 - 12 กรกฎาคม 2538
รัฐบาลบรรหาร ระหว่างวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
รัฐบาลชวลิต ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
ตัวเลขทางการเงิน ที่แสดงให้ เห็น ว่า เศรษฐกิจเริ่มมีปัญหา
ที่เห็นเด่นชัด มีทั้งหมด
สามตัว คือ
35 36 37 38 39
1. ดุลบัญชีเดินสะพัด -6.1 -6.1 -7.8 -13.2 -14.3
2. เงินทุนเคลื่อนย้าย 8.1 10.5 12.2 21.9 19.5
3. ดุลการชะระเงิน 3. 3.9 4.2 7.2 2.2
4. ดุลการค้า -3.9 -4 -3 -7.6 -9
ตัว เลข ทั้งสามตัวนี้ มีความสำคัญ ในการ วิเคราะห์ ถึงผลจากนโยบายดังกล่าว
เรื่องแรก คือ การเคลื่อนย้ายเงินทุนสุทธิ หาก คุณ ไปดู ตั้งแต่ ปี ที่เปิด จะเห็นได้ชัด ว่า เงินทุนไหลเข้าอย่างมาก ซึ่ง มาจากการกูยืมเงินของเอกชน ที่นำมาปล่อยกูให้ กับภาคครัวเรือนและภาคเอกชนในไทย โดยที่ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในเรื่องของค่าเงิน
เรื่องที่สอง คือ การที่เงินไหลเข้าอย่างมาก ซึ่งมีผลต่อปริมาณเงินในประเทศ ทำให้ ปริมาณเงินในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และ ทำให้ เศรษฐกิจขยายตัวขึ้น อย่างมาก ผ่านนโยบายดังกล่าว และ ส่งผลให้รายได้ของประชาชน มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ ประเทศเรานำเข้ามากยิ่งขึ้น จากการใช้จ่ายของประชาชน และ นำเข้าในเรื่องของ เครื่องมือต่างๆในภาคธุรกิจ ซึ่ง ณ จุดนี้เองที่ คนดำเนินนโยบายนั่นผิดพลาด (จริงๆ ก่อนจะเปิด BIBF นั่น จะต้อง มีข้อกำหนดในการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน แล้ว ไม่ใช่ว่า ปัญหาเกิด แล้วค่อยมาเปลี่ยน โทษใครไม่ได้ครับ ชวนกับคนที่ดำเนินการเปิด BIBF นั่นอ่ะผิดเต็มๆ ) การส่งออก เราไม่สามารถปรับตัวได้เนื่องจาก อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในขณะนั่น คงที่ ทำให้ไม่สามารถปรับตัวตามกลไกตลาดได้ ส่งผลให้ เมื่อเกิด ภาวะ ฟองสบู่ขึ้น ทำให้ ปริมาณเงินที่ไหลเข้า ซึ่งดุได้จาก เงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิ นั่นได้ ลดลง ในปี 38-39 และ (หาข้อมูลดูเองละกันนะครับของปี 40อ่ะ สยอง )
สาเหตุที่ โซรอสเข้ามาเก็งกำไร หลายๆคนอาจโกรธ หลายคน อาจเกลียดขี้หน้าเจ้าหมอนี้
แต่เอาเข้าจริง ๆเจ้าหมอนี้ เพียงแต่ รู้จักกลไกตลาดดี และ หาประโยชน์ จากมัน ถ้าจะโทษ มันบอกได้คำเดียว คือ คนดำเนินนโยบายที่ไม่รอบคอบ
สร้างปัญหา ให้กับชาติ นั่นเป็นความจริงที่ไม่ว่าใคร จะแถยังไง ก็ ไมรอด
สรุป ชวลิตซวยครับ เข้ามารับหน้าเสื่อ โดยที่ไม่ได้รู้อะไรเลย เพราะ ปัญหามันก่อตัว มาตั้งแต่ ปี 38 และ เริ่มแสดงผลในปี 39 กระทบหนักสุดในปี 40 แหละนี้จึงเป็นเหตุผลที่หลายๆคน ที่รับรู้ ในเรื่องนี้ ได้บอกว่า ปชป มักจะวางยาคู่แข่งเอาไว้ในทุกครั้งหรือทุกรอบ
แล้วผมจะบอกให้อีกอย่างว่า คนที่ จะก่อให้ เกิดปัญหา ในเรื่องของศักยภาพ การผลิตของไทย ก็คือ ปชป อีกนั่นแหละครับ จากนโยบายในปี 53
ณตอนนี้ ยังหรอก ยังไม่มีใครคิดถึง มันก็เหมือนตอนปี 36 อ่ะ ไม่มีใครพูดถึง ต้องรอให้ปัญหามันเกิดก่อน ถ้าผมวิเคราะห์ผิดก็ดี และผมภาวนาให้ตัวเองวิเคราะห์ ผิดด้วยซ้ำเพราะ ไม่อยากให้ มีปัญหา ด้านเศรษฐกิจอีก แต่ ก็อีกนั่นแหละ ถ้าปัญหามันเกิดขึ้นจริง หลายๆคน ก็ไม่มองหาสาเหตุหรอก แต่ไปโทษหรือลงที่ รัฐบาลคุณปู เลย
ปล ผมไม่ได้บอกว่า รัฐบาลคุณปู ทำดี หรือถูกต้องนะในเรื่องนี้นะ แยกให้ออก แต่ ตัวต้นเหตุไม่ได้เกิดมาจากรัฐบาลชุดนี้ แต่เกิดมาจาก ปชป ครับ
ปล 1 เอาแค่ตรงนี้ คุณทำใจยอมรับให้ได้ก่อน ว่า ปชป นั่นแหละ ที่เป็นต้นเรื่องและเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เกิดปัญหาต้มยำกุ้ง ถ้า คุณทำใจยอมรับตรงนี้ไม่ได้ ยังพยายามเชียร์ แบบ สุดลิ่มทิ่มประตูดิน เชียรแบบ ขาด เหตุผล ขาดหลักการ คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ
ขออนุญาติ หยุดการโต้ตอบไว้ตรงนี้ก่อน พรุ่งนี้ผมมีสอบ หลังจากพรุ่งนี้ ถ้ายังอยากจะคุยเรื่องนี้ มาว่ากันครับตามทฤษฏี และเหตุผล แต่ถ้าไม่อยาก คุย รับไม่ได้ในสิ่งที่ผมบอก ไม่เป็นไรครับ ข้ามความเห็นผมไปเลย เพราะผมก็ขี้เกียจ อธิบายอะไรเยอะๆยาวๆเหมือนกัน ยิ่งถ้าต้องเอาทฤษฏี มาลงให้อ่านกันด้วย ก็ยิ่งเหนื่อย
แสดงความคิดเห็น
.... 5 ยาเม็ด "สลายมโน" ว่าด้วย ปรส. แปดแสนล้าน เชิญเสื้อแดงรับยา และผู้สนใจมาศึกษาครับ ....
เพื่อความสุนทรีย์ กรุณากดฟังเพลงเบาๆ
"การจินตนาการ" เป็นสิ่งที่ดี ถ้าเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์
----------------------------------------------------------------------------------------
ยาสลายมโน เม็ดที่ 1 ต้นเหตุของ ปรส. แปดแสนล้าน
วิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ค่อนข้างซับซ้อน เป็นการสะสมปัญหาแบบดินพอกหางหมู
แต่จะสรุปสิ่งสำคัญๆ คือ ...
การเปิดเสรีทางการเงิน หรือ BIBF แต่ไปล็อคค่าเงินบาทในการเทียบกับยูเอสดอลล่า
มีนายกเกี่ยวข้อง 4 คน เริ่มต้นที่นายกอานันท์... นายกชวน นายกบรรหาร นายกชวลิต ก็ดำเนินการต่อมา...
พวกนี้ต้องรับผิดชอบร่วมกันในการเปิดเสรีทางการเงิน และไม่มีมาตรการที่ดีพอในการควบคุม...
แต่นายกชวลิต ห่วยสุด หนักสุด เพราะดันบริหารผิดพลาด โดยเฉพาะไปสู้ค่าเงินบาทจากการโจมตีของโซรอส
จนคลังหมดหน้าตัก... ต้องกู้ไอเอ็มเอฟพร้อมด้วยพันธะทาส...
สั่งปิดสถาบันการเงิน 58 แห่ง อันเป็นที่มาของคำว่า "ทรัพย์สินแปดแสนล้าน"
... ลอยตัวค่าเงินบาทแบบตูมเดียว ร้องจ๊ากกันทั้งประเทศ...แทนที่จะค่อยๆดำเนินการ...
ส่วนไอ้โม่งตัวไหนได้ประโยชน์จากการลอยตัวค่าเงินบาท ร่ำรวยจากรอยคราบน้ำตาของพี่น้องชาวไทย
ก็เชิญพิจารณาไตร่ตรอง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป ปัญหาเกิดจากหลายคน สั่งสมมา
แต่จิ๋วเป็นตัวหลักที่สร้างปัญหาใหญ่
นายชวนเข้ามาในสถานะที่ประเทศลำบาก เพื่อแก้ปัญหาที่จิ๋วทิ้งไว้
เข้ามาในขณะที่จิ๋วกู้ไอเอ็มเอฟพร้อมพันธะทาส เรียบร้อยแล้ว
เข้ามาในขณะสถาบันการเงินถูกปิดไปเรียบร้อยโรงเรียนจิ๋วแล้ว
~ ศรอรชุน ~