เที่ยวครั้งนี้เราไปกัน 2 คนค่ะ (7-12 พ.ย. 57) ตกลงกันไว้ตั้งแต่ 3-4 เดือนก่อนว่าหน้าหนาวปีนี้จะเที่ยวเหนือกัน เชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกที่ปิ๊งเข้ามาในหัว สถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้นหูมากที่สุดก็ไม่พ้นดอยสุเทพกับดอยอินทนนท์ เพราะฉะนั้นที่เที่ยวหลักของเราก็คือ 2 แห่งนี่ล่ะค่ะ ที่ต้องไปให้ได้ ส่วนที่เที่ยวอื่นค่อยไปเก็บเอาตามรายทาง
เที่ยวครั้งนี้ตั้งใจใช้มอเตอร์ไซค์ค่ะ (เพราะขับรถยนต์ไม่เป็น แต่ถึงขับเป็นก็คงไม่ใช้ค่ะ ไปกันสองคน ไม่คุ้มกับค่าเช่า) และก็ Google Maps ดู ดอยสุเทพแค่สิบกว่า กม. เท่านั้น สบายมาก ส่วนดอยอินทนนท์ร้อยกว่า กม. นั่นค่อยว่ากันทีหลัง^^
มาดูโปรแกรมคร่าวๆ กันก่อนค่ะ
7 พ.ย. 57 รถทัวร์ มค.-กทม. (10.00 น. - 17.55 น.) ต่อด้วยรถไฟ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เที่ยว 19.35 น. ถึง เชียงใหม่ 09.55 น.
8 พ.ย. 57 เช็คอิน 10.30 น. บ่ายตระเวนไหว้พระในตัวเมืองเชียงใหม่ ---> วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร---วัดทุงยู---วัดชัยพระเกียรติ---วัดพันเตา/พระวิหารหอคำหลวง---วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร---วัดช่างแต้ม---วัดหมื่นตูม---วัดเจ็ดลิน---วัดฟ่อนสร้อย
9 พ.ย. 57 อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย---วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร---พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์---ดอยปุย---บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน
10 พ.ย. 57 วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร---น้ำตกแม่กลาง---น้ำตกวชิรธาร---น้ำตกสิริธาร---สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์/โครงการหลวงอินทนนท์---น้ำตกสิริภูมิ/สวนหลวงสิริภูมิ---ดอยชัวร์ญ่า
11 พ.ย. 57 พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ---กิ่วแม่ปาน---อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์/สูงสุดแดนสยาม
12 พ.ย. 57 เดินทางกลับ (เที่ยวรถ 08.30 น. - 21.25 น.)
---------------------------------------------------------------------------------------
+++ ข้อความไหนไม่ใช่สาระสำคัญจะใส่สปอยล์ไว้นะคะ +++
ศุกร์ 7 พฤศจิกายน 2557 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้10.00 น. เดินทางออกจากมหาสารคาม (รุ่งประเสริฐทัวร์ 32 ที่นั่ง)
17.50 น. ถึงหมอชิต กทม. (มาถึงช้ากว่าปกติ 1 ชม. เพราะฝนตก รถติดจากการสร้างทางรถไฟ)
18.00 น. ขึ้นแท็กซีจากหมอชิต
18.30 น. ถึง MRT กำแพงเพชร (รถติดมาก)
18.35 น. – 19.05 น. ถึง MRT หัวลำโพง (เดินมาทางออกที่ 1 ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม สถานีอยู่ทางซ้ายมือ)
19.20 น. ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง (ข้ามถนนค่อนข้างยาก รอสัญญาณไฟกับต่างชาติอีกสองคนแล้วยังไปติดเกาะกลางถนนอีก)
19.40 น. รถไฟเคลื่อนที่ออกจากสถานี (รอบ 19.35 น.) เราจองตู้นอนปรับอากาศค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลักษณะที่นอน
ห้องน้ำ
เช้าแล้ว ออกไปดูวิวที่ตู้นอนห้องส่วนตัวกันดีกว่า อากาศตอนเช้าค่อนข้างเย็น
08.22 น. ขุนตาน 09.18 น. ลำพูน 09.30 น. ต่างชาติ 2 คนที่นอนห้องเดียวกันเริ่มเก็บของก่อนจะนั่งรอเวลา
09.55 น. ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ (ตรงเวลาเป๊ะ) คันที่เรานอนส่วนใหญ่มีแต่ต่างชาติค่ะ ห้องส่วนตัวก็เหมือนกัน
10.10 น. – 10.25 น. โดยสารรถแดงที่สถานีเชียงใหม่ – Tree Residence (ที่อยู่ ซอยวัวลาย 1)
เดินออกมาด้านหน้าจะมีคนถามว่าจะไปไหน ถ้าตกลงกันได้ก็ขึ้นรถไปเลย คนแรกยังไม่ก้าวเท้าลงจากบันไดก็มาแล้ว อันนี้เราผ่านค่า(กระชั้นชิดไป ยังไม่ทันตั้งตัว) เดินลงมาอีกหน่อย เจอผู้หญิงเข้ามาถาม เลยถามราคาไป เขาคิดคนละ 50 บาท เลยโอเค ไปถึงรถมีต่างชาติ ชาย-หญิง อยู่ก่อนแล้วสองคน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นั่งรอไม่ถึง 5 นาที มีต่างชาติ ชาย-หญิง มาเพิ่มอีก 3 คู่ รวมผู้โดยสารทั้งหมด 10 คน รถก็พร้อมออกจากสถานี (หาลูกค้าเก่งมาก เท่าที่ฟัง ราคา 50 บาทเท่ากันทุกคน) เจอแต่ต่างชาติ(ยุโรป-อเมริกา) หน้าตาดีวุ๊ยยย มากันเป็นคู่ๆ^^) นั่งรถ 15 นาทีก็มาถึงที่พัก รถเข้ามาส่งถึงหน้าที่พักเลย (ก่อนหน้านี้ส่งลูกค้าลงไปก่อน 2 คู่)
หลังจากเช็คอินก็อาบน้ำ พักผ่อนกันก่อน (ที่นี่เช็คอิน/เช็คเอาท์ได้ตลอดเวลา พี่พนักงานบอกอย่างนั้น ถ้าข้อมูลในเว็บจะบอกว่า เช็คอิน 14.00 น./เช็คเอาท์ 12.00 น.) เราจองห้องดีลักซ์ (Deluxe Room) ผ่าน Agoda ไว้ 2 คืนค่ะ คืนละ 790 บาท ตอนแรกตั้งใจจะเอาห้องมาตรฐาน (Standard) แต่เต็มซะก่อน ห้องที่จองนี้จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นค่ะ พูดง่ายๆ ใช้ห้องนั่งเล่นร่วมกันค่ะ เท่าที่สังเกตก็ไม่มีใครใช้ค่ะทั้งเราและห้องข้างๆ(ไม่มีเวลาใช้มากกว่า) เช้าก็ออกข้างนอก เย็นก็กลับเข้ามานอน แค่นั้นจริงๆ
สภาพห้องก็โอเคค่ะ สะอาด แต่ห้องน้ำจะแคบไปหน่อย ไม่มีวิวให้ดู มันเป็นห้องปิดอ่ะค่ะ อ้อ ที่จอดรถยนต์เท่าที่ดูน่าจะจอดได้สองคันค่ะ อยู่ด้านหน้าทางเข้า (ตอนไปก็ไม่มีใครจอดนะคะ เพราะแบ็คแพ็คกันทั้งนั้น) ฝั่งตรงข้ามก่อนถึง Tree Residences ก็จะเป็นบ้านเงินวิลเลจ โรงแรมขนาดกลาง 69 ห้อง เริ่มต้นที่ 690 บาท/คืน (ลองเช็คดูจากอโกด้า)
ภายในห้อง
ห้องนั่งเล่นที่ไม่เคยได้ใช้
12.30 น. ออกจากที่พักกะหาอะไรทาน เดินออกมาหน้าปากซอยเลี้ยวขวา เดินไปอีกหน่อยเจอร้าน อาหาร เลยเดินผ่านไปก่อน คิดว่าด้านหน้าต้องมีร้านอีกเยอะแน่ๆ แต่คิดผิดค่า หลังจากเดินผ่านตลาดประตูเชียงใหม่ที่อยู่อีกฝั่งแทบไม่มีร้านอาหารเลย เจอแต่วัด เดินไปเรื่อยๆ เจอทางแยก เลยเลี้ยวซ้าย เดินไปซักพักก็เจอเขตร้านอาหาร แต่...ทุกร้านเต็มหมด บางกลุ่มต้องยืนรอ เป็นจีน(ไต้หวัน/ฮ่องกง อันนี้ขอเรียกรวมๆ เป็นจีนนะคะ)ซะเยอะ คนไทยกะจีนก็ทานอาหารคล้ายๆ กันล่ะนะ อาหารตามสั่งหรืออาหารจำพวกเส้นๆ อะไรประมาณนี้ ส่วนฝรั่งจะเห็นเข้าร้านสลัดหรือเบอร์เกอร์ ปรึกษากับเพื่อนเราคงรอไม่ไหวแน่ๆ เพราะเดินมาเกือบชั่วโมงเริ่มหิว ตัดสินใจเดินต่อไปถึงทางแยกหน้าวัดพระสิงห์ฯ เลี้ยวขวา กะว่าเจอร้านไหนกินเลย ไม่เกี่ยงแล้ว ไปจบที่ร้านอาหารตามสั่งค่ะ (13.25 น.) อาหารมื้อแรกที่เชียงใหม่เป็น “กะเพรารวม” จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ ลูกค้าเกือบเต็มร้าน และก็ทำอาหารไว ไม่ถึง 10 นาทีก็ได้ทาน
เสาร์ 8 พฤศจิกายน 2557 (ตอนบ่าย)
โปรแกรม (วัดในเมืองเชียงใหม่) ---> วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร---วัดทุงยู---วัดชัยพระเกียรติ---วัดพันเตา/พระวิหารหอคำหลวง---วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร---วัดช่างแต้ม---วัดหมื่นตูม---วัดเจ็ดลิน---วัดฟ่อนสร้อย
13.45 น. ย้อนกลับมาที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (วัดแรกในเชียงใหม่ที่เข้า) เนื่องจากคนเยอะมากเลยยังไม่เข้าไปไหว้พระในวิหาร ขอเดินเล่นรอบๆ วัดก่อน เดินออกมาอีกด้านเจอมุมขายของ เห็นร้านขายเฉาก๊วยนมสด(หิวน้ำด้วย)เลยเผลอซื้อ จ่ายตังค์เสร็จเดินออกมาไม่กี่ก้าว อ้าว! กรรม ยังไม่ได้เข้าไปไหว้พระเลย เอาไงล่ะทีนี้ สุดท้ายเลยตกลงกับเพื่อนเข้าไปทีละคน เพื่อนเข้าไปก่อน เรารออยู่ด้านนอก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มือถือเฉาก๊วยนมสดข้างละแก้ว ระหว่างรอก็มีฝรั่งมาทัก กรรมอีกล่ะ ยิ่งง่อยอังกฤษอยู่ อ้อ ประโยคพื้นฐาน จับใจความได้ว่า เขามาจากฝรั่งเศส เขาชอบประเทศไทยมาก บลาๆ (ถอดความได้แค่นี้จริงๆ) แล้วจบด้วย “นี่อร่อยมากๆ” (พร้อมกับยื่นแก้วเฉาก๊วยในมือให้ดู ไม่พอแค่นั้นกินให้ดูด้วยนะ) ไอ้เราก็ได้แต่ยิ้มกะพยักหน้าให้ 555 ตอบกลับไม่ได้จริงๆ จากนั้นเขาก็วางแก้วเฉาก๊วยไว้ตรงบันไดทางขึ้น(ที่สำหรับถอดรองเท้า) เข้าไปในวิหาร แป๊บเดียวก็ออกมา แต่ก็ยังไม่ลืมถือแก้วเฉาก๊วยกลับมาด้วย เดินผ่านเราไปอีกด้านของวิหาร ซักพักใหญ่เพื่อนสาวออกมา น้ำแข็งละลายไปเยอะแล้ว ทีเราเข้าไปบ้าง เข้าไปไหว้พระ เก็บภาพนิดหน่อยก็ออกมา ใช้เวลาที่วัดพระสิงห์ฯ ไปหนึ่งชั่วโมง
14.43 น. เดินกลับมาที่ถนนเส้นเดิม ผ่านวัดศรีเกิด ฝั่งตรงข้ามเป็นวัดทุงยู เข้าไปไหว้พระที่วัดทุงยู(มีนักท่องเที่ยวประปราย) พร้อมกับเสี่ยงเซียมซี(หยอดเหรียญ) ได้หมายเลข 1 ความหมายค่อนข้างดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
14.53 น. จากนั้นเดินต่อไปเจอวัดชัยพระเกียรติ
15.02 น. เดินต่อไปอีก เจอทางแยก เลี้ยวขวา เดินไปอีกนิดหน่อย เป็นวัดพันเตา/พระวิหารหอคำหลวง มีนักท่องเที่ยวประปราย เดินเข้าไปด้านในส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจีน
15.10 น. ออกจากวัดพันเตา เดินไม่ถึง 2 นาที ถึงวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดนี้มีทัวร์จีนมาลงเยอะเหมือนกัน
15.24 น. วัดช่างแต้ม 15.28 น. วัดหมื่นตูม สองวัดนี้ค่อนข้างเงียบ
15.30 น. วัดเจ็ดลิน วัดนี้เจอแต่คนไทย มีต่างชาติบ้าง
15.45 น. วัดฟ่อนสร้อย เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน 4 คน
จากนั้นตรงดิ่งกลับที่พักทันที ใช้เวลาเดินกลับ 20 นาที
18.00 น. ไปเดินถนนคนเดินวันเสาร์ (ถนนวัวลาย) ถนนเส้นหลักห่างจากที่พักประมาณ 100 เมตร แต่ร้านขายของถนนคนเดินตั้งเข้ามาในซอยถึงหน้าที่พัก ช่วงหกโมงนี่เดินได้สบายไม่เบียดกันมาก แต่พอขากลับเกือบทุ่ม คนเยอะมาก จะแวะดูอะไรก็ลำบาก ใช้เวลาไปกับถนนคนเดินพร้อมหาอะไรทานไปเรื่อยๆ กว่าสองชั่วโมง สองทุ่มนิดๆ กลับที่พัก ----- เป็นอันจบไป 1 วัน -----
ทริปนี้เที่ยวเชียงใหม่ บิดมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอย(สุเทพ-ปุย-อินทนนท์) ไม่ยากอย่างที่คิด
เที่ยวครั้งนี้ตั้งใจใช้มอเตอร์ไซค์ค่ะ (เพราะขับรถยนต์ไม่เป็น แต่ถึงขับเป็นก็คงไม่ใช้ค่ะ ไปกันสองคน ไม่คุ้มกับค่าเช่า) และก็ Google Maps ดู ดอยสุเทพแค่สิบกว่า กม. เท่านั้น สบายมาก ส่วนดอยอินทนนท์ร้อยกว่า กม. นั่นค่อยว่ากันทีหลัง^^
มาดูโปรแกรมคร่าวๆ กันก่อนค่ะ
7 พ.ย. 57 รถทัวร์ มค.-กทม. (10.00 น. - 17.55 น.) ต่อด้วยรถไฟ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เที่ยว 19.35 น. ถึง เชียงใหม่ 09.55 น.
8 พ.ย. 57 เช็คอิน 10.30 น. บ่ายตระเวนไหว้พระในตัวเมืองเชียงใหม่ ---> วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร---วัดทุงยู---วัดชัยพระเกียรติ---วัดพันเตา/พระวิหารหอคำหลวง---วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร---วัดช่างแต้ม---วัดหมื่นตูม---วัดเจ็ดลิน---วัดฟ่อนสร้อย
9 พ.ย. 57 อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย---วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร---พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์---ดอยปุย---บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน
10 พ.ย. 57 วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร---น้ำตกแม่กลาง---น้ำตกวชิรธาร---น้ำตกสิริธาร---สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์/โครงการหลวงอินทนนท์---น้ำตกสิริภูมิ/สวนหลวงสิริภูมิ---ดอยชัวร์ญ่า
11 พ.ย. 57 พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ---กิ่วแม่ปาน---อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์/สูงสุดแดนสยาม
12 พ.ย. 57 เดินทางกลับ (เที่ยวรถ 08.30 น. - 21.25 น.)
ศุกร์ 7 พฤศจิกายน 2557 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
19.40 น. รถไฟเคลื่อนที่ออกจากสถานี (รอบ 19.35 น.) เราจองตู้นอนปรับอากาศค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลักษณะที่นอน
ห้องน้ำ
เช้าแล้ว ออกไปดูวิวที่ตู้นอนห้องส่วนตัวกันดีกว่า อากาศตอนเช้าค่อนข้างเย็น
08.22 น. ขุนตาน 09.18 น. ลำพูน 09.30 น. ต่างชาติ 2 คนที่นอนห้องเดียวกันเริ่มเก็บของก่อนจะนั่งรอเวลา
09.55 น. ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ (ตรงเวลาเป๊ะ) คันที่เรานอนส่วนใหญ่มีแต่ต่างชาติค่ะ ห้องส่วนตัวก็เหมือนกัน
10.10 น. – 10.25 น. โดยสารรถแดงที่สถานีเชียงใหม่ – Tree Residence (ที่อยู่ ซอยวัวลาย 1)
เดินออกมาด้านหน้าจะมีคนถามว่าจะไปไหน ถ้าตกลงกันได้ก็ขึ้นรถไปเลย คนแรกยังไม่ก้าวเท้าลงจากบันไดก็มาแล้ว อันนี้เราผ่านค่า(กระชั้นชิดไป ยังไม่ทันตั้งตัว) เดินลงมาอีกหน่อย เจอผู้หญิงเข้ามาถาม เลยถามราคาไป เขาคิดคนละ 50 บาท เลยโอเค ไปถึงรถมีต่างชาติ ชาย-หญิง อยู่ก่อนแล้วสองคน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นั่งรอไม่ถึง 5 นาที มีต่างชาติ ชาย-หญิง มาเพิ่มอีก 3 คู่ รวมผู้โดยสารทั้งหมด 10 คน รถก็พร้อมออกจากสถานี (หาลูกค้าเก่งมาก เท่าที่ฟัง ราคา 50 บาทเท่ากันทุกคน) เจอแต่ต่างชาติ(ยุโรป-อเมริกา) หน้าตาดีวุ๊ยยย มากันเป็นคู่ๆ^^) นั่งรถ 15 นาทีก็มาถึงที่พัก รถเข้ามาส่งถึงหน้าที่พักเลย (ก่อนหน้านี้ส่งลูกค้าลงไปก่อน 2 คู่)
หลังจากเช็คอินก็อาบน้ำ พักผ่อนกันก่อน (ที่นี่เช็คอิน/เช็คเอาท์ได้ตลอดเวลา พี่พนักงานบอกอย่างนั้น ถ้าข้อมูลในเว็บจะบอกว่า เช็คอิน 14.00 น./เช็คเอาท์ 12.00 น.) เราจองห้องดีลักซ์ (Deluxe Room) ผ่าน Agoda ไว้ 2 คืนค่ะ คืนละ 790 บาท ตอนแรกตั้งใจจะเอาห้องมาตรฐาน (Standard) แต่เต็มซะก่อน ห้องที่จองนี้จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นค่ะ พูดง่ายๆ ใช้ห้องนั่งเล่นร่วมกันค่ะ เท่าที่สังเกตก็ไม่มีใครใช้ค่ะทั้งเราและห้องข้างๆ(ไม่มีเวลาใช้มากกว่า) เช้าก็ออกข้างนอก เย็นก็กลับเข้ามานอน แค่นั้นจริงๆ
สภาพห้องก็โอเคค่ะ สะอาด แต่ห้องน้ำจะแคบไปหน่อย ไม่มีวิวให้ดู มันเป็นห้องปิดอ่ะค่ะ อ้อ ที่จอดรถยนต์เท่าที่ดูน่าจะจอดได้สองคันค่ะ อยู่ด้านหน้าทางเข้า (ตอนไปก็ไม่มีใครจอดนะคะ เพราะแบ็คแพ็คกันทั้งนั้น) ฝั่งตรงข้ามก่อนถึง Tree Residences ก็จะเป็นบ้านเงินวิลเลจ โรงแรมขนาดกลาง 69 ห้อง เริ่มต้นที่ 690 บาท/คืน (ลองเช็คดูจากอโกด้า)
ภายในห้อง
ห้องนั่งเล่นที่ไม่เคยได้ใช้
12.30 น. ออกจากที่พักกะหาอะไรทาน เดินออกมาหน้าปากซอยเลี้ยวขวา เดินไปอีกหน่อยเจอร้าน อาหาร เลยเดินผ่านไปก่อน คิดว่าด้านหน้าต้องมีร้านอีกเยอะแน่ๆ แต่คิดผิดค่า หลังจากเดินผ่านตลาดประตูเชียงใหม่ที่อยู่อีกฝั่งแทบไม่มีร้านอาหารเลย เจอแต่วัด เดินไปเรื่อยๆ เจอทางแยก เลยเลี้ยวซ้าย เดินไปซักพักก็เจอเขตร้านอาหาร แต่...ทุกร้านเต็มหมด บางกลุ่มต้องยืนรอ เป็นจีน(ไต้หวัน/ฮ่องกง อันนี้ขอเรียกรวมๆ เป็นจีนนะคะ)ซะเยอะ คนไทยกะจีนก็ทานอาหารคล้ายๆ กันล่ะนะ อาหารตามสั่งหรืออาหารจำพวกเส้นๆ อะไรประมาณนี้ ส่วนฝรั่งจะเห็นเข้าร้านสลัดหรือเบอร์เกอร์ ปรึกษากับเพื่อนเราคงรอไม่ไหวแน่ๆ เพราะเดินมาเกือบชั่วโมงเริ่มหิว ตัดสินใจเดินต่อไปถึงทางแยกหน้าวัดพระสิงห์ฯ เลี้ยวขวา กะว่าเจอร้านไหนกินเลย ไม่เกี่ยงแล้ว ไปจบที่ร้านอาหารตามสั่งค่ะ (13.25 น.) อาหารมื้อแรกที่เชียงใหม่เป็น “กะเพรารวม” จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ ลูกค้าเกือบเต็มร้าน และก็ทำอาหารไว ไม่ถึง 10 นาทีก็ได้ทาน
เสาร์ 8 พฤศจิกายน 2557 (ตอนบ่าย)
โปรแกรม (วัดในเมืองเชียงใหม่) ---> วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร---วัดทุงยู---วัดชัยพระเกียรติ---วัดพันเตา/พระวิหารหอคำหลวง---วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร---วัดช่างแต้ม---วัดหมื่นตูม---วัดเจ็ดลิน---วัดฟ่อนสร้อย
13.45 น. ย้อนกลับมาที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (วัดแรกในเชียงใหม่ที่เข้า) เนื่องจากคนเยอะมากเลยยังไม่เข้าไปไหว้พระในวิหาร ขอเดินเล่นรอบๆ วัดก่อน เดินออกมาอีกด้านเจอมุมขายของ เห็นร้านขายเฉาก๊วยนมสด(หิวน้ำด้วย)เลยเผลอซื้อ จ่ายตังค์เสร็จเดินออกมาไม่กี่ก้าว อ้าว! กรรม ยังไม่ได้เข้าไปไหว้พระเลย เอาไงล่ะทีนี้ สุดท้ายเลยตกลงกับเพื่อนเข้าไปทีละคน เพื่อนเข้าไปก่อน เรารออยู่ด้านนอก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ซักพักใหญ่เพื่อนสาวออกมา น้ำแข็งละลายไปเยอะแล้ว ทีเราเข้าไปบ้าง เข้าไปไหว้พระ เก็บภาพนิดหน่อยก็ออกมา ใช้เวลาที่วัดพระสิงห์ฯ ไปหนึ่งชั่วโมง
14.43 น. เดินกลับมาที่ถนนเส้นเดิม ผ่านวัดศรีเกิด ฝั่งตรงข้ามเป็นวัดทุงยู เข้าไปไหว้พระที่วัดทุงยู(มีนักท่องเที่ยวประปราย) พร้อมกับเสี่ยงเซียมซี(หยอดเหรียญ) ได้หมายเลข 1 ความหมายค่อนข้างดี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
14.53 น. จากนั้นเดินต่อไปเจอวัดชัยพระเกียรติ
15.02 น. เดินต่อไปอีก เจอทางแยก เลี้ยวขวา เดินไปอีกนิดหน่อย เป็นวัดพันเตา/พระวิหารหอคำหลวง มีนักท่องเที่ยวประปราย เดินเข้าไปด้านในส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจีน
15.10 น. ออกจากวัดพันเตา เดินไม่ถึง 2 นาที ถึงวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดนี้มีทัวร์จีนมาลงเยอะเหมือนกัน
15.24 น. วัดช่างแต้ม 15.28 น. วัดหมื่นตูม สองวัดนี้ค่อนข้างเงียบ
15.30 น. วัดเจ็ดลิน วัดนี้เจอแต่คนไทย มีต่างชาติบ้าง
15.45 น. วัดฟ่อนสร้อย เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน 4 คน
จากนั้นตรงดิ่งกลับที่พักทันที ใช้เวลาเดินกลับ 20 นาที
18.00 น. ไปเดินถนนคนเดินวันเสาร์ (ถนนวัวลาย) ถนนเส้นหลักห่างจากที่พักประมาณ 100 เมตร แต่ร้านขายของถนนคนเดินตั้งเข้ามาในซอยถึงหน้าที่พัก ช่วงหกโมงนี่เดินได้สบายไม่เบียดกันมาก แต่พอขากลับเกือบทุ่ม คนเยอะมาก จะแวะดูอะไรก็ลำบาก ใช้เวลาไปกับถนนคนเดินพร้อมหาอะไรทานไปเรื่อยๆ กว่าสองชั่วโมง สองทุ่มนิดๆ กลับที่พัก ----- เป็นอันจบไป 1 วัน -----