คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ต้องบอกสถานการณ์ปัจจุบันให้แฟนและพ่อแฟนเข้าใจก่อนครับ
สมมุติรถราคา 830,000 บาท
ดาวน์ 25,000 บาท
สมมุติดอกเบี้ย 4% ผ่อน 5 ปี = 166,000 บาท
(ดอกเบี้ยรถเป็น flat rate คิดตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่ผ่อนไม่มีลดต้นลดดอก)
เท่ากับต้องจ่ายค่ารถ + ดอกเบี้ย = 830,000+166,000 = 996,000 บาท
แฟนคุณจ่ายค่า ดาวน์ ไป 25,000 บาท
ผ่อนไปอีก 10 เดือนเป็นเงิน 150,000 บาท
รวมจ่ายไปแล้ว 175,000 บาท
จะเห็นว่าตอนนี้แฟนคุณยังเหลือหนี้อีก 996,000 - 175,000 = 819,000 บาท --- จำยอดนี้ไว้นะครับ
ถ้าผ่อนต่อไม่ไหวจริงๆ แฟนคุณมีทางเลือก 2 ทางดังนี้
1. ขายรถ หรือ หาคนซื้อต่อมาเปลี่ยนชื่อสัญญา
รถมือสองรุ่นนี้ปีนี้ เอาแบบคนซื้ออยากช่วยให้ราคาแบบเว่อร์ๆ ผมตีให้ 600,000 บาท ไม่เกินนี้
เท่ากับว่าแฟนคุณและพ่อของเค้าต้องหา เงินอีก ประมาณ 219,000 บาท มาโป๊ะเพื่อให้ปิดยอดรถได้
ต่อให้ไฟแนนซ์ใจดีมากๆ ลดดอกให้ครึ่งนึงเป็นเงิน 80,000 บาท ก็ยังเหลือส่วนต่างอีก 139,000 บาท
ตังนั้น การที่แฟนหรือคุณพ่ออยากได้เงินกลับมาบ้าง จึง ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
2. ปล่อยให้ ไฟแนนซ์ ยึดรถไป จะเป็นยังไง
ไฟแนนซ์จะยึดรถไปขายต่อโดยตีราคารถแฟนคุณ ไม่เกิน 450,000 บาท
เท่ากับแฟนคุณยังเป็นหนี้อีก 819,000 - 450,000 = 369,000 บาท
ยังไม่รวมดอกเบี้ยจากการผิดสัญญาซึ่งแพงมากๆอีก ติดเครดิตบูโร ในอนาคตจะกู้อะไรอีกก็จะยากแสนยาก
ถ้าผ่อนไม่ไหวก็ ขายต่อ + แถมเงินให้ไฟแนนซ์ไป ถือเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญของชีวิต
สมมุติรถราคา 830,000 บาท
ดาวน์ 25,000 บาท
สมมุติดอกเบี้ย 4% ผ่อน 5 ปี = 166,000 บาท
(ดอกเบี้ยรถเป็น flat rate คิดตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่ผ่อนไม่มีลดต้นลดดอก)
เท่ากับต้องจ่ายค่ารถ + ดอกเบี้ย = 830,000+166,000 = 996,000 บาท
แฟนคุณจ่ายค่า ดาวน์ ไป 25,000 บาท
ผ่อนไปอีก 10 เดือนเป็นเงิน 150,000 บาท
รวมจ่ายไปแล้ว 175,000 บาท
จะเห็นว่าตอนนี้แฟนคุณยังเหลือหนี้อีก 996,000 - 175,000 = 819,000 บาท --- จำยอดนี้ไว้นะครับ
ถ้าผ่อนต่อไม่ไหวจริงๆ แฟนคุณมีทางเลือก 2 ทางดังนี้
1. ขายรถ หรือ หาคนซื้อต่อมาเปลี่ยนชื่อสัญญา
รถมือสองรุ่นนี้ปีนี้ เอาแบบคนซื้ออยากช่วยให้ราคาแบบเว่อร์ๆ ผมตีให้ 600,000 บาท ไม่เกินนี้
เท่ากับว่าแฟนคุณและพ่อของเค้าต้องหา เงินอีก ประมาณ 219,000 บาท มาโป๊ะเพื่อให้ปิดยอดรถได้
ต่อให้ไฟแนนซ์ใจดีมากๆ ลดดอกให้ครึ่งนึงเป็นเงิน 80,000 บาท ก็ยังเหลือส่วนต่างอีก 139,000 บาท
ตังนั้น การที่แฟนหรือคุณพ่ออยากได้เงินกลับมาบ้าง จึง ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
2. ปล่อยให้ ไฟแนนซ์ ยึดรถไป จะเป็นยังไง
ไฟแนนซ์จะยึดรถไปขายต่อโดยตีราคารถแฟนคุณ ไม่เกิน 450,000 บาท
เท่ากับแฟนคุณยังเป็นหนี้อีก 819,000 - 450,000 = 369,000 บาท
ยังไม่รวมดอกเบี้ยจากการผิดสัญญาซึ่งแพงมากๆอีก ติดเครดิตบูโร ในอนาคตจะกู้อะไรอีกก็จะยากแสนยาก
ถ้าผ่อนไม่ไหวก็ ขายต่อ + แถมเงินให้ไฟแนนซ์ไป ถือเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญของชีวิต
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 85
แผน เสือซ่อนเล็บ พิษณุโลก added 4 new photos.
7 เทคนิค รับมือไฟแนนซ์
เมื่อท่านกำลังถูกยึดรถ
ผู้เขียน: ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
1. สิ่งที่ไฟแนนซ์มักจะข่มขู่ คือ ให้เรารับผิดชอบค่าติดตามยึดรถ ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล โดยมักข่มขู่ ให้ผู้เช่าซื้อเป็นผู้รับผิดชอบ โดยอ้างตัวเลขจำนวนสูง และเราควรรู้ไว้ด้วยว่าไฟแนนซ์ไม่สามารถเรียกค่าใช้ จ่ายดังกล่าวได้ตามอำเภอใจ การค่าเสียหายเรียกได้ตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ดังนั้นผู้เช่าซื้ออย่าวิตก
2. การเข้ายึดรถผู้เช่าซื้อจะต้องค้างชำระค่าเช่าซื้อ 3 งวดติดต่อกัน ก่อนยึดรถอีก 1 เดือน
รวมเป็น 4 เดือน ไฟแนนซ์จึงจะสามารถยึดรถได้ แต่ถ้าไฟแนนซ์ยึดรถก่อนหน้านี้จะมีความ ผิดตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องสัญญา ดังนั้นถ้าไฟแนนซ์มายึดรถก่อนกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้เช่าซื้อต้องอย่ายอมให้ยึดรถและให้เรียกตำรวจมาเป็นพยาน
3. การยึดรถถ้าผู้เช่าซื้อไม่ยินยอมให้ยึดรถ ไฟแนนซ์จะยึดรถไม่ได้ ถ้ามีการบังคับขู่เข็ญหรือไล่ให้ผู้เช่าซื้อลงจากรถหรือกระชากกุญแจรถ ไป หรือเอากุญแจสำรองมาเปิดรถและขับหนีไป การกระทำดังกล่าวมีความผิดต่อ เสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และถ้ากระทำการโดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะฉะนั้นถ้ามีคนกระทำการดังกล่าวให้ถ่าย รูปหรือบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งความดำเนินคดีอาญา หรือให้ทนาย ฟ้องศาลได้เลย
4. เมื่อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ ไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถ ยืนยันได้เลยว่าไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถไม่ว่าในกรณีใดๆ เพราะถ้าถูกยึดรถแล้วเราก็จะหมดอำนาจต่อรอง และหลังจากยึดรถไปแล้วไฟแนนซ์จะ นำรถของเราไปขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก แถมเมื่อได้เงินมาไม่ เพียงพอกับค่าเช่าซื้อที่เราค้างชำระ ไฟแนนซ์ก็จะเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้จากเรา แต่ถ้ารถยังอยู่ในความครอบครองของเรา เรายังสามารถใช้ประโยชน์ในทรัพย์ได้ (พูดง่ายๆ ก็คือใช้รถหาเงินได้อยู่นั่นเอง) และยังมีอำนาจต่อรองกับไฟแนนซ์อยู่
5. ในกรณีที่เราถูกยึดรถและไฟแนนซ์มีหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้ส่วนที่ เหลือ อย่าตกใจให้หาทนายสู้คดี โดยทั่วไปค่าเสียหายของไฟแนนซ์มักจะสูงเวอร์ สุดๆ ยกตัวอย่างเช่น เรียกมา 1,000,000 บาท ศาลมักจะพิพากษาให้ชดใช้เพียง 500,000 บาทหรือ 300,000 บาท เท่านั้น
6. เมื่อแพ้คดีไฟแนนซ์จะต้องทำตัวอย่างไร ถ้าเรามีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้เราจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด ถ้า ไม่มีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้ แต่ถือครอบครองในนามญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง ไฟแนนซ์ก็ไม่สามารถยึดทรัพย์ของคนอื่น ซึ่งมิใช่ลูกหนี้ ได้ ดังนั้นถ้ามีไฟแนนซ์มาข่มขู่ว่าลูกหนี้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของใคร จะยึด ทรัพย์เจ้าของบ้าน ตอบได้เลยว่าไม่ต้องกลัวเพราะตามกฎหมายไม่สามารถยึดได้
7. ถ้าไม่มีเงินจ่ายไฟแนนซ์จะติดคุกหรือไม่สามารถตอบได้เลยว่า ไม่ติดคุกเนื่องจากเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา
สุดท้ายการเป็นหนี้ไฟแนนซ์ ไม่ต้องลาออกจากงาน เพราะไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน การเป็นหนี้สิน เป็นเรื่องส่วน ตัว ไฟแนนซ์นำเรื่องส่วนตัวไปประจานให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาของ ลูกหนี้รับรู้ไม่ได้ ถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท (เรายังสามารถฟ้องได้อีก) แต่ถึงยังไงข้อมูลเหล่านี้ให้รู้เอาไว้เพื่อที่เราจะได้ไม่โดนข่มขู่จนหลง เชื่อ และเสียเปรียบ แต่อย่าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรครับ
เครดิด ทนายพี
วันที่ : 10 พฤศจิกายน 57
7 เทคนิค รับมือไฟแนนซ์
เมื่อท่านกำลังถูกยึดรถ
ผู้เขียน: ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
1. สิ่งที่ไฟแนนซ์มักจะข่มขู่ คือ ให้เรารับผิดชอบค่าติดตามยึดรถ ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล โดยมักข่มขู่ ให้ผู้เช่าซื้อเป็นผู้รับผิดชอบ โดยอ้างตัวเลขจำนวนสูง และเราควรรู้ไว้ด้วยว่าไฟแนนซ์ไม่สามารถเรียกค่าใช้ จ่ายดังกล่าวได้ตามอำเภอใจ การค่าเสียหายเรียกได้ตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ดังนั้นผู้เช่าซื้ออย่าวิตก
2. การเข้ายึดรถผู้เช่าซื้อจะต้องค้างชำระค่าเช่าซื้อ 3 งวดติดต่อกัน ก่อนยึดรถอีก 1 เดือน
รวมเป็น 4 เดือน ไฟแนนซ์จึงจะสามารถยึดรถได้ แต่ถ้าไฟแนนซ์ยึดรถก่อนหน้านี้จะมีความ ผิดตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องสัญญา ดังนั้นถ้าไฟแนนซ์มายึดรถก่อนกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้เช่าซื้อต้องอย่ายอมให้ยึดรถและให้เรียกตำรวจมาเป็นพยาน
3. การยึดรถถ้าผู้เช่าซื้อไม่ยินยอมให้ยึดรถ ไฟแนนซ์จะยึดรถไม่ได้ ถ้ามีการบังคับขู่เข็ญหรือไล่ให้ผู้เช่าซื้อลงจากรถหรือกระชากกุญแจรถ ไป หรือเอากุญแจสำรองมาเปิดรถและขับหนีไป การกระทำดังกล่าวมีความผิดต่อ เสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และถ้ากระทำการโดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะฉะนั้นถ้ามีคนกระทำการดังกล่าวให้ถ่าย รูปหรือบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งความดำเนินคดีอาญา หรือให้ทนาย ฟ้องศาลได้เลย
4. เมื่อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ ไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถ ยืนยันได้เลยว่าไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถไม่ว่าในกรณีใดๆ เพราะถ้าถูกยึดรถแล้วเราก็จะหมดอำนาจต่อรอง และหลังจากยึดรถไปแล้วไฟแนนซ์จะ นำรถของเราไปขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก แถมเมื่อได้เงินมาไม่ เพียงพอกับค่าเช่าซื้อที่เราค้างชำระ ไฟแนนซ์ก็จะเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้จากเรา แต่ถ้ารถยังอยู่ในความครอบครองของเรา เรายังสามารถใช้ประโยชน์ในทรัพย์ได้ (พูดง่ายๆ ก็คือใช้รถหาเงินได้อยู่นั่นเอง) และยังมีอำนาจต่อรองกับไฟแนนซ์อยู่
5. ในกรณีที่เราถูกยึดรถและไฟแนนซ์มีหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้ส่วนที่ เหลือ อย่าตกใจให้หาทนายสู้คดี โดยทั่วไปค่าเสียหายของไฟแนนซ์มักจะสูงเวอร์ สุดๆ ยกตัวอย่างเช่น เรียกมา 1,000,000 บาท ศาลมักจะพิพากษาให้ชดใช้เพียง 500,000 บาทหรือ 300,000 บาท เท่านั้น
6. เมื่อแพ้คดีไฟแนนซ์จะต้องทำตัวอย่างไร ถ้าเรามีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้เราจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด ถ้า ไม่มีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้ แต่ถือครอบครองในนามญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง ไฟแนนซ์ก็ไม่สามารถยึดทรัพย์ของคนอื่น ซึ่งมิใช่ลูกหนี้ ได้ ดังนั้นถ้ามีไฟแนนซ์มาข่มขู่ว่าลูกหนี้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของใคร จะยึด ทรัพย์เจ้าของบ้าน ตอบได้เลยว่าไม่ต้องกลัวเพราะตามกฎหมายไม่สามารถยึดได้
7. ถ้าไม่มีเงินจ่ายไฟแนนซ์จะติดคุกหรือไม่สามารถตอบได้เลยว่า ไม่ติดคุกเนื่องจากเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา
สุดท้ายการเป็นหนี้ไฟแนนซ์ ไม่ต้องลาออกจากงาน เพราะไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน การเป็นหนี้สิน เป็นเรื่องส่วน ตัว ไฟแนนซ์นำเรื่องส่วนตัวไปประจานให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาของ ลูกหนี้รับรู้ไม่ได้ ถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท (เรายังสามารถฟ้องได้อีก) แต่ถึงยังไงข้อมูลเหล่านี้ให้รู้เอาไว้เพื่อที่เราจะได้ไม่โดนข่มขู่จนหลง เชื่อ และเสียเปรียบ แต่อย่าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรครับ
เครดิด ทนายพี
วันที่ : 10 พฤศจิกายน 57
ความคิดเห็นที่ 86
เคสนี้แทบไม่ต้องคิดมากครับ เพราะออกไปทางไหนก็เจ็บตัวทั้งนั้น
ดีที่สุดคือคุณกับแฟนเดินจูงมือกันไปหาไฟแนนซ์ครับ
ผมเคยทำงานอยู่ เขาจะหาทางออกที่ดีที่สุดให้คุณเอง
เรื่องพ่อนี่ก็บอกไปตรงๆคับ อธิบายให้เขาฟัง เน้นย้ำเรื่องหนี้
การโดนฟ้อง ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังไงก็ต้องเข้าใจ
ซึ่งถ้าคุณรักแฟนจริง คิดจะใช้ชีวิตไปด้วยกันแน่ๆ
ก็ต้งช่วยครับ ขายรถตัวเองทิ้งแล้วเอาคันนี้มาใช้
ให้พ่อบอกคนอื่นๆว่ารถให้ว่าที่ลูกเขยใช้ ไม่เสียหน้า
จากนั้นก็ขอยืดระยะเวลาผ่อนต่อ ไฟแนนซ์เอาอยู่แล้ว ดอกมาเต็มๆ
แล้วก็ผ่อนต่อไปครับ......ผมคิดได้แค่นี้แหล่ะ
***** tex *****
ดีที่สุดคือคุณกับแฟนเดินจูงมือกันไปหาไฟแนนซ์ครับ
ผมเคยทำงานอยู่ เขาจะหาทางออกที่ดีที่สุดให้คุณเอง
เรื่องพ่อนี่ก็บอกไปตรงๆคับ อธิบายให้เขาฟัง เน้นย้ำเรื่องหนี้
การโดนฟ้อง ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังไงก็ต้องเข้าใจ
ซึ่งถ้าคุณรักแฟนจริง คิดจะใช้ชีวิตไปด้วยกันแน่ๆ
ก็ต้งช่วยครับ ขายรถตัวเองทิ้งแล้วเอาคันนี้มาใช้
ให้พ่อบอกคนอื่นๆว่ารถให้ว่าที่ลูกเขยใช้ ไม่เสียหน้า
จากนั้นก็ขอยืดระยะเวลาผ่อนต่อ ไฟแนนซ์เอาอยู่แล้ว ดอกมาเต็มๆ
แล้วก็ผ่อนต่อไปครับ......ผมคิดได้แค่นี้แหล่ะ
***** tex *****
แสดงความคิดเห็น
ช่วยด้วยผ่อนรถต่อไม่ไหว
มาโดย ดาวน์น้อยมากๆประมาณ 25,000 ผ่อนไปประมาณ 150,000 ประมาณ 10 งวด
งวดละ 15,000 คือเรื่องมีอยู่ว่ารถจะโดนยึดแล้ว แต่พ่อเข้าไม่ยอมขายเสียดายเงิน
ผมจะช่วยเข้าพูดอย่างไรดีครับ
อีกอย่าง ถ้าขายต้องทำอย่างไรดีครับ ปล่อยฟรีๆเลย
ใจจริงเธออยากได้เงินมาบ้างไม่อยากปล่อยไปฟรีต้องทำอย่างไรดีครับ
รบกวนพวกพี่ๆแนะนำด้วยครับ สงสารแฟนมากๆ
ปล รถสภาพใหม่ ไมล์ 20000
เสริม รถมือหนึ่งเลยครับ พอดีต้อนนั้นแฟนหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารต้อนแรกก็ดีๆกำไรพองาม
แต่ด้วยอะไรไม่รู้มีปัญหาทะเลาะกันอันนี้ขอไม่บอกละกันนะครับเลยไม่มีรายได้ครับผม
เรื่องรายละเอียดการซื้อรถแฟนผมเข้าไม่รู้เลยเพราะพ่ออยู่ต่างจังหวัดโดยแฟนผมมาแค่เซ็นๆ และจ่ายเงินไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารถรุ่นอะไรในตอนแรก และตอนนี้พ่อเธอก็หนีไปติดต่อไม่ได้เลยไม้รู้ว่ายอดจัดทั้งหมดเท่าไรกันแน่ เรื่องมันประมาณนี้และครับ วุ่นวายมากครอบครัวเธอ