ตอนนี้รู้สึกเหงามากเลย ตอนเเรกเคยคิดว่าอยู่เป็นโสดก็ดีทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง ไม่ต้องมีโมเม้นต์ที่ต้องดราม่าหรือง๊องแง๊งกับใคร เราเจอมาจากเพื่อนเเละคนรอบตัวเลยรู้สึกเพลียเเละปวดหัวแทน เราเป็นคนที่ดูเหมือนรอบรู้ทฤษฎีความน่าจะเป็นมากมายเกี่ยวกับความรัก เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนรอบตัว เเต่ตัวเองในชีวิตจริงเอาไม่รอด แต่ปัจจุบันเราเพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน เราต้องพยายามทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทั้งเราเเละเพื่อนต่างเเยกย้ายกันไปทำงานคนละที่ บางครั้งเราอยู่กับ ตัวเอง ก็มีอารมณ์เเบบเหงา เเบบอยากมีใครสักคน ไว้เเบบเป็นเพื่อนคู่คิดเเละก็เเบบไปไหนมาไหนด้วยกัน เเต่ไลฟ์สไตล์เราค่อนข้างหลากหลาย เราชอบปั่นจักรยาน (อันนี้ชอบสุดๆๆ) วิ่ง (พอได้บ้าง ระยะไม่ไกลมาก ให้พอได้เหงื่อ ) ตีแบด (ซึ่งตีไม่เก่ง เเต่ชอบเเบบอย่างน้อยก็ได้ออกกำลังกาย) บ้างครั้งก็อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูซีรีส์ ไปช้อปปิ้ง (เดินอย่างเดียว ไม่ค่อยซื้อ แฮ่ๆๆๆๆ) พับดาว บลาๆๆๆ ไปทำบุญ เเละที่อยากทำตอนนี้คือจิตอาสา (ถ้ามีเเฟนก็อยากชวนไปทำด้วย เป็นอะไรที่อยากทำมาก ) เราเป็นผู้หญิงเหมือนบอบบาง เเต่จริงๆๆจะออกโก๊ะๆๆ เปิ่นๆ เเก่น ลุย ห้าว ใจเเกร่งอยู่ ถึงอยู่เป็นโสดมาจนทุกวันนี้ Y__Y
เราเป็นคนที่เเบบไม่ได้หน้าตาดีมาก เเต่มีจุดเด่นคือเเบบเเค่ดูขาว จริงๆๆเเล้วตั้งเเต่เรียนมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัยก็มีคนเข้ามาเหมือนกัน เเบบมีเเตกต่างกันไป เเต่ส่วนมากรู้สึกจะเเบบจีบเล่นๆๆ เเบบถ้าจีบติดก็ดี เเต่ไม่ติดก็ช่าง มีช่วงปีสามเราพยายามเเบบเปิดใจไม่ปิดกั้นเเบบมีคนเข้ามาเราก็กล้าคุยด้วย เเต่สุดท้ายก็เสียความรู้สึก เเบบเค้าก็มีคนที่คบด้วยอยู่เเล้ว เเต่เราเเบบรู้เเบบคุยกันสองวันเรามีคนรู้จักอยู่คณะเค้า เราก็ถามเค้าเเหละเเต่ว่าเราคุยเรื่องเเบบนี้เราถามเเบบสีหน้าเล่นๆๆ เเบบผู้หญิงโก๊ะๆๆ เเนวเเซวเค้า เพราะคุยกับเค้าเหมือนเพื่อนทั่วไป เค้าก็ไม่ยอมรับ เฮ้อๆๆ ผู้ชายน้อ คนนี้จริงๆๆเราไม่ได้ตั้งใจให้เบอร์ไป เเตวันนั้นเราเดินกลับหอมากินข้าว เเบบเค้าให้เพื่อนมาขอให้ เเบบเพื่อนเค้าเป็นสิบเลย เรารู้สึกอายจึงจำใจให้ไป รู้สึกเจอเเบบนี้หลายกรณีที่เข้าไม่จริงใจเเต่เรารู้อยู่ว่ามีเเฟน เราก็ไม่คิดเเม้เเต่จะยุ่ง เราก็เป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่เเบบก็มีโมเม้นเคยแอบชอบทั้งที่เป็นเพื่อนเเละก็รุ่นพี่ ในตอนมัธยมเราเคยชอบเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เเต่ด้วยที่ตอนนั้นเรายังเด็กไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร มีโมเม้นต์ไหนที่จะเเสดงออกไป เพราะเราเป็นคนที่ใครไม่รู้จักจะดูนิ่งเเละหยิ่ง เเต่เค้าหารู้ไม่ว่านั่นคือหน้ากากเเละกำเเพงที่สร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดความรั่ว เปิ่น โก๊ะ 555 เพราะถ้าวันใดพลาดทำไป ด้วยบุคลิกเราก็จะไม่มีใครกล้าว่าเรา แฮ่ๆๆๆๆ
ตอนมัธยมเราไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายมาก รู้สึกตอนมอต้นมีเพื่อนมาเเบบชอบเรา เเต่เราเห็นเค้าเป็นเพื่อนเเบบตอนเเรกๆๆ ก็เเบบเล่นตามประสาเด็ก เเต่มอปลายเราก็เรียนที่เดิมเเหละ เราโตเหมือนรู้อะไรมากขึ้น รู้สึกอึดอัด เราก็ชอบเค้านะ เเต่เเบบเพื่อนๆๆ ต่างคนต่างเเบบตีตัวออกห่าง รู้สึกมันไม่เหมือนเพื่อนกันเเล้ว รู้สึกเสียใจเล็กๆๆ เพราะเราก็ผูกพันกับเค้า เเต่ต่างคนต่างไม่เหมือนเดิมก็ห่างกันไป จนเเบบเราตั้งใจว่าจะเเบบไม่อยากมีเพื่อนสนิทผู้ชายในตอนเรียนมหาวิทยาลัยอีกเลย (ไม่ได้หลงตัวเองว่ากลัวเพื่อนผู้ชายทั้งหมดจะมาชอบเราหรอกนะ เพราะตั้งเเต่เราเสียเพื่อนรักผู้ชายไปเราสร้างกำเเพงขึ้นมาเเบบไม่ให้ใครเข้าถึงเราเลย เเต่ด้วยคนรอบข้างเเละบริบทต่างๆๆที่เค้าเเสดงเเบบมันใช่จริงๆๆ (หรือเราจะคิดไปเอง 555 บางครั้งเพื่อนมาบอกเราว่าเค้าชอบเราเลย ) จนมามหาวิทยาลัยเราก็จะใช้วิธีนั้น คือสร้างกำเเพงไม่ให้ใครเข้าถึงอีก เเต่เรามาเเพ้ใจตัวเอง เราชอบเพื่อนผู้ชายที่เรียนสาขาเรียนเดียวกัน ซึ่งเค้าก็ชอบเราด้วยมั้ง รึป่าว? เค้าเคยเดินไปส่งเราที่หอครั้งหนึ่ง ซึ่งเรารู้สึกปลื้มมาก ทั้งลักษณะนิสัยเค้าเป็นเหมือนคุณหนู เอาเเต่ใจตัวเอง นิสัยเกรียน เหมือนเด็กไม่รู้จักโต ติดเกมส์ เเต่เค้าก็มาส่งเรา เค้าถามหลายต่อหลายครั้งว่าเรามีเเฟนหรือยัง การกระทำเเบบนี้ไม่รู้จะมีอะไรมายืนยันว่าเค้าชอบเราหรือป่าว เค้าเคยขอเบอร์เราด้วย เเต่ก็เหมือนดั่งนิยายเรื่องสั้น ยังไม่เริ่มเรื่องก็จบ เพราะเพื่อนผู้หญิงของเราชอบเขาซึ่งเราก็รู้ เค้าเป็นเพื่อนผู้หญิงที่เราสนิทเเละเชื่องใจ ไม่รู้วิญญาณนางเอกเข้าสิงเราให้เลือกที่จะยอมถอยมาเองทั้งที่ชอบเค้านะ ถ้าเราไม่ถอยมาโอกาสที่เราจะคบกันก็อาจเป็นไปได้ เเต่เหมือนรู้สึกเจ็บทวีคูณเมื่อเราเสียทั้งเพื่อนรักเเละคนที่ชอบ เพื่อนเราเหมือนรู้ว่าเค้าชอบเราเค้าก็เหมือนพาลเกลียดเรา เราเสียเพื่อนคนนี้ไป เเละเสียคนที่ชอบไปเพราะเราตีตัวออกมาเอง เเละเค้าก็มีเเฟนไปเเล้ว นั่นเป็นครั้งเเรกที่รู้สึกเหมือนอกหักทั้งที่ยังไม่มีโมเม้นต์เริ่มต้นเลย เฮ้อ
ช่วงเวลาปีหนึ่งถึงปีสองก็มีคนเข้ามาเเต่ก็เข้ามาเเบบทีเล่นทีจริง ไม่จริงใจ จนมาปีสามเราก็รู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง เค้าให้เพื่อนปั่นจักรยานมาดักตอนเรากลับหอ (นึกภาพเเล้วขำมาก หยุดหน้าร้านข้าวมันไก่ เรามีโมเม้นต์เเบบหน้าอายจริงๆๆ นอกจากโม้เม้นต์ความโก๊ะของตัวเองที่ทำเองอายเอง ยังมักมีคนมาทำให้อายอีก เฮ้อ!) จำใจต้องให้ไป แต่รู้จักกับพี่เค้ารู้สึกไม่ผิดหวัง เค้าเป็นผู้ชายที่ดีมาก เวลาเราเเบบมีปัญหาเค้าเป็นที่ปรึกษา เวลาเราปรับทุกข์ บางครั้งเป็นที่ระบายเลยด้วยซ้ำ เเต่น่าเสียดายที่ต่อให้เค้าดีมากเท่าไร เเต่เค้าก็ไม่ใช่สำหรับเรา เราให้ได้เเค่ความเป็นพี่ชายที่ดีของเค้าเป็นระยะเวลาสองปีที่รู้จักกันจนกระทั่งที่เราจบเมื่อปีที่เเล้วเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน มีพี่เค้าทักเฟสบ้าง พี่เค้าก็มีเเฟนไปเเล้วเเหละ เรารู้สึกดีใจเเละขอบคุณผู้หญิงคนนั้นมาก เพราะเค้าคงเป็นผู้หญิงที่ดีเเละโชคดีที่เดียวที่เจอพี่เค้า เเละดีใจสำหรับพี่ชายคนนี้ของเรา สำหรับถึงเราเป็นคนที่ขี้อายเเต่เราชอบชัดเจน เราบอกกับพี่เค้าตั้งเเต่เเรกว่าคิดกับเค้าเหมือนพี่ เเต่ไม่รู้เค้าจะลองใจหรือใช้ทฤษฎีตื้อโดยนัยยะ ว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนไม่รู้ เค้าถึงเเบบยังกล้าคุยกับเราถึงสองปี เเต่เวลาคุยก็คุยเเบบปกติไม่อึดอัดสำหรับเราเเละเค้า กล้าเเบบเล่นๆๆกัน เเบบไปกินข้าว ตีเเบด ปั่นจักรยาน ก็เคยมีไปนะ เพราะไลสไตล์ใกล้เคียง ไม่รู้ว่าทำยังงี้เค้าจะรอเราเล็กๆๆ รึป่าว เเต่เรารู้ว่าเค้าก็ต้องเเบบมีหวัง เหมือนบางครั้งเราทำอย่างงี้เหมือนให้ความหวังเค้าเเหละ เเต่ในทางเดียวกันบางครั้งเราก็เเกล้งเเบบปลื้มเเบบผู้ชาย ซึ่งก็คือดารานั่นเเหละ ง่ายดีไม่เสียภาพพจน์เราด้วย ใครๆๆก็ปลื้มได้ บางครั้งเราเห็นเค้าเเบบไม่พอใจ น้อยใจนะ บางครั้งก็สงสารสถานะที่เป็นเเบบนี้ เเต่จริงๆๆอยากให้เค้าตัดใจจากเราได ้ ซึ่งมันก็ได้ผลซึ่งยิ่งเรียนจบกันไปเเล้วนี้เค้าก็ต้องไปเจอคนที่ดีอีกมากมายกว่าเรา เพราะเราก็เเอบใจร้ายกับเค้าในหลายครั้ง เเต่ตอนรู้จักกันเราก็ไม่ได้เอาเปรียบ ต่างคนต่างเเชร์ความคิดกันซึงเป็นเรื่องดี่ที่รู้จักพี่เค้าจริงๆๆ บางครั้งเเอบคิดที่เราโสดทุกวันนี้ก็เป็นเพราะเวรกรรมที่ทำกับพี่เค้า เพราะเจอคนที่ดีกับไม่เลือก เเต่คนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่จริง เป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ สู้ให้เค้าตัดใจไปเลยดีกว่า
ที่เลือกเล่าเรื่องนี้ก็เพราะรู้สึกขอบคุณที่รู้จักพี่เค้าจริงๆๆ ไม่รู้สึกเสียเวลาเเม้เเต่วินาทีเดียว เค้าเป็นรุ่นพี่ที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ พึ่งพิงปรึกษาได้ ดีใจจริงๆๆที่พี่เจอคนที่ดี เเละครั้งหนึ่งมาเป็นพี่ที่ดีสำหรับเรา (พี่เค้าคอยกันพวกผู้ชายที่ไม่ดีให้เราด้วย 5555 ขอบคุณมั่กๆๆๆ)
ปล เราหวังว่าสักวันเราจะเจอผู้ชายที่เรารักเเละเค้าก็รักเราด้วย เราจึงยกเรื่องสั้นเป็นข้อคิด ถ้าเรามีความกล้าเเละเลือกที่ทำเช่นนั้น ป่านนี้เราอาจจะมีโมเม้นต์ที่น่ารักกับคนที่เราเคยชอบหรือไม่ป่านนี้เราก็กลายเป็นเส้นขนานกันไปเเล้ว ไม่รู้เพราะช่วงหนึ่งเราติดนิยายกับซีรีย์ จึงทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากจะมีแฟนที่น่ารักเเบบในนิยายหรือซีรี่ย์หรือป่าว เพราะแฟนเเบบนั้นมี่เพียงในนิยาย เเต่เราก็หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะเจอพระเอกเเบบในนิยายในชีวิตจริงกับเค้าบ้าง
เรื่องจริงที่ทุกคนมักทำเสมอ
ต้นหญ้า กับ คู่แท้
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว........
มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่
ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า
...ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า
เราจะหาคู่แท้ของเราเจอได้ไงคับอาจารย์
บอกผมหน่อยได้ไหมคับ ?
อาจารย์ : ( เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ)
อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ
แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถามที่ง่ายเหมือนกันนะ
ลูกศิษย์ นั่งคิดอย่างหนัก)
อืม ?.... งงอะไม่เข้าใจ
อาจารย์ : โอเค งั้น
เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ
มีหญ้าเยอะแยะเลยใช่ไหม
เธอลองเดินไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด
แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะ
แต่ว่าเวลาเธอเดินเนี่ยเธอต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวนะ
ห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม
ลูกศิษย์ :ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ
( ว่าแล้วก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า)
หลังจากนั้นไม่นาน....
ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจาน
อาจารย์ :อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ
ในมือเธอเลยหละ
ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจาน
ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆเนี่ย
ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยวก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้
ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน แล้วผมก็เดินไปเรื่อย
รู้ตัวอีกที
มันก็สุดสนามหญ้าแล้วครับจะเดินกลับก้อไม่ได้
เพราะจานสั่งห้ามไว้
อาจารย์ : นั่นแหละ
คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ
เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา
ต้นหญ้า ก็คือ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ
ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือคนที่คุณชอบ
หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ
ทุ่งหญ้าก็คือ เวลา เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ
อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ
แล้วคิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่เปรียบเทียบ
คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
อย่าลืมว่า ' เวลาไม่เคยย้อนกลับ '
ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น
เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับการหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุณในชีวิต
หรือแม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณ
ดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรมที่ว่า
จงรัก และไขว่คว้าโอกาสที่คุณมีในขณะนี้
อย่ามัวแต่เสียเวลา
บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือก มีแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
โสดมา 22 ปีเเล้ว ไม่เคยมีแฟนเลย ตอนนี้รู้สึกอยากมีใครสักคน ใครเป็นเเบบเรามั่ง
เราเป็นคนที่เเบบไม่ได้หน้าตาดีมาก เเต่มีจุดเด่นคือเเบบเเค่ดูขาว จริงๆๆเเล้วตั้งเเต่เรียนมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัยก็มีคนเข้ามาเหมือนกัน เเบบมีเเตกต่างกันไป เเต่ส่วนมากรู้สึกจะเเบบจีบเล่นๆๆ เเบบถ้าจีบติดก็ดี เเต่ไม่ติดก็ช่าง มีช่วงปีสามเราพยายามเเบบเปิดใจไม่ปิดกั้นเเบบมีคนเข้ามาเราก็กล้าคุยด้วย เเต่สุดท้ายก็เสียความรู้สึก เเบบเค้าก็มีคนที่คบด้วยอยู่เเล้ว เเต่เราเเบบรู้เเบบคุยกันสองวันเรามีคนรู้จักอยู่คณะเค้า เราก็ถามเค้าเเหละเเต่ว่าเราคุยเรื่องเเบบนี้เราถามเเบบสีหน้าเล่นๆๆ เเบบผู้หญิงโก๊ะๆๆ เเนวเเซวเค้า เพราะคุยกับเค้าเหมือนเพื่อนทั่วไป เค้าก็ไม่ยอมรับ เฮ้อๆๆ ผู้ชายน้อ คนนี้จริงๆๆเราไม่ได้ตั้งใจให้เบอร์ไป เเตวันนั้นเราเดินกลับหอมากินข้าว เเบบเค้าให้เพื่อนมาขอให้ เเบบเพื่อนเค้าเป็นสิบเลย เรารู้สึกอายจึงจำใจให้ไป รู้สึกเจอเเบบนี้หลายกรณีที่เข้าไม่จริงใจเเต่เรารู้อยู่ว่ามีเเฟน เราก็ไม่คิดเเม้เเต่จะยุ่ง เราก็เป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่เเบบก็มีโมเม้นเคยแอบชอบทั้งที่เป็นเพื่อนเเละก็รุ่นพี่ ในตอนมัธยมเราเคยชอบเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เเต่ด้วยที่ตอนนั้นเรายังเด็กไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร มีโมเม้นต์ไหนที่จะเเสดงออกไป เพราะเราเป็นคนที่ใครไม่รู้จักจะดูนิ่งเเละหยิ่ง เเต่เค้าหารู้ไม่ว่านั่นคือหน้ากากเเละกำเเพงที่สร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดความรั่ว เปิ่น โก๊ะ 555 เพราะถ้าวันใดพลาดทำไป ด้วยบุคลิกเราก็จะไม่มีใครกล้าว่าเรา แฮ่ๆๆๆๆ
ตอนมัธยมเราไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายมาก รู้สึกตอนมอต้นมีเพื่อนมาเเบบชอบเรา เเต่เราเห็นเค้าเป็นเพื่อนเเบบตอนเเรกๆๆ ก็เเบบเล่นตามประสาเด็ก เเต่มอปลายเราก็เรียนที่เดิมเเหละ เราโตเหมือนรู้อะไรมากขึ้น รู้สึกอึดอัด เราก็ชอบเค้านะ เเต่เเบบเพื่อนๆๆ ต่างคนต่างเเบบตีตัวออกห่าง รู้สึกมันไม่เหมือนเพื่อนกันเเล้ว รู้สึกเสียใจเล็กๆๆ เพราะเราก็ผูกพันกับเค้า เเต่ต่างคนต่างไม่เหมือนเดิมก็ห่างกันไป จนเเบบเราตั้งใจว่าจะเเบบไม่อยากมีเพื่อนสนิทผู้ชายในตอนเรียนมหาวิทยาลัยอีกเลย (ไม่ได้หลงตัวเองว่ากลัวเพื่อนผู้ชายทั้งหมดจะมาชอบเราหรอกนะ เพราะตั้งเเต่เราเสียเพื่อนรักผู้ชายไปเราสร้างกำเเพงขึ้นมาเเบบไม่ให้ใครเข้าถึงเราเลย เเต่ด้วยคนรอบข้างเเละบริบทต่างๆๆที่เค้าเเสดงเเบบมันใช่จริงๆๆ (หรือเราจะคิดไปเอง 555 บางครั้งเพื่อนมาบอกเราว่าเค้าชอบเราเลย ) จนมามหาวิทยาลัยเราก็จะใช้วิธีนั้น คือสร้างกำเเพงไม่ให้ใครเข้าถึงอีก เเต่เรามาเเพ้ใจตัวเอง เราชอบเพื่อนผู้ชายที่เรียนสาขาเรียนเดียวกัน ซึ่งเค้าก็ชอบเราด้วยมั้ง รึป่าว? เค้าเคยเดินไปส่งเราที่หอครั้งหนึ่ง ซึ่งเรารู้สึกปลื้มมาก ทั้งลักษณะนิสัยเค้าเป็นเหมือนคุณหนู เอาเเต่ใจตัวเอง นิสัยเกรียน เหมือนเด็กไม่รู้จักโต ติดเกมส์ เเต่เค้าก็มาส่งเรา เค้าถามหลายต่อหลายครั้งว่าเรามีเเฟนหรือยัง การกระทำเเบบนี้ไม่รู้จะมีอะไรมายืนยันว่าเค้าชอบเราหรือป่าว เค้าเคยขอเบอร์เราด้วย เเต่ก็เหมือนดั่งนิยายเรื่องสั้น ยังไม่เริ่มเรื่องก็จบ เพราะเพื่อนผู้หญิงของเราชอบเขาซึ่งเราก็รู้ เค้าเป็นเพื่อนผู้หญิงที่เราสนิทเเละเชื่องใจ ไม่รู้วิญญาณนางเอกเข้าสิงเราให้เลือกที่จะยอมถอยมาเองทั้งที่ชอบเค้านะ ถ้าเราไม่ถอยมาโอกาสที่เราจะคบกันก็อาจเป็นไปได้ เเต่เหมือนรู้สึกเจ็บทวีคูณเมื่อเราเสียทั้งเพื่อนรักเเละคนที่ชอบ เพื่อนเราเหมือนรู้ว่าเค้าชอบเราเค้าก็เหมือนพาลเกลียดเรา เราเสียเพื่อนคนนี้ไป เเละเสียคนที่ชอบไปเพราะเราตีตัวออกมาเอง เเละเค้าก็มีเเฟนไปเเล้ว นั่นเป็นครั้งเเรกที่รู้สึกเหมือนอกหักทั้งที่ยังไม่มีโมเม้นต์เริ่มต้นเลย เฮ้อ
ช่วงเวลาปีหนึ่งถึงปีสองก็มีคนเข้ามาเเต่ก็เข้ามาเเบบทีเล่นทีจริง ไม่จริงใจ จนมาปีสามเราก็รู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง เค้าให้เพื่อนปั่นจักรยานมาดักตอนเรากลับหอ (นึกภาพเเล้วขำมาก หยุดหน้าร้านข้าวมันไก่ เรามีโมเม้นต์เเบบหน้าอายจริงๆๆ นอกจากโม้เม้นต์ความโก๊ะของตัวเองที่ทำเองอายเอง ยังมักมีคนมาทำให้อายอีก เฮ้อ!) จำใจต้องให้ไป แต่รู้จักกับพี่เค้ารู้สึกไม่ผิดหวัง เค้าเป็นผู้ชายที่ดีมาก เวลาเราเเบบมีปัญหาเค้าเป็นที่ปรึกษา เวลาเราปรับทุกข์ บางครั้งเป็นที่ระบายเลยด้วยซ้ำ เเต่น่าเสียดายที่ต่อให้เค้าดีมากเท่าไร เเต่เค้าก็ไม่ใช่สำหรับเรา เราให้ได้เเค่ความเป็นพี่ชายที่ดีของเค้าเป็นระยะเวลาสองปีที่รู้จักกันจนกระทั่งที่เราจบเมื่อปีที่เเล้วเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน มีพี่เค้าทักเฟสบ้าง พี่เค้าก็มีเเฟนไปเเล้วเเหละ เรารู้สึกดีใจเเละขอบคุณผู้หญิงคนนั้นมาก เพราะเค้าคงเป็นผู้หญิงที่ดีเเละโชคดีที่เดียวที่เจอพี่เค้า เเละดีใจสำหรับพี่ชายคนนี้ของเรา สำหรับถึงเราเป็นคนที่ขี้อายเเต่เราชอบชัดเจน เราบอกกับพี่เค้าตั้งเเต่เเรกว่าคิดกับเค้าเหมือนพี่ เเต่ไม่รู้เค้าจะลองใจหรือใช้ทฤษฎีตื้อโดยนัยยะ ว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนไม่รู้ เค้าถึงเเบบยังกล้าคุยกับเราถึงสองปี เเต่เวลาคุยก็คุยเเบบปกติไม่อึดอัดสำหรับเราเเละเค้า กล้าเเบบเล่นๆๆกัน เเบบไปกินข้าว ตีเเบด ปั่นจักรยาน ก็เคยมีไปนะ เพราะไลสไตล์ใกล้เคียง ไม่รู้ว่าทำยังงี้เค้าจะรอเราเล็กๆๆ รึป่าว เเต่เรารู้ว่าเค้าก็ต้องเเบบมีหวัง เหมือนบางครั้งเราทำอย่างงี้เหมือนให้ความหวังเค้าเเหละ เเต่ในทางเดียวกันบางครั้งเราก็เเกล้งเเบบปลื้มเเบบผู้ชาย ซึ่งก็คือดารานั่นเเหละ ง่ายดีไม่เสียภาพพจน์เราด้วย ใครๆๆก็ปลื้มได้ บางครั้งเราเห็นเค้าเเบบไม่พอใจ น้อยใจนะ บางครั้งก็สงสารสถานะที่เป็นเเบบนี้ เเต่จริงๆๆอยากให้เค้าตัดใจจากเราได ้ ซึ่งมันก็ได้ผลซึ่งยิ่งเรียนจบกันไปเเล้วนี้เค้าก็ต้องไปเจอคนที่ดีอีกมากมายกว่าเรา เพราะเราก็เเอบใจร้ายกับเค้าในหลายครั้ง เเต่ตอนรู้จักกันเราก็ไม่ได้เอาเปรียบ ต่างคนต่างเเชร์ความคิดกันซึงเป็นเรื่องดี่ที่รู้จักพี่เค้าจริงๆๆ บางครั้งเเอบคิดที่เราโสดทุกวันนี้ก็เป็นเพราะเวรกรรมที่ทำกับพี่เค้า เพราะเจอคนที่ดีกับไม่เลือก เเต่คนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่จริง เป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ สู้ให้เค้าตัดใจไปเลยดีกว่า
ที่เลือกเล่าเรื่องนี้ก็เพราะรู้สึกขอบคุณที่รู้จักพี่เค้าจริงๆๆ ไม่รู้สึกเสียเวลาเเม้เเต่วินาทีเดียว เค้าเป็นรุ่นพี่ที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ พึ่งพิงปรึกษาได้ ดีใจจริงๆๆที่พี่เจอคนที่ดี เเละครั้งหนึ่งมาเป็นพี่ที่ดีสำหรับเรา (พี่เค้าคอยกันพวกผู้ชายที่ไม่ดีให้เราด้วย 5555 ขอบคุณมั่กๆๆๆ)
ปล เราหวังว่าสักวันเราจะเจอผู้ชายที่เรารักเเละเค้าก็รักเราด้วย เราจึงยกเรื่องสั้นเป็นข้อคิด ถ้าเรามีความกล้าเเละเลือกที่ทำเช่นนั้น ป่านนี้เราอาจจะมีโมเม้นต์ที่น่ารักกับคนที่เราเคยชอบหรือไม่ป่านนี้เราก็กลายเป็นเส้นขนานกันไปเเล้ว ไม่รู้เพราะช่วงหนึ่งเราติดนิยายกับซีรีย์ จึงทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากจะมีแฟนที่น่ารักเเบบในนิยายหรือซีรี่ย์หรือป่าว เพราะแฟนเเบบนั้นมี่เพียงในนิยาย เเต่เราก็หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะเจอพระเอกเเบบในนิยายในชีวิตจริงกับเค้าบ้าง
เรื่องจริงที่ทุกคนมักทำเสมอ
ต้นหญ้า กับ คู่แท้
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว........
มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่
ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า
...ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า
เราจะหาคู่แท้ของเราเจอได้ไงคับอาจารย์
บอกผมหน่อยได้ไหมคับ ?
อาจารย์ : ( เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ)
อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ
แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถามที่ง่ายเหมือนกันนะ
ลูกศิษย์ นั่งคิดอย่างหนัก)
อืม ?.... งงอะไม่เข้าใจ
อาจารย์ : โอเค งั้น
เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ
มีหญ้าเยอะแยะเลยใช่ไหม
เธอลองเดินไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด
แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะ
แต่ว่าเวลาเธอเดินเนี่ยเธอต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวนะ
ห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม
ลูกศิษย์ :ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ
( ว่าแล้วก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า)
หลังจากนั้นไม่นาน....
ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจาน
อาจารย์ :อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ
ในมือเธอเลยหละ
ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจาน
ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆเนี่ย
ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยวก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้
ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน แล้วผมก็เดินไปเรื่อย
รู้ตัวอีกที
มันก็สุดสนามหญ้าแล้วครับจะเดินกลับก้อไม่ได้
เพราะจานสั่งห้ามไว้
อาจารย์ : นั่นแหละ
คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ
เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา
ต้นหญ้า ก็คือ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ
ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือคนที่คุณชอบ
หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ
ทุ่งหญ้าก็คือ เวลา เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ
อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ
แล้วคิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่เปรียบเทียบ
คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
อย่าลืมว่า ' เวลาไม่เคยย้อนกลับ '
ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น
เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับการหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุณในชีวิต
หรือแม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณ
ดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรมที่ว่า
จงรัก และไขว่คว้าโอกาสที่คุณมีในขณะนี้
อย่ามัวแต่เสียเวลา
บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือก มีแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น