ใครอยากทำธุรกิจเองต้องอ่าน !!! สรุปคำสอนด้านเศรษฐศาสตร์มาสอนทำธุรกิจ จากผู้รู้ประสบการณ์จริงระดับพันล้าน !!

https://www.facebook.com/821012217919231/photos/a.821026284584491.1073741827.821012217919231/849431568410629/?type=1&theater

1/10 ถึงไอ้พวกที่ชอบ inbox เข้ามาถามกูซ้ำๆๆๆๆๆ ว่าจะทำธุรกิจอะไรดี จะหาเงินยังไงดี อยากรวยทำไง มัดรวมกันมาเลย กูตอบให้ทีเดียว ใช้ไปได้ตลอดชีวิต

บทนำ, คำถามนี้ ยิ้มเป็นคำถามอันดับ 1 กูไม่อยากจะตอบ เพราะมันเสียเวลา แต่ถ้าถามกูว่า ถ้าให้เลือก 1 ใน 10 เรื่องสุดท้าย กูจะเลือกเรื่องนี้

คำถามที่ว่า กูมีเงิน 500k จะทำอะไรดี เอ้า ไอ้สัส ถามกู แล้วกูจะรู้ไหม ไม่ใช่กู กูไม่ใช่ แต่คนที่ถามอย่างงี้เพราะว่า ยังไม่รู้เรา

การจะหาเงิน การจะรวย เหมือนวางแผนรบน่ะแหละ ต้องรู้เขา รู้เรา รบ 100 ea ชนะ 100 ea แต่ตกม้าตายตั้งแต่ ยังไม่รู้ตัวเองเลย แต่นั่นโชคดีแล้ว ที่เจอกู กูจะสอนมวยพวกให้เอง

วันนี้ กูไม่ได้สอนให้รู้เขา แต่สอนให้รู้เรา เพราะว่า เขา มันมีหลายบริบท มันเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพ คล้ายๆ 5 forces ที่กูบอกไป อย่าไปจำแบบ text ล่ะ ลงมือทำเลย เจ็บ แล้วจะจำ แต่อย่าทุ่มสุดตัวเหมือนเล่น poker ล่ะ ใช้เงินน้อยๆ อย่าโทษว่าไม่มีเงิน ไม่มีเวลา ไม่มีคน ใครๆก็ไม่มีเหมือนกันแหละ เราเริ่มต้นที่จุดเดียวกัน

ก่อนจะเริ่มต้นทำอะไร ดูตามภาพเลย ไม่ต้องนั่งเทียน กูบอกเอง มันจะมี ความถนัด, ความชอบ, เศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ

เนื้อเรื่อง,

1. ความถนัด

การเริ่มต้นจากความถนัด มันจะมีต้นทุนที่ถูกที่สุด เช่น ทำงานเกี่ยวกับเกษตรกรรม ก็ควรเริ่มจากสิ่งที่ถนัด สิ่งที่อยู่กับมัน เป็นต้น ไม่ใช่ ทำเกี่ยวกับปลูกผัก ยิ้มจะไปซื้อรถเทรลเลอร์มาปล่อยเช่า ทำแบบนี้ โอกาสเจ๊งสูง เพราะไม่มีความถนัด ไม่มีประสบการณ์ เจ๊งแน่นอน

แต่ถามว่า ถ้ากูไม่ถนัด แล้วกูก็ทำไม่ได้เลยหรอ

ตอบเลย ว่าไม่ใช่ ความถนัด มันก็คือความถนัด อยากถนัด ก็หมั่นฝึกฝน หรือหาความรู้ แบบที่กูบอกไปรัวๆ แต่คงยากว่ะ คนไทยส่วนใหญ่มีการเรียนรู้ต่ำ อ่านหนังสือน้อย พูดง่ายๆว่าโง่แล้วยิ้มไม่เรียนรู้

นั่นแหละ ข้อนี้สำคัญที่สุด หาสิ่งที่ถนัดก่อน กูไม่รู้ว่าพวกถนัดอะไร ต้นทุนอะไรถูกที่สุด กูเลยขี้เกียจตอบพวก คำตอบนี้ ไม่ใช่กูต้องไปหาคำตอบให้ แต่ต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง

2. ความชอบ

บางเรื่องรัก แต่ไม่ถนัด บางเรื่องถนัด แต่ไม่รัก

แต่จะดีมากๆ ถ้าถนัด และรัก ในสิ่งที่ทำด้วย เพราะมันจะทำให้เหมือนไม่ได้ทำงาน จะมีความอดทนกับปัญหาได้มากกว่า พูดไปก็ยาว เดี๋ยวต้องมีพวกโง่ๆ บอกว่ายาวไม่อ่านอีก กูยกตัวอย่างเลยแล้วกัน

สมมติว่าชอบแต่งตัว แล้วทำธุรกิจกับเสื้อผ้า จะทำได้ดีกว่า คนที่ทำธุรกิจเสื้อผ้า แต่ไม่แต่งตัว เพราะว่ามีความชอบเป็นทุนเดิมไง จะสังเกต เปรียบเทียบ ด้วยความสนุก มีความสุขในสิ่งที่ทำ

ข้อ 1 กับ ข้อ 2 นี้ เป็นสิ่งที่ต้องมี ถ้าไม่มี อย่าไปเริ่มทำธุรกิจ โดยเฉพาะพวกทำตามกระแส มันเจ๊งกันมาเยอะแล้ว กูรู้เลย พวกที่อ่าน ยิ้มต้องมีคนเจ๊งเพราะทำตามๆกันมาบ้าง เออ ช่างยิ้มเหอะนะ เจ็บแล้วจำ

แต่ไม่จำเป็นว่า ต้องมีพร้อมนะ มี 1 ไม่มี 2 ก็พอทำได้ หรือมี 2 ไม่มี 1 ก็ยังพอไหว ถ้ามีปัจจัยเกื้อหนุนข้อ 3 อยู่ งงป่ะวะ จริงๆไปได้ไกลกว่านี้ แต่เดี๋ยวมันจะลึกล้ำไป

3. เศรษฐกิจ

ดูสภาพเศรษฐกิจเลย ถามว่าดูยังไง พวกยิ้มโง่ๆกัน กูเชื่อว่า พวกคงไม่รู้แน่นอน เพราะกูเคยทำวิจัยมาแล้ว กับคนในบริษัทกู พวกปัญญาชนเลยนะเว้ยย กูถามว่าเศรษฐศาสตร์ คือ อะไร ยิ้มตอบกันไม่ได้เว้ยยย มิน่าต้องมารับเงินเดือนกูอยู่ ส่วนกูทำเป็นนั่งหน้าตาคร่ำเคร่ง แต่จริงๆเปิดเพจมันแกวอยู่ 55555

เศรษฐกิจ VS เศรษฐศาสตร์ กูต้องบอกก่อนเลยว่า ไอ้พวกที่มันคิดศัพท์ ยิ้มวิจิตรเกินไป มันทำให้เข้าใจยาก เขียนยาก เหมือนว่าเป็นคนมีความรู้ แบ่งแยกคนโง่ เหมือนกูจิบไวน์แพงๆ แล้วทำหน้าฟิน วิจารณ์ไวน์ ทำให้คนที่นั่งด้วยเป็นไอ้โง่

ก้าวข้ามมาเลย มันคือ economic มันแปลง่ายๆว่า วิชาแห่งความสมดุล, ประหยัด, มีประสิทธิภาพ อันนี้ไม่ต้องไปหาหรอก กูแปลเอง 555

กูบอกแบบติ้นเขินแล้วกัน เรื่อง economic กูยิ้มวงในสัสๆๆ กู 20+ ไปสอนเรื่องนี้กับพวก ป.โท มาแล้ว โหดสัสไหมล่ะ เพราะกูระดับพันล้านไง ประเทศไทยยิ้มเห็นมีเงินหน่อย ก็ชาบูแล้ว กูก็คนธรรมดาเนี่ยแหละ แทบไม่ต่างจากพวกเลย เตะบอล เล่นแร็ค เล่น counter เกรียนในเพจ 555

ก้าวข้ามมาเลย Thai Economic ดูไม่กี่ข้อหรอก กูเริ่มเหนื่อยแล้ว
1. GDP ในประเทศไทย มันเหมือนภาพรวมของประเทศ อย่าถามว่ามันคืออะไร ในยุคที่ google ครองโลก ไปหาข้อมูลเอาเอง เรื่องนี้ยิ้มพื้นฐานสัสๆ
2. อัตราเงินลงทุนของต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในไทย ไอ้พวกเล่นหุ้นไม่นับ เน้นพวกลงทุนทางตรง เช่น สร้างโรงงาน เป็นต้น พวกเล่นหุ้น มันเล่นรอบกัน แปบๆมาก็ไป ในประเทศที่ผลตอบแทนมากกว่า พวกก็เงิบ เสียหุ้นกัน 5555
3. อัตราการส่งออกของประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งการส่งออก 70% ถ้าส่งออกไม่ได้ เกมส์ยาวๆ เศรษฐกิจพังแน่ๆ รอดู กูถึงบอกว่า อย่าไปไฝ้วกับ EU กับ USA มาก กูเสียว
4. โครงการลงทุนของภาครัฐ เพราะการก่อสร้างของภาครัฐ มันจะมีอัตราส่วนพอๆกับ ภาคเอกชน ถ้าลงทุนเยอะๆเมื่อไหร่ ก็เตรียมยิ้มได้เลย แต่เรื่องนี้ถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ลงทุนให้ตลอดวะ มันก็จะเข้าไปสู่ทฤษฎีทาง economic มากมาย กูขี้เกียจเล่าต่อล่ะ เอาเป็นว่ามันมีข้อดี ข้อเสีย economic คือ ความสมดุล

ส่วนไอ้พวกราคาทอง ราคาน้ำมัน ดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ไม่ต้องไปดูหรอก เสียเวลา แต่ถ้าอยากเก็ง กูก็ซื้อๆกันเหมาๆไป ช่างยิ้ม แต่กูไม่ซื้อ กูมีแนวคิดที่ว่า อย่าไปเล่นกับของพวกนี้ โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ จอร์จโอรส พวกรวยๆบินมาเยอะแล้ว เวลา import export ก็ไม่ต้องสนใจ ว่าจะ unhedge จะ Forward จะ Option ถ้าพวก import export น้อยๆ อย่าไปสนใจปลาเล็กปลาน้อย เหมือนจะบินไปญี่ปุ่น แต่จะเอาเงินไป 5000 บาท ไม่ต้องสนใจอัตราแลกเปลี่ยนเลย เพราะว่าส่วนต่างที่จะได้กำไร มันน้อยมาก เท่ากาแฟ 2 แก้ว ไม่คุ้มค่าความคิด

จริงๆแล้ว economic ลึกล้ำมาก กูว่า กูเขียนได้อย่างน้อย 30 ตอนเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ค่าเสียโอกาสที่พวกเข้าใจกันผิดๆ แรงจูงใจ การแบ่งงาน comparative advantage(sorry i dunno how to write in Thai.) เรื่องธนาคาร เรื่องดอกเบี้ย เงินกู้ เงินฝืด เงินเฟ้อ ภาษี อัตราว่างงาน ค่าเงิน อัตราแลกเปลี่ยน น้ำมันและพลังงาน(อันนี้ วงในสัสๆ) ตลาดหุ้น ความเสี่ยง การปั่นราคา การขึ้นการลง เครดิต ฟองสบู่ ราคาบ้าน ความไม่เท่าเทียม false positive false negative, อีกเยอะว่ะ เขียนแค่หัวข้อยังเหนื่อยเลย ยังไม่รวมศาสตร์อื่นๆเลย อันนี้แค่ economic นะเว้ยยย กูยิ้มรู้ลึกสัสๆ ยังงงเลย กูจะรู้ไปทำไหม แต่นี่คงเป็น1ในสาเหตุที่กูรวยพันล้านไงล่ะ

ตัดจบ ไปสรุปเลย

สรุป, สำหรับกูแล้ว มันไม่ใช่สูตรตายตัว แต่ควรจะมีอย่างน้อย 2 ใน 3 ประการที่บอก แล้วก็จะมีความเป็นไปได้ เช่น
รัก ไม่ถนัด แต่โอกาสทาง economic มา วิเคราะห์ดีแล้ว ทำได้
ถนัด ไม่รัก แต่โอกาสทาง economic มา ก็อาจทำได้
รัก ถนัด แต่โอกาสยังไม่มา ก็อาจจะรอด
ไม่รัก ไม่ถนัด โอกาสมาแล้ว ก็ 50-50

แต่ทุกอย่าง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจแค่นี้หรอก มันไม่ใช่สามล้อถูกหวย มันเป็นสงครามระยะยาว มันอยู่ที่ตัวพวกเอง ว่าใจขนาดไหน ต้องสู้กันไปอีกยาวๆ ไม่มีอะไรได้มาแบบวันเดียวได้ มันสะสมกัน แล้วถ้าโอกาสมันมา มันก็จะมาเลย พวกก็โต้คลื่นให้ดี จริงเรื่องนี้ยิ้มมันส์สัสๆ ตอนจังหวะโต้คลื่นยักษ์ แต่ขี้เกียจบอกว่ะ เรื่องนี้ คนที่ไปถึงจุดนั้น ในหมู่พวกคงไม่มี กูไม่มีความจำเป็นต้องบอก

หวังว่า พวกคงไม่ได้คำตอบทันทีหลังจากอ่านจบ แต่ไปคิดดีๆ หาคำตอบได้แน่ กูหวังว่า SMEs เมืองไทย จะสามัคคีกัน trust กัน แล้วออกไปเป็น cluster ไปบุกตลาดเมืองนอก สร้างความมั่นคงทาง economic ให้แก่ประเทศไทย ตามนั้นย์

------------------------------------------------------------------------------

เพจนี้สุดยอดจริง เจ้าของบทความอายุไม่ถึง 30 แต่ก้าวไปถึงขั้นนี้ สอนปริญาโทได้ เพราะประสบการ์ณระดับพันล้าน ลูกเพจอ้างอิงไว้ว่า มันคือ  Business Feasibility Study เรียน 84ชม./เทอม  สามารถสรุปเหลือ4ข้อ (comparative advantage) ให้อ่านได้ง่ายๆได้   ติดตามได้ครับ  มีสอนเรื่อง ธุรกิจเรื่อยๆ  แต่อาจนอกเรื่อยเยอะกว่าหน่อย เพราะต้องการเปลี่ยนแปลงสังคม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่