เรื่องราวเกิดขึ้น เมื่อเราได้รู้จักกับผู้ชายคนนึงผ่าน เพื่อนของเพื่อน ..เค้าไม่ใช่ผู้ชายที่ี่ี่ี่มา9000หล่อและหน้าตาดีเวอร์หรอกนะ
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่นิ่งๆ พูดน้อย แต่มีเป้าหมาย... ตอนนั้น เค้าทำงานและส่งตัวเองเรียน ป ตรี
ต่างจากเราเลย ที่ผิดหวังจากการมีครอบครัวครั้งแรก ด้วยอายุที่ไม่ถึง 20 ปี ก็ใช้ชีวิตแบบไร้จุดมุ่งหมาย แค่มีงานทำไปวันๆ
มีข้าวกิน และ ไม่มีใครๆถามเรื่องราวชีวิต ว่า...ผัวไปไหน ทำไมเลิกกัน...บลาๆๆๆ แบบบ้านนอกก็พอแล้วหละ
พอรู้จักกับผู้ชายคนนี้ได้ไม่นาน เรางี้ก็วาดฝันไปเรื่อย ฝันกลางวันด้วยนะ ว่าเออนะ ผู้ชายแบบนี้ ถ้าได้เป็นคู่ชีวิตคงดี เค้ามุ่งมัน
เค้ามีมุมมองและเป้าหมายที่ชัดเจน ว่า ชีวิตต้อนดำเนินไปอย่างไร เค้าต้องพาเราไปได้ดีแน่ๆเลย และ
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวจริงๆก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อเค้าชวนเราไปห้องครั้งแรก เราก็ดันโง่ ไม่คิดอะไรเลย เคาชวนก็ไป
พอถึงห้องเค้า คุยกันได้ไม่กี่คำ เค้าก็ปิดไฟ และเผด็จศึกเรา เราพยายามขัดขืน แต่ไม่สำเร็จ ทั้งๆที่เราบอกว่าเราเป็นเมนส์
ก็ไม่ยอมปล่อยเรา และสุดท้าย....เราก็โดน.... เมื่อเค้าเสร็จกิจ เค้าก็นิ่งๆ ไม่ปลอบเราเลยสักคำ....และ.....เค้าก็ไปส่งเราที่ห้อง
คิดๆอยู่นะ นี่

หลอกกรูเพื่อไป yes....อย่างเดียวเลยหรอ???
แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่คิดไรมาก เค้าก็ยังเป็น ไอดอลเราอยู่นี่ และอีกอย่าง ด้วยความคิดอันโบราณ ..
เราตกเป็นของเขาแล้ว เราก็ควรซื่อสัตย์กับเขา เขาคนที่สองแล้วนะ ผู้หญิงดีๆต้องไม่มีผัวหลายคน
เราเลยพยายามทุกอย่างที่จะทำให้เขาคือ"สามี" ....หลังจากนั้น เราก็ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอๆ
กินข้าวด้วยกันบ้าง นอนห้องเราบ้าง ห้องเขาบ้าง เป็นอยู่แบบนี้ได้สักพัก ดูเค้ามีความสุขนะ เพราะมีเรา
หรือเพราะตังค์เราก็ไม่รู้ เพราะค่าห้อง ค่ากิน ส่วนใหญ่ เราเป็นคนจ่าย (เหมือนเจ้าบุญท่มเลยแฮะ)
เราก็ไม่ได้คิดมากถึงเราจะเป็นคนหาเช้ากินค่ำก็ตาม ก็แค่ข้าวแกงข้างทาง ห้องเช่าน้อยๆ
ไม่ได้มากมายอะไร เป็นอยู่แบบนี้ได้สักพัก เค้าก็บอกต้องกลับบ้าน แม่แก่มากแล้ว ไม่มีคนดูแล (มาคิดๆอีกที เหมือนหนีเราเลยแฮะ)
พอเค้ากลับบ้านไปเราเองเป็นฝ่ายโทรหาเค้าตลอด เมื่อก่อนนาทีละสามบาทนะ แต่เราก็โทรเกือบทุกวัน
และก็ไปหาเขาเดือนละครั้ง จนวันนึงพี่สาวเค้า...ไม่แน่ใจว่าสงสารเรา หรือสมเพศ ก็คุยกะน้องชายว่า น่าจะไปขอแบบเป็นเรื่องเป็นราว
จะได้อยู่ช่วยกันทำมาหากิน ..ไม่รู้เพราะอยากมีเราหรือเกรงใจพี่สาวก็มิทราบ
เราสองคนเลยมีพิธีแบบเรียบง่าย และเราก็เข้ามาใช้ชีวิตคู่ แบบจิงจังในบ้านของเขา
เราเองไม่ได้มีความสุขมากมายนักหรอกนะ แต่ไม่อยากมีคนใหม่อีกแล้ว
จึงยอมๆๆ และยอมเค้าอยู่เสมอ พอเราเข้ามาอยู่ในบ้าน เค้าเองก็ไม่ได้รักและเอาใจใส่อย่างที่ควรจะเป็น
เราก็ทนๆเพราะเราเป็นผัวเมียกันนะ ผิดพลาดก็ควรอภัยกัน
เราทำงานเลิกสองทุ่ม เค้าก็ไปรับสามทุ่มบ้าง สี่ทุ่มบ้าง
ตเองนั่งอยู่หน้าบริษัทคนเดียว กลับกับเพื่อนก็ไม่ได้ หาว่าจะไปแอบเอากัน
เพราะเกรงใจเพื่อนเลยต้องนั่นรอคนเดียว ....เป็นแบบนี้อยู่เกือบปี
ในที่สุดเราทนไม่ได้ก็เลยลาออก แล้วเปลียนงานใหม่
ตอนนี้เป็นกิจการของตัวเอง เป็นการค้าขายเล็กๆ ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ร่ยได้ส่วนใหญ่ของครอบครัวเลยมาจากเค้า เค้าเลยเบ่งใหญ่เลย อยากกลับบ้านดึกๆ
กินเหล้า หรือ อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ เค้าก็ทำ ด้วยเหตุผลที่ว่า...
พี่หาเงิน พี่เลี้ยงครอบครัวได้ก็แล้วกัน เราก็เลยต้องยอม เงียบๆไป ทุกอย่างก็จบ
และหลังจากนั้นไม่นาน เราก็ท้อง พอเราบอกเค้าว่า เราท้อง...แค่นั้นแหละ
เค้าไม่คิดเลยสักนิด บอกกับเราทันทีว่า....ไปเอาเด็กออก พี่ไม่พร้อม พี่ดูแลไม่ได้
แต่เราไม่ทำ เลยทะเลาะกันหนักเลยหละ เราเลยตัดสินใจกลับบ้าน ไปอยู่กับพ่อแม่สักพัก
แล้วไม่นานเค้าก็รับกลับ บอกว่า....กลับบ้านเราเถอะ พี่ไม่มีเสื้อผ้าใส่แระ
เราก็ไม่คิดมาก อืมม..กลับก็กลับ กลับมาเราก็นอนคนเดียวเกือบทุกวัน
กว่าเค้าจะกลับบ้าน เราก็หลับแล้ว จะมีอะไรกันทีก็ปลุก เอาแล้วก็นอน ยอมหรือไม่ไม่สน
ต้องให้ได้ดังใจก็พอ ยามป่วยก็ไม่สนเช่นกัน เราขี่รถมอเตอร์ไซด์ ไปโรงพยาบาลเอง
เพื่อไปพ่นยาหอบหืด ตอนห้าทุ่ม เพราะยาที่มีเอาไม่อยู่ แค่ประทัง ขับไป หยุดไป พ่นยาไป
แถมตอนนั้นท้องห้าเดือนอีกต่างหาก ไม่รู้ผ่านมาได้ไง พอท้องได้เจ็ดเดือน เกิดอาการผิดปกติแต่เช้า
บอกเค้าว่า...พี่อย่าไปไหนนะ หนูไม่ค่อยดีเลย อยู่เป็นเพื่อนหน่อย ....แต่ก็ไม่อยู่
สุดท้ายคนข้างบ้านไปส่ง รพ.นอน รพ.อาทิตย์นึงเนื่องจาก มดลูกบีบตัวผิดปกติ อาจคลอดก่อนกำหนด
เลยต้อนนอนดูอาการ และฉีดยา เพื่อให้มดลูกทำงานปกติ
ผ่านไปสามคืน....ได้เห็นหน้าสามีเป็นครั้งแรก เค้าเพิ่งว่าง....มั้ง????
ไม่อยากถามอะไรมากให้มันเรื่องเยอะ พอวันจะคลอด ก็อีกนั่นแหละ บอกให้เค้าอยู่เป็เพื่อน
ก็เปล่าประโยชน์ เค้าไปแค่ต่างอำเภอนะ ไม่ใช่ต่างจังหวัด
กว่าจะมาก็ไร้ประโยชน์ สามวันอีกตามเคย ใบเกิดลูกก็ต้องเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมแหละ
ช่วยเป็นธุระให้ พ่อเค้าหรอ???หมอให้ออก รพ.เก้าโมง เค้ามารับบ่ายสองโมง.
ยังมีต่อ.....
กว่า10ปี!!! ที่อดทน เพียงความคิดที่ว่า...ผู้หญิงดีๆ จะต้องไม่มีหลายผัว.....
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่นิ่งๆ พูดน้อย แต่มีเป้าหมาย... ตอนนั้น เค้าทำงานและส่งตัวเองเรียน ป ตรี
ต่างจากเราเลย ที่ผิดหวังจากการมีครอบครัวครั้งแรก ด้วยอายุที่ไม่ถึง 20 ปี ก็ใช้ชีวิตแบบไร้จุดมุ่งหมาย แค่มีงานทำไปวันๆ
มีข้าวกิน และ ไม่มีใครๆถามเรื่องราวชีวิต ว่า...ผัวไปไหน ทำไมเลิกกัน...บลาๆๆๆ แบบบ้านนอกก็พอแล้วหละ
พอรู้จักกับผู้ชายคนนี้ได้ไม่นาน เรางี้ก็วาดฝันไปเรื่อย ฝันกลางวันด้วยนะ ว่าเออนะ ผู้ชายแบบนี้ ถ้าได้เป็นคู่ชีวิตคงดี เค้ามุ่งมัน
เค้ามีมุมมองและเป้าหมายที่ชัดเจน ว่า ชีวิตต้อนดำเนินไปอย่างไร เค้าต้องพาเราไปได้ดีแน่ๆเลย และ
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวจริงๆก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อเค้าชวนเราไปห้องครั้งแรก เราก็ดันโง่ ไม่คิดอะไรเลย เคาชวนก็ไป
พอถึงห้องเค้า คุยกันได้ไม่กี่คำ เค้าก็ปิดไฟ และเผด็จศึกเรา เราพยายามขัดขืน แต่ไม่สำเร็จ ทั้งๆที่เราบอกว่าเราเป็นเมนส์
ก็ไม่ยอมปล่อยเรา และสุดท้าย....เราก็โดน.... เมื่อเค้าเสร็จกิจ เค้าก็นิ่งๆ ไม่ปลอบเราเลยสักคำ....และ.....เค้าก็ไปส่งเราที่ห้อง
คิดๆอยู่นะ นี่
แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่คิดไรมาก เค้าก็ยังเป็น ไอดอลเราอยู่นี่ และอีกอย่าง ด้วยความคิดอันโบราณ ..
เราตกเป็นของเขาแล้ว เราก็ควรซื่อสัตย์กับเขา เขาคนที่สองแล้วนะ ผู้หญิงดีๆต้องไม่มีผัวหลายคน
เราเลยพยายามทุกอย่างที่จะทำให้เขาคือ"สามี" ....หลังจากนั้น เราก็ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอๆ
กินข้าวด้วยกันบ้าง นอนห้องเราบ้าง ห้องเขาบ้าง เป็นอยู่แบบนี้ได้สักพัก ดูเค้ามีความสุขนะ เพราะมีเรา
หรือเพราะตังค์เราก็ไม่รู้ เพราะค่าห้อง ค่ากิน ส่วนใหญ่ เราเป็นคนจ่าย (เหมือนเจ้าบุญท่มเลยแฮะ)
เราก็ไม่ได้คิดมากถึงเราจะเป็นคนหาเช้ากินค่ำก็ตาม ก็แค่ข้าวแกงข้างทาง ห้องเช่าน้อยๆ
ไม่ได้มากมายอะไร เป็นอยู่แบบนี้ได้สักพัก เค้าก็บอกต้องกลับบ้าน แม่แก่มากแล้ว ไม่มีคนดูแล (มาคิดๆอีกที เหมือนหนีเราเลยแฮะ)
พอเค้ากลับบ้านไปเราเองเป็นฝ่ายโทรหาเค้าตลอด เมื่อก่อนนาทีละสามบาทนะ แต่เราก็โทรเกือบทุกวัน
และก็ไปหาเขาเดือนละครั้ง จนวันนึงพี่สาวเค้า...ไม่แน่ใจว่าสงสารเรา หรือสมเพศ ก็คุยกะน้องชายว่า น่าจะไปขอแบบเป็นเรื่องเป็นราว
จะได้อยู่ช่วยกันทำมาหากิน ..ไม่รู้เพราะอยากมีเราหรือเกรงใจพี่สาวก็มิทราบ
เราสองคนเลยมีพิธีแบบเรียบง่าย และเราก็เข้ามาใช้ชีวิตคู่ แบบจิงจังในบ้านของเขา
เราเองไม่ได้มีความสุขมากมายนักหรอกนะ แต่ไม่อยากมีคนใหม่อีกแล้ว
จึงยอมๆๆ และยอมเค้าอยู่เสมอ พอเราเข้ามาอยู่ในบ้าน เค้าเองก็ไม่ได้รักและเอาใจใส่อย่างที่ควรจะเป็น
เราก็ทนๆเพราะเราเป็นผัวเมียกันนะ ผิดพลาดก็ควรอภัยกัน
เราทำงานเลิกสองทุ่ม เค้าก็ไปรับสามทุ่มบ้าง สี่ทุ่มบ้าง
ตเองนั่งอยู่หน้าบริษัทคนเดียว กลับกับเพื่อนก็ไม่ได้ หาว่าจะไปแอบเอากัน
เพราะเกรงใจเพื่อนเลยต้องนั่นรอคนเดียว ....เป็นแบบนี้อยู่เกือบปี
ในที่สุดเราทนไม่ได้ก็เลยลาออก แล้วเปลียนงานใหม่
ตอนนี้เป็นกิจการของตัวเอง เป็นการค้าขายเล็กๆ ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ร่ยได้ส่วนใหญ่ของครอบครัวเลยมาจากเค้า เค้าเลยเบ่งใหญ่เลย อยากกลับบ้านดึกๆ
กินเหล้า หรือ อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ เค้าก็ทำ ด้วยเหตุผลที่ว่า...
พี่หาเงิน พี่เลี้ยงครอบครัวได้ก็แล้วกัน เราก็เลยต้องยอม เงียบๆไป ทุกอย่างก็จบ
และหลังจากนั้นไม่นาน เราก็ท้อง พอเราบอกเค้าว่า เราท้อง...แค่นั้นแหละ
เค้าไม่คิดเลยสักนิด บอกกับเราทันทีว่า....ไปเอาเด็กออก พี่ไม่พร้อม พี่ดูแลไม่ได้
แต่เราไม่ทำ เลยทะเลาะกันหนักเลยหละ เราเลยตัดสินใจกลับบ้าน ไปอยู่กับพ่อแม่สักพัก
แล้วไม่นานเค้าก็รับกลับ บอกว่า....กลับบ้านเราเถอะ พี่ไม่มีเสื้อผ้าใส่แระ
เราก็ไม่คิดมาก อืมม..กลับก็กลับ กลับมาเราก็นอนคนเดียวเกือบทุกวัน
กว่าเค้าจะกลับบ้าน เราก็หลับแล้ว จะมีอะไรกันทีก็ปลุก เอาแล้วก็นอน ยอมหรือไม่ไม่สน
ต้องให้ได้ดังใจก็พอ ยามป่วยก็ไม่สนเช่นกัน เราขี่รถมอเตอร์ไซด์ ไปโรงพยาบาลเอง
เพื่อไปพ่นยาหอบหืด ตอนห้าทุ่ม เพราะยาที่มีเอาไม่อยู่ แค่ประทัง ขับไป หยุดไป พ่นยาไป
แถมตอนนั้นท้องห้าเดือนอีกต่างหาก ไม่รู้ผ่านมาได้ไง พอท้องได้เจ็ดเดือน เกิดอาการผิดปกติแต่เช้า
บอกเค้าว่า...พี่อย่าไปไหนนะ หนูไม่ค่อยดีเลย อยู่เป็นเพื่อนหน่อย ....แต่ก็ไม่อยู่
สุดท้ายคนข้างบ้านไปส่ง รพ.นอน รพ.อาทิตย์นึงเนื่องจาก มดลูกบีบตัวผิดปกติ อาจคลอดก่อนกำหนด
เลยต้อนนอนดูอาการ และฉีดยา เพื่อให้มดลูกทำงานปกติ
ผ่านไปสามคืน....ได้เห็นหน้าสามีเป็นครั้งแรก เค้าเพิ่งว่าง....มั้ง????
ไม่อยากถามอะไรมากให้มันเรื่องเยอะ พอวันจะคลอด ก็อีกนั่นแหละ บอกให้เค้าอยู่เป็เพื่อน
ก็เปล่าประโยชน์ เค้าไปแค่ต่างอำเภอนะ ไม่ใช่ต่างจังหวัด
กว่าจะมาก็ไร้ประโยชน์ สามวันอีกตามเคย ใบเกิดลูกก็ต้องเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมแหละ
ช่วยเป็นธุระให้ พ่อเค้าหรอ???หมอให้ออก รพ.เก้าโมง เค้ามารับบ่ายสองโมง.
ยังมีต่อ.....