รู้ตัวว่าเป็นต้อกระจกเมื่อราวๆ4ปีก่อน แต่จากการพบแพทย์ได้รับคำแนะนำให้เป็นมากหน่อยแล้วค่อยทำการผ่าตัด จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวเพราะโลกเริ่มมัวมากขึ้นจนรบกวนชีวิตประจำวันมาก อยากไปผ่านานแล้วเหมือนกันแต่ระยะหลังกำลังบิวท์ร่างกายด้วยการเล่นเวทค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับการพัก เพราะอ่านจากข้อมูลคงต้องพักอย่างน้อย2เดือน 2ข้างก็พัก4เดือน แอบกังวลว่ากล้ามอันน้อยนิดจะหดหายไป แล้วในที่สุดก็เลือกผ่าแบบใหม่ที่ใช้อัลตร้าซาวนด์สลายต้อและเลือกเลนส์พิเศษแบบพับเพื่อแผลผ่าตัดจะได้เล็ก ตอนนั้นคิดอย่างเดียวจะได้พักสั้นหน่อย เลือกเสียเงินเองโดยไม่ผ่ากับรพ.ที่ผมมีประกันสังคม แต่ข้อมูลที่ศึกษามาคือหลังผ่าห้ามนอนคว่ำ ห้ามออกแรง ห้ามกระเทือน บางข้อมูลห้ามไอจาม ห้ามสระผมเอง แทบจะห้ามทุกอย่างที่ร่างกายมีการเคลื่อนไหวแรง
หาข้อมูลอยู่นานในที่สุดก็เลือกคุณหมอสุเมธเป็นคลีนิคเพราะอ่านรีวิวคนที่ไปทำค่อนข้างสะดวกและค่าใช้จ่ายถูกกว่าที่อื่น ครั้งแรกทำตาซ้าย แอบกังวลเล็กน้อย ไปถึงคลีนิคราวๆ10โมง หยอดยาขยายม่านตาและยาชา บ่ายโมงกว่าๆก็เข้าห้องผ่าตัด ...... 10นาทีหลังจากเข้าห้องผ่าตัด หมอลงมือทำผมว่าไม่ถึง5นาทีด้วยซ้ำ หลังทำปิดตา แล้วผมก็นั่งรถไฟฟ้าไปเดินเล่นMBK เจ็บน้อยกว่าที่คิดครับ
เช้าวันรุ่งขึ้นเปิดตาเองที่บ้าน โอ้ววววววว ผมมองโลกได้สดใสแบบFull HD ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเดือนหน้าผ่าตาขวา จากก่อนหน้านี้คิดว่าจะทิ้งไว้ซักระยะก่อน แต่มันชัดจนคิดว่ารอไม่ไหวแล้วแต่ที่คลีนิคต้องให้ตาข้างที่ทำไปแล้วหายดีก่อนจึงจะทำให้อีกข้างเพื่อความปลอดภัยและทำให้รู้ว่าเทคโนโลยีแบบนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้ต้อสุก เริ่มเป็นก็ทำได้เลย ผมเลยเสียเวลาให้โลกมัวๆไปหลายปี ที่คลีนิคบอกข้อห้ามเพียงอย่างเดียวหลังผ่าต้อคือ ตาห้ามโดนน้ำและเหงื่อ1เดือน หยอดยาตามเวลา ผมมีถามว่าออกกำลังกายได้ไหม คำตอบคือได้แต่เหงื่อห้ามเข้าตา ยกของหนักได้ไหม คำตอบคือ ยกได้เท่าที่มีแรงยก
ผ่าต้อวันศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ พักผ่อนสบายๆ เดินห้างชิวๆ วันจันทร์ไปทำงานตอนค่ำฟิตเนส
ช่วงแรกก็กลัวๆแต่ที่คลีนิคย้ำว่าไม่มีทางที่เลนส์จะเคลื่อน ผมก็เลยเล่นเวทซะเลย งดคาร์ดิโอเพราะควบคุมเหงื่อลำบาก ผ่านไป1เดือนผมผ่าตาขวา แล้วกิจวัตรก็เหมือนเดิม วันศุกร์ผ่า วันจันทร์ไปทำงานค่ำไปฟิตเนส (ตอนนี้ผ่าตาขวามาได้1อาทิตย์แล้ว) ตอนนี้โลกสดใสคมชัดสมจริงหลังจากใช้ชีวิตมัวๆมานาน ผมออกกำลังกายตามปกติคือจันทร์ถึงศุกร์ ผมไม่คิดว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าขนาดนี้ เรียกได้ว่าผมใช้ชีวิตแทบจะปกติ มีแค่ต้องหยอดตาเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน และระวังไม่ให้น้ำเข้าตา พบแพทย์ให้ตรวจแผลที่ตาหลังจากผ่าไปแล้ว2อาทิตย์และ1เดือน
วิธีการที่ทำให้ผมอาบน้ำสระผมได้อย่างปลอดภัยคือใส่แว่นว่ายน้ำอาบน้ำ ตอนนั้นคิดว่า ว่ายน้ำดำน้ำ น้ำยังไม่เข้า แค่อาบน้ำไม่น่าจะมีปัญหา และไม่มีการล้างหน้าใช้เช็ดหน้าอย่างเดียว ลำบากแค่ระมัดระวังแต่ก็ไม่ลำบาก
ข้อควรระวัง นี่เป็นวิถีของผมที่อาจจะดูเสี่ยงๆเพราะดวงตามีความสำคัญหากติดเชื้ออาจต้องควักลูกตาออก แต่ที่ผมทำเพราะผมคิดว่าผมทำตามคำแนะนำของคลีนิคทุกประการครับ หยอดยาตามเวลาที่กำหนด ไปตรวจตาตามนัด ป้องกันน้ำและเหงื่อเข้าตา สุดท้ายขอบคุณเทคโนโลยี่ที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น และขอบพระคุณคุณหมอสุเมธที่ทำให้โลกผมสดใสและให้ผมรู้ว่า.........ฟ้ายังฟ้าอยู่
ประสบการณ์ผ่าต้อกระจกกับการออกกำลังกาย....
หาข้อมูลอยู่นานในที่สุดก็เลือกคุณหมอสุเมธเป็นคลีนิคเพราะอ่านรีวิวคนที่ไปทำค่อนข้างสะดวกและค่าใช้จ่ายถูกกว่าที่อื่น ครั้งแรกทำตาซ้าย แอบกังวลเล็กน้อย ไปถึงคลีนิคราวๆ10โมง หยอดยาขยายม่านตาและยาชา บ่ายโมงกว่าๆก็เข้าห้องผ่าตัด ...... 10นาทีหลังจากเข้าห้องผ่าตัด หมอลงมือทำผมว่าไม่ถึง5นาทีด้วยซ้ำ หลังทำปิดตา แล้วผมก็นั่งรถไฟฟ้าไปเดินเล่นMBK เจ็บน้อยกว่าที่คิดครับ
เช้าวันรุ่งขึ้นเปิดตาเองที่บ้าน โอ้ววววววว ผมมองโลกได้สดใสแบบFull HD ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเดือนหน้าผ่าตาขวา จากก่อนหน้านี้คิดว่าจะทิ้งไว้ซักระยะก่อน แต่มันชัดจนคิดว่ารอไม่ไหวแล้วแต่ที่คลีนิคต้องให้ตาข้างที่ทำไปแล้วหายดีก่อนจึงจะทำให้อีกข้างเพื่อความปลอดภัยและทำให้รู้ว่าเทคโนโลยีแบบนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้ต้อสุก เริ่มเป็นก็ทำได้เลย ผมเลยเสียเวลาให้โลกมัวๆไปหลายปี ที่คลีนิคบอกข้อห้ามเพียงอย่างเดียวหลังผ่าต้อคือ ตาห้ามโดนน้ำและเหงื่อ1เดือน หยอดยาตามเวลา ผมมีถามว่าออกกำลังกายได้ไหม คำตอบคือได้แต่เหงื่อห้ามเข้าตา ยกของหนักได้ไหม คำตอบคือ ยกได้เท่าที่มีแรงยก
ผ่าต้อวันศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ พักผ่อนสบายๆ เดินห้างชิวๆ วันจันทร์ไปทำงานตอนค่ำฟิตเนส
ช่วงแรกก็กลัวๆแต่ที่คลีนิคย้ำว่าไม่มีทางที่เลนส์จะเคลื่อน ผมก็เลยเล่นเวทซะเลย งดคาร์ดิโอเพราะควบคุมเหงื่อลำบาก ผ่านไป1เดือนผมผ่าตาขวา แล้วกิจวัตรก็เหมือนเดิม วันศุกร์ผ่า วันจันทร์ไปทำงานค่ำไปฟิตเนส (ตอนนี้ผ่าตาขวามาได้1อาทิตย์แล้ว) ตอนนี้โลกสดใสคมชัดสมจริงหลังจากใช้ชีวิตมัวๆมานาน ผมออกกำลังกายตามปกติคือจันทร์ถึงศุกร์ ผมไม่คิดว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าขนาดนี้ เรียกได้ว่าผมใช้ชีวิตแทบจะปกติ มีแค่ต้องหยอดตาเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน และระวังไม่ให้น้ำเข้าตา พบแพทย์ให้ตรวจแผลที่ตาหลังจากผ่าไปแล้ว2อาทิตย์และ1เดือน
วิธีการที่ทำให้ผมอาบน้ำสระผมได้อย่างปลอดภัยคือใส่แว่นว่ายน้ำอาบน้ำ ตอนนั้นคิดว่า ว่ายน้ำดำน้ำ น้ำยังไม่เข้า แค่อาบน้ำไม่น่าจะมีปัญหา และไม่มีการล้างหน้าใช้เช็ดหน้าอย่างเดียว ลำบากแค่ระมัดระวังแต่ก็ไม่ลำบาก
ข้อควรระวัง นี่เป็นวิถีของผมที่อาจจะดูเสี่ยงๆเพราะดวงตามีความสำคัญหากติดเชื้ออาจต้องควักลูกตาออก แต่ที่ผมทำเพราะผมคิดว่าผมทำตามคำแนะนำของคลีนิคทุกประการครับ หยอดยาตามเวลาที่กำหนด ไปตรวจตาตามนัด ป้องกันน้ำและเหงื่อเข้าตา สุดท้ายขอบคุณเทคโนโลยี่ที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น และขอบพระคุณคุณหมอสุเมธที่ทำให้โลกผมสดใสและให้ผมรู้ว่า.........ฟ้ายังฟ้าอยู่