ได้ยินมาหลายๆหนเรื่องว่าศาสนานั่นเสื่อมลงไปแลเว ใช้ไม่ได้แล้วหรือยังไง????
ขอบอกว่าส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำว่า ศาสนาเสื่อม เท่าไรนะคะ จะว่าไงดีล่ะ...
พระพุทธศาสนาตามที่เรารู้ในสมัยของพระพุทธองค์ของเรานี้ ได้ถูกทำนายไว้ว่าจะมีอยู่เพียง 5000 ปีเท่านั้น ซึ่งตามประวัติ 2500 ปีแรกพระสงฆ์ จะรับหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่ศาสนา แต่หลังจากนั้นจะเป็นพวกเทพอาสารับช่วงต่อ บ้างก็ว่า เทพรับช่วงต่อ 1250 ปี จากนั้นจะเป็นพวกมารอีก 1250 ปี จนสุดท้ายก็จะไม่มีพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์อีกหรือสูญไปในที่สุด
มีคนเคยพูดให้ได้ฟังไว้ว่า "ศาสนาพุทธก็เหมือนดินสอ"
---องค์ความรู้หรือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ เปรียบเสมือนไส้หรือ แท่งแกนดินสอที่อยู่ภายใน
---และพระสงฆ์ หรืออาจจะรวมถึงพุทธศาสนิกชนด้วยก็เป็นได้ ที่ก็เปรียบเหมือนเปลือกดินสอไม้ ที่ห่อหุ่มแก่นแท้นั้นเอาไว้
ท่านว่า หากไม่มีเปลือกนี้ห่อหุ่มไว้ แกนข้างในก็คงจะแตกหัก เราก็จะเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้
หากถามว่าศาสนาเสื่อมลงไหม?? เอาจริงๆมองกันตรงๆเลยก็คงเป็นแค่ส่วนเปลือกที่ห่อหุ่ม ที่ส่งต่อกันมา นั้นคือ.. อย่างว่าเราอาจจะได้เห็นข่าว มีพระสงฆ์ที่ประพฤติตนไม่สมควรเท่าไร บ้างก็ทำให้คนที่ไม่ค่อยเข้าใจธรรมะก็เสื่อมศรัทธาไปด้วย แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว พระพุทธองค์ท่านบัญยัติไว้ว่าพระสงฆ์ที่เราเจาะเจอเดินบิณทบาตรทั่วไป ท่านเป็นแค่สมมุติสงฆ์เท่านั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าพระสงฆ์แต่ละรูปนั้นจะประพฤติตนเป็นสงฆ์หรือไม
ส่วนตัวก็เคยมีความรู้สึกไม่ดีในเรื่องนี้บ้างเหมือนกันนะ แต่เราก็ตอบตัวเองได้ว่า เราเคารพและกราบผ้าเหลืองของพระพุทธเจ้า คุณของผ้าเหลืองนี่แหละที่ทำให้เรายังได้มาพบเจอพระพุทธศาสนา
แล้วก็อีกอย่างวัดในเมือง วัดตามสังคมทุนนิยม วัดสวยๆงามๆก็ดีอยู่นะ ดีจริงเปล่าไม่รู้สิ แต่เราก็เข้าไปถ่ายรูปไปดูศาลาสวยๆกัน เชิญชวนให้ทำบุญหยดตู้นี้ชาติหน้าจะได้มีปัญหานะโยม ได้มีทรัพย์มีลาภประเสริฐ จะได้นั่นจะได้นี่ ...!??-คือบอกตรงๆเราไม่ชอบวิธีการที่วัดหลายๆที่เป็นอย่างนี้เลยจริงๆ มันเป็นการทำให้งมงายไม่เกิดปัญญาเลย ไม่ใช่ว่าถ่ายรูปลงโซเชียวไม่ได้ไรงี่นะ เราก็เปนคนหนึ่งที่ทำ แต่ว่าเราที่เข้าวัดไปถึงที่นั่นแล้ว เราทำอะไรให้ตัวเองมีสติปัญญามากขึ้นไหม รู้สึก ไอ้วัดที่สวยๆ ศาลาที่สวยๆดูจะไม่ใช่หนทางเลย

แต่ก็เอาเถอะ
อีกอย่างหนึ่งเอาแค่พวกเราเอง ที่เรียกตัวเองกันว่าคนไทยพุทธ นับถือศาสนาพุทธ เอาเข้าจริงๆ เป็นพุทธกันแค่ตามใบเกิด ตามบัตรประชาชนกันมากมายครึ่งค่อนประเทศเลย หลายๆคนชอบทำบุญนะ โตมาก็ได้ยินว่า "มีแต่คนแก่ไปวัด" "อกหักหรอไปบวชนะ" พวกที่บวชทดแทนคุณพ่อแม่ก็ดีนะ แต่โดยมากแล้ว ก็บวชแค่กาย มีโอกาสห่มผ้าเหลืองทางกาย บวชใจก็ยังหาได้ยากอยู่...
ขอเล่าจากประสบการณ์ตรงเลยเพื่อนเราเองบวชพระไอ้เราก็ไปเยี่ยมซื้อของไปถวาย เพื่อนพระก็มานั่งคุยด้วย ตอนนั้นก็เป็นพระห่มผ้าเหลืองยังมาพูดกะพวกเราว่าสมัยไหนแล้วที่พระพุทธเจ้าสอนมันใช้ไม่ได้แล้ว นั่งบ่นอยู่นมนาน จนเราแทบจะชี้นิ้วด่า นึกแล้วก็บาปกรรม ก็ได้แต่บอกไปว่า ถ้าคิดว่าไม่ใช่แล้วจะมานั่งบ่นเรื่องพระพุทธศาสนาทั้งๆที่ตัวเองเป็นพระอยู่ ให้มันร้อนผ้าเหลืองทำไม ไอ้พระเพื่อนนั้นก็บอกว่าก็มันพูดความจริง !! แล้วเราก็บอกเพื่อนว่าเราจะไม่ไปเยี่ยมอีกแล้ว รอเจอตอนสึกพอ เพลียมากเลย เรารู้สึกบาปมากเลยอ่ะวันนั้น เนี่ย พวก ผช ก็บวชเรียนมา บวชแค่กายจริงๆเลยนะ บวชเป็นประเพณีกันไป แต่ก็ถือว่าก็ดีอ่ะนะ เทปเป็น ผญ,แม่อยากได้ลูก ผช อยากให้บวชให้ แม่ก็ไม่มีลูก ผช .... บอกตรงๆอิจฉาพวก ผช ก็ตรงเนี๊ย แต่พอเห็นบางคนบวชแล้วไม่ได้อะไรก็รู้สึกเสียดายแทนจริงๆ ...
ขอถามหน่อยพวกที่บวชๆกันมา หรือว่าที่เราเป็นชาวพุทธ หรือที่เรียนจากโรงเรียนมา พวกเรารู้กันจริงๆหรือว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร หรือรู้แค่ว่า... ทำบุญดี จะได้ไม่ตกนรก ทำดีขึ้นสวรรค์ ทำกรรมไม่ดีก็ได้รับผลกรรมของตน ควรทำกรรมดีไว้ ... รู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วสำเร็จพระนิพพาน แล้วรู้จริงๆกันหรือป่าวว่า..
"นิพพานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มันคืออะไร?"
แล้วเราก็บอกว่ามันไกลตัวเรามาก บารมีไม่ถึงท่านหรอก มันเป็นไปไม่ได้หรอ เราคนทั่วไป ต้องบวชถึงจะอรหันนั่นนี่อีก คือเอาแค่รู้หรือยังว่ามันเป็นไปได้จริงๆหรือ ว่ามันคืออะไร เมื่อก่อนเราเองยังเคยเข้าใจว่า นิพพานคือชดใช้กรรมจนหมดแล้วก็นิพพาน ดูสิ!! โง่ศาสนามากแต่ได้เกรด 3-4 ตลอด เพื่อ!? ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เราต่างบอกว่าพวกเราเป็นชาวพุทธ จะมีสักกี่คนที่รู้ว่านิพพานเกิดขึ้นได้อย่างไร วิธีการคืออย่างไร เราแค่รับรู้เอามาว่า นิพพานคือไม่ต้องเกิดแล้วเท่านั้น แล้วก็ด้วยความที่ไม่เข้าใจ ไกลตัวไม่น่าเชื่อ หลายคนก็คิดว่าคงเป็นแค่นิทานสอนให้เราทำดี มีจริงหรอ ใครบอกล่ะว่ามีจริง พิสูจน์ งงงายว่ะ??
ถ้าประเทศเราแบบว่ามีแบบว่า เป็นคนไม่มีศาสนาไปเลยก็คงดีนะนี่ เพราะคนพุทธที่ไม่ค่อยมั่นใจในคำสอนทั่วๆไปก็มีไม่น้อย แถมไม่เชื่อในพุทธยังมีอยู่ทั่วไปเลย แบบนี้ที่ศาสนามันจะยิ่งทำให้เสื่อมลง เพราะพวกเราเองด้วยหรือเปล่า ???
เราเคยไปเรียนต่างประเทศฝรั่งมาถามว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร อันนี้ก็พอตอบได้ แต่พอให้อธิบายนิพพานคือไร ... ตายค่ะ! อายตัวเองที่ตอบไม่ได้จริงๆ แต่ก็เถอะนะ
เพราะเอาจริงๆนี่ก็ยุคที่ดำเนินผ่านไปกว่า 2557 ปีแล้ว นั่นคือเราก็อยู่ในยุคหลังของพระพุทธศาสนาแล้ว ส่วนตัวหนูเองกว่าจะได้เข้ามาศึกษาได้พอจะเข้าถึงและเข้าใจในพระพุทธศาสนา และมีโอกาสปฏิบัติวิปัสสนามาบ้าง จากนั้นมาก็บอกกับตัวเองว่า "ฉันเป็นพุทธ" ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ก็ปาเวลาผ่านไป 21-22 ปีแล้ว
สำหรับตัวหนูหนูบอกได้เลยว่าเรื่องพวกคำแบบว่าบาลี คำอธิบายศัพท์เฉพาะในหนังสือ หนูรู้น้อยมากจริงๆ เพราะหนูไม่เคยเรียนปริยัตรเลย และก็อ่านหนังสือธรรมะไรก็ไม่ค่อยอ่าน บอกตรงๆว่าได้จากการไปลองทำและเห็นด้วยตัวเองเท่านั้นจริงๆ
จากประสบการณ์ส่วนตัวคิดว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ไม่ต้องเชื่อคำสอนใครไม่ต้องเชื่อแม้แต่ที่พระพุทธเจ้าบอกไว้ แต่ก็ต้องเห็นต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองจริงๆ ไม่สงสัยว่าทำไมถึงถูกเรียกว่า ศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์ ถ้าหากใครที่เคยได้มีโอกาสเข้ากรรมฐานปฏิบัติวิปัสสนาจะรู้เลยว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่อยากให้พวกเราเสื่อมศรัทธา หากมีโอกาสได้พบเจอพระอาจารย์ที่มีเมตตาปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริงๆ และสามารถแนะนำให้ความอันมีคุณค่านี้ ให้ไปในทางทีถูกที่ควรจริงๆ หากวันนี้คุณก็ยังเป็นคนหนึ่งที่อาจจะยังไม่ค่อยแน่ใจหรือเข้าอะไรเลบ แต่ขอให้เชื่อในความดี อย่างน้อยก็ความดีที่มีต่อพ่อแม่ พี่น้องเพื่อนฟูงเข้าไว้นะคะ ขอให้เชื่อในคุณความดีและขอให้เจอพระอาจารย์ที่ควรแก่การกราบไหว้และอนุเคราะห์จะดีมากๆเลย
หนูก็ยังไม่ได้ไปถึงญาณขั้นไหนๆหรืออะไรมากมายหรอกนะคะ แต่แค่อยากจะบอกว่า เรื่องแบบนี้ไม่ออกไปเรียนรู้เองก็ไม่มีทางเข้าใจหรอกค่ะ ก็ไม่พ้นมานั่งคอมเม้นถกกันไปกันมานะคะ ถ้าสงสัยอยากรู้จริงก็เดินเข้าไปดูมันให้ชัดค่ะ แต่ก็ขอให้มีโอกาสเลือกในแนวทางที่ถูกที่ควรอย่าได้ไปผิดทาง หรืออย่างไรเลย เราจะได้ช่วยกันส่งต่อคำสอน สืบสานต่อแนวทางแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าและได้อยู่ในกระแสแห่งพระนิพพานตราบจนถึงกาลอันควรทุกผู้ทุกคนนะคะ
ไม่ต้องเชื่อที่หนูเขียนมาทั้งหมดนี่ก็ได้นะคะ แต่ก็ลองหาคำตอบดู หากสนใจอยากจะรู้
ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบ ..
ศาสนาเสื่อมหมดแล้ว!??
ขอบอกว่าส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำว่า ศาสนาเสื่อม เท่าไรนะคะ จะว่าไงดีล่ะ...
พระพุทธศาสนาตามที่เรารู้ในสมัยของพระพุทธองค์ของเรานี้ ได้ถูกทำนายไว้ว่าจะมีอยู่เพียง 5000 ปีเท่านั้น ซึ่งตามประวัติ 2500 ปีแรกพระสงฆ์ จะรับหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่ศาสนา แต่หลังจากนั้นจะเป็นพวกเทพอาสารับช่วงต่อ บ้างก็ว่า เทพรับช่วงต่อ 1250 ปี จากนั้นจะเป็นพวกมารอีก 1250 ปี จนสุดท้ายก็จะไม่มีพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์อีกหรือสูญไปในที่สุด
มีคนเคยพูดให้ได้ฟังไว้ว่า "ศาสนาพุทธก็เหมือนดินสอ"
---องค์ความรู้หรือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ เปรียบเสมือนไส้หรือ แท่งแกนดินสอที่อยู่ภายใน
---และพระสงฆ์ หรืออาจจะรวมถึงพุทธศาสนิกชนด้วยก็เป็นได้ ที่ก็เปรียบเหมือนเปลือกดินสอไม้ ที่ห่อหุ่มแก่นแท้นั้นเอาไว้
ท่านว่า หากไม่มีเปลือกนี้ห่อหุ่มไว้ แกนข้างในก็คงจะแตกหัก เราก็จะเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้
หากถามว่าศาสนาเสื่อมลงไหม?? เอาจริงๆมองกันตรงๆเลยก็คงเป็นแค่ส่วนเปลือกที่ห่อหุ่ม ที่ส่งต่อกันมา นั้นคือ.. อย่างว่าเราอาจจะได้เห็นข่าว มีพระสงฆ์ที่ประพฤติตนไม่สมควรเท่าไร บ้างก็ทำให้คนที่ไม่ค่อยเข้าใจธรรมะก็เสื่อมศรัทธาไปด้วย แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว พระพุทธองค์ท่านบัญยัติไว้ว่าพระสงฆ์ที่เราเจาะเจอเดินบิณทบาตรทั่วไป ท่านเป็นแค่สมมุติสงฆ์เท่านั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าพระสงฆ์แต่ละรูปนั้นจะประพฤติตนเป็นสงฆ์หรือไม
ส่วนตัวก็เคยมีความรู้สึกไม่ดีในเรื่องนี้บ้างเหมือนกันนะ แต่เราก็ตอบตัวเองได้ว่า เราเคารพและกราบผ้าเหลืองของพระพุทธเจ้า คุณของผ้าเหลืองนี่แหละที่ทำให้เรายังได้มาพบเจอพระพุทธศาสนา
แล้วก็อีกอย่างวัดในเมือง วัดตามสังคมทุนนิยม วัดสวยๆงามๆก็ดีอยู่นะ ดีจริงเปล่าไม่รู้สิ แต่เราก็เข้าไปถ่ายรูปไปดูศาลาสวยๆกัน เชิญชวนให้ทำบุญหยดตู้นี้ชาติหน้าจะได้มีปัญหานะโยม ได้มีทรัพย์มีลาภประเสริฐ จะได้นั่นจะได้นี่ ...!??-คือบอกตรงๆเราไม่ชอบวิธีการที่วัดหลายๆที่เป็นอย่างนี้เลยจริงๆ มันเป็นการทำให้งมงายไม่เกิดปัญญาเลย ไม่ใช่ว่าถ่ายรูปลงโซเชียวไม่ได้ไรงี่นะ เราก็เปนคนหนึ่งที่ทำ แต่ว่าเราที่เข้าวัดไปถึงที่นั่นแล้ว เราทำอะไรให้ตัวเองมีสติปัญญามากขึ้นไหม รู้สึก ไอ้วัดที่สวยๆ ศาลาที่สวยๆดูจะไม่ใช่หนทางเลย
อีกอย่างหนึ่งเอาแค่พวกเราเอง ที่เรียกตัวเองกันว่าคนไทยพุทธ นับถือศาสนาพุทธ เอาเข้าจริงๆ เป็นพุทธกันแค่ตามใบเกิด ตามบัตรประชาชนกันมากมายครึ่งค่อนประเทศเลย หลายๆคนชอบทำบุญนะ โตมาก็ได้ยินว่า "มีแต่คนแก่ไปวัด" "อกหักหรอไปบวชนะ" พวกที่บวชทดแทนคุณพ่อแม่ก็ดีนะ แต่โดยมากแล้ว ก็บวชแค่กาย มีโอกาสห่มผ้าเหลืองทางกาย บวชใจก็ยังหาได้ยากอยู่...
ขอเล่าจากประสบการณ์ตรงเลยเพื่อนเราเองบวชพระไอ้เราก็ไปเยี่ยมซื้อของไปถวาย เพื่อนพระก็มานั่งคุยด้วย ตอนนั้นก็เป็นพระห่มผ้าเหลืองยังมาพูดกะพวกเราว่าสมัยไหนแล้วที่พระพุทธเจ้าสอนมันใช้ไม่ได้แล้ว นั่งบ่นอยู่นมนาน จนเราแทบจะชี้นิ้วด่า นึกแล้วก็บาปกรรม ก็ได้แต่บอกไปว่า ถ้าคิดว่าไม่ใช่แล้วจะมานั่งบ่นเรื่องพระพุทธศาสนาทั้งๆที่ตัวเองเป็นพระอยู่ ให้มันร้อนผ้าเหลืองทำไม ไอ้พระเพื่อนนั้นก็บอกว่าก็มันพูดความจริง !! แล้วเราก็บอกเพื่อนว่าเราจะไม่ไปเยี่ยมอีกแล้ว รอเจอตอนสึกพอ เพลียมากเลย เรารู้สึกบาปมากเลยอ่ะวันนั้น เนี่ย พวก ผช ก็บวชเรียนมา บวชแค่กายจริงๆเลยนะ บวชเป็นประเพณีกันไป แต่ก็ถือว่าก็ดีอ่ะนะ เทปเป็น ผญ,แม่อยากได้ลูก ผช อยากให้บวชให้ แม่ก็ไม่มีลูก ผช .... บอกตรงๆอิจฉาพวก ผช ก็ตรงเนี๊ย แต่พอเห็นบางคนบวชแล้วไม่ได้อะไรก็รู้สึกเสียดายแทนจริงๆ ...
ขอถามหน่อยพวกที่บวชๆกันมา หรือว่าที่เราเป็นชาวพุทธ หรือที่เรียนจากโรงเรียนมา พวกเรารู้กันจริงๆหรือว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร หรือรู้แค่ว่า... ทำบุญดี จะได้ไม่ตกนรก ทำดีขึ้นสวรรค์ ทำกรรมไม่ดีก็ได้รับผลกรรมของตน ควรทำกรรมดีไว้ ... รู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วสำเร็จพระนิพพาน แล้วรู้จริงๆกันหรือป่าวว่า..
"นิพพานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มันคืออะไร?"
แล้วเราก็บอกว่ามันไกลตัวเรามาก บารมีไม่ถึงท่านหรอก มันเป็นไปไม่ได้หรอ เราคนทั่วไป ต้องบวชถึงจะอรหันนั่นนี่อีก คือเอาแค่รู้หรือยังว่ามันเป็นไปได้จริงๆหรือ ว่ามันคืออะไร เมื่อก่อนเราเองยังเคยเข้าใจว่า นิพพานคือชดใช้กรรมจนหมดแล้วก็นิพพาน ดูสิ!! โง่ศาสนามากแต่ได้เกรด 3-4 ตลอด เพื่อ!? ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เราต่างบอกว่าพวกเราเป็นชาวพุทธ จะมีสักกี่คนที่รู้ว่านิพพานเกิดขึ้นได้อย่างไร วิธีการคืออย่างไร เราแค่รับรู้เอามาว่า นิพพานคือไม่ต้องเกิดแล้วเท่านั้น แล้วก็ด้วยความที่ไม่เข้าใจ ไกลตัวไม่น่าเชื่อ หลายคนก็คิดว่าคงเป็นแค่นิทานสอนให้เราทำดี มีจริงหรอ ใครบอกล่ะว่ามีจริง พิสูจน์ งงงายว่ะ??
ถ้าประเทศเราแบบว่ามีแบบว่า เป็นคนไม่มีศาสนาไปเลยก็คงดีนะนี่ เพราะคนพุทธที่ไม่ค่อยมั่นใจในคำสอนทั่วๆไปก็มีไม่น้อย แถมไม่เชื่อในพุทธยังมีอยู่ทั่วไปเลย แบบนี้ที่ศาสนามันจะยิ่งทำให้เสื่อมลง เพราะพวกเราเองด้วยหรือเปล่า ???
เราเคยไปเรียนต่างประเทศฝรั่งมาถามว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร อันนี้ก็พอตอบได้ แต่พอให้อธิบายนิพพานคือไร ... ตายค่ะ! อายตัวเองที่ตอบไม่ได้จริงๆ แต่ก็เถอะนะ
เพราะเอาจริงๆนี่ก็ยุคที่ดำเนินผ่านไปกว่า 2557 ปีแล้ว นั่นคือเราก็อยู่ในยุคหลังของพระพุทธศาสนาแล้ว ส่วนตัวหนูเองกว่าจะได้เข้ามาศึกษาได้พอจะเข้าถึงและเข้าใจในพระพุทธศาสนา และมีโอกาสปฏิบัติวิปัสสนามาบ้าง จากนั้นมาก็บอกกับตัวเองว่า "ฉันเป็นพุทธ" ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ก็ปาเวลาผ่านไป 21-22 ปีแล้ว
สำหรับตัวหนูหนูบอกได้เลยว่าเรื่องพวกคำแบบว่าบาลี คำอธิบายศัพท์เฉพาะในหนังสือ หนูรู้น้อยมากจริงๆ เพราะหนูไม่เคยเรียนปริยัตรเลย และก็อ่านหนังสือธรรมะไรก็ไม่ค่อยอ่าน บอกตรงๆว่าได้จากการไปลองทำและเห็นด้วยตัวเองเท่านั้นจริงๆ
จากประสบการณ์ส่วนตัวคิดว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ไม่ต้องเชื่อคำสอนใครไม่ต้องเชื่อแม้แต่ที่พระพุทธเจ้าบอกไว้ แต่ก็ต้องเห็นต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองจริงๆ ไม่สงสัยว่าทำไมถึงถูกเรียกว่า ศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์ ถ้าหากใครที่เคยได้มีโอกาสเข้ากรรมฐานปฏิบัติวิปัสสนาจะรู้เลยว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่อยากให้พวกเราเสื่อมศรัทธา หากมีโอกาสได้พบเจอพระอาจารย์ที่มีเมตตาปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริงๆ และสามารถแนะนำให้ความอันมีคุณค่านี้ ให้ไปในทางทีถูกที่ควรจริงๆ หากวันนี้คุณก็ยังเป็นคนหนึ่งที่อาจจะยังไม่ค่อยแน่ใจหรือเข้าอะไรเลบ แต่ขอให้เชื่อในความดี อย่างน้อยก็ความดีที่มีต่อพ่อแม่ พี่น้องเพื่อนฟูงเข้าไว้นะคะ ขอให้เชื่อในคุณความดีและขอให้เจอพระอาจารย์ที่ควรแก่การกราบไหว้และอนุเคราะห์จะดีมากๆเลย
หนูก็ยังไม่ได้ไปถึงญาณขั้นไหนๆหรืออะไรมากมายหรอกนะคะ แต่แค่อยากจะบอกว่า เรื่องแบบนี้ไม่ออกไปเรียนรู้เองก็ไม่มีทางเข้าใจหรอกค่ะ ก็ไม่พ้นมานั่งคอมเม้นถกกันไปกันมานะคะ ถ้าสงสัยอยากรู้จริงก็เดินเข้าไปดูมันให้ชัดค่ะ แต่ก็ขอให้มีโอกาสเลือกในแนวทางที่ถูกที่ควรอย่าได้ไปผิดทาง หรืออย่างไรเลย เราจะได้ช่วยกันส่งต่อคำสอน สืบสานต่อแนวทางแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าและได้อยู่ในกระแสแห่งพระนิพพานตราบจนถึงกาลอันควรทุกผู้ทุกคนนะคะ
ไม่ต้องเชื่อที่หนูเขียนมาทั้งหมดนี่ก็ได้นะคะ แต่ก็ลองหาคำตอบดู หากสนใจอยากจะรู้
ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบ ..