สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 1.50น. (ของวันที่ 15 พ.ย2557)ผมได้ขับรถจากถ.พระราม1 พาพี่ที่ทำงานไปส่งที่บ้าน(บ้านพี่เค้าอยู่ ซอยแบริ่ง)
ผมได้ขับรถบนถนนสุขุมวิท ขาออก พอเลย สถานี BTS บางนา มานิดหน่อย
ก็ได้มี จุดตรวจแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึงก็ได้เรียกให้จอดรถ
ผมก็จอดพร้อมเปิดกระจก และกล่าวคำว่า สวัสดีครับ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ แจ้งให้ทราบว่าจะขอ ตรวจวัดแอลกอฮอล์
ผมก็ ตอบกลับว่า ได้เลยครับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ ได้ให้จอดรถเข้าข้างทาง และได้ขอดูใบขับขี่
ผมก็ หยิบกระเป๋าตังค์ เพื่อหาใบขับขี่ แต่ไม่เจอ(ใบขับขี่อยู่ในกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค อยู่ที่ทำงาน)
เจ้าหน้าที่ เห็นบัตรประชาชนก็เลยบอก บัตรประชาชนก็ได้ ผมเลยให้ไป
เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็ ได้หยิบเครื่องวัดแอลกอฮอล์ (เครื่องเล็กเท่าประมาณฝ่ามือหน้าจอสีฟ้า) ออกมาจากกระเป๋า ด้านหน้า ตรงเสื้อสะท้อนแสง
ผมก็แอบคิดในใจไม่ต้องลงจากรถไปเป่าที่โต๊ะหรอ (ผมไม่เคยโดนเรียกตรวจเลยไม่รู้ว่าปกติต้องทำอย่างไร)
ต้องขอบอกก่อนว่า ผมเป็นคน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีแอลกอฮอล์
เจ้าหน้าที่ก็เอาเครื่องมาให้เป่า แต่ก่อนเป่าผมก็ ได้เอา กระดาษทิชชู่เช็ด ตรงที่เป่าก่อน (ปากใครมั่งก็ไม่รู้ -0- )
พอเป่าเสร็จ ค่าที่ได้ ขึ้นมา 110 กว่า เจ้าหน้าที่ก็จัดการเอาใบกระดาษ A4 ที่เขียนประมาณว่า ตามกฏหมายต้องไม่เกิน50 แล้วเจ้าหน้าที่ก็ บอกว่า คุณมีแอลกอฮอ เกิน 50 นะครับ ซึ่งเกินกว่าอัตตราที่กฏหมาย ผมอ่ะ ฮาเลยสิครับ กูเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่กินเบียร์ สปาย ไวน์ ฯลฯ แล้วมันจะขึ้นมา 110 ได้ไง ก่อนจะมาถึงด่านก็ ไปขี่จักรยาน ที่สนามหลวงมา ระยะทางก็ประมาณ 15 โล ละก็ ไปนั่งกินข้าว เสร็จก็กินน้ำเปล่า ละมันมีแอลกอฮอล์ 110 ได้ไง ผมเลยบอก พี่ครับ ผมขอเป่าอีกรอบ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกว่าได้สิ แต่ก็ไม่เอาเครื่องมาให้เป่าอีกรอบนะ ละก็ มาถามว่ากำลังจะไปไหน เหมือนชวนคุย ละก็ เปิดผ้าปิดจมูก(สงสัยคงจะเช็คว่าได้กลิ่นเหล้าหรือเปล่าแต่คงจะไม่ได้กลิ่น ) ผมก็ ยืนยันจะเป่าอีก รอบ แต่เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ ไม่ยอมเอาเครื่องให้เป่าอีก แล้วก็ พูดว่าผมมีแอลกอฮอ เกินกำหนดนะ (เริ่มพูดวนไปวนมา) ผมก็ บอก งั้นเดี๋ยวผมเป่าอีกรอบก็ได้ไงครับพี่ เพราะผมไม่ได้ดื่มมา เค้าก็ถามว่า วันนี้ไม่ได้ดื่มเลยหรอ ผมก็บอก พี่ครับ ไม่ใช่แค่วันนี้ที่ผมไม่ดื่ม วันอื่น ปกติผมก็ ไม่ดื่มอยู่แล้ว เค้าก็ถามว่า แล้วได้ดื่ม ไวน์ หรือสปายมาหรือเปล่าวันนี้ ผมก็บอกว่า ก็ผมบอกไปแล้วไงครับว่า ปกติ ผมไม่ดื่มอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็พูดวนไปวนมา แล้วก็ถามว่าผมทำงานที่ไหน มาจากไหน จะไปไหน ผมก็ บอกว่า ผมทำงานที่ สำนักงานปลัดกระทรวงXXXXX จะไปส่งพี่ที่นั่งอยู่ข้างหลัง ที่แบริ่ง แล้วเค้าก็ คืนบัตรประชาชน แล้วบอกว่า เชิญครับคราวหน้าพกใบขับขี่ด้วยนะครับ.... ผมแบบว่า อ้าว ตัดบทง่ายๆอย่างงี้เลยหรอ คือเรื่องใบขับขี่ ผมยอมรับว่าผิด เพราะลืมเอามาด้วยจริงๆ แต่เรื่องเป่าแอลกอฮอล์ นี่ ผมข้องใจมาก คือ 1.ไม่เคยดื่ม ทำไม ขึ้น110กว่า 2.ทำไมขอเป่าอีกรอบเพื่อความแน่ใจแล้วไม่ให้ผมเป่า? 3.อยากรู้ถ้าเป่าอีกรอบแล้วจะขึ้นเท่าไหร่ 4.เห็นคนอื่นที่เคยโดนตรวจเค้าบอก จะต้องเป็นเครื่องใหญ่ๆ แล้วหลอดที่เป่าจะต้องแกะจากซองด้วย แต่นี่ไม่มี แล้วให้ป่าอยู่ บนรถ(ผมก็ไม่รู้ว่าปกติเค้าทำไงกัน แต่ว่า ไม่ต้องลงไปที่โต๊ะหรอ เคยเห็นด่านอื่นต้องลงไปเป่าที่โต๊ะ)
รบกวนพี่ๆที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วยแชร์ประสบการณ์กันครับว่าเคยเจอแบบนี้ มั่งไหมครับ
ขอบคุณครับ
ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ แต่โดนเรียกตรวจแล้ว เป่าได้ 110กว่า ?!?!?!?!?
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 1.50น. (ของวันที่ 15 พ.ย2557)ผมได้ขับรถจากถ.พระราม1 พาพี่ที่ทำงานไปส่งที่บ้าน(บ้านพี่เค้าอยู่ ซอยแบริ่ง)
ผมได้ขับรถบนถนนสุขุมวิท ขาออก พอเลย สถานี BTS บางนา มานิดหน่อย
ก็ได้มี จุดตรวจแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึงก็ได้เรียกให้จอดรถ
ผมก็จอดพร้อมเปิดกระจก และกล่าวคำว่า สวัสดีครับ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ แจ้งให้ทราบว่าจะขอ ตรวจวัดแอลกอฮอล์
ผมก็ ตอบกลับว่า ได้เลยครับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ ได้ให้จอดรถเข้าข้างทาง และได้ขอดูใบขับขี่
ผมก็ หยิบกระเป๋าตังค์ เพื่อหาใบขับขี่ แต่ไม่เจอ(ใบขับขี่อยู่ในกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค อยู่ที่ทำงาน)
เจ้าหน้าที่ เห็นบัตรประชาชนก็เลยบอก บัตรประชาชนก็ได้ ผมเลยให้ไป
เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็ ได้หยิบเครื่องวัดแอลกอฮอล์ (เครื่องเล็กเท่าประมาณฝ่ามือหน้าจอสีฟ้า) ออกมาจากกระเป๋า ด้านหน้า ตรงเสื้อสะท้อนแสง
ผมก็แอบคิดในใจไม่ต้องลงจากรถไปเป่าที่โต๊ะหรอ (ผมไม่เคยโดนเรียกตรวจเลยไม่รู้ว่าปกติต้องทำอย่างไร)
ต้องขอบอกก่อนว่า ผมเป็นคน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีแอลกอฮอล์
เจ้าหน้าที่ก็เอาเครื่องมาให้เป่า แต่ก่อนเป่าผมก็ ได้เอา กระดาษทิชชู่เช็ด ตรงที่เป่าก่อน (ปากใครมั่งก็ไม่รู้ -0- )
พอเป่าเสร็จ ค่าที่ได้ ขึ้นมา 110 กว่า เจ้าหน้าที่ก็จัดการเอาใบกระดาษ A4 ที่เขียนประมาณว่า ตามกฏหมายต้องไม่เกิน50 แล้วเจ้าหน้าที่ก็ บอกว่า คุณมีแอลกอฮอ เกิน 50 นะครับ ซึ่งเกินกว่าอัตตราที่กฏหมาย ผมอ่ะ ฮาเลยสิครับ กูเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่กินเบียร์ สปาย ไวน์ ฯลฯ แล้วมันจะขึ้นมา 110 ได้ไง ก่อนจะมาถึงด่านก็ ไปขี่จักรยาน ที่สนามหลวงมา ระยะทางก็ประมาณ 15 โล ละก็ ไปนั่งกินข้าว เสร็จก็กินน้ำเปล่า ละมันมีแอลกอฮอล์ 110 ได้ไง ผมเลยบอก พี่ครับ ผมขอเป่าอีกรอบ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกว่าได้สิ แต่ก็ไม่เอาเครื่องมาให้เป่าอีกรอบนะ ละก็ มาถามว่ากำลังจะไปไหน เหมือนชวนคุย ละก็ เปิดผ้าปิดจมูก(สงสัยคงจะเช็คว่าได้กลิ่นเหล้าหรือเปล่าแต่คงจะไม่ได้กลิ่น ) ผมก็ ยืนยันจะเป่าอีก รอบ แต่เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ ไม่ยอมเอาเครื่องให้เป่าอีก แล้วก็ พูดว่าผมมีแอลกอฮอ เกินกำหนดนะ (เริ่มพูดวนไปวนมา) ผมก็ บอก งั้นเดี๋ยวผมเป่าอีกรอบก็ได้ไงครับพี่ เพราะผมไม่ได้ดื่มมา เค้าก็ถามว่า วันนี้ไม่ได้ดื่มเลยหรอ ผมก็บอก พี่ครับ ไม่ใช่แค่วันนี้ที่ผมไม่ดื่ม วันอื่น ปกติผมก็ ไม่ดื่มอยู่แล้ว เค้าก็ถามว่า แล้วได้ดื่ม ไวน์ หรือสปายมาหรือเปล่าวันนี้ ผมก็บอกว่า ก็ผมบอกไปแล้วไงครับว่า ปกติ ผมไม่ดื่มอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็พูดวนไปวนมา แล้วก็ถามว่าผมทำงานที่ไหน มาจากไหน จะไปไหน ผมก็ บอกว่า ผมทำงานที่ สำนักงานปลัดกระทรวงXXXXX จะไปส่งพี่ที่นั่งอยู่ข้างหลัง ที่แบริ่ง แล้วเค้าก็ คืนบัตรประชาชน แล้วบอกว่า เชิญครับคราวหน้าพกใบขับขี่ด้วยนะครับ.... ผมแบบว่า อ้าว ตัดบทง่ายๆอย่างงี้เลยหรอ คือเรื่องใบขับขี่ ผมยอมรับว่าผิด เพราะลืมเอามาด้วยจริงๆ แต่เรื่องเป่าแอลกอฮอล์ นี่ ผมข้องใจมาก คือ 1.ไม่เคยดื่ม ทำไม ขึ้น110กว่า 2.ทำไมขอเป่าอีกรอบเพื่อความแน่ใจแล้วไม่ให้ผมเป่า? 3.อยากรู้ถ้าเป่าอีกรอบแล้วจะขึ้นเท่าไหร่ 4.เห็นคนอื่นที่เคยโดนตรวจเค้าบอก จะต้องเป็นเครื่องใหญ่ๆ แล้วหลอดที่เป่าจะต้องแกะจากซองด้วย แต่นี่ไม่มี แล้วให้ป่าอยู่ บนรถ(ผมก็ไม่รู้ว่าปกติเค้าทำไงกัน แต่ว่า ไม่ต้องลงไปที่โต๊ะหรอ เคยเห็นด่านอื่นต้องลงไปเป่าที่โต๊ะ)
รบกวนพี่ๆที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วยแชร์ประสบการณ์กันครับว่าเคยเจอแบบนี้ มั่งไหมครับ
ขอบคุณครับ