ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ใช้รถหุ้มเกราะพุ่งชนบ้าน ที่แนวร่วมหลบซ่อนตัว

ภาพเจ้าหน้าที่ใช้รถหุ้มเกราะ พุ่งชนบ้านในพื้นที่ม 3 บ้านโคกโหนด ต.คอลันตาหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ที่กลุ่มคนต้องสงสัยซึ่งมีหมายจับหลบว่อนภายใน เพื่อกดดันให้ออกมอบตัว แต่ไม่เป็นผล
และวิสามัญ นายรุสดี แบรอสะแม และนายอับดุลเราะห์มาน เจ๊ะเตะ๊ เสียชีวิต 2 ศพ( 13 พย2557)

http://goo.gl/fbBEA4



กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจง กรณีการปิดล้อมตรวจค้นติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมายในพื้นที่ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์/โฆษก    กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557       เมื่อเวลา 03.30น  เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ บ้านโคกโหนด หมู่ที่ 3 ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ผลจากการปฏิบัติได้ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นเหตุให้    ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 2 คน ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 5 คน และยึดอาวุธปืนพก จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง และอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายรายการ
  จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ
ดังนี้.-
1. จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 คน ประกอบด้วย นาย นายรุสดี แบรอสะแม อายุ 33 ปี         อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ   ป.วิอาญา 11 หมาย และนายอับดุลเราะห์มาน เจ๊ะเต๊ะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าธง                อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 45 หมาย ได้สร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์มาอย่างมาก
2. ผลสำเร็จจากการปฏิบัติ เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้หน่วยปฏิบัติงานข่าวเชิงรุก เพื่อติดตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ทั้งนี้          ในห้วงที่ผ่านมาได้พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เตรียมสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่           อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
3. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องจัดกำลังเข้าติดตามจับกุมในพื้นที่ดังกล่าว โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ประสานขอความร่วมมือ ผู้นำศาสนาและผู้นำท้องที่ ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัวแต่ทั้ง 2 คน ได้ใช้อาวุธปืนต่อสู่จึงเกิดการปะทะ และเกิดความสูญเสียขึ้น สำหรับ  ผู้ที่ยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คน จากการตรวจสอบทราบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์           จำนวน 2 คน จึงปล่อยตัวกลับบ้านส่วนที่เหลือจะได้รับการปฏิบัติในการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายด้วยความเสมอภาคและเป็นธรรม  
http://goo.gl/CHa7mk
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่