จะผลิตอาหารสำเร็จรูปใส่ซองขายต้องทำอย่างไรบ้าง

ตามหัวข้อนะครับ
คือผมเคยเห็นพวกขนมหรืออาหารซองที่เคาขายกัน 3 ซอง 100 บาท นะครับ ยกตัวอย่างที่ใกล้เคียงที่ผมอยากจะทำก้อ เกาลัด(ผมไม่ได้จะทำเกาลัดนะครับ) นะครับ หวังว่าเพื่อนๆพี่ๆน่าจะเคยเห็นกันบ้าง
ถ้าผมจะเอาอาหารที่ผมทำขึ้นมานั้นใส่ซองขายนั้นผมต้องทำอย่างไรบ้างผมขอตอบกับตัวเองในแบบที่ผมเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก่อนนะครับแล้วรบกวนทุกท่านขยายความหรือเพิ่มเติมให้ผมอีกครั้งถ้าผมเข้าใจอะไรไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
1.ผมต้องเอาตัวอย่างอาหารไปให้ใครตรวจวิเคราะคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่ถ้าต้องทำไปทำที่ไหน
   1.1 ค่าใช้จ่ายในขั้นตอนนี้ ???
2.มันเป็นอาหารก้อต้องมีวันหมดอายุแล้วผมต้องไปให้ใครตรวจวิเคราะว่าถ้าบรรจุใส่ซองแล้วมันจะอยู่ได้นานแค่ไหนโดยไม่เป็นพิษหรือราขึ้นหรือเสื่อมคุณภาพ (เข้าใจว่าน่าจะคือวันหมดอายุ)
   2.2 ค่าใช้จ่ายในขั้นตอนนี้ ???
3.ผมต้องขอ อ.ย หรือ มอก. หรือไม่ และทำอย่างไร (หมายถึงว่าต้องเอาขอมูล ตาม ข้อ1-2ให้เขาดูผลวิจัยวิเคราะหรือเปล่าหรือทำอย่างไรจึงจะได้มา)
   3.3 ค่าใช้จ่ายในขั้นตอนนี้ ???
4. ผมนำอาหารที่ผมผลิตได้ไปจ้างโรงงานทำซองและเอาอาหารที่ผมผลิตได้ใส่ซองให้ผมได้หรือไม่
   4.4 ค่าใช้จ่ายใจขึ้นตอนนี้ ???
                                                               ปล.ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้า (ไม่รู้ลงถูกห้องหรือเปล่าขออภัยด้วยครับถ้าผิดพลาดไป)

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อมยิ้ม04..พี่ไม่ได้อยู่ในแวดวงธุรกิจอาหาร แต่ด้วยอานิสงส์ที่เป็น consult ให้น้อง ซึ่งดูหนังวัยรุ่นพันล้านแล้วอินจัด
เลยจำเป็นต้องหาความรู้ไว้นิดหน่อย
..น้องพี่..ควักทุนไป 2 ล้าน โดยไม่ได้อะไร ..แอบสมน้ำหน้าน้องนิดนึง ที่ไม่ฟังสิ่งที่พี่ทักท้วง..
แต่ก็ให้เค้าได้รับบทเรียนไป ..คนบางคน ต้องให้ "เจ็บ" ถึงจะรู้จัก "จำ"

..จากคำถามของคุณ ..พี่ว่าคุณมีฐานความรู้เท่ากับ 0 เลยนะ ..
แต่ออกแนว ..คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก.. ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน ไม่รู้ทุนหนา สายป่านยาวหรือเปล่า
แต่มองกิจการระดับ "อุตสาหกรรม" กันเลยทีเดียว ..

ถ้าเป็นวิธีการดำเนิน ตามสไตล์พี่นะคะ .. อย่างแรก พี่จะต้องรู้จัก "สินค้า" ที่เราจะทำให้ถ่องแท้ก่อน
สมมุติคุณจะทำขนมทอดกรอบขาย ..อย่างแรก ควรรู้ How to ..น้องพี่มันพลาดตั้งแต่จุดนี้แล้ว
เพราะพี่ถามว่าสูตรขนมที่จะทำนี่ ..ระดับสูตรเด็ดเคล็ดลับ ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษเรา ( คือเรา..โคตรเดียวกัน ) เลยเหรอ
..ทั่นก็ว่า เปล่า ..มีคนเค้ารับปากจะช่วยเรื่องการสูตรการผลิต ..หวังพึ่งจมูกคนอื่นหายใจอีก น้องตู ..

และควรเริ่มจากวิชา Marketing 101 ก่อนเลย ด้วยการทำ Marketing Mix .. 4P's ตีให้แตกว่า Product Price Place Promotion
ของเราคืออะไร
..ต่อด้วยการทำ SWOT Analysis ..วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และข้อจำกัดของตัวเราเองออกมาก่อน

..ได้ข้อมูลรอบด้านแล้ว ..รู้แล้วว่าจะขายอะไร ขายใคร ขายที่ไหน ยังไง เสริมจุดแข็ง ลบจุดอ่อนยังไง
เสร็จแล้ว ค่อยมาถึงเรื่องที่คุณถามๆ นั่นแหละค่ะ
ซึ่งนั่นเป็นกระบวนการรับรองคุณภาพสินค้า ระดับจะขึ้นห้างแล้ว ..

..อย่างแรก ถ้าเป็นพี่ จะดูที่ "สถานประกอบการ" ก่อน ..สถานที่ผลิตสินค้าของคุณนั่นแหละค่ะ
เป็นของกิน ก็ต้องยื่นกับ "อย." .. รายละเอียดหาอ่านในเว็บไซต์ของ อย. บอกไว้ละเอียดยิบ ไปหาอ่านดู
..อย่าลืมดูข้อจำกัดของการตั้งโรงงานด้วย .. พี่ทักท้วงแล้ว ไอ่น้องมันไม่ฟัง ..ทะลึ่งเช่าตึกทำโรงงาน
แต่ดันอยู่ในย่านที่มีคนพักอาศัย .. ความร้อนจากโรงงาน - น้ำเสียต่างๆ ที่ออกมา ..ทำให้คุณน้องมันโดนเพื่อนบ้านแจ้งความ
อาทิตย์ละหลายรอบ ..พี่ยังสงสัย ว่า อย. เค้าผ่านเรื่อง location ให้มันได้ไง ??

..ผ่านเรื่องสถานที่ ..มาเรื่อง "ตัวสินค้า"
ถ้าจะเอาระดับวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ เพื่อมาพิมพ์ฉลากข้างซอง
ก็ต้องนำสินค้าไป test .. รายชื่อหน่วยงานที่ให้บริการวิเคราะห์ฯ นี้ หาได้จาก Google ค่ะ ..พี่เคยใช้บริการ lab เอกชนที่มีชื่ออยู่ใน list นั้น
..แต่ไม่ได้ test อาหารนะ ..ของพี่ test ประเภท Toy ...ขอบอกไว้ก่อนว่าค่าบริการ ..น้ำตาไหลค่ะ ..

และในกระบวนการผลิต คุณก็ต้องมีเครื่องจักร เครื่องมือ แรงงานคน
ถ้าว่ากันระดับนี้ อาจต้องพิจารณาไปถึงการจดจัดตั้งเป็นนิติบุคคล
ยาวไปเรื่องขึ้นทะเบียนนายจ้างกับกระทรวงแรงงาน ทำเรื่องประกันสังคม .. ว่ากันแบบจัดเต็ม ก็ระดับมหกรรมล่ะคุณน้องเอ๋ย..
..แต่จะกล้อมแกล้มเลี่ยงๆ ไปก่อน ในเรื่องแรงงาน ก็ระวังใครระวังมันละกัน
แต่ถ้าคุณคิดการณ์ระดับขึ้นห้าง ..ยังไงคุณต้องเป็น "นิติบุคคล" ..นาย ก นาย ข นี่ห้างใหญ่ สะดวกซื้อรายใหญ่เค้าไม่คุยด้วยจ้ะ

ถ้าจะจดบริษัท แล้วไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ..ก้ไปปรึกษา สนง.บัญชีค่ะ ให้เค้าช่วยดำเนินการให้
และจะได้มีคนคอยให้คำแนะนำเรื่องบัญชีและภาษีไปตลอด

สำหรับ "บรรจุภัณฑ์" ..ขอบอกว่า ..supplier ที่เป็นโรงงานพิมพ์ซองขนม มีดาษดื่น
หาข้อมูลได้จาก Google เช่นกัน
แต่พิมพ์น้อย พิมพ์แค่ขั้นต่ำ ออกแบบซอง 4 สีสวยสด .. ค่าถุงขนมใบละหลายบาท ..แพงเกือบเท่าขนมในซอง
..ถ้าจะให้ราคาต่อหน่วยถูกลง ก็ต้องพิมพ์เยอะๆ ..ซึ่งมันก็แย้งกับบริบทที่ว่าเพิ่งเริ่มกิจการอีก ..
ดังนั้น ข้อนี้ไปตัดสินใจเองค่ะ

รวมถึงถุงพลาสติกใหญ่ สำหรับแพ็ค 6 แพ็คโหล และกล่องกระดาษลูกฟูก สำหรับบรรจุเป็นลัง
ก็หารายชื่อ supplier ได้ไม่ยากเช่นกัน
พี่ก็มีที่ใช้บริการอยู่ แต่ไม่ขอเอ่ยนาม เพราะเดี๋ยวจะเป็นการโฆษณาแฝง 555

เรื่องการแพ็คสินค้า .. โรงงานผลิตซอง เค้าเป็นโรงพิมพ์ เค้าผลิตแต่บรรจุภัณฑ์ให้
จะแพ็คของลงถุง คุณต้องแพ็คเอง ..ไม่ใช่ยกขนมไปโรงพิมพ์น้อ ..
..กระบวนการนี้ คุณก็ต้องมาเครื่องซีล
เครื่องซีลก็มีหลายแบบ ตั้งแต่ถูกๆ ใช้มือกด , ใช้เท้าเหยียบ ไปยันระดับเครื่องจักร
ซึ่งยังมีเกรดอีก ..ตั้งแต่แบบธรรมดา ไปยันแบบสูญญากาศ - ใส่ไนโตรเจนเข้าไปแทนอากาศ ฯลฯ
ราคาเครื่องละหลายหมื่น

..ว่าที่ "เถ้าแก่" ต้องทำการบ้านให้มากกว่านี้ค่ะ
การทำธุรกิจ จะว่ายากก็ยาก ..จะว่าง่ายก็ง่าย
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้ของผู้ประกอบการ ว่ามีองค์ความรู้ในพุงอยู่มากน้อยแค่ไหน
มีความพร้อมแค่ไหน ..
และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลย คือ เงิน คน และ เวลา ที่จะใส่ลงไปในธุรกิจ

..พี่ไม่ชอบ "สกัดดาวรุ่ง" ..ชอบที่จะเห็นคนหนุ่มๆ สาวๆ ที่มีไฟ ได้คิดได้ทำ ได้ประสบความสำเร็จ
แต่ที่อยากอยากฝากไว้ คือ การทำอะไร เป็นขั้นเป็นตอน คิดอ่านให้รอบคอบ ..เริ่มจากเล็กๆ ค่อยๆ ขยาย เติบโต ให้สมส่วน
แม้อาจจะรวยช้า ไม่ทันใจ ..แต่ปลอดภัยกว่า
เพราะหากผิดทาง ก็เจ็บตัวน้อย ..แต่ได้ประสบการณ์เยอะ 555

..และถ้าเป็นพี่นะ ..พี่จะเริ่มจากทำขนมนั้นให้อร่อยๆ ก่อน .. ลองตลาด ลองขายแบบทุนต่ำ
เน้นทำให้คล่อง ดูเรื่องกำลังการผลิตก่อนจะหาญไปขายใน scale ใหญ่
..และยิ่งเป็นการขายส่งให้ร้านค้าปลีก หรือร้านสะดวกซื้อที่ฉลองครบ 8,000 สาขาไปเมื่อไม่นาน
ยังมีสิ่งที่ต้องเตรียมการอีกบานตะไท และที่สำคัญสายป่านคุณต้องยาวพอ
แค่เจอ credit term กว่าจะได้ตังค์ลูกค้า ก็จุก จนต้องหาเงินทุนมาสำรองหมุนเวียนในกิจการเยอะๆ ละค่ะ

แต่ไงก็ลองศึกษาเพิ่มเติมดู.. มุ่งมั่น คิดดีๆ แล้วลงมือปฏิบัติจริงนะคะ ..และขอให้โชคดีค่ะ [Flower:]
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่