สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน นี่เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเราเลยค่ะ จริงๆเห็นมีคนมารีวิวของ centara grand หลายคนแล้วเหมือนกัน
แต่เราเห็นว่ารีวิวไว้นานแล้วค่ะ เลยถือโอกาสมารีวิวแล้วก็ อัพเดท ไปในตัวเลยนะคะ ที่เราจะเพิ่มจะเป็นในส่วนของกิจกรรมที่
เราคิดว่าอันไหนน่าไปประมาณนี้ค่ะ ปล.ภาพอาจจะน้อยหน่อยนะคะเพราะว่าเน้นถ่ายแต่ตัวเอง 5555 เริ่มกันเลยจ้า
การตัดสินใจไปมัลดีฟครั้งนี้ก็มาจากคุณพ่อเรา เพราะว่าท่านบ่นมานานแล้วว่าเป็นที่ๆอยากไปมากก็ตั้งใจไว้ว่าถ้า
เกษียณแล้วก็จะไปกันค่ะเราจองผ่านกับทาง maldives expert ซึ่งก็อำนวยความสะดวกเราเรื่องการจองโรงแรมแล้ว
ก็รีเควสห้องที่เราต้องการ รวมไปถึงการจองตั๋วเครื่องบินให้ด้วยค่ะ เราไปมาเมื่อ 2-5 พย. 2014 เมื่อเร็วๆนี้เองตัวยังดำอยู่เลย ><
ในช่วงใกล้วันเดินทาง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการนัดเราเพื่ออธิบายวิธีการเดินทางและให้ voucher โรงแรมกับเราค่ะ
รายละเอียดการเดินทาง เราบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ออกจากสุวรรณภูมิ 9.00 ถึง สนามบิน มาเล่ประมานเที่ยงค่ะ ทางมาเล่เค้ามีกฏว่า
ห้ามนำอาหารที่ทำจากหมูเข้าประเทศนะคะ ถ้าตรวจเจอก็ทิ้งหมดจ้า พอไปถึงผ่านตม.ปุ๊บ เอากระเป๋าออกมาก็มองหา
ป้ายเจ้าหน้าที่ถือป้ายโรงแรมเราแต่ไม่เจอจ้า >< ตอนนั้นใจหายแว๊บ แต่คนแถวนั้นใจดีเดินมาถามเราว่าเราไป
โรงแรมไหนเราก็บอกไปเค้าก็ชี้ไปที่เค้าเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆค่ะเห่อออโล่งอก
เนื่องจากว่าคนเดินทางไปที่โรงแรมนี้เยอะค่ะ ก็เลยไม่ค่อยส่งคนมารอรับเรา เป็นข้อดีก็คือเราไม่ต้องรอ sea plane นานค่ะ
พอไปที่เค้าเตอร์ centara grand ก็ยืน voucher พร้อมคูปองให้เค้าค่ะเค้าก็จะมีคนพาเราไปขึ้นรถและบอกว่า
เราต้องไปที่ terminal ไหนส่วนของเรา C ค่ะพอไปถึง ก็จะเจอแบบนี้ค่ะ สนามบินน้ำ!!!!
ตื่นเต้นมากค่ะเพราะว่าแค่ที่ฝั่งน้ำก็สวยมากแล้ว
ตรงนั้นจะมี เค้าเตอร์ให้เราเอาตั๋วเครื่องบินไปถามเค้าว่าเครื่องเราจะออกเมื่อไหร่(ตรงนี้ขอโทษจริงๆมีรูปแต่ว่า เราลืม sd card อันที่มีรูปแรกๆไว้ที่โรงแรม T T) ถ่ายรูปเล่นแปบเดียว ถือโอกาสทานยาแก้เมาเครื่องไว้เลย ประมาณไม่ถึง ครึ่งชม.ค่ะ เค้าก็มาเรียกเราให้ไปขึ้นเครื่อง
เดินตามๆกันไปใส่เสื้อสีเจ็บนั่นไม่ใช่ใคร คุณพ่อเองคร่าา เที่ยวครั้งนี้เตรียมชุดมาแบบจัดเต็ม 5555
ถึงแล้วจ้าเครื่องบินของเรา
เครื่องบินเป็นลำเล็กค่ะ บรรทุกผู้โดยสารได้ 16 คน นั่งทางขวา 2 คนทางซ้าย 1 คนค่ะ เราเลือกนั่งทางซ้าย แถวที่ 2 ค่ะเราไปคราวนี้ ผดสใเกือบเต็มลำค่ะเหลือที่ว่างข้างหน้าเราที่นึง นั่งแปบเดียวเครื่องก็ออกตอนช่วงนั้นจะมีกลิ่นน้ำมันเข้ามา แนะนำเตรียมยาลมยาดมยาหม่องไปให้พร้อมค่ะ
เครื่องขึ้นแล้วจ้า ช่วยกันฮึ่บๆๆ
การเดินทางด้วย sea plane นั้นดีกว่าที่เราคิดไว้มากค่ะตอนแรกคิดว่าเครื่องจะสั่นจะต้องมีการเวียนหัวตลอดเวลาแต่ไม่มีเลยค่ะ สบายมากถ่ายรูปเรี่ยรายทาง แปบเดียวถึงแล้วค่าเวลาเดินทางโดยประมาณ 25-30 นาที
เค้าจะบินไปจอดตรงโป๊ะใกล้ๆแล้วจะมีเรือจากทางโรงแรมมารับไปค่ะ ปล.ชอบยูนิฟอร์มกัปตันมากให้ตายสิ 555
พอไปถึงจะมีพนักงานต้อนรับมารอเรากันมากมาย ส่วนที่นี่ ผจก.เป็นคนไทยสบายเราล่ะ มาถึงปุ๊บพาเราไปหาอะไรทานก่อนเลยจ้า
รูปอาหารไม่มีนะคะคือกินๆๆๆอย่างเดียวค่ะ >< ทานเสร็จกลับไปเช็คอิน ผจก.คนเดิมก็จะมาอธิบายเรื่องกฏต่างๆของทางโรงแรมค่ะ
และเราก็ถือโอกาสจองกิจกรรมในตอนนั้นเลย กิจกรรมที่เราเลือกก็จะมี
วันแรก fishing
วันที่สอง snockeling
วันที่สาม whale shark
ทางโรงแรมมีกิจกรรมเยอะกว่านี้นะคะ แต่เราคุยกันว่าเราอยากจะใช้เวลาอยู่ที่รีสอร์ทให้นานๆก็เลยเลือกไปวันละ 1 กิจกรรมค่ะ จากนั้นก็เข้าที่พัก
ที่พักของเราคือ luxury sunset water villa เป็นห้องที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกและสามารถดำน้ำได้เลยจากหลังบ้านเราจ้า ถ้าใครจะไปและพักห้องนี้แนะนำให้รีเควสห้องให้อยู่ในช่วง 55-65 นะคะจะอยู่กลางๆเห็นพระอาทิตย์ตกแบบเต็มๆเลย
อันนี้คือโซนห้องพักของเราค่าเราพักห้อง 57และ58 ค่ะ

ตรงระเบียงหลังห้องเห็นพระอาทิตย์ตกแบบนี้เลยค่า

จัดไปอีกซักรูป
ขอตัดมาพูดเรื่องอาหารกันนิดนึง ที่นี่มีห้องอาหารหลักๆอยู่ 3 ห้องค่ะ คือห้องอาหารกลางที่เป็นบุฟเฟต์(จะมีส่วนขอเทปันที่ต้องจอง) ห้องอาหารอิตาเลี่ยน และห้องอาหารไทย
อาหารไทยกับอิตาเลี่ยน อร่อยมากค่ะแนะนำว่าไปถึงห้องพักปุ๊บสิ่งที่ควรโทรจองเลยคือห้องอาหารค่ะ เราก็รีบจองเลยเรียบร้อยคืนแรกเราทานอาหารไทยค่ะ คืนที่สองอิตาลี่ และสุดท้ายเทปันค่ะ ทั้งสามอย่างนี้เปิดให้บริการในตอนกลางวัน กับ เย็นนะคะ

อาหารอิตาเลี่ยนจะเป็นคอร์สค่ะเลือก appitizer,main dish,desert ได้อย่างละ 1รายการ ของเราเป็นเนื้อย่าง ของหวานเป็นเค้กค่ะ
อร่อยเนื้อนุ่มมาก

ช่วงเดือนนี้เป็นวันเกิดคุณพ่อ เลยมีเค้กมาเซอร์ไพรซ์แถมร้องเพลงให้ด้วย พ่อเขินเลย 5555

ห้องอาหารกลาง กว้างขวาง ไม่ต้องแย่งกันมีพนักงานคอยต้อนรับดีมากๆค่ะอาหารเครื่องดื่มฟรีจ้า ยกเว้นพวกเหล้าพรีเมี่ยมและน้ำ
ผลไม้สดค่ะ

เทปันยากิ เชฟอัธยาศัยดีมากค่ะ สนุกดี

ส่วนของบาร์ อันนี้เป็นจุดที่เราชอบที่สุดเพราะลมเย็นมองเห็น ปลาว่ายไปมาในน้ำ นั่งๆอยู่เดี๋ยวก็มี baby shark ว่ายมาทักทายค่ะ
ตัดกลับมาที่เรื่องกิจกรรมกันต่อ การเขียนรีวิวนี่ไม่ใช่ง่ายๆแหะนับถือเพื่อนๆคนอื่นที่มารีวิวบ่อยๆจริงๆ

วันแรกที่มาถึงเราเลือกกิจกรรมคือไปตกปลาค่ะอันนี้คุณพ่อขอ เค้าตกได้กันเยอะแยะ ครอบครัวเราตกได้ตัวเดียว สงสัยทำบาปไม่ขึ้น 5555 ถ้าตกได้เราสามารถขายให้เค้า หรือ ว่าจะเอาไปทำอาหารก็ได้ค่ะ นั่งเรือออกมาจากฝั่งเจอปลาโลมาด้วยหยิบกล้องมาถ่ายไม่ทัน และสามารถเห็นพระอาทิตย์ตกจากบนเรือได้จ้า
วันที่สองคือไปดำน้ำ เราต้องไปขอยืมอุปกรณ์ดำน้ำจาก water sport center กันก่อนค่ะคือตรงนี้นี่เองตรงนี้จะเป็นจุดนัดพบในการมารายงานตัวก่อนเรือจะออกของกิจกรรมต่างๆค่ะ ใครจะยืมแนะนำใส่ชุดพร้อมเปียกไปด้วยเพราะเค้าอาจจะให้เราใช้อุปกรณ์ให้ดูค่ะ แต่ตอนเราไปเค้าให้มาเลยสงสัยหน่วยก้านดี
วันนี้น้ำค่อนข้างขุ่นเลยเห็นไม่ค่อยชัดทริปนี้โดยส่วนตัวเลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ บอกได้เลยว่าดำหลังบ้านนั้นสวยกว่า แฮ่...ลืมปรับวันที่กล้อง ><

พี่ไกด์ดำน้ำเก่งมาก
กลับจากทริปดำน้ำเราก็กลับมาเล่นต่อที่หลังบ้านเรา น้ำจะตื้นกว่าเลยเห็นปะการังได้ชัดๆแบบนี้ค่ะ

ว่ายๆอยู่มีเจ้าหน้าที่ดำน้ำมา หน้าที่หลักพี่เค้าคือการขัดทำความสะอาดบันไดบ้านเราค่ะ กันลื่นพวกตะไคร่น้ำอะไรแบบนี้เค้าก็ชวนเราว่า
เดี๋ยวเค้าพาไปตรงทีสวยๆไม๊พี่เค้าว่ายเร็วมาจนเราตามไม่ทันสุดท้ายต้องเกาะแขนพี่เค้าไปค่ะ

ปลานกแก้ว

ขี้อายจริงกว่าจะถ่ายได้

อุดมสมบูรณ์ค่ะ ไปตรงไหนก็เจอปลา ปลาเยอะมาก

ลอยตัวถ่ายรูปจากในน้ำ

คุณพ่อกำลังพาแม่ไปดำน้ำ ทุลักทุเลเบาๆ 555

selfie ใต้น้ำซักรูป
กิจกรรมที่สามคือการไปดู whale shark อันนี้ต้องตื่นแต่เช้าหน่อยเรือออก 8.30 สวดมนต์ภาวนา 38 วัดขอให้เจอค่ะ
ทริปนี้ใช้เวลานานที่สุด ประมาณ 4 ชม.ได้วันนี้คลื่นลมค่อนข้างแรงค่ะ

หันซ้ายแลขวามีแต่ความเวิ้งว้าง สุดท้ายพวกเราก็ผิดหวังไม่ได้เจอพี่ฉลามวาฬ

ปลาวาฬไม่เจอ เจอแต่ปลา

ีนแทน
ขากลับมีแวะดำน้ำนิดหน่อย จุดนี้สวยกว่าเมื่อวานค่ะปลาเยอะว่ายแป๊บๆก็ขึ้นมาแล้ว
สรุปเรื่องกิจกรรมนะคะ โดยส่วนตัวเราคิดว่าการไป snockel ไม่จำเป็นค่ะ เราแนะนำว่าให้ใช้เวลาที่รีสอร์ทให้คุ้มค่าดีกว่า
เพราะยังมีในส่วนของสปาที่เรามีโอกาสได้ไปใช้แค่ 1 วัน ขอแนะนำว่านวดเท้าเริ่ดมากกกกกกกก
กิจกรรมอื่นๆที่เราไม่ได้ไปคือ ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก,ไป local island แล้วเค้ามีแถมเล่น banana boat
กับ fun tube ให้ด้วยซึ่งเราก็ไม่ได้เล่นเหมือนกัน ถ้าให้แนะนำว่าต้องไปเลยคือดู ฉลามวาฬเท่านั้นค่ะ
เพราะว่าถ้าเจอก็ถือว่าคุ้มมากทีเดียวส่วนอย่างอื่นเราว่าธรรมดา
เพิ่มเติม:
กิจกรรมบนเกาะที่ไฮไลท์อีกอย่างคือการโชว์ให้อาหารปลากระเบนค่ะ มีทุกวันตรงโซนห้องอาหารกลาง พอถึงเวลาให้อาหารปุ๊บ
ปลากระเบนก็จะมาว่ายรอใกล้ๆจุดที่เค้าให้อาหารค่ะ ตัวใหญ่มากเราเห็นแล้วแบบโห!!!! ชอบมากกกก มีหลายตัวเลย

วันเดินทางกลับ baby shark มาส่งด้วย

เดี๋ยวเรามาสรุปจบอีกทีให้ใน คห.ถัดไปนะคะข้อความมันเต็มแล้ว 5555
[CR] รีวิว centara grand maldives ฉบับ update
แต่เราเห็นว่ารีวิวไว้นานแล้วค่ะ เลยถือโอกาสมารีวิวแล้วก็ อัพเดท ไปในตัวเลยนะคะ ที่เราจะเพิ่มจะเป็นในส่วนของกิจกรรมที่
เราคิดว่าอันไหนน่าไปประมาณนี้ค่ะ ปล.ภาพอาจจะน้อยหน่อยนะคะเพราะว่าเน้นถ่ายแต่ตัวเอง 5555 เริ่มกันเลยจ้า
การตัดสินใจไปมัลดีฟครั้งนี้ก็มาจากคุณพ่อเรา เพราะว่าท่านบ่นมานานแล้วว่าเป็นที่ๆอยากไปมากก็ตั้งใจไว้ว่าถ้า
เกษียณแล้วก็จะไปกันค่ะเราจองผ่านกับทาง maldives expert ซึ่งก็อำนวยความสะดวกเราเรื่องการจองโรงแรมแล้ว
ก็รีเควสห้องที่เราต้องการ รวมไปถึงการจองตั๋วเครื่องบินให้ด้วยค่ะ เราไปมาเมื่อ 2-5 พย. 2014 เมื่อเร็วๆนี้เองตัวยังดำอยู่เลย ><
ในช่วงใกล้วันเดินทาง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการนัดเราเพื่ออธิบายวิธีการเดินทางและให้ voucher โรงแรมกับเราค่ะ
รายละเอียดการเดินทาง เราบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ออกจากสุวรรณภูมิ 9.00 ถึง สนามบิน มาเล่ประมานเที่ยงค่ะ ทางมาเล่เค้ามีกฏว่า
ห้ามนำอาหารที่ทำจากหมูเข้าประเทศนะคะ ถ้าตรวจเจอก็ทิ้งหมดจ้า พอไปถึงผ่านตม.ปุ๊บ เอากระเป๋าออกมาก็มองหา
ป้ายเจ้าหน้าที่ถือป้ายโรงแรมเราแต่ไม่เจอจ้า >< ตอนนั้นใจหายแว๊บ แต่คนแถวนั้นใจดีเดินมาถามเราว่าเราไป
โรงแรมไหนเราก็บอกไปเค้าก็ชี้ไปที่เค้าเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆค่ะเห่อออโล่งอก
เนื่องจากว่าคนเดินทางไปที่โรงแรมนี้เยอะค่ะ ก็เลยไม่ค่อยส่งคนมารอรับเรา เป็นข้อดีก็คือเราไม่ต้องรอ sea plane นานค่ะ
พอไปที่เค้าเตอร์ centara grand ก็ยืน voucher พร้อมคูปองให้เค้าค่ะเค้าก็จะมีคนพาเราไปขึ้นรถและบอกว่า
เราต้องไปที่ terminal ไหนส่วนของเรา C ค่ะพอไปถึง ก็จะเจอแบบนี้ค่ะ สนามบินน้ำ!!!!
ตื่นเต้นมากค่ะเพราะว่าแค่ที่ฝั่งน้ำก็สวยมากแล้ว
ตรงนั้นจะมี เค้าเตอร์ให้เราเอาตั๋วเครื่องบินไปถามเค้าว่าเครื่องเราจะออกเมื่อไหร่(ตรงนี้ขอโทษจริงๆมีรูปแต่ว่า เราลืม sd card อันที่มีรูปแรกๆไว้ที่โรงแรม T T) ถ่ายรูปเล่นแปบเดียว ถือโอกาสทานยาแก้เมาเครื่องไว้เลย ประมาณไม่ถึง ครึ่งชม.ค่ะ เค้าก็มาเรียกเราให้ไปขึ้นเครื่อง
เดินตามๆกันไปใส่เสื้อสีเจ็บนั่นไม่ใช่ใคร คุณพ่อเองคร่าา เที่ยวครั้งนี้เตรียมชุดมาแบบจัดเต็ม 5555
ถึงแล้วจ้าเครื่องบินของเรา
เครื่องบินเป็นลำเล็กค่ะ บรรทุกผู้โดยสารได้ 16 คน นั่งทางขวา 2 คนทางซ้าย 1 คนค่ะ เราเลือกนั่งทางซ้าย แถวที่ 2 ค่ะเราไปคราวนี้ ผดสใเกือบเต็มลำค่ะเหลือที่ว่างข้างหน้าเราที่นึง นั่งแปบเดียวเครื่องก็ออกตอนช่วงนั้นจะมีกลิ่นน้ำมันเข้ามา แนะนำเตรียมยาลมยาดมยาหม่องไปให้พร้อมค่ะ
เครื่องขึ้นแล้วจ้า ช่วยกันฮึ่บๆๆ
การเดินทางด้วย sea plane นั้นดีกว่าที่เราคิดไว้มากค่ะตอนแรกคิดว่าเครื่องจะสั่นจะต้องมีการเวียนหัวตลอดเวลาแต่ไม่มีเลยค่ะ สบายมากถ่ายรูปเรี่ยรายทาง แปบเดียวถึงแล้วค่าเวลาเดินทางโดยประมาณ 25-30 นาที
เค้าจะบินไปจอดตรงโป๊ะใกล้ๆแล้วจะมีเรือจากทางโรงแรมมารับไปค่ะ ปล.ชอบยูนิฟอร์มกัปตันมากให้ตายสิ 555
พอไปถึงจะมีพนักงานต้อนรับมารอเรากันมากมาย ส่วนที่นี่ ผจก.เป็นคนไทยสบายเราล่ะ มาถึงปุ๊บพาเราไปหาอะไรทานก่อนเลยจ้า
รูปอาหารไม่มีนะคะคือกินๆๆๆอย่างเดียวค่ะ >< ทานเสร็จกลับไปเช็คอิน ผจก.คนเดิมก็จะมาอธิบายเรื่องกฏต่างๆของทางโรงแรมค่ะ
และเราก็ถือโอกาสจองกิจกรรมในตอนนั้นเลย กิจกรรมที่เราเลือกก็จะมี
วันแรก fishing
วันที่สอง snockeling
วันที่สาม whale shark
ทางโรงแรมมีกิจกรรมเยอะกว่านี้นะคะ แต่เราคุยกันว่าเราอยากจะใช้เวลาอยู่ที่รีสอร์ทให้นานๆก็เลยเลือกไปวันละ 1 กิจกรรมค่ะ จากนั้นก็เข้าที่พัก
ที่พักของเราคือ luxury sunset water villa เป็นห้องที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกและสามารถดำน้ำได้เลยจากหลังบ้านเราจ้า ถ้าใครจะไปและพักห้องนี้แนะนำให้รีเควสห้องให้อยู่ในช่วง 55-65 นะคะจะอยู่กลางๆเห็นพระอาทิตย์ตกแบบเต็มๆเลย
อันนี้คือโซนห้องพักของเราค่าเราพักห้อง 57และ58 ค่ะ
ตรงระเบียงหลังห้องเห็นพระอาทิตย์ตกแบบนี้เลยค่า
จัดไปอีกซักรูป
ขอตัดมาพูดเรื่องอาหารกันนิดนึง ที่นี่มีห้องอาหารหลักๆอยู่ 3 ห้องค่ะ คือห้องอาหารกลางที่เป็นบุฟเฟต์(จะมีส่วนขอเทปันที่ต้องจอง) ห้องอาหารอิตาเลี่ยน และห้องอาหารไทย
อาหารไทยกับอิตาเลี่ยน อร่อยมากค่ะแนะนำว่าไปถึงห้องพักปุ๊บสิ่งที่ควรโทรจองเลยคือห้องอาหารค่ะ เราก็รีบจองเลยเรียบร้อยคืนแรกเราทานอาหารไทยค่ะ คืนที่สองอิตาลี่ และสุดท้ายเทปันค่ะ ทั้งสามอย่างนี้เปิดให้บริการในตอนกลางวัน กับ เย็นนะคะ
อาหารอิตาเลี่ยนจะเป็นคอร์สค่ะเลือก appitizer,main dish,desert ได้อย่างละ 1รายการ ของเราเป็นเนื้อย่าง ของหวานเป็นเค้กค่ะ
อร่อยเนื้อนุ่มมาก
ช่วงเดือนนี้เป็นวันเกิดคุณพ่อ เลยมีเค้กมาเซอร์ไพรซ์แถมร้องเพลงให้ด้วย พ่อเขินเลย 5555
ห้องอาหารกลาง กว้างขวาง ไม่ต้องแย่งกันมีพนักงานคอยต้อนรับดีมากๆค่ะอาหารเครื่องดื่มฟรีจ้า ยกเว้นพวกเหล้าพรีเมี่ยมและน้ำ
ผลไม้สดค่ะ
เทปันยากิ เชฟอัธยาศัยดีมากค่ะ สนุกดี
ส่วนของบาร์ อันนี้เป็นจุดที่เราชอบที่สุดเพราะลมเย็นมองเห็น ปลาว่ายไปมาในน้ำ นั่งๆอยู่เดี๋ยวก็มี baby shark ว่ายมาทักทายค่ะ
ตัดกลับมาที่เรื่องกิจกรรมกันต่อ การเขียนรีวิวนี่ไม่ใช่ง่ายๆแหะนับถือเพื่อนๆคนอื่นที่มารีวิวบ่อยๆจริงๆ
วันแรกที่มาถึงเราเลือกกิจกรรมคือไปตกปลาค่ะอันนี้คุณพ่อขอ เค้าตกได้กันเยอะแยะ ครอบครัวเราตกได้ตัวเดียว สงสัยทำบาปไม่ขึ้น 5555 ถ้าตกได้เราสามารถขายให้เค้า หรือ ว่าจะเอาไปทำอาหารก็ได้ค่ะ นั่งเรือออกมาจากฝั่งเจอปลาโลมาด้วยหยิบกล้องมาถ่ายไม่ทัน และสามารถเห็นพระอาทิตย์ตกจากบนเรือได้จ้า
วันที่สองคือไปดำน้ำ เราต้องไปขอยืมอุปกรณ์ดำน้ำจาก water sport center กันก่อนค่ะคือตรงนี้นี่เองตรงนี้จะเป็นจุดนัดพบในการมารายงานตัวก่อนเรือจะออกของกิจกรรมต่างๆค่ะ ใครจะยืมแนะนำใส่ชุดพร้อมเปียกไปด้วยเพราะเค้าอาจจะให้เราใช้อุปกรณ์ให้ดูค่ะ แต่ตอนเราไปเค้าให้มาเลยสงสัยหน่วยก้านดี
วันนี้น้ำค่อนข้างขุ่นเลยเห็นไม่ค่อยชัดทริปนี้โดยส่วนตัวเลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ บอกได้เลยว่าดำหลังบ้านนั้นสวยกว่า แฮ่...ลืมปรับวันที่กล้อง ><
พี่ไกด์ดำน้ำเก่งมาก
กลับจากทริปดำน้ำเราก็กลับมาเล่นต่อที่หลังบ้านเรา น้ำจะตื้นกว่าเลยเห็นปะการังได้ชัดๆแบบนี้ค่ะ
ว่ายๆอยู่มีเจ้าหน้าที่ดำน้ำมา หน้าที่หลักพี่เค้าคือการขัดทำความสะอาดบันไดบ้านเราค่ะ กันลื่นพวกตะไคร่น้ำอะไรแบบนี้เค้าก็ชวนเราว่า
เดี๋ยวเค้าพาไปตรงทีสวยๆไม๊พี่เค้าว่ายเร็วมาจนเราตามไม่ทันสุดท้ายต้องเกาะแขนพี่เค้าไปค่ะ
ปลานกแก้ว
ขี้อายจริงกว่าจะถ่ายได้
อุดมสมบูรณ์ค่ะ ไปตรงไหนก็เจอปลา ปลาเยอะมาก
ลอยตัวถ่ายรูปจากในน้ำ
คุณพ่อกำลังพาแม่ไปดำน้ำ ทุลักทุเลเบาๆ 555
selfie ใต้น้ำซักรูป
กิจกรรมที่สามคือการไปดู whale shark อันนี้ต้องตื่นแต่เช้าหน่อยเรือออก 8.30 สวดมนต์ภาวนา 38 วัดขอให้เจอค่ะ
ทริปนี้ใช้เวลานานที่สุด ประมาณ 4 ชม.ได้วันนี้คลื่นลมค่อนข้างแรงค่ะ
หันซ้ายแลขวามีแต่ความเวิ้งว้าง สุดท้ายพวกเราก็ผิดหวังไม่ได้เจอพี่ฉลามวาฬ
ปลาวาฬไม่เจอ เจอแต่ปลา
ขากลับมีแวะดำน้ำนิดหน่อย จุดนี้สวยกว่าเมื่อวานค่ะปลาเยอะว่ายแป๊บๆก็ขึ้นมาแล้ว
สรุปเรื่องกิจกรรมนะคะ โดยส่วนตัวเราคิดว่าการไป snockel ไม่จำเป็นค่ะ เราแนะนำว่าให้ใช้เวลาที่รีสอร์ทให้คุ้มค่าดีกว่า
เพราะยังมีในส่วนของสปาที่เรามีโอกาสได้ไปใช้แค่ 1 วัน ขอแนะนำว่านวดเท้าเริ่ดมากกกกกกกก
กิจกรรมอื่นๆที่เราไม่ได้ไปคือ ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก,ไป local island แล้วเค้ามีแถมเล่น banana boat
กับ fun tube ให้ด้วยซึ่งเราก็ไม่ได้เล่นเหมือนกัน ถ้าให้แนะนำว่าต้องไปเลยคือดู ฉลามวาฬเท่านั้นค่ะ
เพราะว่าถ้าเจอก็ถือว่าคุ้มมากทีเดียวส่วนอย่างอื่นเราว่าธรรมดา
เพิ่มเติม:
กิจกรรมบนเกาะที่ไฮไลท์อีกอย่างคือการโชว์ให้อาหารปลากระเบนค่ะ มีทุกวันตรงโซนห้องอาหารกลาง พอถึงเวลาให้อาหารปุ๊บ
ปลากระเบนก็จะมาว่ายรอใกล้ๆจุดที่เค้าให้อาหารค่ะ ตัวใหญ่มากเราเห็นแล้วแบบโห!!!! ชอบมากกกก มีหลายตัวเลย
วันเดินทางกลับ baby shark มาส่งด้วย
เดี๋ยวเรามาสรุปจบอีกทีให้ใน คห.ถัดไปนะคะข้อความมันเต็มแล้ว 5555